'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
วิถีธรรมใน 'กำบ่ะเก่า' (๕)




'กำบ่ะเก่า' ในกำเมืองหลายคำที่บอกเล่าถึงวิถีชีวิตหรือ "ฮีตฮอย" ของคนโบราณล้านนาที่สอดคล้อง กลมกลืนกับธรรมชาติ สอดแทรกคติเตือนใจอันอิงอยู่กับคติธรรมทางพุทธศาสนาไว้อย่างลึกซึ้ง

วันนี้ขอเสนอ "กำบ่ะเก่า" สักสอง -สาม สำนวนเจ้า...





๑. "แป๋งผิดไปถึงลูก แป๋งถูกไปถึงหลาน"

คำแปล : ทำผิดติดไปถึงลูก ทำถูกต้องส่องถึงหลาน
ขยายความ : วัฒนธรรมอันเป็นวิถีชีวิตของชุมชนที่สะท้อนถึงความผสานผสมกลมกลืนกลายเป็นแบบฉบับของการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างมีเอกภาพนั้น เขาได้ปลูกฝังพฤติกรรมที่ได้ผ่านการ “ลองผิด-ลองถูก” มาเป็นเวลายาวนาน จนเป็นบทเรียนสรุป เช่นการระวังตัวมิให้กระทำความชั่วหรือบาปโดยมีคาถาประจำใจว่า “ใครไม่เห็นแต่เทวดาก็เห็น” เป็นต้น

การสร้างมรดกไว้ให้ลูกหลายในด้านศีลธรรมและวัฒนธรรมจำเป็นยิ่งกว่าการสะสมมรดกทางวัตถุ หรือทรัพย์ทางกายภายนอก ซึ่งลูกหลานอาจผลาญใช้ให้หมดได้เพียงชั่วอายุหนึ่ง แต่ถ้าหากเขามีมรดกทางจิตใจหรือทางศีลธรรม วัฒนธรรมแล้ว สมบัติล่านั้นไม่เพียงจะยังคงอยู่ แต่อาจงอกเงยออกดอกผลไปจึงถึงลูก หลาน เหลน โหลน เป็นอนุสาวรีย์แห่งความดีของบรรพบุรุษ

หากพ่อแม่ทำในสิ่งผิดก็ถือเป็นมรดกตกทอดถึงผู้สืบตระกูลได้ ซึ่งนับว่าเป็นมรดกที่ผู้ให้มิได้จงใจให้และผู้รับก็มิได้จงใจรับ แต่เป็นการจำใจทั้งสองฝ่ายมากกว่า

ถ้าทำถูกก็เหมือนปลูกไม้ผลต้นใหญ่ให้ความร่มรื่นชื่นใจ อีกสามารถเก็บเกี่ยวดอกผลกิน - ใช้ได้ไปถึงชั้นลูกชั้นหลาน





๒."จะนั่งหื้อผ่อตี้ จะหนีหื้อผ่อก้น"

คำแปล : ก่อนนั่งให้ดูที่ ก่อนลุกหนีให้ดูก้น
ขยายความ : ตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า “ใคร่ครวญก่อนจึ่งทำ”

คนโบราณหรือคนบ่ะเก่า ให้ข้อเตือนจิตสะกิดใจว่าก่อนจะทำอะไร “ให้ตั้งสติ” วินิจฉัยว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อมิให้ต้อง “น้ำตาตกใน” ภายหลังเพราะความผิดพลั้งไม่ระมัดระวังให้ดีก่อนลงมือทำ คำว่า ‘ผ่อ’ หรือดู หมายถึง ‘คิด’ หรือ ทบทวนและไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนลงมือทำ คิดก็หมายถึงดูด้วยสติ

ก่อนจะนั่งก็ดูที่ว่ามีธุลีหรือของมีคมอยู่หรือไม่ ก่อนจะลุกไปก็คลำก้นดูก่อนว่ามีใครสัปดนแกล้งเอา ‘หาง’ ใส่หรือเปล่า ทางที่ดีควร ‘ผ่อ’ ก่อนเพื่อความไม่ประมาททั้งนี้มิใช่การ ‘ระแวง’ แต่เป็น ‘ระวัง’ สติต้องน้ำหน้าสตัง(ค์) แต่ถ้าไม่ระวังสตัง(ค์) ก็จะพังสติ

สติจึงเป็นเสมือนเพื่อนดีคู่ชีวิต มีคนเสียคนเพราะสตังค์ (เงิน) มามากต่อมาก
ที่จริงเงินมิใช่ตัวทำลาย สติที่บกพร่องหรือจิตที่ขาดสติเพราะมิได้ดำริก่อนใช้ก่อนเสพทรัพย์นั้นต่างหากที่เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ
เช่นเดียวกับมีด ซึ่งใช้ทำครัวก็ได้ฆ่ าคนก็ได้ มันจะเป็นเครื่องมือหรืออาวุธก็สุดแต่ว่าผู้ใช้กำลังถูกครอบงำด้วยโพธิหรือว่ากิเลส





๓. "ขี้โลภปันเสีย ขี้เหลือปันได้"

คำแปล: คนขี้โลภมักเสีย คนเอื้อเฟื้อมักได้
ขยายความ : คนโลภแม้มีเงินล้นบ้าน แต่ด้านจิตยังคิดว่า ‘ขาด’ (ลาภ) อยู่ร่ำไปเรียกคนประเภทนี้ว่า “อยากจน” แทน “ยากจน” หรือไม่ก็เป็นคน “ร่ำที่จะรวย” คือ ใจพร่ำเพ้อที่จะรวย

คนขี้โลภหรือขี้งกมักพบแต่ความพินาศเพราะขาดความยับยั้งและชีวิตจะมีแต่ผิดหวังคือ “ปันเสีย” เพราะตั้งเป้าหรือความต้องการไว้สูงเกินควรจึงพยายามใช้ทั้งเล่ห์ ทั้งกล ทั้งมนต์ ทั้งคาถา มุ่งหน้ากอบโกย ยิ่งได้ยิ่งย่ามใจหรือคะนองแล้วเผลอลองเสี่ยงในสิ่งที่ไม่ควรเสี่ยง จนถูกโกง หรือไม่ก็ถูกจับดำเนินคดีฉ้อโกง

ตรงข้ามกับคนที่คิดแต่จะเหลือหรือเผื่อแผ่ซึ่งเป็นความสุขสดชื่นอย่างหาประมาณมิได้ แม้มีน้อยก็มีความสันโดษพอใจไม่ทะยานอยากและเมื่อมีมากก็จะเจือจานแก่ผู้อื่น จึงเสมือนว่าตนเป็นเศรษฐีทางใจอยู่เสมอ เสมือนว่า “ได้” มาอย่างมิหยุดหย่อน

ตรงกันข้ามกับ “นายทุน” ที่แม้จะมั่งมีเงินทองกองมหึมาก็ยังรู้สึกเสมอว่าตนยังรวยไม่พอและพร้อมที่จะกอบโกยไม่ยอมยุติ

จึงมีคำพูดว่า “เศรษฐีย่อมใจบุญนายทุนย่อมหน้าเลือด” (เศรษฐี โดยรูปศัพท์แปลว่า “ผู้ประเสริฐ")





อ้างอิง : ภูมิปัญญาล้านนาชน อ.มานิต สุทธจิตต์
















Create Date : 13 มีนาคม 2551
Last Update : 5 ตุลาคม 2551 14:45:15 น. 5 comments
Counter : 1162 Pageviews.

 
มาอ่านค่ะ


โดย: เมณี วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:13:53:52 น.  

 
ชอบจังแป๋งผิดไปถึงลูก แป๋งถูกไปถึงหลาน"
จะจำไว้เลยเจ๊า...เอาไปสอนลูกสอนหลาน


โดย: มุกสีทอง วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:16:19:26 น.  

 
พึ่งเกยได้ยิน 555 นานๆจะเจอคนลำปาง เนอะ


โดย: boatboat วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:12:28:02 น.  

 
"ขี้โลภปันเสีย ขี้เหลือปันได้"

อืม... แต่ขอ งก สักนิด ได้บ่
(นิดนึงอะค่ะ แหะ ๆ ๆ)


โดย: ปลิวตามลม วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:16:50:19 น.  

 
อ่านแล้วได้คิดจริงๆเลย ความจริงเรื่องมันไม่ได้ไกลตัวเลยนะคะ แต่เราๆมักมองข้ามเสมอเลย เข้ามาอ่านทีไรก็ได้อะไรๆติดตัวไปเสมอเลย


โดย: Chulapinan วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:20:32:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.