'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ใยกัลยา สายใยรักหรือพันธนาการ...โดย"ชมบุหลัน" ~





ใยกัลยา
ผู้เขียน : ชมบุหลัน
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(พิมพ์ครั้งแรก พ.ค. ๕๕)
๓๗๕ หน้า ราคา ๒๖๕ บาท


โปรยปก :

หอมน้ำ
ผู้หญิงที่ทำให้กราฟชีวิตของศวัสพุ่งขึ้นพุ่งลงจนเขาไม่สามารถควบคุมได้

“เมื่อความรักกลายเป็นพันธนาการผูกมัดใครบางคนจนไม่อาจถอนตัว”

ถ้าเป็นสามสิบปีก่อน คงไม่มีใครไม่รู้จักพุธกันยา ปานรัมภา นางเอกดาวรุ่งที่เสียชีวิต
ด้วยการกินยาฆ่าตัวตาย
ทว่าพอกาลเวลาผ่านไป จู่ๆ ชื่อที่ผู้คนลืมเลือนกลับถูกกล่าวขวัญอีกครั้ง
หลังมีกองถ่ายละครมาถ่ายทำยังบ้านอดีตดาราดัง

หอมน้ำ หญิงสาวหน้าคม ขี้เล่น และร่าเริงสดใส
เพราะความซุ่มซ่ามของตนแท้ๆ ทำให้เธอพบกับวิญญาณนางเอกหัวดื้อ
ซึ่งคอยตามตื๊อให้ช่วยเป็นสื่อกลาง บอกสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
แก่สามีผู้อ่อนโยน และบุตรชายขี้เก๊กฟอร์มจัด ที่เธอเข้าใกล้แล้วให้ความรู้สึก
คล้ายอยู่กับแวมไพร์ ไม่ยอมพูดยอมจา เอาแต่นั่งทำหน้าเป็นก้อนหิน
ราวกับตั้งโปรแกรมเย็นชาไว้

ศวัส ทันตแพทย์หนุ่มหน้าดุ เสือยิ้มยากบุตรชายคนเดียวของพุธกันยา
เขาเกลียดสื่อเข้าไส้และไม่ไว้ใจหอมน้ำอย่างที่สุด
เพราะหญิงสาวขยันก่อเรื่องวุ่นวายแล้วยังเที่ยวป่าวประกาศบอกใครๆ อีกว่าเห็นผีแม่ของเขา
................
เรื่องชุลมุนของนักศึกษาฝึกงานในกองถ่ายกับทันตแพทย์หนุ่มจึงเริ่มต้นขึ้น
เมื่อหอมน้ำต้องงัดสารพัดวิธีมาตีซี้คุณหมอหน้าเคร่งตามคำขอร้องของมารดาเจ้าตัว...
โดยไม่รู้เลยว่าระหว่างทำตัวเป็นสื่อกลางอยู่นั้น ความรักและความลับในอดีตของพุธกันยา
กลับกำลังค่อยๆ คืบคลานมาทำร้ายเธออย่างเงียบเชียบ






หลังอ่าน...
โอ้ว...คำโปรยเค้าเล่าเรื่องย่อได้ละเอียดลออดีแท้ ...
มิน่าล่ะ...ตอนที่ได้หนังสือเล่มนี้มาตอนนู้นนน...(ตอนที่หนังสือออกใหม่ๆ)
หลังจากอ่านเฉพาะคำโปรยปกหลังไป ส่วนตัวจึงเลือกที่จะมองผ่าน...
ดองหนังสือเล่มนี้ไว้ข้ามภพข้ามชาติกันเลยทีเดียว แหะ ๆ

เผอิญวันก่อนได้เห็นทีเซอร์ละครเรื่องนี้แว่บ ๆ ท่าทางน่าสนใจไม่น้อย
โดยเฉพาะผู้ที่รับบท"พุธกันยา"เป็นดาราเก่ามากฝีมือที่ตัวเองชื่นชอบ
เลยได้ฤกษ์หยิบนิยายเรื่องนี้มาอ่านก่อนละครจะออนแอร์...
คาดหวังเพียงให้รู้เรื่องคร่าว ๆ เป็นพอ...

ปรากฏว่า...เอ๋...อ่านสนุกแฮะ อ่านได้เพลิดเพลินเกินคาดอ่ะ...

เล่าเรื่องย่อเพิ่มเติมจากข้างบนอีกนิด ๆ...

หลังจากฝึกงานอยู่ในกองถ่ายที่ยกกองมาถ่ายทำกันที่บ้านของพุธกันยามาสักระยะหนึ่ง
หอมน้ำก็จับพลัดจับผลูได้ร่วมแสดงแทนดาราสาวอีกคนที่ถูกปลดกลางอากาศ
หอมน้ำไม่มีทักษะในการแสดงเลย พุธกันยาจึงถือเป็นโอกาส
รื้อฟื้นการแสดงที่เธอห่างหายไปนาน ขอใช้ร่างหอมน้ำเพื่อแสดงแทน
แต่หอมน้ำต้องยอมเป็นสื่อกลางให้เธอได้พูดคุยกับสามีและลูกชาย
เบื้องแรกหอมน้ำไม่ยินยอม แต่หลังจากถูกท้าทายจากนักแสดงอีกคน
เธอจึงเกิดอารมณ์อยากเอาชนะ ยอมให้พุธกันยาเข้าสิง...แต่ต้องมีเงื่อนไข
โดยให้สินีนุช-เพื่อนสนิทของเธอคอยดูเวลา ถ้าแสดงเสร็จแล้วพุธกันยาต้องออกจากร่างของหอมน้ำทันที
ไม่เช่นนันเธอจะเอาสร้อยพระมาสวมให้เพื่อน
และพุธกันยาก็ต้องห้ามแสดงตัวตนว่าเป็นตัวเองขณะที่อยู่ในร่างของหอมน้ำเด็ดขาด

สมเจตน์-ผู้กำกับเคยหลงรักพุธกันยาเมื่อครั้งเธอยังมีชีวิตอยู่
จึงจับได้ว่าพุธกันยาเข้าสิงร่างหอมน้ำ เมื่อพุธกันยารู้ว่าสมเจตน์รู้แล้ว...
เธอจึงขอร้องให้เขาช่วยกันสินีนุชออกไปเพื่อที่เธอจะได้อาศัยร่างของหอมน้ำให้นานขึ้น
ด้วยความรักและหวังว่าเธอจะรับรักเขา สมเจตน์จึงยอมช่วยพุธกันยา...

และหากพุธกันยาเกิดติดใจในการได้ครอบครองร่างของหอมน้ำตลอดไป ไม่ยอมออกล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น...
ตามไปลุ้น ไปเอาใจช่วยหอมน้ำกันต่อในนิยายหรือในละครกันเถอะค่ะ...






อย่างที่บอกตอนต้นนั่นแหละค่ะว่าอ่านสนุกดีเกินคาด...
(ที่ว่าคาด ๆ นั้นก็คาดการจากคำโปรยปกนั่นเอง)
ด้วยพล็อตที่ไม่ได้แปลกแหวกแนวหรือซับซ้อนอะไรมากมายนัก...
เป็นรื่องราวของวิญญาณที่ยังมีความผูกพันกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
จึงเฝ้าตามติดไม่ยอมจากไปไหน...ซึ่งสำหรับคอนิยายแล้วเป็นพล็อตที่ดาดดื่นมาก

แต่ผู้เขียนเขาเข้าใจหยิบเอาเรื่องราวของคนในแวดวงบันเทิง
มาแต่งเติมเสริมต่อทำให้เรื่องดูสมจริงสมจัง น่าตื่นเต้น น่าติดตาม

โดยเฉพาะปมสาเหตุการตายของนางเอกสาวพุธกันยา...ซึ่งเกิดจากการถูกสื่อกดดัน
มันดูเป็นไปได้ และสมเหตุสมผลนะ เพราะวงการบันเทิงในยุคยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว
(หรือรวมทั้งในยุคนี้ด้วยแหละ...)
พวกดาราเขาต้องปิดบังเรื่องส่วนตัวอย่างมิดเม้น
เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ส่วนตัวของดารากลายเป็นเหยื่ออันโอชะของสื่อ

อาจจะไม่มีซีนรักหวาน ๆ ระหว่างคู่พระ-นางสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้เค้าเน้นที่ตัวพุธกันยามากกว่า
ซ้ำพระเอกก็เป็นชายหนุ่มที่ค่อนข้างเก๊กและฟอร์มจัดอยู่สักหน่อย...

ตอนแรกอ่านเฉพาะเรื่องย่อก็รู้สึกตงิด ๆ ใจว่า
พระ-นางจะสวีทกันยังไงถ้าผีที่อาศัยร่างนางเอกนั้นเป็นแม่ของพระเอก
แต่คนเขียนเขาก็สามารถอะ ทำได้เนียน ๆ เป็นธรรมชาติอีกต่างหาก ณ จุดนี้ให้ผ่านค่ะ

ชอบพระเอกเรื่องนี้ค่ะ แรก ๆ อาจจะดูวางฟอร์มหน่อยแต่ช่วงหลัง ๆ
หลังจากที่จับตาดูหอมน้ำอย่างระแวงระวังแล้ว
ก็ดูเหมือนว่าความอารมณ์ดีของเธอจะสามารถทำให้เขาฟอร์มหลุดได้เหมือนกัน
(ชอบมุกที่นางเอกเอาอมยิ้มมาฝากพระเอกบ่อย ๆ เพราะเห็นว่าเขาเป็นหมอฟันแต่ไม่ค่อยยิ้ม...น่ารักดีค่ะ)

ส่วนที่ชอบอีกจุดก็เรื่องของละครซ้อนนิยายน่ะค่ะ...คือเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับนักแสดงกับกองถ่าย
ก็ต้องมีฉากการถ่ายทำละครเรื่อง"เพลิงนารี"(ที่อ่านจากบทคร่าว ๆ แล้วนึกถึงทรายสีเพลิงเลยแฮะ)
คนเขียนเขาบอกเล่าเรื่องราวในกองถ่ายได้สมจริง เป็นธรรมชาติดีอ่ะ

ตัวละครอาจจะเยอะหน่อย แต่ก็มีเด่น ๆ อยู่ไม่กี่คน
แถมตอนท้ายมีหักมุมเรื่องผีปลอม กับเฉลยปมที่ว่า...
เหตุใดหอมน้ำจึงเป็นผู้ที่สามารถมองเห็นพุธกันยาและสื่อสารกับเธอได้คนเดียวอีกด้วย
อ๊ะ...คนอ่านเองลืมไปแล้วนะนั่น นึกว่านางเอกมีซิกส์เซนส์อยู่ตั้งนาน ฮ่าฮ่า
(คนอ่านลืมแต่คนเขียนเค้าแม่นค่ะ...)

สรุปเลยละกันว่าเป็นนิยายรักเบา ๆ (แต่มีเนื้อมีน้ำ ไม่ว่างโหวงโหรงเหรงนะคะ)อ่านสนุกอีกเล่มหนึ่ง
ที่อ่านจแล้วหยิบมาเล่าต่อ ชวนอ่านชวนจิ้นก่อนอินตามละครค่า









 

Create Date : 10 ธันวาคม 2557    
Last Update : 10 ธันวาคม 2557 11:19:16 น.
Counter : 4767 Pageviews.  

~รอยทัณฑ์นางฟ้า : เล่มที่ ๒ ในชุด"รอยนิรันดร์" โดย 'ริญจน์ธร' ~





รอยทัณฑ์นางฟ้า
ผู้เขียน : ริญจน์ธร
ผู้พิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ(สิงหาคม 2557)
341 หน้า ราคา 250 บาท


คำโปรย...


เพียงหนึ่งจุมพิตแนบชิดทรวงใน
เพียงหนึ่งดวงใจคือเธอ...นิจนิรันดร์


เพราะความเข้าใจผิดของ 'ฮิปนอส' จากดินแดนอันไกลโพ้น
ทำให้เทพธิดา 'เฟย์โดรา' จึงต้องตกสวรรค์มาเกิดใหม่บนโลกมนุษย์
ในชื่อใหม่ว่า 'กานต์ฤทัย' นั่นเป็นเหตุให้เทพบุตรอย่างเขา
ต้องขึ้นจากโลกันต์เพื่อตามดูแลเทพธิดาองค์น้อยและรอคอยเวลาส่งเธอกลับคืนสู่สวรรค์

ยี่สิบปีผ่านพ้นกับโทษทัณฑ์ที่เธอได้รับ ในที่สุดโอลิมปัสก็ต้อนรับเธออีกครั้ง
ทว่าการกลับสู่สรวงสวรรค์ของเธอกลับไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อยังมีผู้ปองร้ายหมายชีวิตเทพธิดาองค์น้อยอยู่
ฮิปนอสควรทำเช่นไร เมื่อหัวใจเจ้ากรรมยังคะนึงหาเธออยู่เป็นนิจ
แต่รอยอดีตยังคอยตอกย้ำว่าเขาคือผู้ทำให้เธอเสียใจ!

.....................

หลังจากที่แฝดผู้พี่อย่าง 'ธานาทอส' เทพแห่งความตาย
ผู้เย็นชาแต่อ่อนโยนได้ออกมาเติมความหวานให้กับนักอ่านไปแล้วใน "รอยรักยมทูต"
คราวนี้ก็ถึงตาแฝดผู้น้องอย่าง 'ฮิปนอส' เทพแห่งการหลับใหล
ออกโรงมาเอาใจนักอ่านกันบ้าง






หลังอ่าน...
เรื่องนี้เป็นประหนึ่งภาคต่อของ"รอยรักยมทูต" ที่ได้อ่านไปเมื่อปีกลาย แล้วค่อนข้างชื่นชอบ
พอมาถึงเล่มนี้จึงไม่พลาดที่จะติดตามอ่าน...อย่างคาดหวังนิด ๆ

สิ่งที่รับประกันได้ว่านี่คือนิยายที่เขียนโดย'ริญจน์ธร'อย่างจริงแท้แน่นอนก็คือความหวานนนน...
แบบไม่บันยะบันยังกันเลยเชียว!

แต่นอกเหนือจากความหวานชนิดไม่แคร์ระดับน้ำตาลในเลือดของคนอ่านแล้ว
เขาก็มีเรื่องราวชวนลุ้น มีปมปริศนาชวนค้นหา มีประเด็น มีสาระแอบแฝงอยู่ไม่น้อยนะคะ

เรื่องราวในตอนนี้เป็นเรื่องราวชีวิตของนางฟ้าน้อยเฟย์โดรา ธิดาบุญธรรมของเทพไดโอนีซัส-เทพแห่งเมรัยผู้หลงใหลในโลกมนุษย์จนแอบหนีลงมาเที่ยวอยู่บ่อย ๆ
จนพบกับเด็กหญิงเฟย์โดราจึงพากลับสวรรค์และรับเป็นธิดาบุญธรรม ท่ามกลางความไม่พอใจของชายาเดสพีน่า

เฟย์โดราได้พบกับฮิปนอส-เทพแห่งการหลับใหล ผู้พาเธอท่องเที่ยวไปทั่ว...ในที่ที่เธอไม่เคยไปมาก่อน
ก่อเกิดเป็นความผูกพันในช่วงระยะเวลาอันสั้น...
ทว่า...เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอ...เธอถูกใส่ความว่าเป็นผู้สังหารเทพเฮอร์เมส
ฮิปนอสกลับกล่าวปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักเธอ ทำให้เธอต้องถูกจองจำในคุกมืดจนตรอมใจตาย
กลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์มาเกิดเป็นมนุษย์...ลืมเลือนความทรงจำเดิมเสียสิ้น
จนกว่าเธอจะมีอายุครบยี่สิบปีนั่นแหละ จึงจะพ้นโทษกลับสู่สรวงสวรรค์ได้

แต่ผู้ที่ปองร้ายนางฟ้าน้อยไม่หยุดเพียงแค่นั้น...
ยังตามติดมาคุกคามครอบครัวใหม่ของเธอจนต้องสูญเสียพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดไปตั้งแต่เธอยังเล็กมาก
ร้อนถึงฮิปนอสต้องตามติดมาปกป้องดูแล...เป็น"อานอส"ที่กานต์ฤทัยทั้งรักทั้งผูกพันมานานนับเท่าอายุของเธอ

จนเมื่อกานต์ฤทัยมีอายุครบยี่สิบนั่นแหละ อานอสจึงเปิดเผยตัวตนและพาเธอกลับสู่โอลิมปัส...
เขาได้มอบผลไม้สีทองให้แก่เธอลูกหนึ่ง ซึ่งเป็นผลไม้ที่จะช่วยในการฟื้นความทรงจำ
นั่นหมายความว่า...เธอจะได้รู้ความจริงในอดีตที่ผ่านมา...






นั่นเป็นเรื่องราวเพียงเศษเสี้ยวของนิยายแฟนตาซีที่แอบอิงพล็อตจากเทพปกรณัมตะวันตก
แล้วเสริมเติมต่อด้วยจินตนาการของผู้เขียนเล่มนี้ค่ะ...

นอกจากที่เล่า ๆ ไปข้างบนนั่น...
เขายังมีเรื่องราวอันซับซ้อนโยงใยให้ผู้อ่านตามลุ้น ตามรอย...
ร่วมค้นหาเบื้องหลังโทษทัณฑ์ที่นางเอกได้รับว่ามีความเป็นมายังไง
แล้วผู้ใดกันที่จงเกลียดจงชังนางเอกถึงขั้นลอบปองร้ายหลายครั้งหลายครา

และนอกจากคู่หวานแนวกินเด็กอย่างอานอสกับนางฟ้าน้อยเฟย์โดราแล้ว
เขายังมีแถมคู่รองมาให้จิ้นเพิ่มอีก...เป็นหวานคูณสองไปเลยทีเดียว

........


ก็...อ่านได้เพลิน ๆ หวาน ๆ ดีค่ะ แต่...เริ่มที่จะไม่อิน ไม่ฟินแล้วแฮะ

แรก ๆ ที่อ่านชุดเทพ ๆ ของผู้เขียนคนนี้...นับตั้งแต่ดุจดั่งดวงใจ...หทัยสุริยัน...
ตราบนิรันดร์คือเธอ...
เรื่อยมาจนมาถึงรอยรักยมทูต...
ก็ยังรู้สึกโอเคอยู่...คิดว่านั่นน่ะเป็นแนวของเขา
ที่เราตามอ่านก็เพราะชื่นชอบในสำนวนภาษา กับความหวานชวนเคลิ้ม
ที่ช่วยพาเราหลีกหนีจากโลกมนุษย์อันยุ่งเหยิงอย่างทุกวันนี้ไปชั่วครู่ชั่วคราวได้

แต่หลังจากที่เพิ่งได้อ่านแนวอื่นของเธอไป (อย่างมนตรามุกจันทรา กับมรกตสนธยาเป็นต้น)
รู้สึกว่าเธอก็เขียนแฟนตาซีที่ไม่ต้องอิงเทพปกรณัมฝรั่งก็ได้นิ
มันยังดูสมจริงสมเหตุสมผลมากกว่าเสียอีก
ต่อให้เป็นแนว ๆไซ -ไฟแบบมรกตสนธยาก็เถอะ...

ก็เลยเกิดชอบแบบใหม่นี้มากกว่า รู้สึกว่ามันมีที่มาที่ไปชัดเจนกว่า
สัมผัสแตะต้องได้ฟินกว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า...
พานให้อ่านเรื่องราวของบรรดาเทพ ๆ ทั้งหลายแห่งเทือกเขาโอลิมปัส
ที่ต่างเรียงแถวกันมาจับคู่กับสาวไทยได้ไม่อินแล้ว
เพราะมันจิ้นไม่ออกอีกต่อไป...ฮ่าฮ่า

ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ที่บ่น ๆ นั่นไม่ได้บอกว่านิยายไม่สนุก...
เพราะจะว่าไป นอกเหนือจากเรื่องราวความรักอันหวาน...เกินบรรยายแล้ว
ส่วนตัวก็ยังชื่นชมผู้เขียนที่สอดแทรกข้อคิดดี ๆ ไว้ในิยายแต่ละเรื่องของเธอได้อย่างกลมกลืนสอดคล้อง
ให้คนอ่านสามารถเก็บเกี่ยวมาประยุกต์ใช้กับชีวิตตัวเองได้

อย่างในเล่มนี้ เธอได้ให้ข้อคิดในเรื่องของการให้อภัย
กับอดีตที่ผ่านไปแล้วไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
แต่เราสามารถใช้มันเป็นบทเรียนที่ดีเพื่อทำวันนี้ให้ดีขึ้นได้...
โดยบอกเล่าทัศนคติและมุมมองนี้ผ่านความรู้สึกนึกคิดของนางเอก
ตอนที่รับรู้ว่า "อานอส" ที่เธอรักและผูกพันนักหนานั้น
ในอดีตเคยทำผิดต่อเธออย่างใหญ่หลวงมาก่อน...
เธอเลือกทีจะให้อภัยเขา
ด้วยเห็นแก่การที่เขาเฝ้าดูแลเธอมาตลอดช่วงเวลาที่เธอมาเกิดเป็นมนุษย์

มัน"ใช่"เลยค่ะ จุดนี้ชอบมาก ๆ ในนิยายเรื่องนี้

เห็นด้วยมาก ๆ กับผู้เขียนที่กล่าวไว้ในหน้าคำนำที่ว่า...

'เพราะมีอดีต เราจึงมีปัจจุบัน
แต่บางครั้งอดีตนั้นขมขื่น จนเราอยากลืมเรื่องราวแต่หนหลัง
โดยหลงลืมว่าอดีตอาจเป็นดั่งบทเรียน ความหวังและพลังเพื่อก้าวเดินต่อไป

ขอเพียงเชื่อมั่นในรัก... สักวันเราคงได้พบกับความงดงามของความรัก'


อ่านจบแล้ว หยิบมาเล่าขานชวนอ่านกันวันนี้ค่ะ










 

Create Date : 08 ธันวาคม 2557    
Last Update : 8 ธันวาคม 2557 11:44:03 น.
Counter : 2649 Pageviews.  

~รอยรักราชันย์ : นิยายในชุดธิโมส์ # 14 โดย "ดวงตะวัน" ~





รอยรักราชันย์
ผู้เขียน: ดวงตะวัน
ผู้พิมพ์ : สนพ.ดวงตะวัน
497 หน้า ราคา 340 บาท


เรื่องย่อ ๆ (จากเว็บสำนักพิมพ์)



ชีวิตเต็มไปด้วยบททดสอบ

แมมี...ธีลาสาวแห่งคาเรนา ก็ไม่ใช่คนที่ได้รับการยกเว้น
ความรักกับชายหนุ่มสูงศักดิ์อย่างอินทัต ครีราโมส์
ที่เคยคิดเคยเชื่อว่างดงามและมั่นคง กลับโยกคลอนหวั่นไหว
เมื่อมีใครอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิต
ในช่วงที่หญิงสาวทำโพรเจกต์ก่อนเรียนจบว่าด้วยเรื่องเทพปกรณัมธิโมส์

สายลมแห่งรักที่ทำให้หัวใจไหวโยนยังไม่ทันสงบ
คนบนฟ้าก็ส่งพายุใหญ่โหมสู่ชีวิตแมมีอีกครั้ง
ฟ้าฝนลมแรงกระหน่ำหนักมากขึ้นทุกขณะ กระทั่ง...แทบเอาชีวิตไม่รอด

ตลอดเวลาอันหม่นมืดนั้น ชายหนุ่มสองคนหยัดยืนอยู่เคียงข้างแมมี
เกาะกุมมือหล่อนไว้...ไม่ปล่อย
ไม่ต่างจากเรื่องราวของของเทพเจ้าสูงสุดทั้งสามของธิโมส์...
เฮกัล เธมส์ และกูตูร์ ซึ่งแมมีกำลังศึกษาอยู่เลย

ความรักของหนึ่งหญิงสองชายที่ดูราวกับจะซ้อนทาบ
และ“ล้อ”ไปกับเรื่องราวแห่งรักของเทพเจ้าสูงสุดทั้งสามองค์นี้
สุดท้ายแล้วจะลงเอยเช่นไร

เธมส์รักใคร ระหว่างเฮกัลผู้เปี่ยมเมตตา กับกูตูร์ ผู้ดุดันโหดร้าย
ขาวกับดำ ดีกับชั่ว สงบงามกับสุ่มเสี่ยงท้าทาย?






สีลาสิราค่ะเพื่อน ๆ ชาวแผ่นดินแสงดาว...
เหินห่างจากเรื่องราวของชาวธิโมส์ไปนานนับปี
จำได้ว่าเรื่องสุดท้ายที่อ่านไปคือ "เอลันตรา"
ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างชอบและรู้สึก...อิ่ม พีคสุด ๆ แล้ว เลยพักเรื่องราวของธิโมส์ไว้เพียงแค่นั้น

เผอิ๊ญ... ได้มาอ่านนิยายนอกธิโมส์ของคุณดวงตะวันอีกสองสามเรื่อง
เกิดสะดุดอะไรบางอย่าง(ในบางเรื่อง)เข้าจนพานให้ชะงักงันกับงานเขียนของ"ดวงตะวัน"ไปพักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว...
(มาถึงตอนนี้ตัวเองก็จำไม่ได้แล้วล่ะค่ะว่าเล่มไหนที่ทำให้เกิดอาการสะดุดอย่างที่ว่า...แหะ ๆ )

เล่ม"รอยรักราชันย์"นี้ เห็นน้องสาวถือมาอ่าน เลยพลิก ๆ ดู เห็นว่าพระเอกคืออินทัต ครีราโมส์
(พระเอกจาก"วันดี ๆ " ที่มีฉากส่วนใหญ่อยู่ในเมืองไทย และนางเอกก็เป็นสาวไทยด้วย
แต่คู่นั้นเขาคลาดกันไป...) ก็ให้เกิดสนใจขึ้นมา เลยขอยืมน้องมาอ่านก่อน...

เรื่องย่อ ๆ ก็ประมาณข้างบนนั่นเลยค่ะ เป๊ะ ๆ ...
ผู้เขียนต้องการนำเสนอประเด็นว่าด้วยความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใดหรือชนชาติไหน
ล้วนมีมิติมากกว่าหนึ่งในตัวเอง ทุกคนมีด้านดีด้านร้าย มีดำมีขาว...
เช่นเดียวกับตัวละครหนึ่งหญิงสองชายในเรื่องนี้

เล่มนี้เป็นธิโมส์ยุคปัจจุบันค่ะ หากแต่มีเรื่องราวในยุคโบราณมาเกี่ยวข้องบ้าง
เพราะนางเอกกำลังทำโพรเจ็กต์จบว่าด้วยเรื่องของเทพปกรณัมของธิโมส์...
จุดนี้ออกจะชื่นชมคนเขียนเลยค่ะ
เธอใช้จินตนาการซ้อนจินตนาการได้แนบเนียนเสมือนจริงมาก

นางเอกเรื่องนี้...แมมีเป็นธีลาสาวแห่งชุมชนเล็ก ๆ อย่างคาเรนา...
ตำแหน่ง"ธีลา"เป็นตำแหน่งที่เป็นประหนึ่งผู้นำทางจิตวิญญาณของผู้คน
เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมานับแต่โบราณกาล
ยามผู้คนมีความทุกข์ หากได้รับการ"กอด"จากธีลา
พวกเขาก็เหมือนกับได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์ ปัดเป่าความทุกข์ให้หายไป
มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อ...
(อ่านถึงจุดนี้ แว่บหนึ่งนึกถึง"กอดวิเศษ"ของครูปอใน"ปีกปรารถนา"เลยนะคะ...แฮ่ม)

แมมีคบหาดูใจอยู่กับอินทัต ครีราโมส์...ความรักของทั้งคู่ดูเหมือนจะราบรื่นมั่นคงดี
แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่เปิดเผยในวงสังคมชั้นสูงของสกุลครีราโมส์สักเท่าไหร่ก็ตาม
แต่เมื่อมีชีตาห์...นายแบบหนุ่มเจ้าเสน่ห์โผล่เข้ามาใชีวิต
แมมีก็เกิดอาการหวั่นไหวขึ้นเลยเชียว

ในการทำโพรเจ็กต์เรื่องเทพปกรณัมธิโมส์ ดูเหมือนว่าแมมีจำเป็นต้องอาศัยชีตาห์อยู่หลายเรื่อง
เพราะเขามีเชื้อสายกูตูร์ และเป็นชาวคนัฆเช่นเดียวกับเธอ
คลุกคลีอยู่กับคนในชุมชนที่ยังยึดมั่นในขนบธรรมเนียมโบราณอยู่มาก

นั่นจึงเป็นโอกาสให้ชีตาห์"รุก"เข้ามาใกล้ชิดแมมีได้ง่ายและเนียน...
จนสามารถทำให้หัวใจสาวน้อยสั่นไหวไปชั่วขณะ...

จนกระทั่ง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้แมมีต้องตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตนั่นแหละ
เธอถึงได้รู้สึกตัวว่า...แท้จริงแล้วในใจของเธอนั้นไม่มีพื้นที่สำหรับผู้อื่นอีกต่อไป







ก็อ่านได้รวดเดียวจบค่ะ สนุกดีตามมาตรฐาน(เดิม ๆ )ของ "ดวงตะวัน"
เรื่องราวน่าลุ้น อ่านได้เรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับซาบซึ้งตรึงใจเท่าธิโมส์รุ่น 7 - 8 เล่มแรก ๆ

อาจจะเป็นเพราะตอนที่เริ่มอ่าน รู้ว่าอินทัตเป็นพระเอก เราก็ออกจะคาดหวังค่อนข้างสูงอยู่สักหน่อย
แต่ปรากฏว่าเรื่องนี้...พระเอกบทค่อนข้างเรียบแฮะ...
เขาให้บทพระรองเด่นมาก พระรองออกเยอะ มีบทบาทโดดเด่นกว่าพระเอก
แถมตอกย้ำซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่นั่นแล้วถึงเสน่ห์อันร้ายกาจของฮี...
คนอื่นคลั่งไคล้ฮียังพอทำเนา...
แต่การที่คอยเน้นย้ำอยู่เรื่อย ๆ ถึงอาการหวั่นไหวของนางเอกเวลาเข้าใกล้
มันทำให้เราพานไม่ชอบนางเอกแฮะ

รู้สึกว่านางออกจะ...งี่เง่า แสนงอน งอดแงด ๆ ไปหน่อยอะ...
ถึงจะบอกว่าเป็นธีลาแล้วไง...ก็ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งแถมยังเด็กอีกต่างหาก...
แต่การที่หึงพระเอกแบบไร้สติ แล้ววิ่งไปซบอกพระรองนี่...รับไม่ได้อะ

กับปมเรื่องแม่นางเอกนั่นอีก...บอกตามตรงว่ามุกมันซ้ำนะ
ออกจะเดาง่ายไปนิดนึง...

แต่โดยรวมแล้วก็ชื่นชอบในจินตนาการอันเกี่ยวกับเทพปกรณัมธิโมส์นะคะ
ชอบการสร้างสัญลักษณ์ต่าง ๆ และเรื่องราวของขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณทั้งหลาย
ที่แอบอิงวิถีชีวิตความคิดความเชื่อเก่าแก่ และมีความหมายต่อชีวิตนับแต่เกิดจนตาย

รวมถึงการบรรยายฉากที่เป็นดินแดนสมมติที่เกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ย้อนอดีตไปถึงสามพันปี...สภาพทางภูมิศาสตร์
เรื่องของภาษา วัฒนธรรม สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ

ผู้เขียนเขาสามารถมาก...ไม่ว่ากีเรื่อง ๆ ที่เคยอ่านผ่านมาเธอยังไม่หลุดคอนเซ็ปต์...
ไม่มีรอยรั่วหรือจุดพร่องให้เห็นเลย
เป๊ะมาก...เรียกได้ว่าอ่านแล้วอิน...และ"เชื่อ"ค่ะว่า...แผ่นดินแสงดาวมีจริง!

มัยยาอาลาค่ะทุกท่าน!










 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2557 21:51:39 น.
Counter : 4692 Pageviews.  

~ เจ้าอัคนี : นิยายรักระหว่างรบ โดย "ปาฏลี" ~





เจ้าอัคนี
ผู้เขียน : ปาฏลี
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(ก.ค. ๕๗)
๒๘๐ หน้า ราคา ๒๓๕ บาท



โปรยปก...


ชีวิตนี้ยอมพลีเพื่อเเผ่นดิน เเต่ดวงใจนี้มีไว้เพื่อเธอ

คำสัญญาลมปากอาจลอยหาย
คำสัญญาจากใจประทับติดแน่นตรึงในหัวใจตลอดกาล


"อคิราห์" นักข่าวสาวขาลุยของสำนักข่าวซีเอ็น ได้ลักลอบมากับคณะเเพทย์อาสา
ขององค์การอนามัยสากล เพื่อตีเเผ่สภาพเหุตการณ์จริงภายในรัฐกันทรา
ประเทศที่ยังล้าหลังเเละปกครองโดยระบอบเผด็จการทหาร
หลังจากการข่าวของรัฐกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในการนำเสนอข่าวมากว่าหกปี
เเต่เมื่อไปถึงเธอกลับพบว่า ข้อมูลทางการข่าวที่เคยได้รับมาตลอดระยะเวลาหลายปี
บิดเบือนไปจากความจริงมากเเค่ไหน
หลังจากจับพลัดจับผลูเข้าไปอยู่ในกองกำลังปาลิน
ซึ่งนานาประเทศเข้าใจว่าเป็นกองโจรที่ก่อความไม่สงบเเก่รัฐกันทรา
เเละได้พบกับ "อัคนี" หัวหน้ากองกำลังดังกล่าวที่ช่วยชีวิตเธอไว้
เธอก็พบว่า เเท้จริงเเล้ว กองกำลังปาลินกำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
ให้ชาวกันทราทั้งประเทศต่างหาก
ท่ามกลางหมอกควันเเห่งสงครามในเเละถูกไล่ล่าเอาชีวิต
อคิราห์ก็ได้ใกล้ชิดเเละเห็นน้ำใจของอัคนี ผู้ชายหน้าดุที่เเสนอ่อนโยน
ที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามานั่งในหัวใจเธอทีละนิด

เเม้จะเตรียมใจมาเเล้วว่าการมาทำงานครั้งนี้อาจมีอันตรายถึงเเก่ชีวิต
เเต่อคิราห์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า มันจะเปลี่ยนเเปลงหัวใจของเธอไปตลอดชีวิตเช่นกัน







หลังอ่าน...
อ่านจบแล้วต้องทำหมายเหตุไว้ว่า...
นิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิยายจากนักเขียนรุ่นใหม่ไม่กี่เล่ม...
ที่อ่านแล้ว...สะท้อนสะเทือนอารมณ์จนน้ำตาเล็ดน้ำตาริน

ประทับใจมาก ๆ เพราะนานมาก ๆ แล้วที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึก(ที่ได้จากการอ่านนิยาย)อย่างนี้

แม้ว่าเค้าโครงเรื่อง พล็อตหรือประเด็นทีนำเสนอไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่
เป็นประมาณจินตนิยายร่วมสมัยที่อาศัยดินแดนสมมติเป็นฉาก

นางเอกเป็นนักข่าวสาวที่ลักลอบเข้าไปทำข่าวความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหาร
กับกองกำลังปาลินที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรป่าในรัฐกันทรา
แล้วเธอก็จับพลัดจับผลูเข้าไปอยู่ท่ามกลางการสู้รบ
และสูญเสียเพื่อนคู่หูไปในแทบจะทันทีด้วยน้ำมือของฝ่ายที่มีอำนาจรัฐ
เธอรอดไปได้เพราะได้รับการช่วยเหลือจาก'เจ้าอัคนี' ผู้นำแห่งกองกำลังปาลิน
เมื่อได้เข้าไปใช้ชีวิต คลุกคลีกับชาวบ้านและเหล่านักรบในกองกำลังนั้น
เธอก็พบว่าสิ่งที่ผู้คนภายนอกได้รับรู้ผ่านสื่อของรัฐบาลมันบิดเบือนไปจากความเป็นจริงที่เธอได้พบเห็นนี้อย่างสิ้นเชิง

เธอบอกกับตัวเองว่าเธอต้องรอด เพื่อนำข่าวกับความจริงไปบอกคนทั้งโลก
เพื่อช่วยชาวปาลินให้ได้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ตามเจตนารมณ์ของผู้นำแห่งกองกำลัง...เจ้าอัคนีผู้เป็นที่รักของเธอ


.............

ก็อย่างที่บอกแหละค่ะว่า...พล็อตรักระหว่างรบ หรือเรื่องราวความขัดแย้งทางการเมือง
การกดขี่ข่มเหง การคอร์รัปชั่น ฯลฯ ไม่ใช่อะไรแปลกใหม่
เป็นพล็อตที่คุ้นเคยสำหรับคอนิยายทั้งหลายอยู่แล้ว
ในระหว่างที่อ่านจึงอาจจะได้กลิ่นอายของนิยายรุ่นเก่า ๆ ของนักเขียนรุ่นใหญ่ ๆ หลายเรื่องอยู่บ้าง
(อย่างจินตนิยายหลาย ๆ เรื่องของ"ทมยันตี"ภายใต้นามปากกา"ลักษณวดี" เป็นต้น)

แต่นั่นไม่ใช่ข้อเสียนะคะ ส่วนตัวรู้สึกดีด้วยซ้ำ
เหมือนได้อารมณ์และบรรยากาศการอ่านนิยายยุคเก่า ๆ คืนมา โดยไม่ต้องอ่านเรื่องเดิมซ้ำ ๆ

และที่ชื่นชอบและอ่านได้อินก็เป็นสำนวนภาษาคนเขียนที่นุ่ม ๆ ละมุนละไม ลื่นไหล...
อย่างบทพรรณนาธรรมชาติ โดยเฉพาะสภาพทางภูมิศาสตร์ของเมืองสมมติที่คนเขียนสร้างขึ้น...
อ่านแล้วสามารถวาด(มโน)ภาพตามได้เลย
การบรรยายฉากสู้รบ กลยุทธ์ในการหลบหนีและไล่ล่า ก็เป็นไปแบบสมจริงสมจัง ชวนตื่นเต้นเร้าใจดี
ฉากการสูญเสีย พลัดพรากก็ทำเอาสะเทือนใจจนน้ำตาปริ่ม...

บทรักหรือก็หวานพอดิบพอดี ความรักของคู่พระ-นางเกิดจากความใกล้ชิด ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ความรักจึงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาวาบหวาม แต่ก็กลมกล่อม นุ่มนวลชวนให้เคลิบเคลิ้ม
ไม่มีตัวร้ายตัวอิจฉามาก่อกวนให้รำคาญใจ...
ตัวละครเด่น ๆ ก็ไม่เยอะมาก ตัวประกอบทุกตัวช่วยเสริมให้พระเอกดูโดดเด่นเป็นผู้นำอย่างแท้จริง

สรุปเลยแล้วกันค่ะว่านิยายเล่มไม่หนาไม่บาง
หยิบมาอ่านแบบไม่ได้คาดหวังด้วยเป็นนามปากกาไม่คุ้น
แต่อ่าน ๆ ไปแล้วก็อินจนต้องอ่านรวดเดียวจบ จบแล้วต้องรีบบอกต่อ...
ชวนและเชียร์ให้อ่านกันวันนี้ค่ะ









 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2557 12:31:59 น.
Counter : 2986 Pageviews.  

~ รักภักดิ์ใจ / ปริญญ์ & เพรงพรางใจ / พราวพิรุณ : นิยายรักต่างแนวจากค่ายแจ่มใส ~





รักภักดิ์ใจ
ผู้เขียน : ปริญญ์
ผู้พิมพ์ : แจ่มใส LOVE
286 หน้า ราคา 199 บาท


ปกหลัง :


เพราะความปรี๊ดแบบจิตหลุดที่โดนมือดีกรีดรถคู่ใจเป็นทางยาว
ทำให้ ‘แก้วกันตา’ ไม่รู้ว่าเธอกำลังแผลงฤทธิ์เดชต่อหน้า ‘หริทัศว์’
กรรมการผู้จัดการของบริษัทลูกค้าที่เธอดูแลอยู่ซะแล้ว
ในสายตาเธอ... เขาเหมือน ‘พ่อพระ’ มาโปรดที่ทำให้เธอจับคนมือบอนได้
แต่ในสายตาเขา... เธอไม่ดูเป็นนางร้ายขี้วีนเหวี่ยงไปแล้วหรือ
งานนี้เธอก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เจอกันอีกเลย

แต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่ฟังคำขอ เมื่อเธอบังเอิญได้พบกับเขาอีกครั้ง
ที่ ‘บ้านให้ธรรม’ สถานปฏิบัติธรรมที่ครอบครัวของเขาเป็นผู้ก่อตั้ง
ทำให้หลังจากนั้นเธอได้รู้จักตัวตนของเขาในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ใช่ชายหนุ่มมาดนักธุรกิจ
หากแต่เป็นชายหนุ่มที่จิตใจดีงามอุทิศตัวทำงานเพื่อสังคมอย่างแท้จริง

แก้วกันตารู้ดีว่าผู้ชายที่แสนดีเพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้คงไม่แลหญิงสาวที่ต่างจากเขาสุดขั้วอย่างเธอ
แต่!... ใครจะอธิบายได้บ้างว่าท่าทีของเขาตอนนี้นี่มันคืออะไร...
บังคับให้เธอเรียกเขาว่า ‘เฮียเฮี้ยบ’แถมแทนตัวเองว่า ‘เฮีย’ กับเธอได้อย่างสนิทสนมหน้าตาเฉย
และยังพยายามพาตัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเธอทีละนิดอีก!






หลังอ่าน...
โปรยปกหลังจัดซะเต็มขนาดนี้ คงไม่ต้องร่ายเรื่องย่อแล้วกระมัง
เป็นนิยายรักร่วมสมัยที่น่ารักน่าอ่านตามสไตล์ของนิยายแจ่มใสนั่นแหละค่ะ

เล่มนี้เป็นหนึ่งในนิยายชุด 'Hot Guys, Hot Mind หล่อนี้...ที่หัวใจ'
ซึ่งดูจากชื่อชุดก็คงเห็นแล้วว่านิยายชุดนี้เน้นขายตัวพระเอก...
ซึ่งพระเอกของเรื่องนี้เขาก็ขายได้จริง ๆ แหละค่ะ เป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้บริหารระดับสูง
หล่อ รวย ใจดี ใจเย็น แถมยังธรรมะธัมโมถึงขั้นตั้งสถานปฏิบัติธรรม จัดตั้งมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไรอีก...
ว๊าว...อะไรจะเลิศเลอเพอร์เฝ็กต์ขนาดน้าน...

แต่จากคำโปรยปกหลังดูเหมือนจะให้ร้ายนางเอกเวอร์ไปหน่อยนะ
เจ้าหล่อนไม่ได้ร้ายวีนเหวี่ยงโดยไม่มีเหตุมีผลซักหน่อย...

แก้วกันตาเป็นหญิงสาววัยทำงานที่ต้องมาติดต่องานที่บริษัทของหริทัศว์
บังเอิญเกิดเหตุให้เธอต้องจิตหลุดเมื่อรถของเธอถูกพนักงานระดับล่างของบริษัทนั้นขูดจนเป็นรอย
พระเอกลงมาจัดการกับคนมือร้ายด้วยตัวเองจนกลายเป็นจุดสนใจของผู้คน

หลังจากวันนั้นก็ดูเหมือนว่าเธอต้องให้บังเอิญได้เจอเขาอีกเรื่อย ๆ
และยิ่งบังเอิญเวอร์ไปใหญ่เมื่อ"เพื่อนไปวัด"ของพ่อเธอก็เกิดจะเป็นมหาเศรษฐีระดับประเทศอย่างพ่อของเขาอีก

ทั้งคู่ก็เลยได้มีโอกาสทำบุญร่วมชาติ กินข้าวก้นบาตรร่วมขัน
กระชับความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว...เร็วมากเสียด้วย

แต่ก็อย่างที่บอกตอนแรกว่าคอนเซ็ปต์ของนิยายชุดนี้เน้นความ"หล่อที่หัวใจ"ของพระเอก
ดังนั้นเรื่องราวจึงไม่ได้เน้นในเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของคู่พระ-นางเท่าไหร่
(แต่ก็มีอยู่มั่งหรอกน่ะ ก็เป็นนิยายรักอะ ไม่ใช่นิยายธรรมะ! ฮ่า...)
หากแต่มุ่งเน้นที่ปมปัญหาเกี่ยวกับกิจการของสถานปฏิบัติธรรมที่พระเอกดูแลอยู่
ผู้เขียนได้สอดแทรกเรื่องของเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของผู้ที่หากินกับความใจดี หวังบุญของคนอื่น
อย่างที่เราอาจจะเคยพบเห็นอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคที่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กกำลังบูมได้ที่อย่างทุกวันนี้
แล้วเราก็จะได้เห็นวิธีตั้งรับและแก้ปัญหาของคุณพระเอกแบบ...ธรรมะ ๆ

เรื่องนี้ไม่ได้มีตัวร้ายแบบชิงรักหักสวาทอะไรทำนองนั้นก็จริง...
(ความรักของพระเอกนางเอกราบรื่นมากกกก...)
หากแต่มีตัวอิจฉาโผล่มาประมาณพวกหน้าไหว้หลังหลอก ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโกมากกว่า
ซึ่งก็ถือว่าเป็นการให้บทเรียนในเรื่องของการมองคน การคบคนให้กับนางเอกที่แสนจะมองโลกในแง่ดี...

ชอบค่ะ อ่านแล้วก็มีแฝงข้อคิดดี ๆ ให้ได้ฉุกใจ
สำนวนภาษาคนเขียนลื่นไหลอ่านได้รื่นรมย์ดีค่ะ
การดำเนินเรื่องให้โทนสดใสร่าเริงตามบุคลิกของนางเอก กับพระเอกที่ใจดี ใจเย็น
แต่ก็มีมุมกุ๊กกิ๊ก ๆ น่ารัก ๆ เวลาอยู่กับนางเอก

อ้อ...ตอนท้ายเล่มยังมีแถมตอนพิเศษอีกต่างหาก (อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนักเขียนแจ่มใสสินะ)
ซึงตอนพิเศษของเล่มนี้น่าจะเรียกว่าเป็นเรื่องสั้นได้อีกเรื่องหนึ่งเลยแหละ
เพราะเป็นเรื่องของปานชีวา พี่สาวของแก้วกันตา กับพสุธร เพื่อนของหริทัศว์
เป็นประมาณ...รักที่หวนคืน ที่ก็...น่ารักไปอีกแบบ นับว่าเป็นของแถมที่คุ้มค่าอยู่ค่ะ








เพรงพรางใจ
ผู้เขียน : พราวพิรุณ
ผู้พิมพ์ : แจ่มใส LOVE
374 หน้า ราคา 249 บาท

ปกหลัง :


‘กันย์ทิวา’ ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะหนี!...
เพราะหากต้องทนอยู่ในบ้านที่ไร้ซึ่งความสุข ไร้อิสรภาพ
และรอวันถูกบิดาจับแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก
เธอขอเลือกหนีไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า

ทว่าหญิงสาวเหมือนกับหนี ‘เสือ’ ไปปะทะ ‘หมี’…
เปล่า!ไม่ใช่ว่า ‘ธาริน’ เจ้านายใหม่ของเธอ
จะดุร้ายหรือโหดเหี้ยมราวกับหมีหรอก
แต่รูปร่างสูงใหญ่ภายใต้หนวดเครารุงรังต่างหาก
ที่ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าเขาคือ...หมี

พอได้อยู่ร่วมบ้านกัน เอ่อ...สองต่อสอง
เธอก็ค้นพบว่าหมีนั้นซ่อนความเซ็กซี่เอาไว้มากมาย
แถมกลิ่นกายก็ยังหอมสะอาด...
จนไม่อาจจะหยุดลวนลามเขาทางสายตาได้แม้สักนาทีเดียว!

แต่ที่เธอไม่รู้เลยจริงๆ ก็คือเขาเป็น ‘หมีจำศีล’
เพราะมีความลับและอดีตอันเจ็บปวดซุกซ่อนเอาไว้มากมาย
จนต้องทิ้งชีวิต ทิ้งผู้คนมาอยู่ชนบทแบบนี้
และความลับของเขาก็คงจะเป็นความลับไปตลอดกาล
ถ้าเธอไม่จุ้นจ้านอยากรู้แล้วเผลอไปสะกิดแผลเก่าของเขาขึ้นมา!






หลังอ่าน...
(จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ออกจะคนละแนวกับเรื่องข้างบนนะคะ
ไม่ได้อยู่ในชุดเดียวกันด้วย แต่เผอิญได้อ่านในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
หนังสือจากค่ายเดียวกัน เลยหยิบมาบอกต่อในบล็อกเดียวกันซะเลย)


เรื่องนี้ออกแนวดราม่า-โรแมนติกค่ะ พระเอก นางเอกต่างมีปมชีวิต
เบื้องหลัง พื้นฐานทางครอบครัว ตลอดถึงลักษณะนิสัยของทั้งสองคนแตกต่างกันแทบจะคนละขั้ว...
เมื่อมาเจอกัน ก็ดูเหมือนว่าจะเติมเต็มซึ่งกันและกันได้พอดิบพอดี

เล่าเรื่องย่อ ๆ เพิ่มเติมอีกนิด ๆ เอ้า!

กันย์ทิวาหนีการถูกจับคลุมถุงชนโดยผู้เป็นพ่อ
ซึ่งเป็นเจ้าสัวใหญ่ที่เลี้ยงดูลูก ๆ อย่างเข้มงวดและกำหนดกรอบทางเดินให้เสร็จสรรพ

ในระหว่างการหลบหนี เธอถูกล้วงกระเป๋า ซ้ำบังเอิญไปเจอเข้ากับญาติสนิท
เธอจึงตัดสินใจแอบขึ้นกระบะหลังรถคันหนึ่ง แล้วก็พบในเวลาต่อมาว่า
เจ้าของรถคันที่เธอโดยสารมานั้นเป็นเกษตรกรมือใหม่
ที่ใจดีผิดกับรูปร่างหน้าตาที่ใหญ่โตราวกับหมี กับหนวดเครารุงรังรก ๆ นั้นมาก
เธอไว้ใจเขาถึงขั้นขอสมัครเป็นลูกจ้างชั่วคราว และไปพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของเขา

แล้วเธอก็ได้ใช้ประสบการณ์จากการเป็นลูกสาวเจ้าสัวมาช่วยเรื่องงานด้านการตลาดให้กับธาริน..
.อย่างมีประสิทธิภาพราวกับมืออาชีพ
แถมเธอยังช่วยออกแบบการจัดการพื้นที่ในสวนของเขาได้อย่างงดงามลงตัว
จนเขารู้สึกทึ่งแกมชื่นชม และต่อมาก็เริ่มรู้สึกดีใจที่มีเธอโผล่เข้ามาในชีวิต
ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงค่อย ๆ พัฒนา(แบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ)

แต่รักแท้ย่อมมีอุปสรรค...
เมื่อวันหนึ่งเงาะ(หมี)เกิดถอดรูปให้สาว ๆ ได้ยลโฉม ตัวอิจฉาจึงเผยตัว...
เท่านั้นยังไม่พอ วันดีคืนดีอดีตภรรยาก็โผล่มาทำท่าทวงความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อน

...............

อย่างที่บอกตั้งแต่หัวบล็อกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างต่างแนวจากเรื่องข้างบน
เริ่มตั้งแต่ต้นเรื่องมาเลย...เปิดเรื่องได้เอื่อยเฉื่อยมาก ๆ (ขอสารภาพว่าเกือบอ่านไม่รอดบทแรก)
เริ่มเรื่องด้วยการแนะนำตัวพระเอกที่มีปูมอดีตอันขมขื่นแกมเศร้า
จนต้องพาตัวหลีกลี้หนีหน้าสังคมไปอยู่ยังดินแดนที่ตัวเองไม่คุ้นเคย
ซุกตัวอยู่เงียบ ๆ ปล่อยปละเนื้อตัว ผมเผ้า หนวดเครายาวรุงรัง
จนกลายเป็นที่หวั่นเกรงของผู้คนในชุมชนเล็ก ๆ แห่งนั้น
(สาว ๆ เห็นก็แทบเป็นลม...ตามคำบอกเล่าของผู้เขียน...ขนาดนั้น!)

เรื่องราวมากระเตื้องขึ้นนิดนึง ตอนที่ตัดมาเปิดตัวนางเอก...
แต่ก็นั่นแหละ นางเอกก็มีปมดราม่าออกแนวน้ำเน่า(เกือบจะ)พอ ๆ กัน
เห็นพี่ ๆ ถูกบังคับ จับคลุมถุงชนมาแล้ว ทางรอดเดียวของเธอคือต้องหนีออกจากบ้านเท่านั้น

และแน่นอน...นางเอกหนีออกจากบ้านต้องถูกล้วงกระเป๋า...เงินหมด
แล้วจังหวะก็ต้องพอดิบพอดี...พระเอกขับรถมาจอดแถว ๆ นั้น นางเอกก็แอบขึ้นรถมา
.... เป็นไปตามขนบนิยายไทยเป๊ะ ๆ

แต่ที่บอกว่าเรื่องราวมันเริ่มกระเตื้องขึ้นก็เพราะตัวตนของพระเอกที่เรารับรู้ผ่านนางเอกมันเริ่มเปลี่ยนแปลกไป
แม้จะยังทื่อมะลื่อ ซื่อ ๆ เงียบ ๆ เหมือนเดิม แต่ก็จะมีมุมอบอุ่นนิด ๆ เซ็กซี่หน่อย ๆ เพิ่มเข้ามา...

โดยเฉพาะบทบรรยายถึงกลิ่นกายที่หอมจนนางเอกรู้สึกวาบหวิวหวั่นไหวยามเข้าใกล้นั่น
จากความู้สึกรำคาญความทึ่มทื่อของพระเอกตงิด ๆ ก็เริ่มจะคลายไปล่ะ เปลี่ยนมุมมองใหม่
ได้เห็นความหล่อ ความสะอาดภายใต้รูปลักษณ์หมีป่าหน้าตารกหนวดขึ้นมามั่ง

แต่ก็นั่นแหละ...ก็ยังไม่วายรู้สึกว่านางเอกออกแนวเวิ่นเว้อมากไปหน่อยไหม...
คือติดแนวนิยายสมัยใหม่มากไปตรงที่ให้นางเอกต้องแสดงอาการออกนอกหน้าซะดูเวอร์
รำพึงรำพันถึงความเซ็กซี่ของพระเอกซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่นั่นแล้ว

..........

แต่นี่อาจจะเป็นความสมดุลของเรื่องราวที่ผู้เขียนตั้งใจก็เป็นได้
ด้วยเขาวางบุคลิกพระเอกให้เป็นคนทื่อ ๆ เงียบ ๆ เป็นสุภาพบุรุษ ยอมคน(จนเกือบจะกลายเป็นหงอ) แถมปากหนัก ไม่ช่างพูด
เขาจึงต้องสร้างนางเอกให้มาปกป้อง(ผลประโยชน์ของ)พระเอกด้วยบุคลิกลุย ๆ ฉลาดทันคนและไม่ยอมใคร
แล้วก็ช่างซักช่างถาม อยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกอย่าง

โดยรวมแล้วพล็อตเอย ปมและประเด็นของเรื่องเอย ...ดูน่าสนใจนะคะ โดยเฉพาะปมอดีตของพระเอกนั่น
เสียแต่การเล่าเรื่องมันค่อนข้างเรื่อยเปื่อยเอื่อยอืดไปนี๊ดดดดด...นึง
โดยเฉพาะตอนต้น ๆ เรื่อง กว่าจะมารู้สึกสนุกชวนตามติดก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนเรื่อง

สำนวนภาษาคนเขียนก็โอเคเลยค่ะ อ่านได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
เพียงแต่มันไม่มีจุดพีคให้ตื่นเต้นเร้าใจเท่าที่ควรเท่านั้นค่ะ
ส่วนตัวจึงรู้สึกเฉย ๆ หลังอ่านจบ ไม่ถึงกับชื่นชอบจนอยากเชียร์ให้อ่านตาม
แต่ก็ไม่ถึงกับเสียดายตังค์เสียดายเวลาที่ได้อ่าน...
ถือว่าเป็นการลองของใหม่ที่ไม่เสียหลายค่ะ











 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 12:02:29 น.
Counter : 3546 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.