|
ดุจรักเหนือฝัน ผู้เขียน : เนวิกา ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(ครั้งแรก ก.ค. ๕๘) ๔๓๕ หน้า ราคา ๓๖๕ บาท
โปรยปก :
เพราะเธอเปรียบดั่งฝันร้าย เขาจึงใช้กลอุบายเปลี่ยนให้กลายเป็นฝันรัก ชีวิตคนเรามักเต็มไปด้วยเรื่องไม่คาดฝัน และการเข้ามาของเขา
ทำให้เธอได้รู้จักกับคำว่าความหมายที่แท้จริงของชีวิต
ไม่มีใครรู้ว่าดาราสาวภาพลักษณ์สวยงามราวนางฟ้าอย่าง ดุจฝัน กลับมีเสี้ยวนางมารอย่างการหลอกให้รักแล้วหักหลังเพื่อผลประโยชน์มานับรายไม่ถ้วน จนกระทั่งเธอได้พบอาจารย์หนุ่มนักเศรษฐศาสตร์หน้าซื่ออย่าง ภาคภูมิ กลางรายการเกมโชว์ ที่นอกจากจะเสนอตัวเข้ามาเป็นเหยื่ออย่างเต็มใจแล้ว เขายังย้ำกับเธออย่างมั่นใจว่า
การพบกันระหว่างเธอและเขาจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อเวลาผ่านผัน ดุจฝันเริ่มรู้สึกว่าภาคภูมิเป็นคนเดียวที่เข้าใจในสิ่งที่เธอเป็น ทว่าในเส้นทางหัวใจที่ดูเหมือนจะราบรื่น กลับมีคลื่นใต้น้ำมวลใหญ่ที่รอเวลาผุดขึ้นมา เพราะการกระทำอันเลวร้ายในอดีตของตนมันเริ่มแง้มออกมาช้าๆ ด้วยฝีมือของผู้ไม่ประสงค์ดี เช่นเดียวกับความลับที่เขาซ่อนเอาไว้ภายใต้รอยยิ้ม
ที่พลิกชีวิตของเธอภายในพริบตาเดียว!
เรื่องราวเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย... 'ดุจฝัน' ดาราสาวระดับนางฟ้าแห่งวงการบันเทิง ที่ไต่เต้าเข้าวงการมานานกว่าสิบปีด้วยภาพลักษณ์แสนจะงดงามไม่มีด่างพร้อย แต่ใครจะรู้ เบื้องหลังชีวิตเธอมีปม"เกลียดผู้ชาย"ฝังอยู่อย่างลึกเร้น จากความเจ็บปวดที่เห็นผู้เป็นพ่อเดินออกจากครอบครัวไปแต่งงานใหม่
ผู้ชายสำหรับเธอจึงเป็นเพียงเครื่องมือในการทำผลประโยชน์ให้กับเธอเท่านั้น หลังจากหมดประโยชน์แล้ว เขาก็หมดความหมาย... เช่นเดียวกับที่เธอทำกับชายหนุ่มคนล่าสุด พีท พิธกร ที่หลังจากถูกเธอบอกเลิกก็เสียใจจนขับรถไปประสบอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
ภาคภูมิ อาจารย์มหาวิทยาลัยหนุ่มมาดขรึม เขาก้าวเข้ามาหาดุจฝันอย่างมีเป้าหมาย หลังจากที่ทราบข่าวว่าน้องชายต่างมารดา ที่เขารักสนิท ต้องอกหักยับเยินเพราะนางเอกสาว... ด้วยบุคลิกอันอบอุ่นอ่อนโยน และจังหวะเวลาอันบังเอิญเหมาะเจาะ เขาก็สามารถสร้างความไว้วางใจให้ดุจฝันได้โดยง่าย
แล้วเรื่องราวก็ดำเนินไปตามแผนการที่เขาวางไว้ทุกประการ... ทว่า ทำไมเขาไม่ยักรู้สึกยินดีกับการได้เห็นผู้หญิงคนนั้นต้องเจ็บปวดกับการกระทำของเขานะ
ความรู้สึกหลังอ่าน... เป็นดราม่าพล็อตคุ้นเคยอีกเรื่องแล้วค่ะ ประมาณรักในรอยแค้น พี่ชายมาแก้แค้นแทนน้องชายแล้วมาตกหลุมรักเป้าหมายเสียเอง เพียงแต่เรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องมีมุกลักพาตัว ข่มขืน ตบจูบ ประมาณ...'เจ็บแค้นเคืองโกรธ โทษฉันไย...' อะไร ๆ เทือกนั้น
เพราะแบบนั้นมันคงเอ้าท์ไปแล้วเมื่อเทียบกับยุคสมัย ยุคนี้มันกลับกลายเป็นมุกหลอกว่าจะทำรายงานให้... (อ้อ นางเอกเป็นดาราที่ใฝ่เรียน กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ แต่ไม่มีเวลาค้นคว้าข้อมูลทำรายงานเลยหลอกล่อหนุ่ม ๆ ที่แสนฉลาดปราดเปรื่องทั้งหลายมาทำให้) แล้วกะจะแฉทีหลัง...
อ่านได้เรื่อย ๆ นะคะเล่มนี้ สำนวนภาษานุ่มนวลลื่นไหลในระดับที่โอเคเลยค่ะ จะติดก็แต่ส่วนของเนือหาเรื่องราว กับลักษณะนิสัยบางอย่างของตัวละคร (โดยเฉพาะตัวพระเอกนั่นแหละ) มันมีหลายจุดหลายมุมที่อ่านๆไปต้องเอ๊ะ ต้องอ๊ะอยู่ตลอด
นางเอกร้าย หากก็เพราะเธอมีปม และจะว่าไป สิ่งที่เธอทำก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากนัก
แต่การที่พระเอก ผู้มีดีกรีระดับอาจารย์มหาวิทยาลัย บุคลิกเคร่งขรึม มาดมั่น แต่ฟังความข้างเดียว แล้ววางแผนจัดฉากเป็นขั้นเป็นตอน แถมแสดงละครตบตาคนอื่นซะอย่างเนียน...
มันอาจจะดูเหมือนว่าเขาช่างเฉลียวฉลาดเสียนี่กระไร... แต่เราไม่รู้สึกอย่างนั้นอ่ะ...กลับรู้สึกรังเกียจผู้ชายนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น ทั้งตื้นเขินงี่เง่า หูเบาอีกต่างหาก ...(นี่มันนิสัยนางร้ายในนิยายชัด ๆ ) รู้สึกพระเอกไม่แมนเท่าที่ควรอะ
จริง ๆ แล้วพล็อตแก้แค้นแทนเพื่อน พี่ น้องมันก็โออยู่หรอกนะ มันเป็นพล็อตมาตรฐานที่อยู่คู่นิยายไทยมาตั้งแต่โบราณกาล แต่ปัญหามันอยู่ที่วิธีการ... เดิมทีวิธีการของพระเอกเรื่องนี้ก็เกือบจะผ่านแล้วนะคะ ถ้าเขาจะเพียงพาตัวเข้ามาใกล้ หลอกให้เธอหลงรักแล้วสลัดทิ้ง ถ้าเป็นแบบนั้นเรายังจะรู้สึกไม่กังขา แต่นี่อะไร...(ไม่เล่าแล้วค่ะ อาจจะเข้าข่ายสปอยล์ ทั้งยังตอกย้ำความงี่เง่าของพระเอกเข้าไปอีก)
มันอ่านแล้วขัดแย้งกันเอง ทำให้พล็อตย่อยอื่น ๆ ที่โยงใยกัน พลอยดูขาดน้ำหนัก ขาดความสมจริง มีช่องโหว่ให้เราต้องสะดุด ตงิด ๆ ใจไปตลอดทั้งเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นมุกละครซ้อนนิยาย มุกนางร้ายกล่าวหานางเอก ใส่สีตีข่าว บลา ๆ ๆ ๆ รวมทั้งปมอุบัติเหตุที่น้องชายพระเอกขับรถชนแล้วพระเอกเพ่งโทษนางเอกเต็มที่... มันอ่านยังไง๊ยังไงมันก็ไม่อินอ่ะ...มันเบาโหวงเหวงไปหมด
แต่ก็อ่านจนจบนะคะ...แบบอีดอัดขัดข้องนิด ๆ
ม่านรักเหนือดาว ผู้เขียน : เนวิกา ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(ครั้งแรก ก.ค. ๕๘) ๔๐๓ หน้า ราคา ๓๓๕ บาท
โปรยปก :
'The course of true love never did run smooth' หนทางแห่งรักแท้ไม่อาจเป็นไปอย่างราบรื่น
รักแรกของ เหนือดาว ก็เป็นดั่งคำกล่าวของเชคสเปียร์ เพราะมันจบอย่างเจ็บร้าวที่สุดด้วยความเข้าใจผิด... จนเธอเลือกจะกลับไปรักษาหัวใจที่อังกฤษนานถึงเจ็ดปี ก่อนกลับมาเมืองไทยอีกครั้งในฐานะนักประพันธ์ละครเวทีผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ทว่าบนเส้นทางใหม่อันสวยหรู โชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อสถาปนิกหนุ่มผู้เป็นรักแรกอย่าง สุดแดน เป็นหนึ่งในทีมงานสรรค์สร้างละครเวทีของเธอ
ในวินาทีที่แทบซวนเซเพราะเจออดีตอันเลวร้ายอีกครั้ง เจ้าชายขี่ม้าขาวก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบของพระเอกหนุ่มมาดขรึมนามปิลันธน์ เขามาพร้อมกับเรื่องราวในอดีตของบรรพบุรุษเขากับเธอซึ่งเกิดขึ้น ณ โรงละครแห่งนี้ และนอกจากวิกฤตในโรงละครที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน เขาก็คือคนที่พร้อมจะฉุดให้เธอกลับขึ้นมาหยัดยืนอย่างสมภาคภูมิ
เมื่อม่านละครแห่งชีวิตเปิดขึ้นอีกครั้ง เหนือดาวจึงจำต้องเลือก... ว่าจะเขียนบทไปสู่ตอนจบใด ระหว่างกลับไปหารักแรก...ตามคำเรียกร้องของหัวใจ หรือก้าวไปสู่รักครั้งใหม่...ที่จะไม่มีวันอวสานดังเช่นที่ผ่านมา
หลังอ่าน... เรื่องนี้ออกมาพร้อม ๆ กับเล่มข้างบน การตั้งชื่อเรื่องก็สอดคล้องพ้องพานกัน แถมมีตัวละครที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องนี้ ก็เป็นพระรองทีมีบทบาทโดดเด่นไม่น้อยในเรื่องก่อนหน้า
แต่ทั้งเนื้อหาเรื่องราว ทั้งพล็อตและธีมเรื่องแยกขาดจากกันเป็นคนละเรื่อง ประมาณหนังคนละม้วนเลยทีเดียว
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะคะที่บังเอิญหยิบเรื่องนี้อ่านก่อนเล่มข้างบน เพราะว่าหลังจากอ่านเล่มนี้จบลงด้วยความปลื้มและประทับใจมาก มันทำให้เราสามารถหยิบเรื่องข้างบนมาอ่านต่อโดยไม่ลังเล.. แต่แน่นอน...ในเมื่อชอบเรื่องนี้มาก ก็เลยเกิดเป็นความคาดหวังกับเรื่องข้างบนนั่นสูงมากด้วยเช่นกัน และเมื่อตั้งความหวังไว้สูง เมื่อมันไม่เป็นไปดังใจ มันก็เลยผิดหวัง...แบบค่อนข้างแรง แหะ ๆ
................
เล่มนี้เล่นกับปมอดีตอันน่าเจ็บปวดของนางเอก ทำให้เธอก่อกำแพง ปิดกั้นตัวเอง แม้ความรักครั้งใหม่ที่เข้ามาจะสวยสดงดงาม แต่หัวใจของเธอก็ดูเหมือนว่าจะยังคงฝังจำอยู่กับความรักครั้งแรกอันขมขื่นมิรู้วาย
เรื่องย่อ ๆ ก็ประมาณโปรยปกด้านบนเลยค่ะ นางเอกเป็นนักเขียนบทละครผู้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในต่างประเทศ จนมีผู้สร้างจากเมืองไทยสนใจบทละครของเธอ และจะจัดให้มีการแสดงในเมืองไทย ทำให้เธอต้องเดินทางกลับมาเพื่อร่วมดูแลการแสดงด้วย
เมื่อกลับมาอยู่ในแวดวงเดิม ๆ ทำให้เธอได้พบกับคนหลายคนที่เคยพัวพันกันในอดีต โดยเฉพาะสุดแดน รุ่นพี่ที่เป็นรักแรกของเธอ กับรัญรตี เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดผู้เคยป้ายสีใส่ใคล้ ทำให้เธอกลายเป็นนางร้ายในสายตาของพื่อน ๆ จนต้องหนีเตลิด
แต่กลับมาครั้งนี้ แม้ลึก ๆ เธอจะยังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่จากประสบการณ์ที่สั่งสม ทำให้บุคลิกของเธอดูกล้าแกร่งมั่นคงขึ้น
ทั้งมีผู้ช่วยที่แสนดีอย่างลูกพี่ลูกน้องชายหัวใจสาวอย่างแม้น-มานิต กับพระเอกหนุ่มมาดนิ่งอย่างปริ้นซ์ - ปิลันธน์ คอยปลุกปลอบให้กำลังใจ ทำให้เธอก้าวผ่านเรื่องร้าย ๆ ได้อย่างเข้มแข็ง
อย่างที่บอกตอนต้น เรื่องนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากเรื่องข้างบนอย่างค่อนข้างจะสิ้นเชิง ทั้งเนื้อหาเรื่องราว พล็อตหลักพล็อตรอง... (ว่าด้วยเรื่องราวความรักของคนหนุ่มคนสาว กับเรื่องราวของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ในอดีต ที่บังเอิญมาเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยยะ สมเหตุสมผล) รวมถึงบุคลิกนิสัย และการกระทำของตัวละครแต่ละตัวมันช่างสอดรับกันเหมาะสมกลมกลืนไปเสียหมด
ชอบมากกกก....
พระเอกก็แสนดี เป็นพระเอกในดวงใจจริงๆ ฉลาด มั่นคง ไม่งี่เง่าตื้นเขิน นั่นยิ่งกดข่มให้ตัวรองในเรื่องอย่างสุดแดน...ที่เหมือนจะเป็นชายหนุ่มที่แสนดีอีกคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นรักแรกของนางเอกอีก...ต้องกลายเป็นคนซื่อบื้อ น่าสมเพชพอๆ กับน่าสมน้ำหน้าเลยทีเดียว
สรุปเลยแล้วกันค่ะว่า... ที่บอกว่าโชคดีที่หยิบเรื่องนี้มาอ่านก่อนก็เพราะว่า.. .ค่อนข้างเชื่อในนิสัยการอ่านของตัวเองว่า ถ้าบังเอิญได้อ่านเล่มบนก่อนเล่มนี้ จากเฟิร์ส์อิมเพรสชั่นที่ได้จากเล่มนั้นเราคงไม่หยิบเรื่องนี้มาอ่านแน่ๆ แต่โชคร้ายก็อย่างที่บอก...พออ่านเล่มนี้จบปุ๊บ จากความประทับใจที่ได้รับ มันกลับกลายเป็นความคาดหวังในการอ่านเล่มอื่นของนักเขียนคนเดียวกัน พอคาดหวัง...แล้วมันไม่เป็นดังใจ ผลมันก็เลยออกมาอย่างที่บอกเล่าไปในเล่มข้างบนนั่นเลยค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งหมดทั้งมวลนั่นก็เป็นเพียงความรู้สึก ความคิดความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ นะคะ การอ่านนิยายเป็นเรื่องของรสนิยมค่ะ คนอ่านคนนี้อ่านแล้วไม่ชอบ คนอ่านอีกคนอาจจะชอบมากกกก.... คนอ่านคนหนึ่งอ่านแล้วไม่โดน แต่คนอ่านอีกคนอาจจะอินสุด ๆ ก็เป็นได้ค่ะ
แค่อ่านแล้วหยิบมาบอกเล่ากัน เท่านั้นเอง
|
อืมมม ถ้าอ่านควรอ่าน ม่านรักเหนือดาวก่อนสินะ