'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~ ไหม(Seta) : จงกลับมา หาไม่ข้าจะตาย ... อเลซซานโดร บาริกโก/เขียน งามพรรณ เวชชาชีวะ /แปล ~





ไหม(Seta)
อเลซซานโดร บาริกโก/เขียน
งามพรรณ เวชชาชีวะ/แปล
สนพ.ผีเสื้อ/พิมพ์(ต.ค. 2547)
129 หน้า ราคา 119 บาท

ปกหลัง


หนังสือเรื่องไหม(Seta) เป็นนวนิยายที่เขียนเมื่อปี ค.ศ.1996
ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในประเทศอิตาลี และทั่วโลก
ฉบับภาษาอิตาลีพิมพ์ซ้ำถึง 25 ครั้ง ภายในปีแรก
แปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 20 ภาษา
ภาษาไทยเป็นภาษาที่ 18






บางส่วนจากบันทึกผู้แต่ง

นี่ไม่ใช่นิยาย อีกทั้งไม่ใช่เรื่องจริง นี่คือเรื่องเล่า
เริ่มต้นที่ชายคนหนึ่งเดินทางข้ามโลก และจบลงที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง
อยู่ที่นั่นเช่นนั้น ในวันลมพัดแรง
ชายคนนี้มีชื่อว่า แอร์เว ฌองกูร์ ไม่มีใครรู้ว่าทะเลสาบชื่ออะไร

อาจกล่าวได้ว่า เป็นเรื่องรัก แต่หากเพียงแค่นั้นก็จะไม่ควรค่าแก่การนำมาเล่า
ในเรื่อง ยังมีความปรารถนา และความเจ็บปวด คุณรู้ดีที่สุดว่าเป็นเช่นไร
ทว่าสำหรับชื่อเรียกสิ่งเหล่านี้ แท้จริงแล้วคุณก็ไม่รู้
ดังนั้น จึงไม่ใช่ความรัก (นั่นเป็นเรื่องเก่าแก่มาก ยามที่คุณไม่มีชื่อเรียกขานสิ่งใด
ก็จะใช้เรื่องเล่าแทน เป็นเช่นนี้มาหลายร้อยปี)

ทุกเรื่อง มีท่วงทำนองดนตรีของมันเอง เรื่องนี้เป็นดนตรีสีขาว
สำคัญมากที่จะต้องบอก เพราะดนตรีสีขาวเป็นดนตรีประหลาด
บางครั้งทำคุณสับสน เป็นเสียงเปียโนบรรเลง และคนเต้นรำเนิบช้า
หากบรรเลงได้ดีก็ประหนึ่งฟังเสียงบรรเลงของความเงียบ
และผู้เต้นรำปานเหล่าเทพก็จะดูประดุจไม่ไหวติง
เป็นสิ่งยากเหลือแสน ดนตรีสีขาว ...

.............

บางส่วนจากบันทึกผู้แปล

ผู้แปลยกให้ 'ไหม' เป็นงานแปล 'หนึ่งในดวงใจ' มาตลอด
การทำงานแปลชิ้นนี้ถือเป็นโบสีแดงในชีวิตการทำงาน
ความสุนทรีย์และความท้าทายที่จะถอดถ้อยวจีที่ดูเรียบง่าย
หากแต่คมคาย และซ่อนเงื่อนให้ออกมาเป็นฉบับภาษาไทย
ที่คู่เคียงต้นฉบับเดิม เพิ่มความหมายให้การทำงานแปลชิ้นนี้
อย่างที่ทุกวันนี้ยังไม่มีงานชิ้นอื่นใดเทียบได้






บอกเล่าหลังอ่าน...

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของชายคนหนึ่ง ที่ชื่อแอร์เว ฌองกูร์
เขาเป็นพ่อค้าชาวฝรั่งเศสที่ซื้อและขายหนอนไหมจนร่ำรวย
เมื่อถึงวันหนึ่ง เกิดโรคระบาดขึ้นทำลายไข่ในโรงเลี้ยงหนอนไหม
เขาต้องออกเดินทางไกลเพื่อซื้อไข่และหนอนไหมในดินแดนที่ไกลออกไป
มีคนบอกเขาว่าที่ญี่ปุ่นมีไข่หนอนไหมมากมาย
เขาจึงออกเดินทาง มุ่งหน้าไปที่นั่น แม้เขาจะไม่รู้จักประเทศญี่ปุ่น
พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ฟังไม่ออก รู้แต่เพียงว่าที่นั่นอยู่ไกลมาก
ไกลจนสุดขอบโลก...

ทีนั่น เขาได้พบเด็กสาวนางหนึ่ง เธอเป็นเมียน้อยของชายชาวญี่ปุ่น
ผู้ที่สามารถขายไข่หนอนไหม(ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายญี่ปุ่น)ให้กับแอร์เว
ท่าทีบางอย่างในตัวเธอจุดความสนใจให้กับเขา
ครั้งแรกเมื่อกลับไปยุโรป เขาไม่รู้จักเธอ และไม่ได้ยินแม้เสียงของเธอ

เมื่อกลับไปที่นั่นอีกครั้งในปีต่อมา
ก่อนกลับเขาได้รับข้อความภาษาญี่ปุ่นสั้น ๆ จากเธอ
เมื่อกลับมาถึงฝรั่งเศส เขาจึงหาคนแปลข้อความนั้นให้
มาดามบล็องช์เป็นแม่เล้าชาวญี่ปุ่น แปลข้อความนั้นว่า..
."จงกลับมา หาไม่ข้าจะตาย"

...............

แอร์เวกลับไปอีกครั้ง และอีกครั้ง หนที่สี่ เกิดสงครามในญี่ปุ่น
เขาไม่ได้พบกับเธออีก และไม่มีการซื้อขายไข่หนอนไหมอีกต่อไป

เขาเฝ้าโหยหาเด็กสาวคนนั้นอยู่เงียบๆ แล้วเขาก็ได้รับจดหมาย
เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นจำนวน 7 แผ่น...
เขานำจดหมาย 7 แผ่นนั้นไปหามาดามบล็องช์อีกครั้ง
เพื่อให้เธอแปลข้อความในนั้นให้เขาฟัง...
แล้วเขาก็เฝ้าเก็บงำจดหมายเจ็ดแผ่นนั้นไว้กับตัวตลอดเวลา
จนกระทั่งเอแลนเสียชีวิตด้วยโรคไข้สมอง
เขาดั้นด้นตามหามาดามบล็องช์อีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงสิ่งที่ยังค้างคา
แล้วเขาก็ได้รับรู้ความจริง...ความจริงที่จะยังคงดังก้องอยู่ในใจเขาตราบชั่วชีวิต...





นิยายสั้น ๆ แต่เรื่องราวกระแทกใจค่อนข้างรุนแรงและลึกล้ำ
;ถ้อยคำสำนวนเรียบ ๆ สั้น ๆ บางช่วงบางตอนเหมือนจะเป็นการ copy&paste ด้วยซ้ำ
แต่ทำไมไม่รู้ รู้สึกว่าเขามีความหมายแทรกแฝงอยู่ในประโยคสั้น ๆ ซ้ำ ๆ นั้น
เป็นงานเขียนที่แสนจะประหยัดถ้อยคำ ซ้ำบอกเล่าด้วยลีลาเนิบเนือย
ทว่าเน้นย้ำในบางช่วงบางตอน...
ฝากฝังร่องรอยของความโหยหา ความเจ็บปวด
ความเดียวดายอันล้ำลึก ตราตรึงไว้ในใจคนอ่าน....

............

บางถ้อยคำที่ล้ำลึก กินใจ

“เป็นความเจ็บปวดประหลาดนัก...
ที่จะตายด้วยความอาลัยสิ่งซึ่งมิเคยได้สัมผัส”

............

“...เมื่อความเปลี่ยวเหงาบีบคั้นหัวใจ เขาจะขึ้นไปยังสุสานเพื่อพูดกับเอแลน...
นานๆ ครั้ง วันที่ลมพัดแรง เขาจะลงไปถึงทะเลสาบ
เฝ้ามองอยู่หลายชั่วโมง ด้วยว่าลวดลายที่ปรากฏบนผิวน้ำ
สำหรับเขานั้น ดุจภาพอัศจรรย์แผ่วพลิ้ว
ทำให้เขาเห็นภาพชีวิตทั้งชีวิตของเขาเอง”


แม้จะรู้สึกโหยๆ ขณะอ่าน หากก็รู้สึกอิ่มเอมเมื่ออ่านจบ
หนังสือดี ๆ หยิบมาบอกต่อชวนอ่านกันวันนี้ค่ะ












Create Date : 19 กันยายน 2559
Last Update : 19 กันยายน 2559 12:45:04 น. 4 comments
Counter : 3410 Pageviews.

 
โหวต Book Blog ครับพี่แม่ไก่

เรื่องนี้ผมเคยอ่าน
แล้วก็ชอบมาก
แต่จำไม่ได้ว่าชอบตรงไหนเป็นพิเศษ

รู้แต่ว่าชอบมากครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กันยายน 2559 เวลา:15:07:38 น.  

 
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

ดูแล้วน่าอ่านนะคะ
แต่เป็นคนไม่ค่อยรักการอ่านเลย

แนะนำแบบนี้ก็ทำให้สนใจค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 19 กันยายน 2559 เวลา:20:44:34 น.  

 
ห้องเรียน เขียนแผ่นฟ้า เดือนดารา ลาล้านหมื่น
เรียนรู้ อยู่ค่ำคืน บนแผ่นผืน พื้นดินเดิม
นักเรียน เปลี่ยนวิชา คุณครูมา หาหัดเริ่ม
แตกต่าง ต่อเต็มเติม สรรค์สร้างเสริม สองแสงครู
ต้นกล้า อาราดิน


โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 22 กันยายน 2559 เวลา:5:09:06 น.  

 
ชอบหนังสือเล่มนี้มากกกกกกกกกกกกกก

เป็นอารมณ์และบรรยากาศที่ไม่เคยได้อ่านจากหนังสือเล่มอื่น จังหวะเป็นเอกลักษณ์มากๆ ค่ะ



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 9 มกราคม 2560 เวลา:19:15:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.