เรื่องย่อๆ(จากปกหลัง)
จะเป็นอย่างไร ถ้าวันหนึ่งหลังจากพิธีฝังศพของพ่อ
ซึ่งแท้จริงแล้วควรจะเป็นวันแต่งงานของคุณ เกิดมีลังใบใหญ่ที่ภายในคือคุณพ่อคุณในภาคโคลน ผู้มาพร้อมกับรีโมตคอนโทรล
และเสนอเวลาหกวันที่คุณจะได้เดินทางตามรอยความทรงจำของเขา
ได้ทำความรู้จักกับเขาเพื่อชดเชยคืนวันอันห่างเหิน
เพื่อเดินทางย้อนไปในเส้นทางแห่งอดีตที่ความรักครั้งวัยเยาว์
ยังคงรอคอยคุณออกติดตาม...
"เพื่อเราจะได้มีวันที่ขาดหาย มีชั่วโมงอันยาวนานที่จะลอยลับไปชั่วนิรันดร์ เพื่อให้ลูกกับพ่อมีโอกาสแลกเปลี่ยนทุกสิ่งอันที่เราไม่เคยเอื้อนเอ่ยต่อกันได้ในที่สุด"
'จูเลีย'ตัดสินใจจะลองเดินตามเส้นทางนั้น
และเธอได้พบว่าอัศจรรย์แห่งรักที่เกิดขึ้นมิใช่ปาฏิหาริย์
หากเป็นทุกสิ่งอันที่เธอได้ยื่นมือไขว่คว้ามาสู่ใจด้วยตัวของเธอเอง...
เรื่องย่อๆก็ตามด้านบนนั่นเลยค่ะ...
เป็นนิยายรักโรแมนติกที่เจือความลึกลับราวกับปาฏิหาริย์กลายๆ
จากนักเขียนหนุ่มชาวฝรั่งเศสที่เคยอ่านงานของเขามาแล้ว...
อย่างน้อยๆก็สองเล่มล่ะ
เล่มนี้ก็โทนเดียวกันกับเรื่องที่เคยอ่านเลยค่ะ
เน้นเรื่องราวความสัมพันธ์อันอบอุ่นอ่อนโยนกับร่องรอยความทรงจำ
ที่ต้องการการเติมเต็มเพื่อการเดินหน้าต่อ
โดยไม่มีสิ่งใดตกค้างให้ต้องนึกเสียใจภายหลัง
จูเลียเกือบจะแต่งงานกับแอดัมอยู่แล้ว แต่พ่อของเธอก็เกิดจะมาเสียชีวิตลง...
ทำให้เธอต้องเลื่อนงานแต่งงานออกไป
หลังจากฝังศพพ่อเสร็จ จู่ๆ พ่อของเธอก็กลับมาหาเธอ
ในรูปของหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่พูดและทำอะไรๆได้ทุกอย่างเหมือนคนจริงๆ
พ่อบอกว่าพ่อมีเวลาอยู่กับเธอแค่หกวัน...ตามอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
พ่อชวนเธอออกเดินทางไปด้วยกันเพื่อย้อนรอยอดีต
และเพื่อชดเชยวันเวลาที่ขณะมีชีวิตอยู่พ่อค่อนข้างเหินห่างกับเธอ
เพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับงาน
จูเลียตัดสินใจไปกับพ่อ โดยไม่ได้บอกความจริงกับแอดัม
และแสตนลีย์ เพื่อนสนิทที่รู้จักรู้ใจเธอที่สุด...
และโดยที่เธอไม่ได้คาดหวังว่านั่นจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ยังไงๆเธอก็ยังรู้สึกโกรธและเหินห่างกับพ่ออยู่ดี
..............
พ่อพยายามโน้มน้าวให้จูเลียปฏิบัติตัวตามปกติและอย่าคิดว่าพ่อตายแล้ว
แต่เธอไม่วายแสดงอาการหงุดหงิดใส่เขา
เธอรู้สึกว่า...เหมือนพ่อจะวางแผนล่วงหน้าที่จะตายในวันที่เธอกำลังจะแต่งงาน
เพื่อขัดขวางเธอกับแอดัม เหมือนที่พ่อเคยขัดขวางเธอกับทอมัส...
เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน
แต่กลับมารอบนี้ พ่อพยายามเตือนเธอเรื่องการแต่งงานกับแอดัม
โดยที่ยังมีความทรงจำเกี่ยวกับทอมัสอยู่ในใจ...
"การแต่งงานน่ะเป็นเรื่องหนึ่ง...การใช้ชีวิตทั้งชีวิตร่วมกับคนอีกคนซึ่งเป็นคนอื่น
มันต้องมีความรัก มีพื้นที่มากมาย มีเขตแดนที่เราสร้างร่วมกันสองคน
และเป็นที่ที่เราต้องไม่รู้สึกว่าคับแคบ"
และที่สำคัญ...พ่อบอกกับเธอว่า...
ทอมัสยังมีชีวิตอยู่...!!!
และภายในเวลาหกวันที่เหลืออยู่นี้
เขายินดีสนับสนุนเธอเต็มที่ในการตามหาทอมัส
เป็นพล็อตที่แหวกแนวมากค่ะ แต่ไม่เกินคาดสำหรับนักเขียนนามนี้
เป็นโรแมนติกซึ้งๆ ที่ไม่ได้เน้นเรื่องความรักของคนหนุ่มสาว
หากแต่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาว เพื่อนกับเพื่อน
และความรักครั้งวัยเยาว์ที่เคยคิดว่าตายจากกันไปเนิ่นนานแล้ว...
ช่วงแรกๆ อ่านด้วยความหงุดหงิด รำคาญใจในท่าทีของจูเลีย
ที่แสดงออกต่อพ่อของเธอ..
.แต่อ่านไปเรื่อยๆ ก็ค่อยๆอิน ค่อยๆ เข้าใจ...
แล้วก็แสนจะซาบซึ้งประทับใจในที่สุด
ผู้เขียนเล่าเรื่องได้เรียบเรื่อย มีการย้อนอดีตเป็นช่วงๆ
เพื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงความเป็นมาของความสัมพันธ์ของแต่ละคน
จูเลียกับพ่อ...กับทอมัส...กับสแตนลีย์
และกับแอดัม...
คู่ขนานไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์
เพราะทอมัสเป็นนักข่าวชาวเยอรมันตะวันออก...
ที่มีบทบาทพัวพันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเยอรมัน..
.นั่นคือการทลายลงของกำแพงเบอร์ลินนั่นเอง
ชอบมากกกกก...
ชอบช่วงเวลาที่จูเลียร่วมเดินทางไปกับพ่อ
แล้วค่อยๆซึมซับรับรู้ถึงความรักความผูกพันมากมายที่พ่อมีต่อเธอ...
บางช่วงบางตอนถึงกับน้ำตาซึม...
แง่คิดและมุมมองในเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์
และการใช้ชีวิตที่พ่อคอยติงและเตือนจูเลียนั้น
มันเป็นประหนึ่งบทเรียนสำหรับผู้อ่านด้วยเช่นกัน
เป็นนิยายอีกเล่มที่อ่านจบด้วยความรู้สึกอิ่มเอมและเต็มตื้น