|
เสี่ยงหัวใจพลิกไพ่รัก ผู้เขียน : นับดาว ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (สิงหาคม 2552) 282 หน้า ราคา 179 บาท
เรื่องย่อ ๆ (จากโปรยปก)
ฟ้าลิขิตหรือจะสู้หัวใจกำหนด เมื่อความรักเรียกร้อง ฟ้าก็ฟ้าเถอะ!!
อมาวสี หญิงสาวที่เกิดในวันพระจันทร์ดับ ต้นตระกูลเป็นโหราจารย์ชื่อดัง มีความเชื่อตกทอดมาว่า ชื่อของคู่แท้จะซ่อนอยู่บนร่างกายของหญิงสาวทุกคนในตระกูล!
และยิปซีสาวก็ได้พบ เนื้อคู่ตุนาหงัน...หมอปู ชื่อที่อยู่ปรากฏบนเรือนกายสุดเพอร์เฟ็คท์
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา หล่อนจำเป็นต้องอาศัย ตาหมีโหด เพื่อนบ้าน... เป็นสะพานไปหาสัตวแพทย์หนุ่ม แต่ที่ไหนได้ สะพาน กลับไม่ยอมให้ข้ามซะอย่างงั้น !?!
หลังอ่าน........ (ก่อนอื่น ขออนุญาตกรี๊ดดดด...เบา ๆ สองที กรี๊ดแรกให้กับหนังสือเล่มนี้ที่จู่ ๆ ก็ได้มาอย่างไม่คาดฝัน กรี๊ดที่สองให้กับคนเขียน ที่เขียนนิยายได้น่ารัก และสนุกเว่อร์ค่ะ)
ดูจากชื่อเรื่องตอนแรกแอบคิด(คาดเดา)ว่าน่าจะออกแนวซีรีส์เกาหลีญี่ปุ่นอะไรไปโน่น ซึ่งปกติส่วนตัวชอบดูอยู่หรอก แต่ถ้ามาในรูปแบบนิยายนี่จะไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ประกอบกับตอนนั้น...(ตอนที่หนังสือเล่มนี้ออกใหม่ ๆ อันเป็นช่วงที่ซีรีส์จากแดนกิมจิกำลังเฟื่องฟูในบ้านเราพอดีด้วย)... ยังไม่รู้จักนักเขียนนามนี้เลย ต่อเมื่อได้อ่านผลงานของเธอ 3-4 เล่ม ภายใต้นามปากกา'จันทร์เจ้าขา'และ'นับดาว' เกิดติดใจในฝีไม้ลายมือเธอขึ้นมา ต้องตามล่าหางานชิ้นเก่า ๆ ของเธอมาอ่าน ก็ได้มาอีกสามสี่เล่ม แต่ยังขาดเล่มนี้แหละที่อ่านจากรีวิวหลายต่อหลายบล็อกมีแต่เสียงชื่นชม... เช่นนี้แล้ว แฟนคลับนับดาวอย่างเราจะพลาดได้ไง!
มาเข้าเรื่องค่ะ เป็นนิยายรักแนว...บ้านเรียงเคียงกันแอบมองทุกวันมองเมียง...ประมาณนั้นค่ะ แล้วก็มีบรรดาสิงสาราสัตว์ทั้งหลายเป็นสื่อกลาง ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงปกติธรรมดาอย่างคนอื่นเขา หากแต่เป็นสัตว์แปลกจำพวกนกยูง นกเค้าจุด เจ้าเหลือมเจ้าหลามเป็นต้น
เรื่องย่อ ๆ ก็ประมาณโปรยปกที่ยกมานั่นเลยค่ะ นางเอกเป็นเชื้อสายของตระกูลโหราจารย์ที่มีชื่อเสียง เธอยึดมั่นในคำทำนายของบรรพบุรุษในเรื่องของเนื้อคู่อย่างเหนียวแน่น จนเมื่อได้พบกับหมอปู สัตวแพทย์หนุ่มหล่อ เธอก็ทึกทักเอาว่าเขานี่แหละคือคู่แท้ของเธอตามที่ฟ้ากำหนด เธอต้องพยายามทำดีกับสิกขิม เพื่อนบ้านสุดเพี้ยนที่มักจะขนเอาสัตว์ป่วยมาฝากให้เธอเลี้ยง แล้วก็หายหน้าไปแรมเดือนแรมปี... ด้วยท่าทีที่ดูเซอร์ ๆ กับใบหน้าที่ดูรก ๆ ตลอดเวลาเธอจึงให้ฉายาเขาว่า ตาหมีโหด ซึ่งแต่ก่อนร่อนชะไรเธอก็ไม่เคยรู้ ไม่เคยสนใจว่าเขาทำมาหากินอะไร จนได้รู้จักกับหมอปูนั่นแหละ เธอถึงเพิ่งจะรู้ว่าเขาก็เป็นสัตวแพทย์เช่นกัน แต่เป็นสัตวแพทย์สัตว์ป่า และมีดีกรีเป็นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญ เขาเป็นทั้งรุ่นพี่และอาจารย์ของหมอปูที่เธอหมายมาดปราถนา
พระเอกชื่อเก๋...สิกขิมหรือหมอเก้งนั้น แอบมองแอบรักเพื่อนบ้านสาวมาตั้งแต่เขาพบเธอครั้งแรก เขาเพียรเรียกร้องความสนใจจากเธอด้วยวิธีแปลก ๆ อย่างเช่นการนำสัตว์แปลก ๆ (แต่น่ารัก)มฝากให้เธอดูแล แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รับรู้เอาเสียเลยว่านั่นคือการ"จีบ"ของเขา เพราะเธอเป็นนักพยากรณ์สาวที่เชื่อมั่นในคำทำนายของต้นตระกูลยิ่งนัก... เขาจะต้องทำอย่างไร ถึงจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเธอ... และทำให้เธอรู้ว่าผู้หญิงท่าทางประหลาด ๆ อย่างเธอนั้นไม่เหมาะสมกับหมอปูผู้แสนจะอ่อนโยนเลยแม้แต่นิดเดียว หากแต่เหมาะกับหมอสัตว์ประหลาดอย่างเขาต่างหาก!
ตัวละครสำคัญเกือบทั้งหมด(ยกเว้นนางเอก)เป็นสัตวแพทย์...ที่ผูกพันรักใคร่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน อย่างหมอเก้ง(พระเอก)มีน้องสาวชื่อหมอกวางซึ่งแต่งงานแล้วแต่สามีเสียชีวิต มีลูกสาวหนึ่งคน และหมอกวางนี่แหละที่หมอปูหลงรักปักใจจนไม่คิดเผื่อใจให้คนอื่น แม้จะมีรุ่นน้องสาวอย่างหมอนภา - ชนาภามาพัวพันชิดใกล้ หรือสาวแต่งตัวประหลาดอย่างอมาวสีเข้ารุกคืบ พยายามจะใช้เจ้าเหมียวเป็นกามเทพสื่อรัก เขาก็ไม่ไหวหวั่น ............ เรื่องราวก็จะเป็นไปในแนว ๆ ความรักที่พัลวันพัลเกผิดฝาผิดตัวแบบนี้แหละค่ะ มีการแฝงปมปัญหา อันเป็นปมดราม่าเฉพาะตัวของตัวละครแต่ละคนไว้ในนิยายอย่างเนียน ๆ ดำเนินไปอย่างลื่นไหลสอดคล้องกับเรื่องราวของนิยายในภาพรวม...
อย่างปมการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ในแวดวงการทำงานของอมาวสี ปมรักฝังใจของหมอปูที่มีต่อเพื่อนสาวอย่างหมอกวาง... ปมปัญหาครอบครัวของชนาภา...ฯลฯ ซึ่งแต่ละปมของแต่ละคนเขาก็มีวิธีจัดการและคลี่คลายปมของตัวเองได้อย่างฉลาด สมเหตุสมผล
ที่ชอบมากก็คือ ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ ทุกคนมีดีมีร้าย... มีการประชดประชัน เหวี่ยงวีน จิกกัดกันบ้างพอหอมปากหอมคอ แต่ไม่มีการคิดร้ายต่อกันถึงขั้นฟาดฟันฆ่ากันให้ตายอะไรแบบนั้น ทำให้อ่านได้สบายๆ อาจจะไม่มีบทรักหวาน ๆ สักเท่าไหร่ในคู่ของพระ-นาง (เพราะเขามัวแต่เชือดเฉือน จิกกัดกันเป็นสามารถ) แต่ก็มีบทแง่งอนให้พอได้จิ้นบ้าง แถมตอนท้ายในตอนพิเศษยังมีเรื่องราวความรักของคู่รองที่หวานกว่า ฟินกว่าคู่เอกมาให้ชื่นมื่นอีกด้วย
พูดมากไปก็จะดูเวิ่นเว้อวกวน สรุปเลยแล้วกันว่า อ่านจบแล้วชอบมาก ฟินมาก... จึงหยิบมาเล่าขานชวนอ่านกันวันนี้ค่ะ
|