~ กำบ่ะเก่า บ่เล่าอาจลืม (กำอิแม่สอน) ~
|
สมัยเด็ก ๆ ที่บ้านเราค่อนข้างมีฐานะ (เมื่อเทียบกับบ้านอื่น ๆ ในหมู่บ้านหลังดอยเล็ก ๆ นี่) แม่ก็จะคอยเตือนพวกเรา ไม่ให้เห่อเหิมไปกับความมั่งมีที่อาจจะดูว่าเหนือคนอื่น...
แม่สอนว่า...
ถึงเป๋นเจ้าจ๊าง มหาเศรษฐี จื้อเสียงบ่ดี ไผบ่อวดอ้าง จื้อเสียงเฮาดี ถึงต๋ายกระด้าง ก็ยังมีคนอวดไว้
ศัพท์ :
เจ้าจ๊าง = เป็นเจ้าของช้าง จื้อเสียง = ชื่อเสียง ไผบ่อวดอ้าง = ไม่มีคนนับถือยกย่อง ต๋ายกระด้าง = เสียชีวิตไปนานแล้ว
คำแปล :
ถึงจะร่ำรวยเป็นเจ้าของช้าง เป็นมหาเศรษฐี แต่หากชื่อเสียงไม่ดีก็ไม่มีคนเขายกย่องพูดถึง แต่หากเราเป็นคนดีมีชื่อเสียง(ในทางดี) แม้ตายไปเนิ่นนานก็ยังมีคนเขากล่าวขวัญถึง
ขยายความ :
ทางภาคเหนือเรา สมัยก่อนถ้าใครมีช้างเลี้ยงไว้ในครอบครอง เขาจะเรียกว่า"พ่อเลี้ยง"เลยแหละ เพราะช้างเป็นสัตว์ที่มีค่า ราคาแพงท่านก็เลยเอามาเปรียบเปรยไว้ใน"กำบ่ะเก่า"บทนี้ว่า ถึงจะร่ำรวยแค่ไหน แต่หากทำตัวไม่ดี มีแต่ชื่อเสีย ก็ไม่มีใครเขายกย่อง ในทางกลับกัน คนยากจนแต่ทำตัวดี แม้ตายจากไปผู้คนก็ยังพูดถึง
กับอีกบทหนึ่ง แม่สอนให้รู้จักประมาณตัว...
"ก้อยอยู่ไปต๋ามน้ำ ทำไปต๋ามตั๋ว น้ำเปียงใด ดอกบัวเปียงอั้น"
ศัพท์ :
ก้อย = ค่อย ต๋ามน้ำ = ตามน้ำ ต๋ามตั๋ว = ตามตัว เปียง = เพียง เปียงอั้น = เพียงนั้น
คำแปล :
ค่อย ๆ ใช้ชีวิตตามธรรมดา ทำอะไรตามอัตภาพของตัว เหมือนดอกบัวที่ลอยปริ่มเหนือน้ำ
ขยายความ :
เป็นคำสอนที่เตือนให้เรารู้จะประมาณตน ไม่ทำอะไรเกินตัว ทำตัวเหมือนดอกบัวที่ลอยเรี่ยน้ำ จะไม่มีวันหักหรือจมนั่นเอง
|
Create Date : 27 สิงหาคม 2557 | | |
Last Update : 22 สิงหาคม 2560 15:04:47 น. |
Counter : 3621 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
~ กำบ่ะเก่า บ่เล่าอาจลืม (กำอิแม่สอน)~
|
บางครั้งแม่ก็สอนให้เรียนรู้ทีจะปล่อยวาง และยอมรับในชะตาชีวิตที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ด้วย"กำบ่ะเก่า"ที่ว่า...
พระจั๋นทร์อยู่ฟ้า เป๋นเหยื่อราหู ปล๋าเหยี่ยนอยู่ฮู ยังต๋ายถูกส้อม
ศัพท์ :
ปล๋าเหยี่ยน = ปลาไหล ฮู = รู ส้อม = เหล็ก(หรือไม้)ปลายแหลม
คำแปล :
ดวงจันทร์แม้จะลอยอยู่สูงบนฟ้า ยังถูกราหูมาบดบังเป็นบางคราว ปลาไหลขนาดซุกซ่อนตัวอยู่ในรู ยังอาจถูกแทงด้วยส้อม
ขยายความ :
ในการดำเนินชีวิต ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ดังนั้นเมื่อจะทำอะไรเราจึงไม่ควรคาดหวังในผลเลิศจนเกินไป เพราะบางทีเหตุไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเราต้องรู้จักวางใจยอมรับในเหตุไม่คาดฝันนั้น ๆ
และบางคราว แม่ก็จะปรารภให้ฟังถึงความเป็นธรรมชาติ-ธรรมดาของสรรพสิ่งในโลก ด้วยคำกล่าวที่คล้องจองแบบนี้...
มดง่ามมักมันหมู ศัตตู๋มักใส่โต้ด คนขี้โขดจั้งเสียของ คนจ๋องหองบ่มีเปื้อน คนบ่โล่งบ่เลื่อนจังสลิด คนทำผิดแป๋งหน้าเศร้า ขี้เหล้ามักจิ้นปล๋าอาหาร แม่มานจั้งหุมส้ม คนเฒ่าขี้จ่มลูกหลานจัง คนขี้จิ๊ขี้จ๋ำ บ่มีบริวารเปื้อนป๊อง คนมักนุ่งมักหย้อง บ่มีเงิน ต้านบ่เจิน บ่ดีไปร่วมแหล่
ศัพท์ :
มดง่าม = มดดำชนิดหนึ่ง ตัวเล็กกัดเจ็บ มัก = ชอบ มันหมู = น้ำมันหมู (คนสมัยก่อนไม่มีน้ำมันพืชใช้ จึงใช้น้ำมันหมูในการปรุงอาหารประเภทผัดหรือทอด) ศัตตู๋ = ศตรู คู่อริ (อาจหมายรวมถึงคนที่ไม่ชอบหน้ากัน) โต้ด = โทษ คนขี้โขด = คนขี้โกรธ จั้ง = ช่าง ,มักจะ คนจ๋องหอง = คนจองหอง,คนหยิ่ง เปื้อน, เปื้อนป๊อง = เพื่อน ,เพื่อนพ้อง คนบ่โล่งบ่เลื่อน = คนไม่โปร่งใส ไม่ซื่อ สลิด = ดัดจริต เสแสร้ง แป๋งหน้า = ทำหน้า แม่มาน = หญิงตั้งครรภ์ หุม = ชอบ ส้ม = ของรสเปรี้ยว ขี้จ่ม = ชี้บ่น จัง = ชัง คนขี้จิ๊ขี้จ๋ำ = คนตระหนี่ คนมักนุ่งมักหย้อง = คนช่างแต่งตัว ต้าน = ท่าน เจิน = เชิญ บ่ดีไป = อย่าไป
คำแปล :
มดดำมักชอบมันหมู ศัตรูมักให้โทษ คนขี้โกรธมักเสียของ คนจองหองมักไม่มีเพื่อน คนไม่ซื่อใสมักเสแสร้ง คนทำผิดมักทำหน้าเศร้า คนดื่มเหล้าชอบอาหารกับแกล้ม หญิงตั้งครรภ์ชอบกินของเปรี้ยว คนแก่ขี้บ่นลูกหลานไม่ชอบ คนดระหนี่ไม่มีบริวารเพื่อนฝูง คนชอบแต่งตัวมักไม่มีเงิน งานใด ๆ หากไม่ได้รับเชิญก็ไม่สมควรไปร่วม
ขยายความ :
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การจะอยู่ร่วมกันจึงต้องมีระบบระเบียบ เป็นกรอบในการปฏิบัติตัว เพื่อจะได้เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้อื่น และเป็นการระมัดระวังไม่ให้ไปก้าวก่ายหรือกระทบกระทั่งกับผู้ใด
ทั้งยังเป็นการสอนให้เข้าใจและยอมรับในธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ เพื่อที่เราจะได้ไม่รู้สึกขัดแย้งเมื่อต้องพบเจอกับอะไร ๆ ที่อาจจะดูแปลกและแตกต่างจากความคิดความเห็นหรือประสบการณ์ของเรา
|
Create Date : 25 สิงหาคม 2557 | | |
Last Update : 22 สิงหาคม 2560 15:12:36 น. |
Counter : 1803 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
~ กำบ่ะเก่า บ่เล่าอาจลืม (กำอิแม่สอน)~
|
กำอิแม่สอน..."กำบ่ะเก่า"วันนี้ขออนุญาตมาแบบสั้น ๆ สองบทค่ะ
ถึงจะอยู่ขวงเงินขวงคำ บ่เต้าฝนฮำแสนห่า
ศัพท์ :
ขวง = กรง บ่เต้า = ไม่เท่า ฝนฮำ = ฝนพรำ(กรำฝน)
คำแปล :
แม้จะอยู่ในกรงเงินกรงทอง ก็ไม่เป็นสุขเท่าอยู่ข้างนอกแต่ถูกฝนพรำสักแสนห่า
ขยายความ :
มนุษย์เราไมว่าจะยากดีมีจน หรือแม้กระทั่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย สิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตอย่างหนึ่งคืออิสรภาพ เสรีภาพ ดังนั้นต่อให้ได้อยู่ในกรงทองคำ แต่หากไร้อิสรภาพก็ไม่มีความหมาย
นกบ่บิน จะไปก๋ำปีกมันอ้า งัวควายบ่กิ๋นหญ้า จะไปเต็กเขามันลง
ศัพท์ :
จะไป = อย่า (จะไปยะ = อย่าทำ, จะไปอู้ = อย่าพูด) ก๋ำ = กำ,จับ เต็ก = กด , ข่ม
คำแปล :
ถ้านกไม่บินอย่าพยายามไปจับปีกมันให้กาง วัวควายไม่กินหญ้าก็อย่าไปพยายามกดเขามันลง
ขยายความ :
เปรียบได้กับสำนวนไทยที่ว่า"อย่าข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า" นั่นเอง เป็นคำเตือนไม่ให้เราไปละเมิดหรือก้าวก่ายในสิทธิส่วนตัวของผู้อื่น แม้จะด้วยหวังดีก็ตาม เพราะไม่ว่าใครย่อมไม่ชอบการถูกบังคับ ขืนใจให้กระทำในสิ่งที่ตนเองไม่อยากทำ
|
Create Date : 23 สิงหาคม 2557 | | |
Last Update : 22 สิงหาคม 2560 15:16:39 น. |
Counter : 1182 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
~กำบ่ะเก่า บ่เล่าอาจลืม (ตอน...กำอิแม่สอน)~
|
สรีสวัสดีเจ้า...
แล้วก็ได้ฤกษ์เบิกดิถี ปัดฝุ่นบล็อกกลุ่มนี้เสียที ในช่วงเดือนอันเป็นมงคลนี้ (แม้จะล่วงเลยมาจนจวนเจียนจะหมดเดือนเข้านี่แล้วก็ตามทีเถอะ...แหะ ๆ ) ขออนุญาตหยิบยกเอา"กำบ่ะเก่า"มาเล่าต่อ ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลา...
กำบ่าเก่าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเก็บรวบรวมมาจากกำอู้กำเอิ้นของแม่ เพราะแม่ฉันเขาเป็นคนโบราณ ที่มักจะเกรงใจลูก ๆ หลาน ๆ โดยแม่มักจะปรารภเสมอว่า... "ละอ่อนบ่าเดี่ยวนี้เปิ้นฮ่ำเฮียนมานัก ความฮู้เปิ้นสูงล้ำเฮาก่อน..." (เด็กสมัยนี้เค้าเรียนมาเยอะ ความรู้เค้าสูงกว่าเราอีก...)
ดังนั้น แม่จึงไม่ใคร่ได้สอนอะไรพวกเราตรง ๆ สักเท่าไหร่ เวลามีปัญหา หรือมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น เขามักจะหยิบยกเอา"กำบ่าเก่า" (ที่สอดคล้องกับสถานการณ์) พวกนี้แหละมาพูดลอย ๆ แล้วก็เน้นย้ำว่า...คนบ่าเก่าเปิ้นว่าไว้ไม่ผิดหรอก...
ในบล็อกนี้ วันนี้จะขอยกกำสอนอี่แม่มาเพียงหนึ่งบทก่อน... (เพื่อจะได้เก็บที่เหลือไว้อัพบล็อกวันหลัง ๆ ซึ่งนับจากวันนี้ไป(บอกกับตัวเองว่า) จะพยายามเขียนบล็อกกลุ่มนี้ให้ได้อย่างน้อยวันละบล็อก...เอ้า!)
'กำบ่ะเก่า'สำหรับวันนี้ เป็นประหนึ่งสุภาษิตสอนหญิง อาจจะเพราะแม่เขามีลูกสาวเยอะ ก็เลยพร่ำกล่าว"ค่าวก้อม"บทนี้บ่อยเป็นพิเศษ...
น้องเป๋นบุปผา มาลาดอกไม้ ไก๋สรเก้าแก้วคนธา เผิ้งปู้มิ้นหากบินมาหา บ่ใจ้มาลาเซาะหาปู้เผิ้ง
ศัพท์
บุปผามาลา = ดอกไม้ ไก๋สร = เกสรดอกไม้
เก้าแก้ว = แก้วเก้าประการ(นพรัตน์) เปรียบเทียบว่าเป็นของมีค่า
(สุ)คนธา = ส่งกลิ่นหอม
เผิ้ง-ปู้-มิ้น = ผึ้ง ภู่ มิ้น(แมลงให้น้ำหวานชนิดหนึ่งคล้ายผึ้งแต่ตัวเล็กกว่า)
บ่ใจ้ =ไม่ใช่
เซาะหา = เสาะหา ตามหา
คำแปล : ผู้หญิงเปรียบเป็นเช่นดอกไม้ งดงามเลอค่าในตัว ส่งกลิ่นหอมจรุงไป หมู่แมลงภู่ผึ้งย่อมบินมาหามาดอมดมเอง ไม่ใช่ดอกไม้ต้องไปแสวงหาแมลง
ขยายความ : จากคำแปลด้านบนคงแทบจะไม่ต้องขยายความใด ๆ อีก เป็นคำสอนลูกผูหญิงให้รักนวลสงวนตัว เมื่อถึงเวลามีคู่ ให้ฝ่ายชายเขามาหา อย่าเที่ยวไปวิ่งไล่ตามผู้ชายนั่นเอง
จากคำสอนบทนี้ทำให้นึกถึงบทกลอนสุภาษิตสอนหญิงของท่านสุนทรภู่อยู่บทหนึ่ง เนื้อหาใจความค่อนข้างใกล้เคียงกันทีเดียว...
เป็นสาวแส้แร่รวยสวยสะอาด ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า แม้แตกร้าวรานร่อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง
..........
อนึ่งเนตรอย่าสังเกตให้เกินนัก จงรู้จักอาการประมาณหมาย แม้ประสบพบเหล่าเจ้าชู้ชาย อย่าชม้ายทำชม้อยตะบอยแล
|
Create Date : 22 สิงหาคม 2557 | | |
Last Update : 22 สิงหาคม 2560 15:29:48 น. |
Counter : 3696 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|