กำบ่ะเก่า...บ่เล่าอาจลืม(๑๙)...จุหมาหน้อยขึ้นดอย...
|

สวัสดีเจ้า... ห่างเหินจากการอัพบล็อกกลุ่มนี้ไปพักใหญ่ ๆ ทีเดียว
ช่วงนี้ใกล้ถึง "ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง"(ประเพณีปีใหม่)เข้ามาทุกขณะแล้ว แหมสองวันปู่จั๋งขารก็จะล่องผ่าน... สิ่งเลวร้ายใด ๆ ในชีวิตก็กำลังเคลื่อนคล้อยลอยไปพร้อมกัน...สาธุ 
เสียงเพลงพื้นเมืองล้านนาแว่วดังมาจากตรงนั้นตรงนี้ ทำให้บรรยากาศโดยรอบคึกคักครึกครื้นขึ้นมาทันใด
แถว ๆ บ้านหลังดอยของแม่ไก่ บรรดาเด็กน้อย ละอ่อนต่อนแต่นทั้งหลายเขาเริ่มจับกลุ่มเล่นน้ำสงกรานต์กันเป็นจุด ๆ มาหลายวันแล้ว... ...ท่ามกลางแสงแดดอันเริงแรงและอากาศที่ร้อนอบอ้าว เสียงหัวเราะรื่นรมย์ สนุกสนาน เสียงหยอกล้อเล่นหัวกันวี๊ดว๊าย จุดรอยยิ้มให้เราได้โดยง่าย...
และไม่ถือสาหากกระเซ็นกระสายของน้ำเย็น ๆ จะโปรยปรายมาต้องตัวบ้าง... ด้วยความเกรงอกเกรงใจ เพราะเพียงเราโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธ พวกเขาก็จะวางถังน้ำใบน้อยลงอย่างว่าง่าย อาจจะมีบางคนที่ใช้ปืนฉีดน้ำกระบอกน้อยฉีดมาเพียงฉิวเฉียด... แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสนุกสนานกับการเล่นสาดกันเองมากกว่าที่จะสาดใส่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาอยู่แล้ว...
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศปี๋ใหม่เมือง บล็อกนี้ขอนำเสนอสำนวน "กำบ่ะเก่า" ที่อาจจะคุ้นหูหลาย ๆ ท่านสักสองสาม...เอ่อ...สี่ห้า สำนวนเจ้า
:: ๑ ::
จุหมาหน้อยขึ้นดอย
ศัพท์ : จุ,จุ๊ = หลอก หลอกล่อ
คำแปล : หลอกหมาน้อยให้ขึ้นเขา
ขยายความ : เป็นคำกล่าวเชิงน้อยอกน้อยใจของคนที่รู้สึกตัวว่าถูกหลอกใช้ หรือถูกล่อลวงด้วยคำหวาน หรือคำสัญญิงสัญญาต่าง ๆ ให้กระทำการใด ๆ และเมื่อสำเร็จแล้วกลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามคำสัญญานั้น ๆ ในบางกรณีอาจจะใช้กับหญิงสาวที่ถูกชายหนุ่มล่อลวงให้หลงรักแล้วเขาก็ตีจากไปมีหญิงอื่น...(อ๋ออ๊อย...)
อีกนัยหนึ่งอาจจะใช้เป็นเชิงตักเตือนผู้อื่นว่า...อย่าโง่ ปล่อยให้คนอื่นเขาหลอกใช้ เหมือนกับ..."จุ๊หมาน้อยขึ้นดอย" ล่ะ
:: ๒ ::
จ๊างเฒ่าย่ำงวง ปล๋าตั๋วหลวงต๋ายน้ำตื้น
คำแปล :ช้างแก่เหยียบงวงตัวเอง ปลาตัวโตตายน้ำตื้น
ขยายความ : เป็นสุภาษิตที่บอกถึงคนที่ฉลาดและมีความรู้มากบางทีอาจจะต้องพลาดท่าเสียทีในเรื่องง่าย ๆ อาจเทียบได้กับสำนวนภาษาไทยกลางได้ว่า "ปลาตายน้ำตื้น" เป็นข้อคิดเตือนใจไม่ให้ประมาท หรือทะนงตัวจนเกินไป
:: ๓ ::
จี่พริกก่ะต้องมีครู จี่ปู๋ก่ะต้องมีลาย
คำแปล :จะปิ้งหรือย่างพริกก็ต้องมีครู จะปิ้งปูก็ต้องมีลวดลาย(เคล็ดลับ)
ขยายความ :การกระทำการใด ๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้เพียงเล็กน้อยหรือธรรมดาสามัญที่สุดก็ต้องอาศัยการเรียนรู้จากผู้อื่นทั้งนั้น เหมือนดังคำกล่าวที่ว่าไม่มีใครทำอะไรเป็นมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นเราจึงไม่ควรดูถูกผู้อื่นที่อาจจะคิดหรือทำสิ่งใด ๆ แตกต่างจากเรา เพราะนั่นหมายความว่าเขาเรียนรู้มาจากครูบาอาจารย์ที่แตกต่างจากเรานั่นเอง
:: ๔ ::
จะไปหวังน้ำห้วยหน้า น้ำฟ้าบ่ไหลลงฮอม คำแปล :อย่าหวังน้ำบ่อหน้า เพราะอาจจะไม่มีน้ำไหลจากฟ้าลงมารวม
ขยายความ : เป็นคำกล่าวคำเตือนให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท และอย่าไปคาดหวังสิ่งต่าง ๆ ล่วงหน้า เพราะในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดแน่นอน แม้ธรรมชาติ(ฝนฟ้า)ก็ไม่อาจคาดหยั่งได้ เทียบได้กับสำนวนไทยภาคกลางที่ว่า "อย่าหวังน้ำบ่อหน้า" นั่นเอง
:: ๕ ::
จิ้นบ่เน่าหนอนบ่จี กำบ่มีไผบ่เล่า หรือ จิ้นบ่เน่าหนอนบ่จี กำบ่มีเขาบ่ว่า"
ศัพท์ : จิ้น = เนื้อ (สัตว์), จี = ไช
คำแปล: เนื้อไม่เน่าหนอนไม่ไช เรื่องไม่มีมูลคนเขาคงไม่ร่ำลือ
ขยายความ : สำนวนนี้อาจเทียบกับสำนวนไทยภาคกลางได้ว่า "ไม่มีไฟไม่มีควัน " หรือ "ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้"
นั่นก็คือคนโบราณเขาจะเตือนจิตสะกิดใจว่าในการรับข้อมูลข่าวสารใด ๆ ต้องพิจารณาถึงเหตุถึงผลและที่มาที่ไป เพราะหากไม่มีมูลความจริงอยู่บ้างก็คงไม่มีใครเขาเอามาเล่าลือกัน
มีอีกหนึ่งสำนวนที่มีความหมายใกล้เคียงกัน คือ "กำบ่มีไผบ่ว่า นกจับปล๋ายคา บ่ตั๋วปู๊ก่ะตั๋วแม่" (ไม่มีความจริงคงไม่มีใครพูดถึง นกที่เกาะอยู่บนหลังคานั้นถ้าไม่ใช่ตัวผู้ก็ต้องตัวเมียแน่นอน)
(แหะ ๆ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า "กำบ่ะเก่า" สำนวนนี้อาจจะตกยุคไปแล้วจริง ๆ ตามสภาพสภาวะของธรรมชาติแห่งจิตใจมนุษย์ในยุคโลกาภิวัฒน์เช่นปัจจุบัน ด้วยข้อมูลข่าวสารทั้งจริงทั้งเท็จมันทะลักทะลาย เสียจนยากยิ่งนักที่จะเชื่อได้ด้วยเหตุเพียงว่า...ไม่มีมูลหมาไม่ขี้...เพราะคนสมัยนี้สามารถตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จได้อย่างไม่สะดุ้งสะเทือน
ดังนั้น หากจะพูดถึงเรื่องของความเชื่อแล้ว ขอยึดหลัก "กาลามสูตร" ของพระตถาคตเป็นหลัก น่าจะใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย เป็นอกาลิโกอย่างแท้จริง)

แถมท้ายด้วยเพลงกำเมืองที่...จริง ๆ แล้วเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับปี๋ใหม่เมืองเล้ย... แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า...บรรดาดีเจรายการวิทยุ(สถานีแถวบ้าน) บรรดาร้านค้าทั้งหลายเขามักจะนำมาเปิดกันในช่วงนี้ให้เกร่อเกลื่อน... มีนักร้อง ศิลปินเพลงกำเมืองหลายคนนำมาร้องใหม่ ฟังทีไรก็ได้อารมณ์เพลงที่...ซื่อ ๆ ใส ๆ น่ารัก
เวอร์ชั่นที่นำมาแปะลงบล็อกนี้ ขอเสนอเสียงร้องของคุณอบเชย เวียงพิงค์ค่ะ ได้มาจากเว็บไอจิ๊ก...ขอขอบคุณเจ้า
เนื้อเพลง 'จุ๊หมาน้อยขึ้นดอย'
น้อยอกหมองใจ๋ น้อยอกหมองใจ๋ บ่มีไผเต้า เมื่อเปิ้นบ่ยอมฮักเฮา เปิ้นมาจุ๊เฮา เหมือนจุ๊หมาน้อยขึ้นดอย
เปิ้นคงจะหัน... เปิ้นคงจะหัน ว่าเฮาต่ำต้อย หันเปิ้นเฮาเป๋นดีมาขอย มากึ๊ดกึ๊ดกอย มันน้อยอกหมองใจ๋
* เปิ้นอู้กับเฮาก่อน อู้เฮาก่อนบ่ใจ้กา บ่กองคนใหม่เข้ามา เปิ้นก็เอาคนใหม่ เปิ้นบ่ฮู้ว่าเฮากึ๊ดจะใด น้อยอกหมองใจ๋ แต๊ๆนา
** เสียอกเสียใจ๋ เสียอกเสียใจเป๋นแต๊เป๋นว่า ใจ๋คนบ่ใจ้ใจ๋นกก๋า บ่น่าเลยหนา มาจุ๊หมาน้อยขึ้นดอย...
(ซ้ำ * , ** )
มาจุ๊หมาน้อยขึ้นดอย... มาจุ๊หมาน้อยขึ้นดอย...
(คำแปลเพลงอย่างง่าย ๆ )
รูสึกน้อยอกน้อยใจไม่มีใครเท่า เมื่อเขาไม่รัก เขาเพียงแต่มาหลอกเรา เหมือนหลอกลูกหมาน้อยขึ้นดอย เขาคงจะเห็นว่าเรานี่ต่ำต้อยด้อยค่า เห็นเขาแล้วเรารู้สึกอิจฉานัก มาคิด ๆ ดู มันช่างน้อยอกน้อยใจเสียจริง ดูเอาเถิด ก็เขามาจีบเราก่อนไม่ใช่หรือ ไม่ทันไรพอมีคนใหม่เข้ามาเขาก็หันไปหาคนใหม่ทันที เขาช่างไม่รู้เลยว่าเราคิดอย่างไร น้อยอกน้อยใจเสียจริง ๆ เชียว เสียใจจริง ๆ ใจคนนะไม่ใช่ใจนกใจกา ไม่น่าเล้ย ไม่น่าจะมาหลอกกันเหมือนหลอกหมาน้อยขึ้นดอย...

ท้ายนี้...ขอความสุขสวัสดี... สุขสรีปี๋ใหม่จุ่งมีแด่เพื่อนพ้องน้องพี่ตี้ฮักทุกท่าน... กู้ผู้กู้คนเน้อเจ้า 
|
Create Date : 11 เมษายน 2552 |
Last Update : 8 เมษายน 2554 11:02:23 น. |
|
14 comments
|
Counter : 5448 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: JewNid วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:12:19:25 น. |
|
|
|
โดย: BeCoffee วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:16:03:18 น. |
|
|
|
โดย: แม่เฮือน วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:0:57:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:7:36:38 น. |
|
|
|
โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:15:09:04 น. |
|
|
|
โดย: ratana_sri วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:11:24:11 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:21:40:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:7:43:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:16:40:38 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:22:25:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:8:02:50 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:20:28:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:8:07:16 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:8:16:07 น. |
|
|
|
| |
|
|
แต่ว่าคนข้างๆ ก็ดันอยากเห็นเค้าเล่นน้ำแต่ว่าไม่อยากเปียก
เลยบอกว่าจะขับรถวนในเมืองดูเค้าเอาแล้วก็กลับ .. แล้วเดี๋ยว
รอวันที่ 12 แห่สลุงหลวงในเมือง กับ 13 ขบวนนางสงกรานต์
ก็ว่าจะไปดูอ่ะคะว่าจะไปโผล่แถวๆ หน้าอรุโณทัย ถ้าพี่แม่ไก่
ผ่านไปแถวนั้น แวะทักทายกันได้นะคะ สำหรับสาวถือกล้อง
แล้วก็เห็นนั่งอยู่กับฝรั่งล่ะก็ แม่นเลยค่ะ จิ๋วนิดเอง