|
รสรักปักอุรา ผู้เขียน : กฤษณา อโศกสิน สนพ.ศรีสารา/พิมพ์ (ครั้งที่ 1, 2553) 754 หน้า / ราคา 480 บาท
คำโปรยจากปกหลัง
การประหัตประหารห้ำหั่นอันน่าสยดสยอง คือภาพ แห่งความเป็นจริงที่ช่วยปลุกความไม่ไว้วางใจในกิเลสมนุษย์ ให้ตื่นขึ้น เพื่อได้รู้ว่ารสรักและรสชังที่ถึงขีดอันตราย คือชนวนแห่งมหาสงคราม เมื่อมาถึงนาทีนี้ นาทีที่ได้พบกับความอาฆาตเกลียดโกรธ ของมนุษย์ว่าโหดเหี้ยมเพียงไร มฤคีจึงตั้งใจ จะห่างไกลจากรสชังให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รับไว้แต่รสรัก
(บางส่วนจากบทเกริ่นนำ โดย ปารเมศ ญาณารณพ - ผู้วาดภาพประกอบ)
หนึ่งในความทุกข์คือความรัก แต่เป็นความทุกข์ที่นิยมแพร่หลายในทุกชนชั้นเชื้อชาติ เพราะจะหาสุขใดในโลกลึกซึ้งบริสุทธิ์เท่าความสุขอันบังเกิดจากความรักนั้นยากยิ่ง ทั้งยังเชื่อมโยงถึงกัน ผูกพันตรึงเป็นรสแห่งรักอย่างวิจิตรพิสดารในใจ
หลังอ่าน... นวนิยายเล่มหนาหนัก...บอกเล่าถึงความสัมพันธ์และความผูกพันของคนสองรุ่น สองวัย ที่พัวพันเชื่อมโยง เป็นเหตุเป็นผลต่อกัน ก่อเป็นเรื่องราวความรักอันลึกล้ำฝังใจ
เริ่มต้นตั้งแต่อุบากอง...ชายหนุ่มวัยใกล้สามสิบผู้ผูกพันกับของเก่าเก็บโบราณมาแต่เล็กแต่น้อย ด้วยคุณตาที่เป็นนักสะสมของเก่า ประกอบกับความที่คุณอุรามารดาของเขามีชีวิตที่จ่อมจมอยู่กับอดีตจนไม่ได้สนใจเอาใจใส่เขาเท่าที่ควร และพ่อของเขาก็ได้แยกทางกับแม่ตั้งแต่เขายังเล็ก ๆ ทำให้เขาต้องอาศัยหนังสือเป็นเครื่องหล่อหลอมกล่อมเกลาตนเอง... ได้ไปพบกับหนังสือเก่าล้ำค่า แล้วสะดุดใจในลายเซ็นของเจ้าของเดิม...ม.สุรกัณ... และในเวลาใกล้เคียงกัน เขาก็ได้รู้จักกับมฤคี สุรกัณ ลูกสาวของเจ้าของลายเซ็นนั้น ผ่านล่องหล้า ลูกผู้น้องของเขาที่กำลังติดพันหญิงสาวอยู่... มฤคีมีท่าทีผูกพันลึกซึ้งต่อหนังสือเก่าของพ่อ ก่อเกิดเป็นเยื่อใยบางๆ ระหว่างเธอกับชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
ยิ่งไปกว่านั้น...เมื่ออุบากองนำหนังสือเล่มนั้นมามอบให้คุณอุรา แม่ของเขาดู เขาก็พบว่าแม่...ผู้เคยมีท่าทีรังเกียจเขาด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจที่มีต่อพ่อ ก็เริ่มมีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป เธอเริ่มเปิดใจ เปิดเผยเรื่องราวความรักความหลังของเธอให้เขาได้รับรู้ ทั้งพลอยเชื่อมโยงไปถึงมฤคี ลูกสาวของชายที่เธอเคยรักฝังใจ จนพานให้ไม่อาจรักสามีที่ถูกจับคลุมถุงชนได้เลย แถมยังรังเกียจกิริยาหยาบหยามที่เขากระทำต่อเธอในคืนแต่งงาน... จนนำมาซึ่งการหย่าร้างในเวลาต่อมา...
จากที่เคยรักพ่อสุดจิตสุดใจมาก่อน เมื่อมาพบลูกสาวที่ละม้ายเหมือนเขา คุณอุราก็ถ่ายทอดความรักนั้นมาสู่หญิงสาวอย่างเต็มที่เช่นกัน
อุบากองจะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะดึงมฤคีมาพัวพันกับมารดา ด้วยเกรงใจล่องหล้า นายแบบหนุ่มรูปงาม ลูกผู้น้องที่มีปมชีวิต เนื่องจากแม่ของเขาถูกผู้เป็นพ่อผลาญเงินมรดกจนหมดสิ้นแล้วตายจากไป ทำให้แม่ต้องมาพึ่งพาพี่สาวซึ่งเป็นแม่ของอุบากองอยู่เนือง ๆ ทำให้ล่องหล้าเกิดอาการคับแค้นใจ แม้ภายนอกเขาจะสนิทสมกับอุบากอง แต่ก็มีความอิจฉาแฝงลึกอยู่ในใจ แล้วมาปรากฏชัดขึ้นเมื่อมาเกี่ยวข้องกับมฤคี หญิงสาวที่เขาพึงใจ
มฤคีเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดี แม้เธอจะสูญเสียแม่และพ่อไปตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เธอมีแม่เลี้ยงที่ไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก แม้จะไม่ได้มีอะไรขัดเคืองใจต่อกัน เพราะหลังจากพ่อตายตั้งแต่เธอยังเด็กมาก เธอก็เดินทางไปอยู่กับป้าที่เมืองนอก
มฤคีรู้สึกไม่พอใจที่แม่เลี้ยงขายหนังสือเก่าของพ่อไปทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเธอเคยขอไว้แต่หล่อนไม่ยอมให้ ซ้ำร้าย ตอนนี้หล่อนกำลังจะขายบ้านหลังใหญ่ของพ่อ แล้วจะให้ส่วนแบ่งแก่เธอเพียงหนึ่งในสี่ และตั้งราคาบ้านไว้สูงลิบ
คุณอุราคิดช่วยมฤคี จึงหาเงินมาซื้อบ้านของพ่อเธอไว้ และนั่นก็กลายเป็นชนวนความแค้นของแสงใจ แม่เลี้ยงของมฤคีที่มีต่อคุณอุราทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยเจอตัว เพียงเคยอ่านจดหมายโต้ตอบระหว่างคู่รักที่รักกันมั่นคงเท่านั้น...
ทั้งรสรักรสชังที่ฝังใจ สามารถก่อเกิดเป็นแรงอาฆาตพยาบาทอันแรงกล้าในคนคนหนึ่ง จนอาจจะก่อกรรมทำเข็ญได้ทุกอย่างหากไร้สติ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างสำนึกและการตระหนักรู้ถึงพลังแห่งรสรักรสชังนั้นกับใคร ๆ อีกหลายคน ... เช่นมฤคี...
'...เมื่อมาถึงนาทีนี้ นาทีที่ได้พบกับความอาฆาตเกลียดโกรธ ของมนุษย์ว่าโหดเหี้ยมเพียงไร มฤคีจึงตั้งใจ จะห่างไกลจากรสชังให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รับไว้แต่รสรัก '
ยิ่งเล่าจะยิ่งยาว แต่บอกได้เลยว่าเป็นหนังสือที่แนะนำอย่างแรง สำหรับคอนิยายรักแนวหนักหน่วง ถ่วงอารณ์ให้ดิ่งลึกทั้งหลาย
พล็อตไม่ได้แปลกแหวกแนวจากนิยายรักแบบโบราณสักเท่าไหร่... ความโยงใยเกี่ยวพันของตัวละครที่ซับซ้อน ก็ดูเหมือนจะเป็นความบังเอิญที่เกินเชื่ออยู่สักนิด แต่ด้วยการดำเนินเรื่อง ลีลาการเล่าเรื่อง ตลอดจนสำนวนภาษาที่เปี่ยมด้วยรสแห่งวรรณศิลป์ และความเข้าอกเข้าใจในชีวิตมนุษย์ของผู้เขียนนั่นต่างหาก ที่ดึงดูดคนอ่านให้ติดตรึงอยู่กับตัวหนังสือในเล่มที่มีความหนากว่าเจ็ดร้อยหน้าได้อย่าง... ปักจิตปักใจ... กระทั่งอ่านจบแล้ว ความรู้สึกอิ่มเอมก็ยังคงกำซาบอาบอวลอยู่ในความรู้สึกมิรู้เลือน
มีสำนวนชวนประทับใจ อ่านแล้วมันจึ๊ก! เหมือนถูกเข็มทิ่มทะลุทะลวงใจ ขอหยิบยกมาประกอบคำบอกเล่าถึงนิยายเรื่องนี้สักบางบทบางตอนค่ะ
............
เมื่อบางครั้งบางคราวที่คุณอุราอยากจะแสดงความอ่อนโยนต่อบุตรชาย...
" 'ขยะ'ในใจฤทธิ์เดชมากกว่า ข่มความเป็นมารดา ทำลายความเมตตา ตัดรอนความผูกพันทางสายเลือด จนเหลือเพียงเส้นใยบาง ๆ เป็นเส้นใยที่แม้เพียงนำมาทอเป็นผ้าพันคอผืนเล็กสักผืนหนึ่งก็ยังไม่พอ"
..............
เมื่อคุณอุราได้รับหนังสือของชายอันเป็นที่รักมากอดไว้กับอก...
"...หัวใจอันฟกระบมเพราะผิดหวังอย่างแรงร้ายก็ราวได้รับการเยียวยา... เกิดความลี้ลับมหัศจรรย์ที่บรรยายไม่ได้แน่ว่าคือฉันใด ...ระหว่างวิญญาณมนุษย์กับวิญญาณหนังสือ... แม้ยังตอบมิได้ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือหนังสือเก่าสูงศักดิ์มักมีวิญญาณ ครั้นแล้วจะเดินทางมาหาผู้ที่รักและผูกพันในตัวอักษรอย่างแท้จริงเท่านั้น"
............
ตอนที่พ่อของอุบากองเล่าให้เขาฟังถึงความรักความหลังของตนเอง กับสาวน้อยวัยสิบห้าในอดีต...
"...พ่อของเขาเต็มไปด้วยรสชาติสีสันไม่ซ้ำกัน...ตลอดแต่ละวันของชีวิต ...ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกเดี๋ยวนี้เองว่า เพราะเหตุใดเขาจึงไม่ค่อยสร้อยเศร้าเหงาลึกเท่าที่ควรจะเป็นไป ก็เพราะเขายังมีบิดาผู้สร้างสารพัดสีให้เขาได้ทุกนาทีที่ขาดไร้นั่นเอง ...หัวใจคนก็คือท่อระบายน้ำออกและสูบน้ำเข้าไม่ผิดไปจากท่อน้ำในบ้านสักเท่าไหร่...สัจธรรมแอบแฝงอยู่ใเครื่องมือเครื่องใช้ซ่อนอยู่ในกลไกทุกประเภทที่มนุษย์ต้องเกียวพัน"
"ทั้งพ่อและแม่มีเงาแห่งความรักแผ่คลุม... เป็นเงาจากอดีตแห่งรักแท้ที่ผู้คนสมัยนี้ไม่แน่ใจ ไม่เคยแน่ใจว่าคำคำนี้ยังมีอยู่"
.............
ความเข้าอกเข้าใจของคุณอุราที่มีต่อแสงใจ อดีตภรรยาคนที่สองของชายที่เธอรัก
"...ความแค้นแสนทวีกำเริบขึ้นในอกของแสงใจ...คุณอุรารู้ได้เป็นอย่างดี ด้วยว่ารสชาติเช่นนี้เคยกำแหงแฝงฝังอยู่ในใจเธอมาตลอดสี่สิบปีชีวิตกลายเป็นสมรภูมิแห่งรักที่สุดและแค้นที่แสบในสองชายจนแต่ละวันผ่านไปกับความฟูมฟายไม่เว้นว่าง...ทั้ง ๆ ที่คนหนึ่งก็ตายไป อีกคนก็กร่างเก๋กับแต่ละวันของเขาไม่ไยดีกับความเศร้าของผู้ใดถ้าโง่...ก็ก้มหน้าก้มตาโง่ไปเขาคงเย้ยเยาะไยไพเช่นนี้... แต่เธอก็อยู่กับความโง่อย่างเต็มใจ ดื่มรสความอาลัยอย่างใคร่ดื่ม แต่ลืมรสแห่งความแค้นไม่เคยได้..."
โอ้ววว...ตอนนี้มันจี๊ดในใจอย่างเสียดแทงสุด ๆ
.............
สรุปเลยแล้วกันค่ะว่า... ชวนอ่านอย่างแรง!
|