|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
28. เจ้าหญิง : เทพากร
เรื่อง : เจ้าหญิง ผู้เขียน : เทพากร สำนักพิมพ์ : โอเดียนสโตร์ ปีที่พิมพ์ : 2512 สองเล่มจบ
 จากข้อมูลในหนังสือ นามประพันธ์ เทพากร เป็นนามปากกาของคุณทองอยู่ ทิพยเสถียร เจ้าของนามปากกา ขวานเขียน กิ่งฟ้า ขำขจร ทองทิพย์ ทิพากร ส.ตอร์ปิโดร์ นายทิพา รวมถึง เทพากร
เห็นชื่อเรื่อง “เจ้าหญิง” ครั้งแรก หลายคนอาจจะนึกว่า เป็นเรื่องแนวเจ้าหญิงเจ้าชาย ที่มีฉากเป็นเมืองสมมติต่างๆ แต่ความจริงแล้ว เจ้าหญิงในนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องแนวชีวิตการต่อสู้อันเข้มข้น ของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคชีวิต และท้าทายอำนาจเถื่อนที่เข้ามาคุกคามท่ามกลางแดนทมิฬ และด้วยบุคลิกลักษณะที่หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีโดยไม่ยอมพรั่นแพ้ต่ออธรรมทั้งปวง จนทำให้เธอมีฉายา ว่า “เจ้าหญิง” นั่นเอง +++++++++++++++++++++++++++ นายโพยม บิดา ของ บุษบา พนารมย์ และภรรยา เดินทางมาหักร้างถางพง ทำไร่ที่เขาตั้งชื่อว่า ไร่ราวไพร ยังหมู่บ้านดอนพยอม ตั้งแต่มันยังเป็นพื้นที่รกร้าง ห่างไกลความเจริญ จนเริ่มมีผู้คนเข้ามาจับจองและกลายเป็นชุมชนเกิดขึ้น โดยมี หลวงสรเดช และเรวดี สามีภรรยา ที่เข้ามาอาศัย และสร้างอิทธิพลขึ้น จนแพร่ขยายอำนาจเถื่อน อย่างไม่เกรงกลัวราชการใดๆ
หลวงสรเดช ต้องการที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ของไร่ราวไพร แม้ว่า นายโพยมจะไม่ต้องการขายมันก็ตาม ในที่สุด ด้วยอิทธิพลเถื่อน โพยม จึงถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
บุษบา พนารมย์ ทายาทเพียงคนเดียวของโพยม จึงจำต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่กำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายพอดี หญิงสาวได้รับจดหมายฉบับสุดท้ายจากบิดา ที่เปลี่ยนชื่อไร่ราวไพร เป็นไร่ปาริชาต ทำให้เธอตัดสินใจในทันที ที่จะหันหน้าเข้าสู้กับอิทธิพลเถื่อนของ หลวงสรเดช อย่างไม่พรั่นพรึง จนได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิงแห่งดอนพยอม”
บุษบา กลับมาอาศัยอยู่กับมารดา และนางแก้ว ที่เป็นหญิงรับใช้ผู้ซื่อสัตย์พร้อมเจ้าเต่า เด็กน้อยจอมซุกซนลูกชายนางแก้ว ทั้งสี่คนต้องเผชิญกับเหล่า นักเลงป่าเถื่อน สมุนของหลวงสรเดช ที่ส่งเข้ามา เพื่อสร้างความหวั่นกลัว แต่ด้วยหัวใจกล้าหาญทำให้เธอไม่หวั่นเกรงต่อพวกมัน ++++++++++++++++++++++++ หลวงสรเดช มีบุตรสี่คน คนโตคือ วุฒิเลิศ เพิ่งเรียนจบจากสหรัฐอเมริกา และเคยเป็นเพื่อนกับ บุษบามาก่อน ส่วนคนที่สองชื่อสุทธิศักดิ์ คนที่สามและสี่ เป็นหญิงสาวชื่อ เฟื่องฟ้า และดวงพร เห็นจะมีแต่ เฟื่องฟ้า เท่านั้น ที่ไม่ชอบหน้า บุษบา ในขณะที่พี่น้องทั้งสามคน ต่างเห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของหญิงสาว
วุฒิเลิศ แอบชอบบุษบา แต่ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวก็มีท่าทางห่างเหิน เพราะไม่ไว้วางใจเขา เธอเกรงว่า เขาจะเป็นพวกเดียวกับ หลวงสรเดช และแกล้งมาทำดี กับตัวเอง เพื่อหวังในที่ดินไร่ปาริชาติของตัวเอง
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เมื่อมารดาเธอล้มเจ็บลงด้วยความตรอมใจจนเสียชีวิต ซ้ำยังมีโรคระบาดจากแมลงร้าย เกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรจนเสียหายเกือบทั้งหมด บุษบา พยายามหาทางซื้อยาฆ่าแมลง มาจัดการ แต่หลวงสรเดช สั่งให้ชาวบ้านห้ามขายให้กับเธอ จนดวงพรและสุทธิศักดิ์สงสาร จึงต้องแอบขโมยมา เพื่อช่วยหญิงสาวให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ ++++++++++++++++++++++ ในเวลานั้นเอง เมื่อมีชายหนุ่มแปลกหน้ามาปรากฏตัวที่หมู่บ้านดอนพยอม เขามีนามว่า เหิน หัสดายุ ด้วยนิสัยกล้าแกร่ง ไม่ยอมใคร เมื่อเห็นบุษบาถูกรุมทำร้ายเขาจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เขาสมัครเข้าเป็นคนงานในไร่ของบุษบา และคอยช่วยปกป้องเธอ จากกลุ่มอันธพาล ที่หลวงสรเดชส่งมา โดยเฉพาะไอ้ยักษ์ สมุนเอกของหลวงสรเดช ที่มีความเหี้ยมโหดผิดมนุษย์
บ้านหลังงามของเธอ ถูกวางเพลิงจนพังพินาศ บุษบา แทบไม่เหลือกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ แต่มีเหินคอยอยู่เป็นกำลังใจเคียงข้าง เขาสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเธอไปไหนอย่างเด็ดขาด และเป็นจุดเริ่มต้นความผูกพันของสองหนุ่มสาวให้เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนรู้แต่ว่า เหิน เป็นนักโทษที่เพิ่งหลุดคดีออกมา และด้วยความกล้าหาญของเขา ทำให้ชาวบ้านหลายคนเริ่มกลับใจ หันมาเป็นฝ่ายของบุษบา เพื่อร่วมมือกันโค่นอิทธิพลเถื่อนของหลวงสรเดช รวมถึง เจ๊กจั๊ว ที่ขายข้าวต้มในตลาด และสาวน้อยกระแต ลูกสาวเจ๊กจั๊ว ที่หันมาช่วยเหลือบุษบา ด้วยเช่นกัน
เหินพาสหายรุ่นน้องมาร่วมทีมกับบุษบาอีกสองคน คือ หัด หาญเวหา และสายบัว แต่ภายหลังสายบัว ถูก หลวงสรเดช จับตัวไป พร้อมเสี่ยจั๊ว เพื่อเป็นตัวประกัน ทำให้ เธอได้รู้จักกับ วุฒิเลิศ ที่สงสารหญิงสาว จนหายทางช่วยเหลือจากอิทธิพลบิดาของตัวเอง วุฒิเลิศผิดหวังจากความรักของบุษบา และเมื่อได้รู้จักสายบัว มากขึ้น ทำให้เขาและสายบัวเริ่มเกิดความรักต่อกัน ++++++++++++++++++++ ดวงพร และสุทธิศักดิ์ ร่วมมือกับทีมของ บุษบา เพราะทนเห็นความอยุติธรรมไม่ได้ ในเวลาต่อมา ดวงพร กับ หัดหาญเวหา ก็สนิทสนมผูกพันกัน เช่นเดียวกับสุทธิศักดิ์ ที่รักและเอ็นดูสาวน้อยกระแต ที่มีจิตใจกล้าหาญ จนกลายเป็นความรักของสองหนุ่มสาวในท่ามกลาง แผ่นดินที่ร้อนระอุด้วยการต่อสู้ห้ำหั่นกันของธรรมะและอธรรม!
ไอ้ยักษ์ วางแผนทรยศต่อหลวงสรเดช มันปลุกปล้ำเฟื่องฟ้า ที่วางอำนาจเหนือมันมาโดยตลอด จนตกเป็นเมียของมันในที่สุด เหตุการณ์นี้สร้างความอัปยศ แค้นเคืองให้เฟื่องฟ้า ผู้มีนิสัยหยิ่งผยอง และดูถูกสมุนอย่างมัน เป็นอันมาก
หลวงสรเดช วางแผนสำคัญที่จะจัดการปราบทุกคนให้สิ้นซาก การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด และในเวลานั้นเอง เมื่อเฟื่องฟ้า วางแผนสังหารมันด้วยความแค้น แต่ถูกไอ้ยักษ์สังหารเสียก่อน มันสามารถจับตัวบุษบา มาได้ และกำลังจะข่มเหงหญิงสาว ที่ต่อสู้สุดชีวิต
ในเวลานั้นเอง เมื่อเหินเข้ามาช่วยหญิงสาวที่เขารัก และฆ่าไอ้ยักษ์ได้สำเร็จ แต่เขาเองก็ได้รับกระสุนปืน บาดเจ็บสาหัส
การสู้รบจบสิ้นลงด้วยความพ่ายแพ้ของ หลวงสรเดช ชาวบ้านลุกฮือกันต่อต้าน จนชายชราผู้ทรงอิทธิพล ต้องยอมพ่ายแพ้ราบคาบ
“เหินขา... “ บุษบาพึมพำ “หากทุกอย่างเสร็จสิ้นลง คุณจะไปจากดอนพยอมหรือเปล่าคะ” “ทำไมคุณถามผมอย่างนั้น” “ก็คุณเคยบอกว่า คุณเป็นคนพเนจร คุณไม่เคยปักหลักอยู่ที่ไหนได้นานๆ คุณเป็นคนรักอิสระเสรี ไม่มีใครกักขังคุณเอาไว้ได้” “ไม่จริงหรอก” เขากระซิบอยู่ที่ริมหูของเธอ “เดี๋ยวนี้ผมถูกกรงหัวใจขังเอาไว้เสียแล้ว และผมยินดีติดอยู่ในกรงขังอันนี้ ผมจะไม่ดิ้นรนไปไหนอีก ผมรักดอนพยอม และชาวดอนพยอมก็รักผม ผมจะทอดทิ้งไปได้อย่างไร โดยเฉพาะ... เจ้าหญิงของผม” ++++++++++++++++++++++++ และแล้วความจริงทุกอย่างก็เปิดเผยขึ้น เมื่อ เหินบอกกับทุกคนว่า เขาเอง หัด และ สายบัว เป็นพี่น้องกัน เหิน หัสดายุ หรือ พันตำรวจตรีไตรรงค์ จักรราช ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นนายอำเภอคนแรกของดอนพยอม ส่วน หัด หาญเวหา ก็คือ ไตรจักร จักรราช นายธนาคารใหญ่ โดยสายบัว จักรราช น้องสุดท้อง จบเลขานุการินี มาจากอังกฤษ นั่นเอง
เรื่องราวของ “เจ้าหญิง” ก็จบลงด้วยความสุขสมของคู่รักคู่รส ถึงสี่คู่เลยทีเดียว
หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์จอเงิน นำแสดงโดยคุณ สมบัติ เมทะนี ในบท เหิน หัสดายุ และคุณอรัญญา นามวงศ์ ในบทบุษบา เจ้าหญิงของเรื่อง สำหรับ บทตัวร้ายตัวสำคัญ หลวงสรเดช นั้นนำแสดงโดยคุณสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ ร่วมด้วย คุณแก่นใจ มีนะกนิษฐ์ คุณมารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา ด.ญ.จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นต้น มีเกร็ดสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่น่าสนใจไม่น้อย ผมนำภาพประกอบมาจาก เพจไทยบันเทิง ที่ได้เขียนเล่าไว้ว่า
เจ้าหญิง เป็นภาพยนตร์ 16 ที่อำนวยการสร้างเป็นเรื่องสุดท้ายของ คุณ แท้ ประกาศวุฒิสาร ก่อนจะทำภาพยนตร์ 35 มม. เสียงในฟิล์มในเวลาต่อมา และยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ที่ สมบัติ เมทะนี และอรัญญา นามวงส์ สองดาราคู่ขวัญ มาแสดงให้กับ แท้ ประกาศวุฒิสาร ก่อนจะกลายเป็นพระนางประจำของเขาไปจนเลิกสร้างภาพยนตร์ และยังเป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก ของคุณสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ ในวัยเพียง 37 ปีเท่านั้น
ท้ายสุดนี้ ขอขอบพระคุณภาพประกอบจากเพจ Thai Movie Posters และเพจ ไทยบันเทิง ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ



Create Date : 03 ตุลาคม 2568 |
|
0 comments |
Last Update : 3 ตุลาคม 2568 10:31:37 น. |
Counter : 55 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#21
|
ฉันติดคุก ครั้งนี้ ชั่วชีวิต
เพราะทำผิด คิดรัก ตัวอักษร
ถูกคุมขัง ตั้งแต่เช้า จนเข้านอน
ขอวิงวอน โปรดอย่า มาประกัน
คุกหนังสือ คือโซ่ทอง ที่คล้องล่าม
คุกหนังสือ คือความงาม ในความฝัน
คุกหนังสือ คือดนตรี กล่อมชีวัน
คุกหนังสือ คือสวรรค์ ฉันรักเธอ
จาก คุกหนังสือ : แคน สังคีต | | |