|
มายาไฟในดวงตา / มนตรามุกจันทรา / ม่านธาราเร้นดาว ผู้เขียน :อสิตา /ริญจน์ธร / บุลินทร ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ ก.พ. ๒๕๕๖ ๓๕๓ /๓๖๕/ ๓๔๕ หน้า,ราคา (เล่มละ)๒๖๙ บาท
จากสนพ.:
เมื่อผู้เป็นย่าได้มอบอัญมณีเป็นมรดกให้สามสาวพี่น้อง มัชฌิตา,มุกดา และมาริณ พลังลึกลับของอัญมณี อำนาจเร้นลับอันยากจะหยั่งถึง ทำให้พวกเธอต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมาย ทั้งลางร้าย ความรักและการผจญภัย โดยไม่สามารถรู้ได้เลยว่าทุกอย่างจะจบลงเช่นไร
เล่มแรก...
"มายาไฟในดวงตา" โดย 'อสิตา'
เรื่องย่อ ๆ จากโปรยปก :
มัชฌิตา ตัดสินใจหนีออกจากชีวิตเดิมๆ มาสู่หนทางที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่เบื้องหน้า ในโลกกว้างอันลึกลับน่าสะพรึง มีเพียงเธอที่ก้าวไปลำพังกับพลอยตาเสือในมือ ซึ่งไม่รู้ว่าจะนำโชคร้ายหรือโชคดีมาให้ แต่มันก็ทำให้เธอได้พบกับชามัล เป็นพรหมลิขิต ความบังเอิญ หรือว่าจงใจก็ไม่รู้ได้ ดูเหมือนดวงตาสีน้ำตาลทองคู่นั้น จะจับใจเธอตั้งแต่แรกพบ แม้รู้ว่่อีกฝ่ายอีนตรายเพียงใด มัชฌิตาก็ไม่อาจพาตัวเองถอยห่าง
จนวันที่อัคนิวราสมิงพรายผู้ป่าเถื่อน เจ้าของดวงตาเรืองแสงดุจไฟ ได้แทรกเข้ามาสั่นคลอนความรู้สึกของหญิงสาว จากคุกคาม มุ่งร้ายหมายชีวิต...ที่สุดแล้วเขากลับทั้งช่วยเหลือ ปกป้อง และอยู่เคียงข้างดูแลเธอไม่ยอมห่าง
เมื่อถึงเวลาสำคัญที่ต้องตัดสินใจ มัชฌิตาคงต้องเลือก ระหว่างคนที่ตั้งท่าจะคว้าหัวใจเธอไปตั้งแต่ต้น กับคนที่ค่อย ๆ ปล้นความรักของเธอไปโดยไม่รู้ตัว!
ร่วมเข้าไปค้นหาหัวใจและตามหาความลับของอัญมณีที่หญิงสาวครอบครอง
.........
หลังอ่าน เล่มนี้เป็นเล่มเปิดตัวสามสาวพี่น้องแห่งตระกูล'คุปตะจินดา' ที่ได้รับมรดกจากผู้เป็นย่าเป็นอัญมณีสามชนิด พร้อมคำทำนายประจำอัญมณีแต่ละชนิดกำกับมาด้วย
พลอยตาเสือสำหรับพี่สาวคนโต - มัชฌิตา มูนสโตนหรือมุกดาหารสำหรับหลานสาวคนกลาง - มุกดา และอะความารีนสำหรับน้องเล็ก - มาริณ
เรื่องนี้เริ่มต้นที่การตายของผู้เป็นย่าอมินตา คุปตะจินดาที่มัชฌิตาไม่ได้มีความรักความผูกพันให้สักเท่าไหร่ เพราะเธอคิดว่าย่าบังคับให้พ่อต้องทิ้งแม่กับพวกเธอไป จนพ่อและแม่เสียชีวิตท่านถึงรับพวกเธอมาดูแลอย่างเสียไม่ได้
ย่าอมินตาของเธอเป็นคนลึกลับ คลุกคลีอยู่กับพลังด้านมืดมาตลอดชีวิต แม้กระทั่งเมื่อตายจากไป ย่าก็สั่งเสียไม่ให้พวกเธอทำพิธีงานศพใด ๆ และให้เก็บร่างของท่านไว้ในห้อง เพราะร่างของท่านไม่มีสภาพเน่าเปื่อย เสมือนว่าท่านเพียงนอนหลับไปเท่านั้น
มุกดาเป็นคนรับอัญมณีทั้งสามชนิดและคำสั่งเสียของผู้เป็นย่าไว้ เพราะเป็นคนเดียวที่อยู่กับท่านในวาระสุดท้าย
มัชฌิตาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากอัญมณีเหล่านั้น เพราะถึงแม้เธอจะไม่รักและผูกพันกับย่า แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าเธอมีส่วนคล้ายย่าตรงที่มีญาณพิเศษบางอย่าง เธอถือสิทธิ์ความเป็นพี่คนโต ฉวยเอาอะความารีนของน้องสาวคนเล็กไปด้วย อ้างว่าจะเอาไปให้มาริณเอง แต่จริง ๆ แล้วเธอตั้งใจจะกำจัดมันให้พ้น เพื่อไม่ให้น้องสาวต้องตกอยู่ในอันตราย
ส่วนพลอยตาเสือที่เธอได้รับนั้นย่าบอกไว้ว่าเธอต้องนำมันไปคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง เธอจึงออกเดินทางไปยังดงพญาไฟ หรือดงพญาเย็น ที่นั่น เธอได้พบกับชามัล เขาดูดีมีเสน่ห์ และมาช่วยเธอในยามคับขัน จนเธอเกือบจะตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะอัคนิวราปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน
อัคนิวราเป็นสมิงพรายที่ต้องตกอยู่ภายใต้คำสาปของพี่ชายของเขาเอง ที่สะกดเขาไว้ให้เป็นทาสรับใช้ผู้ที่ถือครองพลอยตาเสืออันเป็นพลอยราชัน ซึ่งตอนนี้ตกมาอยูในการครอบครองของชามัลนั่นเอง ชามัลต้องการพลอยราชินีที่อยู่กับมัชฌิตา เพื่ออำนาจที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น แต่เขาไม่สามารถแตะต้องพลอยด้วยจิตที่ประสงค์ร้ายได้ เขาจึงใช้อัคนิวราให้ไปเอาพลอยจากมัชฌิตามาให้
แต่เขาหารู้ไม่ว่า...พลังเร้นลับจากพลอยราชินีผนวกกับมนต์เสน่ห์ของหญิงสาว กลับกลายเป็นพลังวิเศษที่ทำให้อัคนิวราสามารถถอนตัวเองให้พ้นจากอำนาจของเขาได้
นั่นจึงเป็นที่มาของเรื่องราวการผจญภัยอันมหัศจรรย์พันลึก ของนางเอกกับสมิงพราย...ที่เมื่อกลับกลายเป็นมนุษย์ก็คมเข้มซะ ทำเอานางเอกที่ถูกกำหนดให้มีบุคลิกแข็ง ๆ ห้าว ๆ ต้องอ่อนระทวยเลยทีเดียว
มาร่วมลุ้นกันค่ะว่า... มัชฌิตาจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง เมื่อไปตกหลุมรักพญาสมิงพรายเข้า และตัวอัคนิวราเอง... เขาจะสามารถต่อสู้กับอำนาจแห่งมนตราที่สาปเขาไว้เนิ่นนานนับร้อย ๆ ปีได้หรือไม่ อย่างไร
............
เรื่องนี้ออกแนวแฟนตาซีจ๋ามาก เหลือเชื่อ เหนือจริงแบบเวอร์สุด ๆ แต่คนเขียนเค้าก็เก่งที่ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม ชวนลุ้นตลอด มีการเล่าเรื่องย้อนหลังถึงที่มาที่ไปของทั้งฝั่งพระเอก นางเอก และกระทั่งตัวร้าย ที่ในท้ายที่สุดก็โยงใยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อกันแต่หนหลัง อ่าน ๆ ไปก็นึกทึ่งในจินตนาการของคนเขียน ทึ่งและก็ขำ... ขำในฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างคนกับเสือ...ฮ่า...ทำไปได้
เรื่องที่สอง....
"มนตรามุกจันทรา" โดย 'ริญจน์ธร'
เรื่องย่อ ๆ จากโปรยปก:
รักคือความอบอุ่น ละมุนหัวใจ รักคือการให้ เข้าใจกันและกัน รักคือฉันและเธอ...คือเราเสมอ ไม่ว่าแห่งหนใด
มูนสโตน...อัญมณีแห่งดวงจันทร์ เครื่องรางอันเป็นตัวแทนของความรัก ความอ่อนโยนและความสงบสุข ที่มาพร้อมกับเงื่อนงำบางอย่าง
ชีวิตของ มุกดาแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเธอได้รับมรดกชิ้นสุดท้ายจากผู้เป็นย่า แหวนมูนสโตน...อัญมณีแห่งดวงจันทร์ ได้นำพาวิญญาณของเด็กหญิงดวงหนึ่งมาอยู่กับเธอ หญิงสาวจะทำเช่นไรกับความซนของวิญญาณดวงน้อย แถมยายผีเด็กยังชักนำเธอให้มารู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่ง... แค่แรกพบ เพียงสบตา หัวใจเจ้ากรรมก็หลุดลอยไปไกลเสียแล้ว ก็ในเมื่อเขาช่างอบอุ่น หล่อเหลา เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็กต์สุด ๆ โดยเฉพาะนัยน์ตาคมสีดำที่มองมาทีไร หัวใจก็จะพลันหลุดจากอกเสียร่ำไป อ๊าย-ย-ย...แล้วอย่างนี้เธอจะยังรักษาหัวใจตัวเองไว้ได้อย่างไร
ส่วนวาริท ชายหนุ่มที่มีเพียงภาระและความเศร้าเป็นเพื่อนมานานแรมปี เมื่อได้พบกับมุกดา...หญิงสาวก็เปลี่ยนโลกของเขาให้สดใสขึ้นโดยพลัน ทว่า...เขาจะจัดการอย่างไรกับหญิงสาวในดวงใจ เมื่อเธอนันช่างแสนดี ช่วยเหลือใครต่อใครไปทั่ว ทั้งสัตว์ คน รวมไปถึงกระทั่ง...เอ้อ...ผี! โดยไม่คิดสงสารหัวใจคนเป็น ๆ อย่างเขาบ้างเลย(ให้ตายถอะ!)
ร่วมสัมผัสความรักอันแสนอบอุ่นและโรแมนติกของสองหนุ่มสาวกับเรื่องราวสุดอลวนได้แล้ว
...............
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาดหวังได้ในเรื่องของความหวานนนนน.... ด้วยนามปากกาคนเขียนเป็นประกัน...เพราะเคยอ่านผลงานของนักเขียนนามนี้มาแล้ว ๓-๔ เล่ม ค่อนข้างชอบทีเดียวค่ะ กับความหวานแบบไม่บันยะบันยัง แต่ไม่รู้สึกเลี่ยนหรือเอียน... เพราะสำนวนภาษาเขาเรียกได้ว่าดีทีเดียว
เล่มนี้ออกแนวรักโรแมนติก กุ๊กกิ๊กหวาน ๆ ผสมผสานด้วยเรื่องราวแบบพารานอร์มอลกลาย ๆ แต่่ไม่ถึงขั้นแฟนตาซีเหลือเชื่อเหมือนเล่มข้างบน หรือผลงานเล่มแรกๆ ของเธอเอง ความเหนือธรรมชาติของเรื่องนี้เป็นเรื่องของผีและวิญญาณมากกว่า
นับตั้งแต่มุกดาได้รับแหวนมูนสโตนมาจากย่าของเธอ เธอก็รู้สึกว่าเธอสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ เริ่มด้วยวิญญาณของเด็กหญิงสิตางศุ์ ที่ติดตามเธอมาจากวัดที่เธอไปทำบุญ (อันเป็นวันเดียวกับที่เธอได้พบกับวาริท - พระเอก แล้วก็ปิ๊งในความดูดีของเขา) เด็กน้อยสิตางศุ์อ้อนวอนขออยู่กับเธอที่ห้องพัก ซึ่งเธอก็ใจอ่อนยอมเอ่ยปากอนุญาต
แถมยังตั้งใจว่าจะช่วยวิญญาณเด็กน้อยตามหาความทรงจำที่หายไปหลังจากเสียชีวิต... เพราะคิดว่านั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กน้อยยังคงไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้
ด้วยความซนของวิญญาณเด็ก เจ้าหล่อนยังได้นำพาดวงวิญญาณดวงอื่น ๆ เข้ามาในชีวิตของมุกดาอีกเรื่อย ๆ แต่ละดวงล้วนแต่มีปัญหาหรือเรื่องราวเบื้องหลังให้มุกดาช่วยเหลือ... ซึ่งเธอก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ จนบางครั้งถึงขั้นเป็นอันตรายกับตัวเองก็มี... และนั่นก็สร้างความกังวลใจให้กับวาริท ที่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ จนพาตัวเข้ามาพัวพัน และกลายเป็นผู้ช่วยของมุกดาอีกต่อหนึ่ง...
............
เรื่องนี้ค่อนข้างชอบมากที่สุดในชุดค่ะ เป็นดราม่าโรแมนติกที่ไม่หนักหน่วงแต่ก็ไม่ถึงกับเบาโหวง ตัวละครทุกตัว...ทั้งคนและผี มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน... ทุกตัวมีบทบาท มีความหมายต่อเรื่องราวเนื้อหา ไม่มากก็น้อยลดหลั่นกันไป
มีบทเศร้าบทซึ้ง บทรักบทร้ายครบรสเลยทีเดียว... โดยเฉพาะบทรัก...อย่างที่บอกตอนต้น นามปากกานี้รับประกันว่าหวานนนน...ได้ใจค่ะ
เล่มที่สาม...
"ม่านธาราเร้นดาว" โดย 'บุลินทร'
เรื่องย่อ ๆ จากโปรยปก:
เหนือพลังอัญมณีแห่งท้องทะเลอันล้ำค่า คือหนึ่งรักแท้ที่ปรารถนาของสองใจ อะความารีน...พลังแห่งน้ำที่ชักพาให้เขาและเธอได้มาพบกัน เพื่อคลี่คลายเรื่องราวแต่หนหลัง
'มาริณ' น้องสาวคนสุดท้องของบ้านคุปตะจินดา ได้รับอะความารีนจากผู้เป็นย่า และปริศนาที่ว่ามันจะแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นจากอดีตได้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสดใสก็ดูจะวุ่นวายขึ้นทันใด เมื่อมีชายแปลกหน้าเข้ามาหาด้วยจุดมุ่งหมายคือ อัญมณีแห่งท้องทะเล
เขาผู้นั้นคือ 'ชลธิศ' ผู้ชายหยิ่งยโส ปากร้าย เย็นชา เธอเกลียดหนวดเครารกครึ้ม หน้านิ่งๆ และดวงตาวิบวับของเขาที่สุด ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาเป็นต้องตามรังควานไปทุกที่ แถมเจอกันทีไรก็มีเรื่องกันตลอด
ทว่าเมื่อทั้งสองต้องตกกระไดพลอยโจนมาตามหาอะความารีนด้วยกัน กลับทำให้ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นในหัวใจโดยไม่รู้ตัว
ความรักของเขาและเธอจะดำเนินไปอย่างไร ด้วยยังมีปริศนาอีกมากมายที่รอคอยคำตอบ พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ทุกขณะ!
.................
เรื่องสุดท้ายในซีรีส์ชุดนี้เป็นเรื่องของ'มาริณ'น้องคนเล็กกับพลอยอะความารีน ที่ผู้เป็นพี่สาวคนโตแอบเอาไปขายก่อนที่มันจะตกถึงมือเธอ...
เพื่อให้เป็นไปตามเจตน์จำนงของผู้เป็นย่า ระหว่างรองานหลังเรียนจบ มาริณตัดสินใจออกเดินทางตามหาพี่สาว... ทำให้ได้พบกับชลธิศ ซึ่งแสดงออกว่าสนใจอะความารีนมาก ซ้ำยังพูดเป็นนัย ๆ ว่าที่แท้แล้ว เขาต่างหากที่เป็นเจ้าของโดยชอบธรรมของพลอยนั้น ทำให้มาริณรู้สึกไม่ชอบใจนัก แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ไม่กลัวอะไร แถมยังมีนิสัยมุทะลุ วู่วาม และมักตัดสินใจทำอะไรโดยไม่คิดบ่อยๆ จนก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมา และการตัดสินใจทำบางสิ่งในคราวนี้ก็นำอันตรายมาสู่ชีวิตอย่างคาดไม่ถึง โชคดีที่ชลธิศเข้ามาช่วยไว้ทัน
สองหนุ่มสาวที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แปลกๆกับเงื่อนงำอันลึกลับแห่งอะความารีน จึงต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อให้รอดพ้นจากอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา... รวมทั้งหัวใจที่ถูกจู่โจมโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
.............
เป็นนิยายเรื่องแรกของนามปากกานี้ที่ได้อ่าน... ยอมรับว่าต้องใช้ความพยายามพอสมควรทีเดียวกว่าจะอ่านให้จบได้ อาจจะเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของพลอยทะเลกระมัง คนเขียนเลยพาคนอ่านหลุดกรอบออกทะเลไปซะ...เพลียเลย แหะ ๆ
คือ...ธีมหลักยังคงเป็นเรื่องของมนตราอัญมณีอยู่หรอกค่ะ แต่การดำเนินเรื่องและรายละเอียดต่าง ๆ ค่อนข้างเวิ่นเว้อมาก... มีหลายจุดที่ยังเลื่อน ๆ ลอย ๆ หาความสมจริง สมเหตุสมผลไม่ค่อยได้
นางเอกก็ออกแนวแสนงอนเอาแต่ใจ ง๊องแง๊ง ๆ... ดู ๆ แล้วน่ารำคาญมากกว่าจะน่ารัก (ไม่รู้ว่าพระเอกไปหลงรักได้ยังไง...เฮ้อ)
สรุปสั้น ๆ หลังอ่านทั้งสามเรื่องนะคะ
เรื่องแรก... นางเอกมั่นและกล้าเกินไป ชอบคิดเองเออเอง เรื่องราวการผจญภัยชวนลุ้น น่าตื่นเต้น ฉากอลังการดี ถ้าทำเป็นละครคงต้องใช้ CG เยอะมากกกก... บางตอนอ่านแล้วรู้สึกว่าเว่อร์จนขำ...ออกแนวตลก ๆ ไปซะงั้น
เรื่องที่สอง... พระเอก-นางเอกมีความสมดุลกันดี นางเอกใจดีมีเมตตา พระเอกก็อบอุ่นน่ารัก เรื่องนี้เน้นอิงหลักศาสนาหน่อย ๆ ว่าด้วยเรื่องของกฏแห่งกรรม ใครทำกรรมเช่นไรไว้ สุดท้ายย่อมต้องได้รับผลกรรมนั้นตอบแทน เรื่องนี้ถ้าทำเป็นละครทีวีคงจะน่ารักดี ซึ่งขณะที่อ่านเรื่องนี้ก็พอดีมีละคร"ไอ้คุณผี"กำลังออนแอร์อยู่ด้วย ทำให้สามารถจินตนาการตามได้ใกล้เคียง... และถึงแม้จะเป็นเรื่องผี ๆ แต่ฉากเรื่องราวก็มีความสมจริงมากที่สุดค่ะ
เรื่องสุดท้าย... เรื่องนี้เนื้อหาเบาที่สุดในชุด... โดยเฉพาะบทของนางเอก...บ่องตง เอ๊ย...บอกตรง ๆ ว่า...เพลียมาก!
..............
ถามว่าเป็นนิยายซีรีส์แล้วอ่านแยกเล่มได้ไหม ? ส่วนตัวคิดว่าได้นะคะ เพราะคนเขียนแต่ละคนเขาก็มีสไตล์การนำเสนอ และการเล่าเรื่องที่ชัดเจนของเขาเอง
เพียงแต่ว่าเล่มแรกอาจจะบอกเล่าความเป็นมาของคนเป็นย่าไว้มากหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากนักต่อเนื้อหาเล่มอืน เพราะ จริง ๆ แล้ว ในบทแรก ๆ ของแต่ละเล่มก็จะมีการเกริ่นนำ ให้รู้ถึงที่มาที่ไปของมนตราอัญมณีแต่ละชนิดไว้ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ตัวละครจากเรื่องอื่น(พี่น้องอีกสองสาว)ที่เข้ามาแจมในแต่ละเรื่องก็ไม่ได้มีบทบาทมากมายนัก ช่วงเวลาของการดำเนินเรื่องก็น่าจะเป็นไปในช่วงเดียวกัน ซึ่งก็จะมีพูดถึงในแต่ละเล่มเพียงเล็กน้อย... จึงคิดว่าน่าจะแยกอ่านเล่มใดเล่มหนึ่งได้ โดยไม่รู้สึกว่าพลาดอะไรไปค่ะ แต่ถ้าใครมีครบชุด แนะนำให้อ่านตามลำดับ เพื่อความต่อเนื่องของเรื่องราวค่ะ
|
นามปากการิญจน์ธรที่อ่าน จำชื่อเรื่องไม่ได้ เกี่ยวกับเฮเดสน่ะ เห็นหลายกระแสว่าหวานมาก แต่เราอ่านบางส่วนที่ลงในเว็บแล้วไม่โดน พอดี เป็นคนที่ชอบอ่านตำนานกรีกมาก่อน แล้วจินตนาการเฮเดสกับสาวไทยไม่ออกจริงๆ (ถ้าไปเป็นสาวใช้ยังพอรับไหว แต่ไปเป็นราชินีปรโลก รับไม่ไหว แล้วเอาเพอร์เซโฟนี ราชินีตัวจริงไปไว้ไหนนี่) เลยไม่อินกับนามปากกานี้
อีกอย่าง จาก ปสก อ่านซีรีส์หรือพวกบ๊อกเซ็ตที่คนเขียนคนละคนกันนี่ ยังไม่เคยเจอเซ็ตไหนที่สนุกทุกเรื่องเลย ขนาดชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ น้องเราบอกว่าอ่านแล้วรู้เลยว่าคนแต่งไม่ถนัดพีเรียด ไม่สนุกเลย
อ่านรีวิวแล้วขอผ่านดีกว่า ว่าแต่ปกสวยมากๆๆ เลย
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ