'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

“เมฆเหินน้ำไหล” : พระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี





"เมฆเหินน้ำไหล"
พระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ผู้เขียน ฟังฟัง
สนพ.นานมีบุ้กส์ (ครั้งที่ ๑๔,๒๕๕๒)

จากบทนำเรื่อง:



เรื่อง “เมฆเหินน้ำไหล” เป็นวรรณกรรมจีนร่วมสมัย
ที่สะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมจีนปัจจุบัน
ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการพัฒนาประเทศตามนโยบายสี่ทันสมัย
ที่เริ่มขึ้นในปี 2521 และดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน...

ชื่อเรื่อง เมฆเหินน้ำไหล ช่วยแสดงให้เห็นสัจธรรมของชีวิตว่า
ความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของชีวิต
เหมือนเมฆที่ลอยเหิน และน้ำที่ไหลริน
ไม่มีสิ่งใดบังคับควบคุมได้ ชีวิตย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นนิจ






เรื่องราวโดยย่นย่อ :

วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของครอบครัว ๆ หนึ่ง
ที่ทั้งสามีและภรรยาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยทั้งคู่
แต่ฐานะค่อนข้างยากจน

เกาเหรินหยุนผู้เป็นสามีและพ่อเป็นคนเอาจริงเอาจัง
เคร่งครัดและเครียดกับปัญหาต่าง ๆ จนถูกโรคกระเพาะเล่นงาน
ในขณะที่ภรรยามีท่าทีผ่อนคลายมากกว่า

เกาหง ลูกชายคนโตเป็นนักศึกษาที่มีความคิดก้าวหน้า(แต่ออกจะแหวกแนวในความรู้สึกจองผู้ใหญ่)
ส่วนเกาย่วนลูกสาวกำลังเรียนมัธยมปลาย กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนั้น

................

ผู้เป็นพ่อตั้งความหวังไว้มากว่าลูกสาวจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้
จึงเฝ้าเน้นย้ำให้เธอเก็บตัวดูหนังสือ ในขณะที่เด็กสาวยังอยากเล่นอยากผ่อนคลายตามประสาเด็ก ๆ ...

บางครั้งเธอก็พูดให้คนเป็นพ่อได้คิดว่า...เข้าเรียนมหาวิทยาลัย จบออกมาแล้วมาทำงานอย่างพ่อและแม่
แต่ก็ยังยากจนเหมือนเดิม สู้เธอออกไปค้าขายส่วนตัวไม่ดีกว่าหรือ...

จึงเกิดเป็นช่องว่างทางความคิดขึ้นมาระหว่างคนสองรุ่นสองวัย...ในครอบครัวเล็ก ๆ นั้น...
ในวันสอบ เกาย่วนเกิดป่วยทำให้เธอสอบเข้าได้มหาวิทยาลัยอันดับรอง ๆ ลงมา
เกาย่วนตัดสินใจซ้ำชั้นเพื่อสอบใหม่ในปีหน้า...
เพราะอย่างไรเสีย เธอก็ไม่อาจต้านกระแสความคิดความเชื่อของผู้เป็นพ่อกับแม่ กับสังคมรอบตัวได้






นอกจากเรื่องราวของครอบครัวนี้
วรรณกรรมเรื่องนี้ยังได้สะท้อนภาพสังคมของประเทศจีนในยุคนั้นอย่างกว้าง ๆ
ผ่านอาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัยของเกาเหรินหยุนและเหมยเจี๋ยเหวิน...
การออกข้อสอบ การตรวจข้อสอบและการติดสินบน การคอรัปชั่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวงราชการ...
ซึ่งมีอยู่จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปเสียแล้ว

ชื่นชมในพระปรีชาขององค์ผู้ทรงแปลมากในการใช้สำนวนภาษาที่อ่านง่าย ลื่นไหล
คำอธิบายท้ายบทแต่ละบทก็กระจ่าง ชัดเจน...

หนังสือเล่มบาง แต่อ่านแล้วได้ทั้งสาระและบันเทิงครบครันจริง ๆ









 

Create Date : 28 ตุลาคม 2554    
Last Update : 28 ตุลาคม 2554 12:05:09 น.
Counter : 6222 Pageviews.  

~ เทพนิยายสองโลก : The Stolen Child ~ (แปลโดยนพมาส แววหงส์)





เทพนิยายสองโลก : The Stolen Child
โดย Keith Donohue / นพมาส แววหงส์ : แปล
สำนักพิมพ์ มติชน /พิมพ์ (ครั้งแรก : พฤษภาคม 2550)




เรื่องย่อ(จากปกหลัง)

ในคืนฤดูร้อน เฮนรี่ เดย์หนีออกจากบ้านไปซ่อนตัวในโพรงต้นไม้
และถูกเหล่าผีลักซ่อนลักพาตัวไปอย่างลึกลับ
คนพวกนี้เป็นเผ่าพันธุ์เด็กชาวป่าที่ไม่มีวันแก่เฒ่า
ซึ่งหลบเร้นตัวอยู่ในความมืด

เฮนรี่ เดย์ถูกตั้งชื่อใหม่ว่าเอนีเดย์ และกลายเป็นพวกเดียวกันกับผีลักซ่อน
เขาติดอยู่ในร่างเด็กตลอดกาล ได้แต่เติบใหญ่ขึ้นในทางจิตวิญญาณ
และพยายามจะนึกให้ออกถึงชีวิตและครอบครัวที่จากมา...
ขณะที่ต้องพยายามเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับดินแดนในเงามืดแห่งนี้
ชีวิตสมัยใหม่ก็กำลังรุกล้ำทำลายตำนานปรัมปราและโลกธรรมชาติ

...........
(ส่วนนี้ต่อเอง)

ขณะเดียวกันเจ้าผีลักซ่อนที่ขโมยชีวิตของเขาไป ก็ต้องพยายามเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในเมืองเช่นกัน...อย่างสับสนและลังเลใจ เพราะถูกหลอกหลอนด้วยความทรงจำอันเลือนรางเกี่ยวกับชีวิตในกาลก่อน...ด้วยพรสวรรค์ของการเป็นนักเปียโนจากชีวิตก่อนหน้านั้น ได้กลับมาเปล่งประกายอีกครั้งในช่วงชีวิตที่เขาต้องมาเป็นเฮนรี่ เดย์จอมปลอมนี้...

ทำให้เขาต้องดั้นด้นตามหาชีวิตแต่หนหลังของตนเอง...
พร้อม ๆ กับความรู้สึกผิดที่มีต่อเจ้าของชีวิตที่ตัวเองสวมรอยอยู่








หลังอ่าน...
ชอบจังค่ะ อ่านแล้วนึกถึงเรื่องเล่า นิทานหลอกเด็กของพ่อสมัยก่อนนู้นนนน....

ที่บ้านแม่ไก่เป็นบ้านนอก ไกลปืนเที่ยง จึงมีเรื่องราวปรัมปราหรือตำนานเล่าขานที่แฝงกลิ่นอายความลึกลับชวนหลอนอยู่มากมาย และแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ที่ผู้ใหญ่จะกำชับนักหนาเมื่อเล่าจบว่า... “ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่”

มีอยู่เรื่องหนึ่ง คล้ายคลึงกับเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้มาก...(เรื่องค่อนข้างยาว แม้จะพยายามย่นย่อสุด ๆ แล้วก็ยังยาวยืดดดดดดดดดด....ขออนุญาตทำเป็นอีกบล็อกหนึ่งแล้วกัน ผู้ใดสนใจเชิญตามลิงก์"เรื่องเล่าจากหลังดอย"นี้ไปอ่านได้ค่ะ)

...........

กลับมาที่หนังสือเล่มนี้...

เรื่องราวดำเนินไปในลักษณะที่เป็นบทบันทึกของคนสองคน คือเฮนรี่ เดย์ตัวปลอม(ที่เป็นผีลักซ่อนมาก่อนแล้วมาสลับตัวกับเฮนรี่ เดย์ตัวจริง) กับเฮนรี่ เดย์ตัวจริงที่ถูกลักพาตัวไปแล้วกลายไปเป็นผีลักซ่อน มีชื่อใหม่ว่าเอนีเดย์...

ทั้งคู่สลับกันเล่าบทเว้นบท...(แต่สำนวนภาษาค่อนข้างคล้ายคลึงกันจนอ่านไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนคนเล่าสักเท่าไหร่)

เริ่มตั้งแต่มีการสลับตัวเป็นต้นมานั่นแหละ...

เริ่มจากเฮนรี่เดย์(ตัวปลอม)บอกเล่าถึงชีวิตขณะที่เป็นผีลักซ่อนและวิธีการคัดเลือกเด็กที่พวกเขาจะเข้ามาแทนที่ พวกเขาต้องติดตามดูเด็กคนนั้นอย่างใกล้ชิดจนระยะหนึ่งเพื่อศึกษาอุปนิสัยใจคอ ตลอดจนบุคลิกลักษณะ เมื่อมาแทนที่จะได้ไม่ถูกจับได้ว่าเป็นตัวปลอม...

ฝ่ายเด็กที่ถูกลักพาตัวไปก็ต้องไปอยู่ในกลุ่มผีลักซ่อน ถูกตั้งชื่อให้ใหม่ ถูกทำให้ลืมชีวิตในหนหลัง
มีกฏเกณฑ์เฉพาะกลุ่มที่ต้องเรียนรู้และปรับตัว ใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในป่า แม้คืนวันจะผันแปรไปเท่าใด เขาก็จะยังคงสภาพร่างกายเท่ากับตอนที่เขาถูกพาตัวมา...

แต่จิตวิญญาณของเขายังคงเติบโตไปตามวัยและวันอันล่วงผ่าน
ดังนั้น จึงมีเรื่องราวของความรักและสัญชาตญาณในเรื่องเพศสัมพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย...

พวกเขาจะมีคิวของการเปลี่ยนตัว...เด็กที่มาก่อนจะได้เปลี่ยนตัวก่อน เรียงกันไปตามลำดับ ดังนั้นผีลักซ่อนบางตัวอาจจะต้องรอนานจนเลิกคิดอยากจะกลับมาเป็น”คน”อีกครั้งไปเลย...

แต่ในเรื่องนี้เน้นเฉพาะเรื่องราวชีวิตของเฮนรี่ เดย์ทั้งตัวจริงตัวปลอม ที่จังหวะของไทมมิ่งจะมาสอดคล้องกันในบางช่วง
ผู้อ่านจะได้เห็นภาพของเหตุการณ์เดียวกันจากมุมมองของทั้งสองคนอยู่บ่อย ๆ ...
บางครั้งมีกระทั่งการเผชิญหน้ากัน...

ตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกสงสารจังค่ะ ทั้งเฮนรี่ตัวจริงและตัวปลอมนั่นแหละ...
พวกเขาต่างก็เจ็บปวดและทุกข์ท้อพอ ๆ กัน
คนอ่านอ่านแล้วก็ปวดใจ...
มีแอบลุ้น แอบจิ้นตอนจบล่วงหน้า...แต่ก็ไม่ยักกะเป็นไปตามคาดค่ะ

แม้จะไม่ถึงกับหักมุมเป๊าะ แต่ก็จบได้สวยและไม่ผิดหวังนักค่ะ

เล่มนี้ชวนอ่านอย่างแรง โดยเฉพาะคนที่หลงใหลในเรื่องราวของเทพนิยาย เรื่องเล่าขานตำนานปรัมปราต่าง ๆ














 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 29 สิงหาคม 2560 11:34:12 น.
Counter : 2104 Pageviews.  

~ ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน ~ The Alchemist By Paulo Coelho





ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน - The Alchemist
ผู้แต่ง: เปาโล โคเอโย - Paulo Coelho
ผู้แปล: ชัยวัฒน์ สถาอานันท์
สำนักพิมพ์: คบไฟ (พ.ศ.2543)






ปกหลัง...


" ... The Alchemist คงจะเป็นหนังสือของใครต่อใครอีกหลาย ๆ คน ที่เป็นคนเดินทาง
คนช่างฝัน คนแสวงหา เช่นเดียวกับซานติเอโก เด็กหนุ่มเลี้ยงแกะในเรื่องที่ปรารถนาจะไปให้ไกลสุด
เพื่อตอบสนองความฝันใฝ่ในเบื้องลึกแห่งหัวใจตน
ไขว่คว้าค้นหาขุมทรัพย์ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ไหนแน่ แต่มีความมุ่งมั่นไม่ครั่นคร้าม ..."





เรื่องย่อ(ย่อเองสั้น ๆ ค่ะ)

ซานติเอโก เด็กหนุ่มเลี้ยงแกะชาวสเปน ฝันซ้ำ ๆ ถึงขุมทรัพย์ที่อยู่ไกลถึงดินแดนปิรามิดในอียิปต์
เขาขายแกะทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อออกเดินทางตามความฝันของเขา...
ระหว่างทาง เขาได้พบพานและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย...
ซึ่งให้ทั้งประสบการณ์และบทเรียนล้ำค่าแก่เขา
บางอย่างก็ทดทอนกำลังใจ บางอย่างกลับเพิ่มความมุ่งมั่นให้แรงกล้ายิ่งขึ้น...
ท้ายที่สุด เขาจะได้พบขุมทรัพย์ที่ปลายฝันหรือไม่ ติดตามได้ในหนังสือค่ะ...





หลังอ่าน...
หนังสือเล่มนี้เคยอ่านฉบับภาษาอังกฤษเมื่อหลายปีก่อน
แต่เมื่อไม่นานนี้ไปพบฉบับแปลในกระบะหนังสือลดราคา 50% ก็เลยคว้ามา

อ่านซ้ำอีกรอบก็ยังคงได้ความรู้สึกที่ดีดังเดิม

คือได้ทั้งแรงบันดาลใจและพลังใจอันมั่นคงที่จะเดินทางไกล
ไปสู่จุดหมายปลายทางที่มีชะตากรรมของตัวเองรออยู่...

ด้วยความเชื่อที่ว่า...

การบรรลุถึงที่สุดแห่งชะตากรรมถือเป็นภารกิจเพียงหนึ่งเดียวของมนุษย์

สอดคล้องกับพุทธพจน์ตอนหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า...
"ชาติสิ้นแล้ว ภพสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจอื่นไม่มี"



* เปาโล โคเอโย - Paulo Coelhoเกิดที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อปี 1947 เป็นนักเขียนบทละคร ผู้กำกับละครเวที คนแต่งเพลง และคนเขียนหนังสือขายดีกว่า 23 ล้านเล่ม
ในร้อยประเทศ "ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน" แปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 30 ภาษา ติดอันดับหนังสือขายดีที่สุดหนึ่งในสิบของโลกในปี 2541


**หนังสือเล่มนี้อ่านในการตอบโจทย์ HHR ข้อ 30-3. ว่าด้วยการอ่านหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนโปรดของเพื่อนค่ะ...
เปาโล โคเอโยเป็นนักเขียนคนโปรดคุณทราย - Smooth Night ค่ะ








***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ






 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 29 สิงหาคม 2560 11:25:46 น.
Counter : 8315 Pageviews.  

~อาถรรพ์บ้านน้อย (Mansion in Miniature)~ นิยายแปล แปลโดย ว.วินิจฉัยกุล





อาถรรพ์บ้านน้อย (Mansion in Miniature)
ผู้เขียน อลิซาเบ็ท เซ็นต์แคลร์
ผู้แปล ว.วินิจฉัยกุล
สนพ.ดอกหญ้า (เม.ย. ๒๕๓๘)



โปรยปก:


คริสตัล เธอเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดคนหนึ่ง
เธออ่อนหวานและบอบบางราวกับเทพธิดาตัวน้อย ๆ
บ้านตุ๊กตาของเธอ งามประณีตอย่างหาที่ติไม่ได้
จนดูราวกับว่ามันมีชีวิตจิตใจขึ้นมาจริง ๆ
เธอรักมันมากยิ่งกว่าชีวิตของเธอ
และเธอก็ได้สิ้นชีวิตอยู่เคียงข้างบ้านตุ๊กตาของเธอ
แต่...เธอถูกฆาตกรรม!

อาถรรพ์บ้านน้อย นวนิยายที่ซ้อนเงื่อนซ้อนปมของการฆาตกรรมไว้อย่างเร้นลับ
ที่อ่านแล้วจะค่อย ๆ ก่อความหวาดกลัวขึ้นอย่างช้า ๆ จนมันครอบงำเข้าไปจับในขั้วหัวใจของคุณ






หลังอ่าน...
แหะ ๆ รู้สึกประโยคท้ายของโปรยปกหลังมันออกจะเว่อร์ไปนิดในความรู้สึกของตัวเอง
มันซับซ้อนซ่อนเงื่อน และก็น่ากลัวจริงอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกับจับขั้วหัวใจขนาดนั้นหรอกค่ะ

.............

เรื่องเล่าผ่าน"ฉัน" คือคาเรน พี่สาวของคริสตัล
ผู้ซึ่งออกจะมีอคติเล็กน้อยกับน้องสาวของตัวเอง
ด้วยความที่คริสตัลนั้นแสนสวย และอ่อนหวานบริสุทธิ์ราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน
ใคร ๆ ต่างรักใคร่เอาอกเอาใจคริสตัล
รวมทั้ง"ฮิวโก" หุ้นส่วนธุรกิจร้านจำหน่ายบ้านตุ๊กตาและเครื่องเรือนบ้านตุ๊กตา

ผิดกับเธอ หญิงสาวที่วัยกำลังก้าวสู่วัยสาวใหญ่ แต่ยังไม่มีคู่ครอง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อคาเรนได้รับจดหมายจากคริสตัล
ซึ่งแต่งงานไปกับเศรษฐีแห่งตระกูลแฟร์ไชลด์ในประเทศฝรั่งเศส
และเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่ผ่านมา...ทิ้งให้คริสตัลเป็นม่ายตั้งแต่ยังสาว

คริสตัลขอร้องให้คาเรนเดินทางไปหาเธอที่คฤหาสน์แฟร์ไอแลนด์
บ้านของสามีที่บัดนี้เป็นสมบัติของเธออย่างสมบูรณ์

คาเรนอิดออดไม่อยากไป แต่ฮิวโกเป็นคนคะยั้นคะยอให้เธอไป...
เขาถึงกลับกล่าวหาว่าเธอ"อิจฉา"น้อง จึงไม่เอาใจใส่ในทุกข์โศกของเธอ

เมื่อเธอตัดสินใจไป... เธอก็พบว่าน้องสาวมีพฤติกรรมแปลก ๆ และกำลังตกอยู่ในห้วงอันตราย...
แต่เธอก็ไม่วายเข้าใจว่านั่นเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจของคริสตัลอยู่ดี...

แต่แล้ว จู่ ๆ วันหนึ่ง...คริสตัลก็เสียชีวิต โดยที่ใครต่อใครลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ก็เธอปลิดชีวิตตัวเอง
แต่...จากของเล่นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่คริสตัลแสนรักที่ถูกทำลายยับเยินพร้อมกับความตายของเธอนั้น
ทำให้คาเรนรู้ว่า คริสตัลถูกฆาตกรรม !!!

มีเพียงบ้านตุ๊กตาแสนงามหลังนั้น...หลังที่คริสตัลทุ่มเทชีวิตจิตใจในการสร้างมันขึ้นมากับมือเท่านั้นที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย
และมันจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นพยานรู้เห็นในเหตุฆาตกรรมนั้น

..................

มันมีเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกมากมายที่...เล่าไม่ได้
เพราะถ้าเล่าไปแล้วนิยายก็หมดสนุกเลยทันที

แต่อ่านแล้วก็ชอบนะ เป็นนิยายโทนหม่น ๆ แต่ก็แฝงความลึกลับซับซ้อนเร้าความอยากรู้อยากเห็นโดยตลอด
ทำให้เมื่อเริ่มต้นอ่านแล้วก็ต้องอ่านไปเรื่อย ๆ จนจบ...

ประกอบกับสำนวนภาษาของผู้แปลที่อ่านได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด...
จึงเป็นหนังสือแปลอีกหนึ่งเล่มที่ชวนอ่านค่ะ





**หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในสี่เล่มที่อ่านเพื่อตอบโจทย์ HHR ข้อ 30-1. [ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ - นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น, รวมบทความ/สัมภาษณ์, บันทึกการเดินทาง, นิยายภาพ/การ์ตูน (ใช้คำว่า "นิยาย" เพื่อให้เข้าใจ แต่จะเป็นหนังสือวิชาการก็ได้)ค่ะ


***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ








 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 10:10:28 น.
Counter : 3880 Pageviews.  

~ ปฎิบัติการสุดฮาล่าแบรนด์ดัง (Bringing Home the Birkin) ~





ปฎิบัติการสุดฮาล่าแบรนด์ดัง (Bringing Home the Birkin)
ผู้เขียน : Michael Tonello
ผู้แปล : ภัทรา หงษ์พร้อมญาติ
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักพิมพ์มติชน มีนาคม 2553

วีรกรรมทำเงินมัน ๆ ของนักขายทางอีเบย์ตัวพ่อ! เชี่ยวชาญการซื้อกระเป๋าหรู "เบอร์กิ้น" ของแอร์เมส
จนไฮโซฯ มีระดับกับดาราดังยังต้อง...ง้อ!


รายละเอียด (จากสำนักพิมพ์)


นี่คือเรื่องจริงของการไล่ล่าซื้อสินค้าแบรนด์เนมเพื่อนำมาขายต่อในอีเบย์
กลายเป็นอาชีพที่คนให้ความสนใจกันมากทุกวันนี้ เพราะรายได้ดี สนุก
และได้เดินทางไปตามเมืองต่างๆ รอบโลก
แต่เบื้องหลังยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่น่าสนใจ
และคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนจนกว่าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้

ผู้เขียนคือไมเคิล โตแนลโล อดีตนักประชาสัมพันธ์และช่างแต่งหน้างานโฆษณาแห่งเมืองโพรวินซ์ทาวน์ อเมริกา

เขาตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากเพื่อทำงานที่บาร์เซโลนา สเปน
แต่พอไปถึงจริงๆ กลับตกงานอย่างไม่คาดคิด
ไมเคิลจึงต้องดิ้นรนหาอาชีพใหม่ทำในประเทศที่ไม่คุ้นเคย
โดยเริ่มนำเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้มียี่ห้อที่เขาสะสมไว้แต่ไม่ได้ใช้มาขายในเวปไซต์ของอีเบย์
เมื่อขายไปเรื่อยๆ เขาก็ได้รู้ว่ามีกลุ่มคนที่คอยไล่ล่าตามหาสินค้าอะไรก็ได้ที่เป็นของแบรนด์เนม
และคนกลุ่มนี้ก็มีกำลังซื้อแบบไม่จำกัดเสียด้วย

วันหนึ่งเขาก็ได้รับอีเมล์จากกลุ่มผู้หญิงฐานะร่ำรวยมหาศาลที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้กระเป๋ารุ่นเบอร์กิ้นของแอร์เมส
ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เป็นยิ่งกว่าสัญลักษณ์ของคนมีระดับ ฐานะร่ำรวยสุดขีด และมีชื่อเสียงโด่งดังว่าหาซื้อได้ยากเย็นเข็ญใจเป็นที่สุด
ถึงมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้ ใครที่คิดอยากได้ต้องเข้าคิวรอ ว่ากันว่าต้องรออย่างต่ำ ๆ ถึง 2 ปี เป็นกระเป๋ายอดฮิตของดาราและไฮโซชั้นสูง

ไมเคิลตัดสินใจว่านี่แหละคือโอกาสทองของเขาและรับเป็นตัวแทนซื้อกระเป๋าเบอร์กิ้นมาขายให้กลุ่มลูกค้า
ช่วงแรกเขาไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จในที่สุด
ธุรกิจเบอร์กิ้นของไมเคิลเติบโตมากเสียจนเขาต้องเดินทางแทบจะรอบโลกเพื่อซื้อเบอร์กิ้นมาขายต่อ
และต้องใช้กลยุทธมากมายในการเกลี้ยกล่อมให้พนักงานในร้าน ไปจนกระทั่งว่าจ้าง "สาย" หรือคนในพื้นที่ให้คอยซื้อกระเป๋าส่งให้เขาจากทุกมุมโลก
จนทำให้เกิดเรื่องชุลมุนวุ่นวายต่างๆนานา ตั้งแต่วิธิการรับมือกับพนักงานขายสุดโหด
กรณียึดกระเป๋าเป็นตัวประกัน ความมีน้ำใจเหลือเชื่อของลูกค้ามหาเศรษฐี ฯลฯ







โห...รายละเอียดจากสนพ.เขายืดยาวจนแทบไม่ต้องเล่าอีกแล้ว
เพียงขอตอกย้ำ ยืนยันว่าอ่านมันจริง ๆ หนังสือเล่มนี้
คนเขียนเขาใช้สำบัดสำนวนที่กิ๊บเก๋ ทั้งเจิดทั้งเริ่ดทีเดียวเชียว อ่านแล้วอยากหยิกปากนัก !!!

ช่างเป็นเกย์หนุ่มที่ช่างคิดช่างฝัน จินตนาการเหลือล้นจริง ๆ

บทซึ้ง ๆ โรแมนติก ๆ เขาก็มีนะ ชอบมาก ๆ ตอนที่เขาเจอแฟนชาวคาตาลัญ แล้วต้องเจอพ่อกะแม่ของแต่ละฝ่าย รู้สึกน่ารักดีอ่ะ
ชอบความผูกพันของไมเคิ่ลกับแม่จัง ตอนท้าย ๆ เลยแอบน้ำตาซึมนิดหน่อย (หลังจากขำก๊ากมาตลอดทั้งเล่ม)

อ่านหนังสือแปลฮา ๆ นี่ต้องยกเครดิตให้ผู้แปลเลยค่ะ
( คุณพัท - คนแปลหนังสือรักโรแมนติก ๆ เล่มข้างบนนั่นเอง )
สำนวนลื่นไหลไม่มีสะดุด มีมุกแพรวพราวไปหมด

อ้อ...หนังสือเล่มนี้ใช้ตอบโจทย์ HHR ข้อ 10-6. [Clear Ice] อ่านหนังสือที่มีเรื่องราวหลักเกิดขึ้นในเรื่องอย่างน้อยใน 2 ประเทศ

ส่วนที่ตอบโจทย์นะคะ ในเรื่องเล่าสุดฮาเล่มนี้ ผู้เขียนเขาเล่าถึงวีรกรรมมัน ๆ ที่เขาต้องเดินทางไปโน่นมานี่เพื่อล่ากระเป๋าหนังแบรนด์ดังจากร้านสาขาในเมืองต่าง ๆ หลายต่อหลายประเทศ ทั้งยุโรป อเมริกาใต้ รวมถึงโตเกียวในญี่ปุ่นด้วยแหละ ทุกที่ที่เขาไปล้วนมีความหมายต่องานและธุรกิจของเขาแทบทั้งนั้น



**พบคำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ คิดว่าเป็นความผิดพลาดของฝ่ายจัดพิมพ์นะคะ...

หน้า 10 (คำนำผู้แปล) เราก็จะสามารถฝ่าฝันทุกอย่าง - ฝ่าฟัน
หน้า 49 นานับประการ -นานัปการ
หน้า 94 ไม่ได้ทำอย่างโจ้งแจ้ง - โจ่งแจ้ง
หน้า 97 บาร์สลั่ว ๆ - บาร์สลัว ๆ
หน้า 99 สตอเบอร์รี่ - สตรอเบอร์รี่
หน้า 208 หากระเป๋าได -หากระเป๋าได้(ตกไม้โท)



ต้องขอบคุณคุณพัทที่เลือกแปลหนังสืออ่านสนุกแบบนี้ให้เราได้เปิดโลกทัศน์ทางการอ่านในอีกมุมหนึ่ง

และขอบคุณมาก ๆ สำหรับหนังสืออภินันทนาการเล่มนี้ค่า...





***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ







 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 12:01:59 น.
Counter : 3552 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.