|
Cinderella Bloodhound / Hunting the Lion/ Sagittarius ผู้เขียน : BiscuitBus ผู้พิมพ์ : สนพ. ทวีสาส์น(ครั้งที่ 3/ต.ค. 2557) 467 - 624 - 645 หน้า / ราคา 350 - 380 - 450 บาท
โปรยปก (เล่ม 1) :Cinderella Bloodhound
ชีวิตของเธอสงบสุขดี แม้จะไม่เหมือนคนอื่นในวัยเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันยาก และรันทด ไม่เคยเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบเป็นนิยาย ยิ่งคำว่า เทพนิยายยิ่งห่างไกล ตื่นขึ้นมาแต่ละวันก็แค่เอาชีวิตให้รอด ทำงาน ดิ้นรนอยู่ในโลกแห่งเงามืดในฐานะ หมาล่าเนื้อ แต่ใครจะรู้ วันหนึ่ง.... เรื่องเหลือเชื่อเหมือนเทพนิยายก็หล่นลงมาอยู่ในชีวิตอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว มันไม่ได้สวยหรูงดงามเหมือนในนิทาน แต่มันกลับนำพาตัวเธอให้เดินเข้าสู่เส้นทางอันตรายยิ่งกว่าคราวไหน ๆ
ทั้งชีวิตสงบสุข ถูกพลิกผันไปในชั่วข้ามคืนเดียว แค่เพราะชายคนหนึ่ง กับคำว่า....แต่งงาน
*********
โปรยปก (เล่ม 2) : Cinderella Hunting the Lion
เมื่อเงยหน้ามองเหล่าเสือ ราชสีห์ สัตว์ตัวโตในเงามืด ตัวเธอช่างเล็กน้อยจนน่าหัวเราะ เหมือนฟันเพืองอันน้อยที่แสนจะผิดที่ผิดทาง ตลอดชีวิตการทำงาน ไม่เคยสักครั้งที่จะคิดยุ่งเกี่ยวกับพวกกลุ่มองค์กรมาเฟีย.... ไม่อยากเฉียดใกล้....พวกนี้ยิ่งใหญ่ เล่นแรง ยิ่งหมาล่าเนื้อตัวเล็ก ๆ อย่างเธอยิ่งหายสาบสูญไปง่าย ๆ แต่พ่อของเธอเคยพูดเสมอ คนทุกคนมีชีดจำกัดของตัวเอง ถึงจุด ๆ หนึ่งที่หลีกเรื่องไม่ได้ หมาไนอย่างเธอก็จำเป็นต้องลุกขึ้นมาล่าเจ้าป่าเหมือนกัน
**********
โปรยปก เล่ม 3 : Cinderella Sagittarius
การกลับมาอีกครั้งของเจ้าของโค้ดเนม อาร์เชอร์ นักธนูผู้เป็นตำนานที่ฟื้นคืนมาจากความตาย เปิดฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างราชสีห์กับราชสีห์ ศึกครั้งนี้มีชีวิตผู้บริสุทธิ์และความปลอดภัยของมาตุภูมิเป็นเดิมพัน
บทสรุปของการไล่ล่าครั้งยิ่งใหญ่ของหมาล่าเนื้อตัวน้อย ที่บังอาจเป็นศัตรูกับจ้าวป่า ใครที่จะเป็นเหยื่อ ใครที่จะเป็นผู้ล่า และใครจะเป็นผู้รอดชีวิตในท้ายที่สุด
เรื่องราวความเป็นมา...
ทวีทตี้(ตามที่พ่อและเพื่อนพ่อเรียกเธอ) หรือแอชลีย์ วินเทอร์(ชื่อที่เธอใช้ในการทำงาน) เด็กสาวกำพร้าอายุสิบหก แต่ใช้ชีวิตเข้มข้นราวกับหญิงสาววัยทำงานที่กร้านกรำ เธอเป็น"หมาล่าเนื้อ"เต็มตัวหลังจากที่พ่อของเธอถูกยิงตายต่อหน้าต่อตาเธอเมื่อสามปีก่อน นั่นก็คือตอนทีเธออายุเพียงสิบสามปี... เธอค่อนข้างมีชื่อเสียงพอตัวในวงการด้วยฝีมืออันฉกาจฉกรรจ์
หมาล่าเนื้อก็คือนักล่าค่าหัว ที่ทำหน้าที่ตามล่าและจับกุมอาชญากรทุกระดับแล้วส่งให้กับตำรวจ เธอรับงานผ่านเอเย่นต์ ซึ่งรับช่วงดูแลเธอต่อจากพ่อที่เป็นผูู้ฝึกสอนวิชาหมาล่าเนื้อให้แก่เธอ ทำให้เธอเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณที่ฉับไว รวมทั้งมีความอึด ถึก ทน ตามสัญชาตญาณหมาล่าเนื้อที่มีอยู่ในตัว...
และแล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอ เมื่อวันหนึ่งเธอจับพลัดจับผลูพบเข้ากับเนท - เนธาน แวนดิแคมป์ ขณะที่กำลังปฏิบัติงาน จากการที่ต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขัน เธอดื่มเหล้าจนเมามายและมีเซ็กส์อย่างไม่รู้ตัวกับเขา เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดตามกฏหมาย เพราะเธอยังมีฐานะเป็นเยาวชน เนทจึงจับเธอจดทะเบียนแต่งงานและพาเธอเข้าสู่บ้านของตระกูลแวนดิแคมป์ ที่มีผู้นำตระกูลเป็นนักธุรกิจใหญ่นามอีธาน แวนดิแคมป์ เจ้าของฉายา 'มาเฟียเพนตาก้อน'
ด้วยเงื่อนไขยิบย่อยบางอย่างในตระกูล อีธานไม่ยอมรับการแต่งงานของทั้งคู่ แต่เขาจดทะเบียนรับแอชลีย์เป็นบุตรบุญธรรมและเปลียนชื่อให้ใหมเป็น'แอนนาเบล แวนดิแคมป์' และจัดการให้เธอเข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนมัธยมเดียวกันกับหลาน ๆ ของเขา
แอนนาเบลต้องปรับตัวขนานใหญกับชีวิตใหม่ เธอกลายเป็นคุณหนูแอนนาเบล เพื่อนนักเรียนหลายคนเรียกเธออย่างล้อเลียน(แกมเสียดสี)ว่าเจ้าหญิง...
แต่อย่างไรก็ดี...ถึงแม้จะกลายเป็นคุณหนูแห่งตระกูลไฮโซไปแล้ว แต่สัญชาตญาณนักล่าที่บ้าบิ่นในตัวเธอยังไม่ยอมสยบ...นับวันจะยิ่งเติบกล้าขึ้นด้วยซ้ำ! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอได้รับรู้ถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง และการตายของพ่อที่เธอรักมากที่สุดไม่ใช่เป็นเพียงเหตุฆาตกรรมธรรมดา ๆ ตามที่เธอเข้าใจแต่แรก หากแต่เป็นการฆ่าตามใบสั่ง... สัญชาตญาณสัตว์ร้ายในตัวเธอมันไม่ยอมอยู่เฉยแน่... นั่นจึงเป็นที่มาแห่งเรื่องราวอันโลดโผนสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ... มีทั้งปมซับซ้อนซ่อนเงื่อน ปมดรามาน้ำตาริน รวมทั้งปมรักโรแมนติก ฯลฯ ที่เมื่อได้เริ่มต้นอ่านแล้วก็อยากแต่จะอ่านให้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่อยากจะวางหนังสือ...ประมาณนั้นทีเดียว
ความรู้สึกหลังอ่าน...
อ่านสนุกมากกกกกก...(ก.ไก่ล้านเจ็ดตัว) คนเขียนเขียนได้เก่งสุด ๆ ตั้งแตการสร้างพล็อตที่แข็งแรง ทว่าซับซ้อนซ่อนปม แต่ละปมสัมพันธ์โยงใยกันอย่างมีที่มาที่ไปสมเหตุสมผล
ขณะอ่านอาจจะรู้สึกเหมือนอ่านนิยายแปล เพราะฉากของเรื่องเกิดขึ้นในตางประเทศ และตัวละครก็เป็นฝรั่งทั้งหมด แต่ก็รู้สึกได้ว่าคนเขียนเค้าก็มีการสอดแทรกวัฒนธรรมแบบตะวันออกไว้อย่างกลมกลืน อย่างน้อย...แม้แนวเรื่องจะดูสุ่มเสี่ยงแต่ทั้งเรื่องไม่มีเลิฟซีนวาบหวิวติดเรทให้ต้องเกร็งเลย กับการใช้ภาษาของผู้เล่าที่ออกแนวถ่อมเนื้อถ่อมตัว ไม่โอ้อวดจองหอง... แรก ๆ อาจจะฟังแปร่ง ๆ สักหน่อยที่นางเอกใช้สรพนาม"หนู" แต่พออ่าน ๆ ไป กลับรู้สึกว่าผู้เขียนอาจจะต้องการเตือนผู้อ่านเป็นระยะ ๆ ก็ได้ว่า นางเอกของเธอยังเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบหก ไมใช่หญิงแกร่งสาวมั่นอย่างที่เราเผลอมโนไป เมื่อเทียบกับประสบการณ์ชีวิตและความเฉลียวฉลาดของเธอ
อ่านแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่คืองานเขียนชิ้นแรกของนักเขียนคนไทย ที่เป็นหญิงสาว แถมอายุน้อยอีกต่างหาก... ด้วยทั้งพล็อตหลักพล็อตรอง ข้อมูลเนื้อหาเรื่องราว ฉากและองค์ประกอบต่าง ๆ ของนิยายชุดเล่มหนาเตอะทั้งสามเรื่องนี้มันทั้งแน่น ทั้งเต็ม ทั้งหนักหน่วง...
ผ่านสำนวนภาษาที่ลื่นไหลมาก โดยเฉพาะเล่ม 1 และ 2 ที่เธอเล่าเรื่องผ่านมุมมองของทวีทตี้ หรือแอชลี่ย์ หรือแอนนาเบล ในสรรพนาม"ฉัน" เราจะได้รู้จักเธอในฐานะเด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เธอเก่งกล้าสามารถ และเฉลียวฉลาดมาก แต่เราไม่ยักกะรู้สึกหมั่นไส้หรืออิจฉาในความเก่งความมั่นของเธอเลย ด้วยสัมผัสได้ถึงความซื่อใสไร้เดียงสา และการเล่าเรื่องอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาของเธอ... กระทั่งได้พบกับเจ้าชายที่แปรสภาพเด็กสาวกำพร้าให้กลายเป็นเจ้าหญิง...ซินเดอเรลล่า... ตามชื่อเรื่องนั่นเอง
การเปิดปม ขมวดปมและคลี่คลายปมแต่ละปม ๆ มันช่างเป็นไปอย่างลืนไหล สอดคล้องต้องกันเป็นเปลาะ ๆ ไป เธอเก็บทุกเม็ด อุดทุกรูได้อย่างละเอียดยิบไม่มีรั่วไหลตกหล่น... ตัวละครของเธอทุกตัวมีความหมาย มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่อง แม้จะโผล่มาเพียงว้อบแว้บเธอก็ไม่ทิ้ง...ทุกคนมีบทบาทจำเป็นในการดำเนินเรื่องมากน้อยลดหลั่นกันไปตามสัดส่วน การสร้างความเชื่อมโยง ไม่ว่าจะของเรื่องราว เหตุการณ์ ช่วงเวลา ตลอดถึงความสัมพันธ์ของตัวละครก็สมเหตุสมผล สมจริงสมจังไปเสียหมด เรียกได้ว่าไม่มีที่ติเลยทีเดียว...
อดตาหลับขับตานอนอ่านซีรีส์ชุดนี้จนจบ แล้วจึงหยิบมาบอกต่อ ชวนอ่านอย่างแรงค่ะ
|
อ่านหลายรอบแล้ว เสียแต่คำผิดเยอะไปหน่อย
เสียอรรถรสไปโขเลย