|
กุหลาบพรางสี ผู้เขียน : ช่อมณี ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(ครั้งแรก/ส.ค.๒๕๕๖) ๓๘๕ หน้า, ราคา ๒๗๕ บาท
โปรยปกหลัง:
หญิงสาวผู้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่หัวใจเขา!
((Spoiler Alert!!!))
เมื่อต้องคลี่คลายคดีพี่ชายที่บาดเจ็บสาหัสจากฝีมือแก๊งวัยรุ่นซิ่งรถปล้นป่วนเมือง 'มัทวัน' สาวสวยลูกครึ่งว่าที่ตำรวจเยาวชนสหรัฐฯ จึงปลอมตัวเข้าไปเป็นนักศึกษาในวิทยาลัยของ 'ดร.อายุธ' อธิการบดีหนุ่มผู้เคร่งขรึมยึดติด เพื่อหาตัวคนร้าย และจำเป็นต้องอาศัยร่วมบ้านในฐานะญาติสนิทของเขาโดยไม่ให้เป็นที่สงสัย
ท่ามกลางภารกิจที่ยากลำบาก ทุกวินาทีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทั้งยังต้องเข้าไปพัวพันกับสองหนุ่มอันตราย ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ตามหา หญิงสาวได้รับความอบอุ่นจากดอกเตอร์หนุ่มที่เคยคิดว่าเย็นชา โดยไม่รู้เลยว่าเขาเต็มใจให้เธอเข้าไปมีส่วนในพื้นที่หัวใจทีละน้อย ความแตกต่างที่ลงตัวเติมเต็มกันและกัน ทำให้จากที่เฉยๆ กลายเป็นห่วงใย จากไม่สนใจกลายเป็นห่วงหา จนในที่สุดทั้งสองจึงได้ตระหนักว่า... ตลอดมาต้องการใครสักคนอยู่เคียงข้าง แบ่งปันทุกข์สุข และร่วมทางแห่งรักไปด้วยกันตลอดชีวิต
เพิ่มเติมเรื่องย่ออีกนิด ๆ ละกัน... (ทำหยั่่งกับว่าเรื่องย่อจากสนพ.ยังสปอยล์ไม่พองั้นแหละ...)
มัทวัน- หญิงสาวลูกครึ่งวัยยี่สิบสามที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐฯ และกำลังรอเข้าทำงานเป็นตำรวจเยาวชนของที่นั่น เธอเลือกที่จะกลับเมืองไทยเพื่อพักผ่อนก่อนเริ่มงาน แต่เอาเข้าจริงเธอก็ไม่ได้พัก เพราะเพียงก้าวลงจากเครื่องเธอก็ได้รับข่าวร้ายว่าพี่ชาย(ต่างบิดา)ที่เป็นตำรวจถูกทำร้ายอาการสาหัส โดยกลุ่มวัยรุ่นแก๊งรถซิ่งที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มเลือดบี ที่มีหัวโจกเป็นลูกของผู้มีอิทธิพล ซึ่งกฏหมายไม่สามารถเอาผิดกับอันธพาลกลุ่มนี้ได้
เธอจึงตัดสินใจร่วมมือกับตำรวจ แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มนี้เพื่อเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้...
เธออาศัยวิชาป้องกันตัวที่เธอเคยฝึกปรือมาใช้ในการสร้างกระแสให้ตัวเอง และให้เป็นที่ยอมรับของคนในกลุ่มก๊วนนั้น... พร้อมกันก็สอนให้ผู้คนที่หวาดกลัวกล้าที่จะสู้เพื่อป้องกันตวเอง
ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จ...เพราะในที่สุดหัวโจกของกลุ่มเลือดบีที่เคยเกลียดเธอนักหนา ก็หันมาสนใจเธอและยอมรับเธอเข้ากลุ่ม... แต่งานที่เขากำหนดให้เธอทำนี่สิ มันทั้งเสียงอันตรายและผิดกฏหมาย
มาเอาใจช่วยเธอกันค่ะว่า ท้ายที่สุดเธอจะสามารถคลี่คลายคดีทำร้ายร่างกายพี่ชายเธอ และจับตัวคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่...
หลังอ่าน... เคยอ่านผลงานของ"ช่อมณี"แล้วหนึ่งเรื่อง แต่เคยเห็นผลงานของเธอถูกนำไปสร้างเป็นละครทีวีแล้วมีกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ สองเรื่อง เล่มนี้ก็ไม่แน่ว่าจะเข้าตาผู้จัดค่ายไหนบ้างหรือเปล่า... เพราะอ่านจบแล้วรู้สึกได้อย่างหนึงว่าคนเขียนน่าจะได้รับอิทธิพล หรือแรงบันดาลใจมาจากหนังหรือซีรียส์ต่างประเทศมาไม่มากก็น้อย มีฉากของการต่อสู้ ไล่ล่า การใช้ไฮเทคโนโลยีในการหลบหลีก...
ตัวเดินเรื่องหลักคือนางเอก ที่มาแบบเก่งเหนือสุด ๆ ทั้งในเรื่องของวิชาป้องกันตัว กับการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย (ออกแนวเวอร์ๆ เล็กน้อยแต่ก็บอกเล่าที่มาที่ไปได้สมเหตุสมผลดี)
พระเอกก็มาแนวเคร่งขรึม ติดจะเย็นชาสักหน่อย...(อาจจะเป็นด้วยวัยกับหน้าที่การงาน) เขาต้องร่วมมือกับตำรวจ รับมัทวันให้เข้าเป็นนักศึกษาในวิทยาลัยที่เขาเป็นอธิการบดี และอุปโลกน์ว่าเป็นญาติสนิท มาพักอยู่ด้วยที่บ้านของเขา เพื่อรักษาวิทยาลัยที่พ่อกับแม่ก่อตั้งขึ้นมา...
กลุ่มวัยรุ่นอันธพาลนั่นก็ประมาณลูกใครหว่า... พ่อแม่มีปัญญาทำให้เกิดแต่ไม่มีปัญญาสั่งสอน แก้ปัญหาโดยการเลี้ยงลูกด้วยเงิน... แรกเริ่มจากการซิ่งป่วนเมือง เป็นมาเฟียรีดไถเพื่อนนักศึกษาในวิทยาลัย ลามไปถึงการจี้ปล้นร้านค้า และเหิมเกริมหนักถึงขั้นพัวพันการค้ายา...
.........
หากพูดถึงเรื่องราวเนื้อหา พล็อตและการดำเนินเรื่องล่ะก็ ต้องยอมรับว่าเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่ค่อนข้างก้าวเร็วและแรงทีเดียว นิยายของเธอสามารถแหวกกระแสนิยายรักหวือหวาเกลื่อนตลาด โดยแทบจะไม่มีเรื่องราวของความรักหวานไหวเลย แต่ก็มีการผูกปม คลายปมได้น่าสนใจไม่น้อย...
มีหลายปมมากที่อ่านแล้วชวนอึดอัด ยกตัวอย่างเช่นปมของอาจารย์ฝ่ายปกครองที่เป็นน้องสาวอายุธนั่น เธอพิการและต้องนั่งรถเข็น ซ้ำมีสาเหตุมาจากอดีตสามีที่เป็นพ่อของพิตติ... แต่ทำไมเธอช่างวางตัวไม่สมกับเป็นครูบาอาจารย์เอาเสียเลย แถมยังเอาอกเอาใจ ตามใจอดีตลูกเลี้ยงตะพึดตะพือ
มีการสะท้อนภาพสังคมสมัยใหม่ได้คมชัดลึกจริง ๆ เห็นได้ว่าคนเขียนคงต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี มีการหยิบยกปัญหาของวัยรุ่นวัยวุ่นมาขยายความ บอกเล่าถึงที่มาที่ไปแห่งปมปัญหา
ซึ่งน่าจะสรุปได้ว่า...ครอบครัวถือเป็นเป็นเบ้าหลอมที่สำคัญที่สุดของเด็ก ๆ เด็กวัยรุ่นที่มีปัญหาทั้งหลาย ส่วนใหญ่แล้วมาจากครอบครัวที่แตกแยก หรือไม่ก็ครอบครัวที่ร่ำรวย และหมกมุ่นกับการทำงานจนไม่มีเวลาเอาใจใส่บุตรหลาน จุดที่ชอบประการหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ก็คือการดำเนินเรื่องค่ะ เขาตัดบทฉับ ๆ กระชับฉับไวไม่ยืดยาด... ได้อารมณ์เหมือนดูซีรียส์แนวสะท้อนสังคมวัยรุ่น ผสมด้วยแนวสืบสวนสอบสวนที่ลุ้นระทึก...
เสียแต่...เท่าที่อ่านผ่านไปสองเรื่อง...สัมผัสได้ว่า เธอช่างรักษามาตรฐานความแข็ง(ทื่อ)และห้วน(สั้น)ของสำนวนภาษาไว้อย่างคงเส้นคงวาเสียจริง โดยเฉพาะบทพูด... ตัวละครแต่ละตัวพูดจาด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันหมด ห้วน ๆ ลุ่น ๆ ไม่มีหางเสียง ไม่ว่าจะพูดกับผู้ใหญ่หรือผู้น้อย ทำให้อ่านสะดุด ๆ ไม่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติเท่าที่ควร
ยังไง ๆ ก็อ่านได้จนจบแหละค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องราวเนื้อหาเขาน่าสนใจ แต่ถ้าใครเน้นในเรื่องของวรรณศิลป์ล่ะก็... ส่วนตัวเห็นว่าเล่มนี้แป้กค่ะ ขาดความหวาน ความนุ่มนวลอย่างแรง แหะ ๆ
|