อธิกมาส ปรกติวาร อธิกสุรทิน (พ.ศ. ๒๕๕๕)
มังคลวุฒิกาลานุกาล สังกรมสวัสติศิริสุภมัสตุ จุลสกราชได้ ๑๓๗๓ ตัว เถาะฉนำกัมโพชพิสัยในคิมหันตอุตุ จิตตมาส กาฬปักษ์ สัตตมี ศุกรวารไถง ไทภาษาว่าปีร้วงเหม้าเดือน ๗ ลง ๗ ค่ำ พร่ำว่าได้วันศุกร์ที่ ๑๓ เมษายน วันไทกาบสี ติถี ๗ นาทีติถี ๓๘ ตัว พระจันทรจรณยุตติโยดโสดเสด็จเข้าเทียวเทียมนักขัตตฤกษ์ตัวถ้วน ๒๐ ชื่อปุพพาษาฒะ คือว่าดาวปลายงาช้าง เทวตาปรากฏในธนุกเตโชราศี นาทีฤกษ์ ๒๓ ตัว เสี้ยงยามกลางเดิกสู่ยามกลางเดิก ปลาย ๒ บาทน้ำ ปลาย ๑๐ พิชชา ปลาย ๒ ปราณ ปลาย ๑๐ อักขระ คือว่าได้ ๑๙ นาฬิกา ๔๖ นาที ๑๒ วินาที อันนี้ตามคัมภีร์สุริยาตราแล
ยามนั้น รวิสังกรมะ คือ พระสุริยามีตนแลทรงเครื่องมีวัณณะเนื้อตนอันขาวเปนดั่งลวดเงิน สวมใส่ต่างหูประดับด้วยแก้ววิฑูรย์
เนรมิตให้มีมือสี่มือ มือขวาเบื้องล่างถือลูกประคำ มือขวาเบื้องบนถือกระจก มือซ้ายเบื้องบนถือผลไม้ มือซ้ายเบื้องล่างวางพาดตักไว้
นั่งยอง ๆ อยู่เหนือหลังควายมาจากทิศอาคเนย์ไปสู่ทิศพายัพ เสด็จย้ายจากมีนประเทศสู่เมษราศีทางโคณวิถีเข้าใกล้เขาพระสุเมรุราช
ขณะนั้น มีนางเทวดาชื่อสีตา ทรงพาหุรัด ทัดดอกส้มสุก นั่งรอรับขุนสงกรานต์ไป (ท่านทำนายว่า...)
- ปีนี้ฝนต้นปีและกลางปี มีมาก ฝนปลายปีไม่มี
- เกิดความโกลาหล อันตรายจักเกิดขึ้นแก่สมณะพราหมณ์ทั้งหลาย
- พืชหรือข้าว ถั่ว งา งอกงามดี ข้าวและเกลือจะราคาถูก
- ผู้คนทั้งหลายจักอยู่ดีมีสุข
- ควรจัดให้มีการสืบชาตาบ้านชาตาเมือง บูชาเคราะห์บ้านเคราะห์เมือง ตามคาถาว่า สุโขภาโน จ สงฺกรม อกฺกุโชต ปฏิคฺคโห นคฺครา จ พหุโสการโย โสกา ภวิสสติ ดั่งนี้แล .
ตั้งแต่วันสงกรานต์เป็นต้นไป ให้ครูบาอาจารย์ เจ้านาย ท้าวพญา เสนาอำมาตย์ ข้าราชการ ไพร่ฟ้าราษฎรทั้งมวล พากันไปที่สระน้ำ แม่น้ำ ต้นไม้ จอมปลวกใหญ่ บริเวณสี่แยก แล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แล้วให้อาบน้ำ สระผม
ปีนี้ศรีอยู่ที่ท้อง ให้เอาน้ำอบน้ำหอมเช็ดที่ท้อง
กาลกิณีอยู่ที่หน้าผาก จังไรอยู่ที่หน้า ให้เอาน้ำขมิ้น ส้มป่อยเช็ดทิ้ง
พร้อมกับกล่าวคาถาว่า โอม สิริ มา มหาสิริมา เตชะ ยัสสะ ลาภา อายุ วัณณา ภวันตุ เม เพื่อลอยจังไรเสีย
แล้วนุ่งห่มเสื้อผ้าใหม่ เหน็บดอกส้มสุกอันเป็นพญาแห่งดอกทั้งหลาย จักมีอายุยืนยาวไพชะแล
เดือน ๗ ถึง ๘ ค่ำ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๔ เมษายน วันไทดับใส้ เปนวันปูติ คือวันเน่า ปีนี้เน่า วันนึ่ง
ในวันเน่า หรือวันเนานี้ ไม่ควรทำการมงคลใดๆ ผู้ฅนทั้งหลายอย่าปล่อยให้ใจขุ่นมัวเกลือกกลั้วด้วยบาป
เปนต้นว่า ปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร อย่าผิดข้องร้องเถียงกัน ให้มีความสามัคคีกันไว้
ชำระหอเรือนบ้านช่อง กวาดซายดายหญ้า ข่วงวัดวาอาราม ข่วงไม้สรี เจติยะพระธาตุ ขนซายใส่วัด จักมีผลานิสงส์กว้างขวางมากนักชะแล
เดือน ๗ ลง ๙ ค่ำ เป็นวันอาทิตย์ ที่ ๑๕ เมษายน วันไทรวายสะง้า ติถี ๙ นาที ติถี ๔๔ พระจันทร์เคลื่อนสู่นักขัตฤกษ์ คือเวลา ๒๓ นาฬิกา ๔๓ นาที ๔๘ วินาที ยามนั้นศักราชเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเป็น ๑๓๗๔ ตัว ปีเต่าสี
ปีนี้ได้เศษ ๖ ชื่อภูสะยะสัสสะ ปีนี้ม้ารักษาปี ไก่รักษาเดือน แมวรักษาป่า ปลากั้งรักษาน้ำ อาฬวกยักษ์รักษาอากาศ อัคคิสโรยักษ์รักษาแผ่นดิน
ท้าวพญาเป็นใหญ่แก่คนทั้งหลาย ม้าเป็นใหญ่แก่สัตว์สี่เท้า นกดุเหว่าเป็นใหญ่แก่สัตว์สองเท้า
ไม้สักเป็นใหญ่แก่ไม้จิง ไม้ระโมงเป็นใหญ่แก่ไม้กลวง หญ้าเกียงเป็นใหญ่แก่หญ้าทั้งหลาย ดอกสัมสุกเป็นใหญ่แก่ดอกไม้
โอชารสดินมีไม่มาก ฝนห่าใหญ่จักตก ๕๐ ห่า พืชชะข้าวกล้าดี
คนเกิดมาปีนี้อยู่ดีมีสุข มีปัญญา จะมีอายุถึง ๗๐ ปีแล
ขวัญข้าวอยู่ที่ต้นทัน(ต้นพุทรา) ให้นำไม้พุทรามาทำเป็นคันสำหรับทำพิธีแรกนาข้าว
ไม้งิ้วเป็นใหญ่แก่ไม้กลวงไม้ตันทั้งมวล ผีเสื้ออยู่ไม้ปานเถื่อน ผีเสื้ออยู่ไม้อันใดอย่าได้ฟักฟันตัดปล้ำยังไม้อันนั้น
หากจักกระทำมังคลกรรมอันใดให้บูชาผีเสื้ออยู่ไม้นั้นเสียก่อนแล้วกระทำ จักสัมฤทธิ์ผลดีชะแล
นาคให้น้ำ ๓ ตัว จะทำให้ฝนตก ๒๐๐ ห่า ชื่อโสราธิปติ จัดเป็นทางได้ ๒เส้นทาง ด้านกว้างมีขนาด ๖๐โยชน์ ลึก ๓๐ โยชน์
ฝนจะตกในเขาสัตตภัณฑ์ ๑๐๑ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๖๓ ห่า และฝนจะตกในโลกมนุษย์ ๓๖ ห่า
เทวดาวางเครื่องประดับทางทิศใต้ บาปเคราะห์อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บาปลัคนาอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในทิศทั้ง ๓ นี้ ในเวลาที่ทำการมงคลใดๆ เวลาอาบน้ำ สระผม อย่าหันหน้าไปทิศนั้น
พุทธศักราชบัดนี้ล่วงไปแล้ว ๒๕๕๔ ปี ๑๑ เดือน กับ ๙ วัน โดยนับตั้งแต่วันพญาวันย้อนหลัง
พุทธศักราชที่ยังมาไม่ถึงอีก ๒๔๔๕ ปี กับ ๒๐ วัน นับตั้งแต่วันปากปีเป็นต้นไป ตามชินกาลมาลินีสังเกตเหตุเอาบวกสมกันเต็ม ๕๐๐๐ พระวัสสาบ่เสษ
เหตุตามฎีกาชินกาลมาลินีมหาพิลางคสัมมิหรสีเจ้า หากวิสัชชนาแปลงสืบๆมานั้นแล ปริโยสานสมตฺตา ฯลฯ
ปีนี้มีเดือน ๘ สองหน(เดือน ๑๐ เหนือ) ควรนิมนต์พระสงฆ์องค์การบรมชิโนรสมหานาค มากระะทำชำระกิจจอุโปสถกรรมในทุติยสาฬหปุณณมี คือว่า วันเพ็ญ เดือน ๘ หนที่ ๒ เมงวัน ๕ แล้วสมาทานข้าวปุริมวัสสาในวันลง ๑ ค่ำ พระจันทร์เคลื่อนสู่นักขัตตฤกษ์ตัวถ้วน ๒๓ ชื่อว่า ขนิษฐะ คือดาวเพียงกลาง ในมังกรปถวีราศีตามดั่งพุทธบัญญัติว่า "วิเสกะวิสังกันตัตธะ ติตถี ปัณณรสี ภะเว วัสสังอุปคตะ ภะเว อาสาฬหัง ปาฏะปะทะเห" ดังนี้
ให้ชอบปีเดือนวันเทศกาลฤดูพระอาทิตย์ พระจันทร์ อันเป็นประธานแห่งโลกตามขนบธรรมเนียมประเพณีสืบๆ มานั้นแล ฯลฯ
*อาจารย์ ยุทธพร นาคสุข เป็นผู้วิสัชชนาพยากรณ์
ขอบคุณ : //www.rangsiwut.com/lanna-culture/
อันนี้เอามาจากหนังสือปี๋ใหม่เมืองฉบับของร้านประเทืองวิทยาจัดพิมพ์เจ้า
ปี๋นี้ สังขารล่องวันศุกร์
วันจันทร์เป็นวันธงไชยและโลกาวินาศ
วันเสาร์เป็นวันอธิบดี
วันอาทิตย์เป็นอุบาทว์
จะทำก๋ารมงคลใด ๆ หื้อหลีกเลี่ยงวันอาทิตย์กับวันจั๋นทร์เจ้า