'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~(อ่านตามแม่ # ๓) > > สามคม: นิยายแนวเชือดเฉือนอารมณ์โดย กฤษณา อโศกสิน ~





สามคม
ผู้เขียน : กฤษณา อโศกสิน
สนพ.โชคชัยเทเวศร์(พิมพ์ครั้งแรก ๒๕๓๔)
๒ เล่มจบ รวม ๗๗๖ หน้า(ราคาเล่มละ ๒๗๕ บาท)



คำนำผู้เขียน :

เมื่อพ่อแม่เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ที่รับผิดชอบต่อลูก
จำนวนพลเมืองดีจะเพิ่มขึ้นอีกมากต่อมาก






เรื่องย่อ :(ย่อเองแบบยาวววว....)

ปืนกับปลายเป็นพี่น้องสองชายที่นิสัยใจคอค่อนข้างแตกต่างกันลิบลับ
แม้สายการทำงานจะใกล้เคียงกัน ปืนเป็นนักหนังสือพิมพ์ ในขณะที่ปลายเป็นนักโฆษณา

ปืนเป็นเพลย์บอยหนุ่มใหญ่วัยใกล้สี่สิบที่มีเสน่ห์แพรวพราย
ส่วนปลายเป็นน้องชายต่างมารดาที่ปืนส่งเสียให้เรียนจนจบ
ซึ่งปลายก็สำนึกในบุญคุณข้อนี้จนต้องกลายเป็นลูกไล่กลาย ๆ ให้กับพี่ชาย
รวมทั้งต้องรับภาระดูแลหลานสาววัยห้าขวบ - เด็กหญิงปิ้ม ที่เกิดขึ้นโดยความพลาดพลั้งบังเอิญของปืน
จากน้ำเชื่อม เด็กสาววัย ๑๖ อดีตพนักงานรับโทรศัพท์ของบริษัท

ปืนให้เด็กสาวออกจากงาน ซื้อบ้านให้อยู่และให้ค่าเลี้ยงดูลูกเป็นรายเดือน
โดยเขามอบหมายภาระหน้าที่การนำเงินไปให้ การไปดูแลลูกสาวให้กับปลายทั้งหมด
อ้างว่าเขาไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างของน้ำเชื่อมจนเกินไป

น้ำเชื่อมเป็นเด็กสาวอายุน้อยที่การศึกษาไม่สูงนัก แต่เธอมีความทะเยอทะยานสูง
เมื่อรู้สึกว่าปืนคงไม่ยกย่องเธอ รับเป็นภรรยาแบบออกหน้าออกตาแน่ ๆ
เธอก็พยายามหาทางของตัวเอง โดยการไปสมัครงานกับเพรียว
ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทคนหนึ่งของปืน...

เพรียวเป็นสาวใหญ่ไฮโซที่ไต่เต้ามาจากเลขานุการจนกลายมาเป็นภรรยาของเรืองนาม
นักธุรกิจม่ายสูงวัยผู้ร่ำรวย
เรืองนามเคร่งเครียดกับธุรกิจและเคยประสบอุบัติเหตุจนเสื่อมสมรรถภาพ...
นั่นทำให้เพรียว หญิงสาววัยสามสิบรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ
เธอคบหาสนิทกับปืน เพราะหลงในเสน่ห์ของเขาและปืนเองก็ดูเหมือนจะรู้อกรู้ใจเธอดีกว่าใคร

แต่่ทันทีที่ปืนได้รู้จักกับลินิน...ลูกสาวคนสวยของนายจเร เพื่อนนักธุรกิจของเรืองนาม
ดูเหมือนว่าทั้งสายตาสายใจของปืนจะจับจ้องแต่ลินินเท่านั้น
ก่อให้เกิดความริษยาขึ้นในใจเพรียวอย่างมิดเม้น
ทำให้เธอยอมรับน้ำเชื่อมไว้ให้ทำงานด้วย เพื่อใช้หล่อนเป็นหมากในการกีดกันความรักของปืนต่อผู้หญิงคนอื่น





ลินิน เป็นลูกสาวคนเดียวของนายจเร เธอจึงเป็นความหวังทั้งหมดของเขา
เขาจะต้องคัดเลือกคู่ครองที่ดีที่เหมาะสมที่สุดให้กับเธอ...
ในขณะที่เขาพยายามจะพาลูกสาวเข้าสังคมเพื่อได้พบปะผู้คนในแวดวงไฮโซ
ลินินกลับชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
เธอมักจะไปช่วยเพื่อนที่ทำงานในมูลนิธิเด็กกำพร้าใกล้บ้าน

เมื่อเธอได้พบกับปืน เธอก็รู้สึกหวั่นไหวไปกับเสน่ห์อันแพรวพราวของเขา
จนจเรต้องพยายามกีดกัน เพราะเขารู้สึกว่าปืน'คล่อง'เกินไปสำหรับลูกสาวเขา
ยิ่งเมื่อเพรียวบอกกับเขาว่าปืนแอบมีลูกและเมียเก็บซุกซ่อนไว้
เขาจึงขอตัวน้ำเชื่อมกับลูกให้มาอยู่่บ้าน เพื่อให้ลูกสาวได้เห็นความเลวของปืนหนึ่ง,
...และเพื่อความสะใจที่ได้"สั่งสอน"ปืนเสียบ้าง...อีกหนึ่ง ซึ่งก็สมดังความตั้งใจของเพรียว

ลินินเจ็บลึก ๆ อยู่ในใจเมื่อรู้เรื่อง แต่เธอก็มีสติดีพอที่จะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา
เธอต้อนรับน้ำเชื่อมกับลูกอย่างดี จนเด็กหญิงปิ้มเริ่มติดเธอ....

ในขณะเดียวกัน ปลายก็กำลังตามหาตัวสองแม่ลูกให้ควั่กด้วยความเป็นห่วงหลานสาว
ส่วนปีนก็เอาแต่ก่นด่าน้ำเชื่อม ที่ทำเหมือนจะใช้ลูกเป็นเครื่องมือเรียกร้องความสนใจจากเขา

แต่ในที่สุด ลินินก็ตัดสินใจบอกปลายเรื่องที่น้ำเชื่อมกับลูกมาอยู่ที่บ้านเธอ
ทั้ง ๆ ที่พ่อของเธอไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เธอไปเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องนั้น
ปลายดีใจมาก เขารับปากที่จะยังไม่บอกปืน แต่ขอโอกาสไปเยี่ยมหลาน...
จากจุดนั้นทำให้ปลายมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับลินิน แล้วเขาก็ตกหลุมรักเธอ
แม้ว่าพี่ชายเขาจะเคยพูดในเชิงกันเขาไว้แล้ว...





ลินินเองก็สังเกตเห็นความแตกต่างของสองพี่น้อง...
เธอรู้สึกสนิทและสบายใจมากกว่าเมื่ออยู่กับปลาย
แต่เธอก็ไม่รู้สึกวาบหวิวหวั่นไหวเหมือนตอนที่อยู่ใกล้ปืน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ลินินตัดสินใจบอกปลายเรื่องน้ำเชื่อมก็คือท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของพ่อเธอ...
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พ่อกับเธอคิดไม่เหมือนกัน และพ่อไม่เข้าใจเธอ
ที่สำคัญ...เธอเริ่มจับสังเกตว่านายจเรแอบมีความสัมพันธ์กับน้ำเชื่อม
ลินินคิดถึงการแยกบ้านกับพ่อเพราะสงสารแม่...
เธอจึงขอให้ปลายช่วยดูเรื่องบ้านจัดสรรชานเมือง ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ฝ่ายปืนที่เริ่มมองเห็นท่าทีเมินหมางของลินิน
กับการกีดกันอย่างออกนอกหน้าของพ่อของเธอ ก็ทำให้เขาถึงกับตรอมใจ
ท่าทางเขาเคร่งเครียด ปลายจึงตัดสินใจบอกเขาเรื่องน้ำเชื่อมกับลูกว่าอาศัยอยู่กับลินิน
เมื่อปืนไปหาลูก ลินินก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเขา
ที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับเธออีกครั้ง...

เมื่อปืนได้รู้ว่าปลายเองก็แอบรักลินิน และคอยเทียวมาใกล้ชิดเธออยู่เสมอ
เขาก็โกรธมากจนทะเลาะกันใหญ่โต และลำเลิกบุญคุณกับปลาย
ทำให้ปลายตัดสินใจออกจากบ้าน แยกไปอยู่ตามลำพัง...
เพราะเขาตัดสินใจแล้วว่า เขายินดีตอบแทนบุญคุณพี่ชายทุกอย่าง
แต่ในเรื่องของความรัก...เขาขอยกเว้น...

มาตามลุ้นกันค่ะว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องรักสามเส้าระหว่างพี่น้องสองชาย
กับหนึ่งสาวจะลงเอยอย่างไร...






หลังอ่าน...
เล่าเรื่องย่อเสียยาวเหยียด แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนจะยังไม่จุใจคนอ่านคนเล่าต่อเลยค่ะ
นิยายเรื่องนี้สำหรับตัวเองถือว่าเป็นม้านอกสายตา...ด้วยเห็นมันวางอยู่บนชั้นนานนับสิบปีเห็นจะได้
อาจจะด้วยชื่อเรื่อง ชื่อผู้ประพันธ์(ที่รับประกันความหนักหน่วง),
ภาพปก(ที่หลังจากอ่านจบแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าภาพปกมันเกี่ยวกับเนื้อหานิยายยังไงเนี่ย...
ต้องขออภัยที่ถ่ายภาพปกได้ห่วยมาก ๆ แหะ ๆ หาในเน็ตไม่มีเลย).
ความหนาของหนังสือ...,และ ฯลฯ ที่ทำให้มองข้ามนิยายเรื่องนี้ไปเสียนาน...

พอเห็นแม่เขาก้มหน้าก้มตาอ่านอย่างเพลิดเพลิน จนเกินเวลาที่ควรจะลุกไปทำกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ
ก็เลยคว้ามาอ่านตาม...ได้ผลค่ะ อ่านแล้วติดหนึบจนวาง(แทบ)ไม่ลง ถ้าไม่จบบท...
เห็นได้จากเรื่องย่อนั่นละ
ถ้าเล่ายาว ๆ แบบนี้แสดงว่าคนอ่านอินและฟินสุด ๆ
ประมาณว่าอยากให้คนอื่นได้ร่วมฟินด้วยยังไงยังงั้น

เรื่องราวก็ตามที่เล่าไปแล้ว...
เรื่องของโครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ตลอดถึงสำนวนภาษาที่ใช้...
สำหรับผลงานของนักเขียนชั้นครูแล้วล่ะก็ มิพักต้องพูดถึงเลยค่ะ...
เฉียบและคมสมชื่อนิยายจริง ๆ

ขอหยิบยกตอนที่ชอบ ๆ มาให้อ่านแล้วอินร่วมกันดีกว่าค่ะ ...

เปิดเรื่องมาด้วยความคิดคำนึงของเพรียว...หลังงานเลี้ยงของผู้คนระดับไฮโซ
'...แม้ตัวหล่อนซึ่งมักจะมีเปลวเพลิงเรืองระยับในอารมณ์...
ก็ยังให้นึกหน่ายขึ้นมาอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ'


ส่วนสามีหล่อน เรืองนามนั่นเล่า...

'หล่อนสังเกตเห็นว่าลึก ๆ แล้ว...เขาเหนื่อย...
มิได้เป็นเหล็กเพชรแกร่งกร้าวกระไรนักหนาดอก...ก็มนุษย์นั่นแล้ว
ขณะดื่มความสุขความเจริญ ก็จิบความทุกข์ความกังวลไปพร้อมกัน'


และเมื่อเขาพูดถึงปืน...นักหนังสือพิมพ์หนุ่ม...

'คนเรา....มีปากกาในมือเสียอย่างจะพลิกให้มันคว่ำมันหงายก็ได้นี่...วันนี้ว่าดี พรุ่งนี้ว่าชั่วก็ได้...'

เพรียวประทับใจในตัวปืน...หล่อนชอบ 'ผู้ชายเก๋แบบโก๋ๆ'

............

ลินินเพิ่งจบการศึกษากลับมาจากฝรั่งเศส...หล่อนรู้ตัวว่ายังซื่อนัก...
พ่อจึงเห็นว่าเบื้องต้นเขาต้องเป็นผู้ควบคุมและฝึกปรือหล่อน...

"พ่ออยากให้ลูก'สู้'กับคนสมัยใหม่ได้...เพราะงั้น พ่อเลยต้องพยายามหาภูมิคุ้มกันให้ลูกไงล่ะ"
"ได้แก่ผู้ชายชื่อปืน"
"เราเป็นปลอกคอให้กันและกันมานาน เขาอาศัยพ่อ พ่ออาศัยเขา
ปากกา...มันบิดได้นี่ลูก คนใช้ปากกาเป็นจะรู้วิธีบิด...
ปากกานี่ถ้าบิดเป็น มันลื่นยิ่งกว่าลูกปืนประตูเลื่อนอีกนา รู้ไว้เถอะ"


.............

ตอนที่ปืนกับปลายคุยกันเรื่องของเด็กหญิงปิ้ม...ลูกสาวที่เกิดจากความพลาดพลั้งของปืน...
ปลายชวนพี่ชายให้พาลูกสาวไปเที่ยวบ้าง...

"...พี่ไม่ต้องการเป็นเหยื่อให้อีนั่นมันบีบ ถ้าเราแสดงว่ารักเด็ก ต้องการเด็กเท่าไหร่ มันก็สาแก่ใจเท่านั้น"
"แล้วพี่จะเอาความรักนั้นไปซ่อนไว้ไหน หรือฝากใครไว้ ...
เด็กมันต้องการของสิ่งนี้ด่วนขึ้นมาแล้วนะพี่ ไม่ควรกักไว้อีกแล้ว"


ปืนอึ้ง...แต่ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้า

...........

ความคิดคำนึงของปลายตอนที่พาเด็ก ๆ จากมูลนิธิเด็กกำพร้าไปเที่ยวทะเล...
'...อาหารกายของมนุษย์ บางทีก็ยังสำคัญน้อยกว่าอาหารใจด้วยซ้ำ เขาคิดแล้วสลดวูบขึ้นมา...
ด้วยใจนี้คือธงชัยประจำตัว จำเป็นต้องชักขึ้นสู่ยอดเสา ให้ได้โบกสะบัดอย่างงดงามสง่าในกระแสลม
ใจใครก็ตามหากถูกพับเก็บไว้ในลิ้นชัก สาบสางด้วยกลิ่นอับ เพราะไม่เคยได้รับการซักรีดให้สะอาด
มิเคยมีการชักขึ้นเชิดชู ธงนั้นย่อมหมดสิ้นซึ่งโชคและชัย'


...........

กับห้วงคำนึงของจิตรา...(แม่ของลินิน) กับภาพเดียวกันที่มองเห็น...

'เห็นเด็ก ๆ แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า แท้จริงแล้ว เธอเหมือนต้นไม้แก่ ๆ ใกล้ถูกตัดโค่นแปรรูปมากกว่า
วัฎจักรนี้ไม่มีผู้เลี่ยงได้ เช่นเดียวกับทุกสังขารในโลก
แต่ตาดำ ๆ ตรงหน้าเธอนี่สิ...ที่ยังต้องรับปุ๋ย รับการพรวนดินรดน้ำ
หากปุ๋ยดี ดินดี น้ำดี เขาก็จะเติบใหญ่ขึ้น เป็นต้นไม้แข็งแรง ประกอบด้วยกิ่งก้าน ดอกใบสวยงาม....'


............

จริง ๆ แล้วยังมีอีกเยอะค่ะ...เพราะนิยายเขาเฉียบคมจนบาดใจ...และเจ็บปวด

ช่วงท้าย ๆ มีบทสะเทือนใจที่ค่อนข้างบีบคั้นอารมณ์ เรียกน้ำตาให้ร่วงเผาะ ๆ ได้เลยทีเดียว
อ่านแล้วรู้สึกทั้งโกรธทั้งหดหู่ ทั้งสงสารทั้งสะใจกับผลกรรมที่ตัวละครแต่ละตัวได้รับ...

เป็นนิยายดราม่าครบรสที่คลาสสิคมาก...
หนังสือเล่มนี้พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๔...
แต่เนื้อหาเรื่องราวในเรื่องยังคงร่วมสมัย ไม่ตกยุคตกขอบ
หลากหลายเรื่องราวเรายังคงพบเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน...

แม้วันเวลาจะล่วงเลยมากว่ายี่สิบปี เทคโนโลยีจะก้าวล้ำนำโลกไปถึงไหน ๆ
แต่เรื่องของ"ใจ"มนุษย์...ยังต้องอาศัยการฝึกและฝนให้"คม"อยู่เสมอ
เพื่อจะได้แทงทะลุเปือกตมแห่งกิเลสที่ห่อหุ้มจิตใจของตนออกมา

ชวนอ่านอย่างแรงค่ะ!












 

Create Date : 30 สิงหาคม 2556    
Last Update : 30 สิงหาคม 2556 11:48:04 น.
Counter : 4768 Pageviews.  

~(อ่านตามแม่ # ๒) > > ความฝันที่ถูกทำลาย : ดราม่าจัดหนัก โดย ม.มธุการี ~





ความฝันที่ถูกทำลาย
ผู้เขียน: ม.มธุการี
สนพ.ศิลปาบรรณาคาร
(พิมพ์ครั้งแรก มี.ค.๒๕๓๔/
ปกแข็ง ๒ เล่มจบ)


เรื่องย่อ (ย่อเอง) :



ตินทรีย์ หญิงสาววัยยี่สิบเศษ เพิ่งสำเร็จการศึกษาด้านวารสารศาสตร์
เธอใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน แต่แม่ของเธอไม่สนับสนุน...
และเธอก็เชื่อฟังตามใจแม่มาโดยตลอด

แม่ของเธอ-ยุพรา เป็นม่ายสาวใหญ่วัยสี่สิบต้น
เธอเลี้ยงดูตินทรีย์มาอย่างดีชนิดริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
ตินทรีย์เป็นเสมือนตุ๊กตาตัวหนึ่งสำหรับเธอ ที่ถูกเธอปั้นแต่งให้ได้อย่างใจ
ยุพราทำธุรกิจด้านแฟชั่น และเธอก็ต้องการให้ลูกสาวมาช่วยเธอดำเนินงานด้านนี้
มากกว่าจะไปเป็นนักเขียนไส้แห้ง

แล้ววันหนึ่ง ทรัชก็เดินเข้ามาในชีวิตของสองแม่ลูก...
ทรัชเป็นพ่อม่ายหนุ่มใหญ่ เขามีอดีตที่เจ็บปวด ทำให้เขาไม่คิดจะแต่งงานใหม่
แต่เขาก็รู้สึกสะดุดตาในความสวย ใสบริสุทธิ์ของตินทรีย์
ในขณะที่ยุพราก็เกิดพึงใจในตัวทรัชทันทีที่ได้พบหน้า
..........

เมื่อยุพราเห็นว่าทรัชสนใจในตัวตินทรีย์ เธอก็เกิดความหึงหวงและริษยาในตัวลูกสาว...
เธอจึงตัดสินใจยกตินทรีย์ให้นายเผด็จ... ชายแก่คราวพ่อที่เคยมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของทรัช
(ที่หลังจากแม่ของทรัชเสียชีวิต พวกเขาต้องถึงขั้นเป็นคดีความกันเรื่องมรดก)

ตินทรีย์เกือบจะพลาดท่าเสียทีนายเผด็จ...แต่โชคดีที่ทรัชกับกังสดาล เพื่อนรุ่น้องของแม่ไปช่วยเธอไว้ทัน

กังสดาลนั้น รู้จักนายเผด็จดี และรู้อีกว่ายุพรารับเงินมาจากนายเผด็จแล้ว...
เธอตัดสินใจบอกตินทรีย์เรื่องนี้ เพื่อให้ระวังตัวไม่ต้องตกเป็นสินค้าให้แม่"ขาย"ได้อีก...
ตินทรีย์เสียใจมาก เมื่อพบหน้ายุพราจึงประชดให้ว่าเธอไปนอนที่บ้านทรัชมา...
เพราะเธอรู้ว่าแม่กำลังหลงรักทรัชอยู่

ยุพราโกรธมาก จึงบอกความจริงกับตินทรีย์ว่า...เธอไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิด...
การที่เธอเลี้ยงดูตินทรีย์มาอย่างดี เธอย่อมมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้...
แม้กระทั่ง"ขาย"หล่อนให้คนที่เธอเห็นว่าดี...
นั่นทำให้ตินทรีย์รู้สึกเคว้งคว้าง เพราะนึกไม่ถึงกับความจริงข้อนี้

เธอตัดสินใจออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับยาย มารดาของยุพราซึ่งรักเธออย่างจริงใจ
และไปทำงานในโรงพิมพ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่สนับสนุนงานเขียนของเธอ...

กัลป์เป็นรุ่นพี่ที่เรียนด้านวารสารฯ เช่นเดียวกับตินทรีย์เป็นบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งนั้น
เขาแสดงความสนใจตินทรีย์อย่างจริงจัง จนทรัชรู้สึกหึงหวง

เขาจึงขอตินทรีย์แต่งงานด้วยความเห็นชอบจากยาย...
เมื่อตินทรีย์ตกลงใจแต่งงานกับทรัช...
สายสัมพันธ์ฉันแม่ลูกระหว่างเธอกับยุพราก็ขาดสะบั้นลงโดยปริยาย

หลังแต่งงานตินทรีย์มีความสุขที่อบอุ่นอีกครั้งจากการดูแลของทรัช...
แต่ความสุขของเธอช่างแสนสั้น เมื่อธุรกิจของทรัชเริ่มซวดเซ
โดยที่เธอไม่ได้มีส่วนร่วมรับรู้ปัญหาต่าง ๆ ของเขาเลยในตอนต้น

...ต่อเมื่อผลร้ายของมันตกกระทบเธอเข้าเต็ม ๆ นั่นแหละ...
เธอถึงได้รับรู้ถึงคำว่า...ความฝันที่ถูกทำลาย...มีความหมายเช่นไร...
(เช่นเดียวกับความฝันของยุพรา ทรัช และอีกหลายคนในเรื่อง...
ที่ต่างแตกสลาย ยับเยินไปพร้อมกัน...)








เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อ่านตามแม่ค่ะ
หลังอ่าน...
เรื่องย่อยาวเหยียดข้างบนนั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของนิยายชีวิต ดราม่าหนักหน่วงเล่มนี้
ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์ของนักเขียนท่านนี้ที่แฟน ๆ ต่างรู้จักกันดี

ตามเรื่องย่อคงเห็นแล้วว่าเรื่องราวชวนเครียดขนาดไหน...
ถ้าได้อ่านเนื้อเรื่องเต็ม ๆ รับประกันความเครียดหนักกว่านี้อีก...หลายเท่าค่ะ

นิยายเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพผู้คนในสังคมยุคสมัยหนึ่ง
ที่ต่างโหยหาความสุข ความสบายให้กับชีวิต
โดยแยกไม่ออกระหว่างความสุขที่ได้มาจากความรักความผูกพัน...
กับความสุขฉาบฉวยที่ได้จากการครอบครองวัตถุและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย

ซึ่ง...ถึงแม้วันเวลาจะล่วงเลยมากว่ายี่สิบปี แต่ดูเหมือนว่าสภาพสังคม วิถีชีวิต วิธีคิด
กับค่านิยมของผู้คนจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่เลย...
กลับจะเพิ่มความบิดเบี้ยวมากขึ้น ๆ เสียด้วยซ้ำ

ในนิยายเรื่องนี้จะมีพ่อม่าย แม่ม่ายเต็มไปหมด

นับตั้งแต่ยุพรา...แม่ม่ายสาวใหญ่ที่เมื่อรักใคร่สิ่งใดหรือคนไหนก็ไขว่คว้า
เพื่อจะครอบครองให้ได้ แม้จะต้องยื้อแย่ง หรือกระทั่งเหยียบย่ำชีวิตอื่นเธอก็จะทำ...
(คนนี้ออกแนวจิตหน่อย ๆ )

ทรัช(พระเอก)...พ่อม่ายหนุ่มผู้ชมชอบการเอาชนะ และมักใช้สมองมากกว่าหัวใจ
หากเขาคิดจะแต่งงานกับใครสักคน เขาต้องคิดคำนวณผลได้ผลเสียจนถี่ถ้วนแล้วจึงตัดสินใจ...

กังสดาล...นักเขียนหมดไฟ แม่ม่ายสาวผู้เข็ดหลาบกับความสัมพันธ์
จนละเลยตัวเองและลูกสาวคนเดียว...

นายเผด็จ...อดีตสามีของกังสดาลและอดีตพ่อเลี้ยงของทรัช...
ในพจนานุกรมชีวิตของเขาไม่เคยบรรจุคำว่า"มนุษยธรรม"...
เขามีลูกสาวกับกังสดาลหนึ่งคน แต่กังสดาลให้คำจำกัดความเขาไว้ว่า...
เขาเป็น... "หนึ่งในสัตว์ตัวผู้หลาย ๆ ประเภทที่ไม่เคยดูแลและจำลูกตัวเองได้"

ฯลฯ

บอกได้เลยว่านิยายเรื่องนี้อาจจะไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง...
แต่เราคนอ่านจะเอาใจช่วยนางเอก และรู้สึกยินดี ดีใจไปกับทางที่เธอเลือก...
อย่างที่แม่ของจขบ.กับตัวจขบ.เองรู้สึกพ้องกันค่ะ









 

Create Date : 20 สิงหาคม 2556    
Last Update : 20 สิงหาคม 2556 10:48:54 น.
Counter : 3800 Pageviews.  

~(อ่านตามแม่) > > ทัณฑ์กามเทพ : นิยายพาฝันสุดคลาสสิค โดย ชูวงศ์ ฉายะจินดา ~



ก่อนอื่น...ขออนุญาตเมาธ์มอยนิด ๆ
อยากเขียนบล็อกวันแม่ แต่ก็มัวแต่ยุ่ง ๆ กับภารกิจนั่นนี่โน่น...
จนเวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้...

บอกกับตัวเองว่า...แท้จริงแล้วความรักของแม่นั้นเป็นอกาลิโก...
คือไม่ประกอบด้วยกาลและเวลา...ทุกวันทุกเวลาเป็นวันของแม่ได้เสมอ

แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า โลกต้องมีสมมติที่มนุษย์ร่วมกันบัญญัติขึ้นมา
เพื่อกำหนดเป็นจุดร่วม เป็นสายสัมพันธ์อันงดงามที่จะโยงใย
ให้มนุษย์ได้ใส่ใจในสรรพสิ่งรอบข้างอย่างใกล้ชิด...
ให้มนุษย์ได้เรียนรู้ ได้ตระหนักถึงจุดกำเนิดและรากเหง้าของตนเอง...

และมองเห็นคุณค่าของความรัก ความสุข ความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลใด ๆ
ที่เราได้รับมาเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง หล่อหลอมชีวิตให้เป็นตัวเป็นตน เป็นรูปเป็นร่าง
ดำเนินตามร่องตามรอย นับแต่น้อยจนเติบใหญ่...
จากทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวทั้งหกทิศ
ไม่ว่าจะเป็นธาตุธรรมชาติทั้งหลาย เหล่าสัตว์ร่วมโลกน้อยใหญ่...
หรือจากมนุษย์ด้วยกันเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...จากแม่ ผู้เป็นประหนึ่งทิศเบื้องบนแห่งเรา

วันแม่จึงนับเป็นวันพิเศษสุด ๆ วันหนึ่งแห่งปี...

ขอเขียนถึงแม่ นางเอกตลอดกาลในนิยายชีวิตของเราหน่อย
แม่ของฉันเป็นนักอ่าน...แม้ว่าแม่จะได้เรียนหนังสือจบแค่ชั้นป.สี่
แต่แม่ก็ขวนขวายหาความรู้ใส่ตัวเท่าที่โอกาสจะอำนวย

และนั่นก็กลายเป็นเชื้อพันธุ์อันดีให้กับพวกเราในรุ่นลูก ๆ

ฉันและพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนมีนิสัยรักการอ่านแบบเข้มข้นมาก ๆ
ทุกซอกทุกมุมในบ้านของพวกเราจะต้องมีหนังสือหลากหลายประเภท
หลากหลายเนื้อหาวางอยู่เสมอ

แล้วมันก็สืบทอดลงไปสู่บรรดาลูก ๆ หลาน ๆ ของพวกเรา...
และเชื่อว่า เมื่อพวกเขามีครอบครัว มีลูก เมล็ดพันธุ์อันนี้ก็จะถูกปลูกฝังลงในสายเลือดของพวกเขา...
ไม่มากก็น้อย

เมาธ์มอยมากไปแล้ว...
บล็อกนี้ขอเล่าถึงนิยายรักเล่มหนึ่งที่แม่เพิ่งอ่านจบไปค่ะ...









ทัณฑ์กามเทพ
ผู้เขียน: ชูวงศ์ ฉายะจินดา
สานักพิมพ์: รวมสาส์น
593 หน้า ราคา 200 บาท


จากสำนักพิมพ์:



ธนูแห่งกามเทพ ผู้ดลบันดาลความรัก...ชักนำให้มนุษย์รักกัน
ทั้งยังสามารถแทงทะลุหัวใจ ฝากรอยแผลเอาไว้ให้เจ็บปวดรวดร้าว
ราวถูกโทษทัณฑ์อันหนักหน่วง... ดังความรักของ รชฏ และ อโนมา
ที่ถูกกามเทพลงทัณฑ์เพราะความหยิ่งทะนงและทิฐิบังตา
นำพาให้อคติมาบิดเบือนหัวใจ ทำให้ความรักกลับกลายเป็นความเกลียดชัง
ภายใต้เปลือกนอกที่ฉาบไว้อย่างแน่นหนา
ใครเลยจะรู้ว่า...ในเนื้อแท้แห่งหัวใจนั้นมีความรักอันบริสุทธิ์ซ่อนอยู่
กว่าเปลือกปลอมจะกะเทาะออกมา กามเทพต้องใช้บทลงทัณฑ์
เป็นบทเรียนรักสอน อโนมา และ รชฏ ให้กบฏต่ออคติ แต่ภักดีต่อหัวใจ
มาคอยลุ้นเอาใจช่วยว่าเส้นทางสายรักที่ซ่อนหนามไว้ใต้กลีบกุหลาบ
จะสิ้นสุดที่ใด ท้ายที่สุดแห่งโทษทัณฑ์...จะพบของขวัญเป็นความรักหรือไม่







เรื่องย่อแบบยาว...

มด-อโนมา ธิดาสาวของนายทหารนอกราชการคนหนึ่ง แม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ
พ่อของเธอได้ ผิว อดีตต้นห้องของภรรยาเป็นเมียอีกคน ผิวมีลูกชายสองคนคือ พงษ์เทพ และ เผ่าไท
และมีลูกสาวบิดาเดียวกันกับอโนมา ๑ คนคือหนูแมว - ผาณิต
อโนมารักน้องชายหญิงต่างมารดาอย่างจริงใจ
และแม่ผิว ผู้ซึ่งเลี้ยงอโนมามาตั้งแต่เด็กก็รักใคร่อโนมาอย่างจริงใจเช่นกัน

รชฎ อมรวัติมีศักดิ์เป็นหลานชายของมารดาอโนมา เมื่อพ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตอย่างกระทันหัน
พ่อของอโนมาจึงรับอุปการะรชฎ ให้เข้ามาอยู่ในบ้าน ส่งเสียให้เรียนจนจบมหาวิทยาลัย
ทั้งยังให้ทำงานในธุรกิจของครอบครัว แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการ

ตอนที่รชฏย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนั้น เขาเป็นเด็กหนุ่มวัย ๑๙
ส่วนอโนมายังเป็นเพียงเด็กหญิงวัย ๑๓...
เธอมีเพื่อนสนิทที่มีบ้านติดกันคนหนึ่งคือมยุเรศ ซึ่งในตอนนั้นเติบโตเป็นเด็กสาวรุ่น ๆ แล้ว
มยุเรศออกอาการปลื้มรชฏอย่างออกนอกหน้า
ในขณะที่อโนมาค่อนข้างวางตัวเป็นคุณหนูที่หยิ่่งและเชิด

ในเวลาต่อมา เมื่อต่างเรียนจบ มยุเรศกับรชฏก็กลายเป็นคู่รักที่ใคร ๆ ต่างคาดหมายงานวิวาห์ของพวกเขา
ส่วนอโนมาก็ทำตัวเป็นสาวไฮโซ คบ ๆ เลิก ๆ กับผู้ชายหลายคน...
แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนจะมีคนที่มาแรงกว่าใคร คือเจษฎา ชายหนุ่มท่าทางโก้หรูและร่ำรวย

ในงานวันเกิดครบรอบ ๒๑ ปีของอโนมา มยุเรศแกล้งทำเป็นเฟลิตกับเจษฎาด้วยจุดมุ่งหมายสองประการ
หนึ่ง เธอต้องการเอาชนะอโนมา เพราะลึก ๆ แล้วเธอแอบอิจฉาอโนมาอยู่เสมอ
และคอยทับถมอโนมาอยู่ตลอดเวลาว่าไม่มีคุณสมบัติของกุลสตรี โดยเฉพาะเรื่องการบ้านการเรือน
ประการที่สอง...มยุเรศแอบรู้สึกอยู่เสมอว่ารชฏนั้นแคร์อโนมามากกว่าเธอ
และอโนมานั้นจริง ๆ แล้วก็แอบมีใจให้รชฏ เพียงแต่ทำฟอร์มเพราะรชฏมีฐานะแค่เด็กในบ้าน
เธอจึงอยากจะยั่วให้รชฏหึงหวงเธอบ้างโดยการแสดงความสนิทสนมและเต้นรำกับเจษฎา
แต่เรื่องราวกับเลยเถิด เมื่อต่างฝ่ายต่างเมาจนเผลอไผลมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง...

เมื่ออโนมากับรชฏไปพบเข้า อโนมาด่าว่าเจษฎาอย่างรุนแรง
จนเจษฎาเกิดโมโหขึ้นมาก็แกล้งบอกรชฎว่าที่เขาทำอย่างนี้เพราะอโนมาบอกให้เขาทำ

รชฏรู้สึกโกรธและผิดหวังมาก แม้เขาจะไม่เชื่อเจษฎาเต็มร้อยแต่จากท่าทีที่เปลี่ยนไปของอโนมาก็ทำให้เขารู้สึกคลางแคลงใจ
เขารู้สึกสงสารมยุเรศจึงบอกว่ายังไง ๆ เขาก็จะแต่งงานกับเธอ...

แต่เมื่อพ่อแม่ของมยุเรศรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็บังคับให้เจษฎารับผิดชอบ
โดยการแต่งงานกับมยุเรศ เพราะเห็นว่าเจษฎานั้นมีฐานะทางครอบครัวที่ดีกว่ารชฏ
ซึ่งเจษฎาก็จำยอมทำตามทั้ง ๆ ที่เขาหลงรักอโนมาอยู่

อโนมารู้สึกเสียใจแทนรชฏมาก ดังนั้นเมื่อรชฏขอเธอแต่งงานเธอจึงตอบตกลง
ทั้งที่เธอเข้าใจว่ารชฏนั้นรักมยุเรศอยู่เสมอ

แต่ในคืนแต่งงานนั้นเอง รชฏก็แอบได้ยินเพื่อนสนิทในกลุ่มของเขากล่าวนินทาอโนมา
ในทำนองว่าที่แต่งงานกับรชฏก็เพราะต้องการเอาชนะมยุเรศ
ตามที่เคยลั่นปากไว้กับเพื่อน ๆ ของเธอเท่านั้น...

ซ้ำร้าย หลังงานแต่งงานระหว่างรชฏกับอโนมาเพียงไม่นาน
มยุเรศก็ให้บังเอิญมีปัญหาครอบครัวกับเจษฎาที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากรชฏ
กำแพงที่ขวางกั้นระหว่างทั้งคู่ดูเหมือนจะยิ่งหนาและสูงยิ่งขึ้น
เช่นนี้แล้วชีวิตคู่ของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร ต้องตามไปลุ้นในนิยายแล้วล่ะค่ะ






หลังอ่าน...
ที่บอกว่าเป็นนิยายพาฝันก็เพราะทั้งพล็อต ทั้งเรื่องราว
ตลอดถึงตัวละครในเรื่องช่างชวนฝันเสียนี่กระไร
อ่านแล้วพาให้ใจเคลิบเคลิ้ม รัญจวน...ฮ่า ๆ ประมาณนั้นเชียว

เล่มนี้อ่านเป็นรอบที่สองค่ะ รอบแรกอ่านเมื่อนานมากแล้ว...
รอบนี้อ่านตามแม่ คุณชูวงศ์เป็นนักเขียนคนโปรดคนหนึ่งของแม่
แม่เขาบอกว่านิยายคุณชูวงศ์เนี่ย พาฝันก็จริง แต่เขาก็ไม่ทิ้งเหตุทิ้งผล
ที่มาที่ไปของตัวละคร ความสัมพันธ์โยงใยซึ่งกันและกัน ชัดเจนและสมเหตุสมผล

นางเอกนิยายของนักเขียนท่านนี้มักจะฉลาด ช่างคิด และทันสมัย...
ออกจะล้ำสมัยเสียด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ปรากฏในนิยาย...
แต่ก็รักษาขนบ-วัฒนธรรมแบบไทย ๆ ในเรื่องของความอ่อนน้อมถ่อมตน
การรักนวลสงวนตัว เป็นต้น

ส่วนพระเอกก็จะออกแนวพระเอกมีปม ต้อยต่ำเจียมตัว แต่ก็มีมานะมุ่งมั่นและกตัญญูรู้คุณ

โครงเรื่องก็หนีไม่พ้นเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของหนุ่มสาว...
แต่ผู้เขียนก็จะแฝงทัศนคติ แง่คิดมุมมองในเรื่องการใช้ชีวิตไว้ตรงนั้นตรงนี้อย่างเนียน ๆ

เรียกได้ว่าเป็นนิยายพาฝันที่สมจริงเรื่องหนึ่งทีเดียวค่ะ

อ้อ...ได้ยินว่านิยายเรื่องนี้เคยทำเป็นละครทีวีแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่ส่วนตัวไม่ได้ดู
มาถึงยุคนี้สมัยนี้ ถ้าจะมีใครหยิบยกมาสร้างเป็นละครอีกก็น่าจะทำได้อยู่นะ
ปรับเปลี่ยนบทให้เข้ากับปัจจุบันอีกนิด คาสติ้งดี ๆ รับรองเรตติ้งกระฉูดแน่นอน









 

Create Date : 16 สิงหาคม 2556    
Last Update : 16 สิงหาคม 2556 11:48:17 น.
Counter : 8270 Pageviews.  

~ นางร้ายสายลับ โดย 'หัสบรรณ' (ตามกระแสละครออนทีวี) ~





นางร้ายสายลับ
ผู้เขียน : หัสบรรณ
ผู้พิมพ์ : Princess(สนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ป
323 หน้า ราคา 220 บาท


เรื่องย่อ(จากปกหลัง):


เพราะรักเพื่อน ความซวยจึงมาเยือนจนเกือบต้องกลายเป็นข่าวใหญ่
แต่ความสวยกับชื่อเสียงที่สั่งสมมาในฐานะ ‘นางร้ายเบอร์หนึ่ง’
สุรีกานต์จึงถูกสารวัตรหนุ่ม (หน้าโฉด!) ขอร้อง (แกมข่มขู่?)
ให้เป็นนางนกต่อหาหลักฐานเอาผิดพ่อค้ายาเสพติดตัวเอ้

แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไรเล่า
ในเมื่อหลักฐานความผิดของเธออยู่ในมือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเขา

ในโลกของการทำงานมีแต่หนุ่มๆ ที่ทำให้หัวใจหวั่นไหว
ไม่เว้นแม้แต่แฟนของเพื่อนสนิท
แต่พออันตรายแยกเขี้ยวเข้ามาหาทีไร
ไม่รู้ทำไมเธอต้องคิดถึงเจ้ากรรมนายเวรหน้าโฉดทุกที

แล้วเธอจะทำ ‘ภารกิจเพื่อชาติ’ สำเร็จไหมหนอ?
ในเมื่อ ‘ภารกิจหัวใจ’ ก็แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว!








หลังอ่าน...
ขอตามกระแสละครหลังข่าวหน่อยเถอะ...
หนังสือเล่มนี้ได้มาฟรีจากการเล่นเกมอ่านหนังสือในห้องสมุดพันทิปเมื่อสองปีก่อน

ตอนที่ได้มาแรก ๆ พลิกอ่านไปไม่กี่หน้าก็ต้องวาง
ด้วยความรู้สึกวิงเวียน อึ้ง ๆ มึน ๆ ศีรษะคล้ายจะเป็นลม
กับสำนวนฉวัดเฉวียนสวิงสวายของคนเขียน

วางไว้ยาวววว...จนลืมไปแล้วว่าตัวเองมีหนังสือเล่มนี้อยู่
มาเมื่อวันก่อนเห็นละครหลังข่าวแว่บ ๆ ถึงนึกขึ้นมาได้ จึงค้นออกมาจากกองดองเพื่ออ่านต่อ
ก็ไหน ๆ ก็มีหนังสืออยู่ ขี้เกียจรอดูตอนจบของละคร
อ่านไปบ่นไป...แต่ก็อ่านจนจบ...
(ที่บ่นน่ะไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ บอกตรง ๆ ว่าไม่เก็ท ไม่ทันมุกบางมุกของคนเขียนน่ะ)

เรื่องย่อ ๆ ก็ประมาณปกหลังนั่นแหละค่ะ เพิ่มเติมอีกนิด ๆ ...เอ้า!
สุรีกานต์เป็นดาราสาวที่รับบทนางร้ายที่กำลังอยู่ในภาวะขาลง
เธอมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เป็นนางเอกระดับนางฟ้าแห่งวงการ
ทั้งคู่ต่างมีอุปนิสัยที่แตกต่างจากบทบาทที่ตัวเองได้รับอย่างค่อนข้างสิ้นเชิง
ในขณะที่นางเอกสาวอย่างพลอยนิลมีเบื้องหลังที่...
เอาแต่ใจตัว ชอบวีนและเหวี่ยงเมื่อไม่ได้ดังใจ และรักแรงเกลียดแรง
นางร้ายเบอร์หนึ่งอย่างสุรีกานต์กลับเป็นคนประนีประนอม ยอมและเอาใจเพื่อนอยู่เสมอ

เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อพลอยนิลขอร้องให้สุรีกานต์ย่องเข้าไปขโมยภาพถ่าย
(ที่เธออ้างว่าเป็นภาพหลุดของเธอที่หากหลุดออกไปสู่สื่อเธอจะต้องถึงกับเสียอนาคตในวงการแน่ ๆ)
ในบ้านของอุษณะ-พระเอกหนุ่มชื่อดัง

เมื่อสุรีกานต์ยอมทำตามเธอก็ถูกตำรวจจับขณะที่กำลังปีนออกมาจากบ้านนั้น...
และเมื่อเธอเห็นภาพที่เธอขโมยออกมาเธอก็ต้องอึ้ง...
เพราะมันเป็นภาพลีลารักระหว่างอุษณะกับนายแบบหนุ่มเนธาน
คนรักคนปัจจุบันของพลอยนิลนั่นเอง
สุรีกานต์นึกรู้ในทันทีว่าตัวเองถูกเพื่อนรักหลอกใช้เอาเสียแล้ว...
(และพลอยนิลก็คงถูกแฟนหนุ่มหลอกมาอีกต่อหนึ่ง)
เธอเสียความรู้สึกมากที่เพื่อนรักโกหก...

ฝ่ายสารวัตรนฤเบศผู้จับและสอบสวนสุรีกานต์ด้วยตัวเองก็เล็งเห็นประโยชน์
ที่จะได้จากการจับกุมนางร้ายสาวครั้งนี้
ทั้งนี้เพราะว่าเขากำลังตามสืบคดียาเสพติดสำคัญ
โดยมีเป้าหมายหลักเป็นพ่อค้ายาเสพติดลูกครึ่งชื่อริชาร์ด
ซึ่งเดินทางมาติดต่อกับหุ้นส่วนสำคัญที่เมืองไทย...
เขายื่นข้อเสนอให้สุรีกานต์ทำงานเป็นนางนกต่อให้กับเขา
แลกกับการที่เขาจะไม่ดำเนินคดีและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ...

นั่นจึงเป็นที่มาของหน้าที่"นางร้ายสายลับ" ที่เธอจะต้องยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...

แต่แล้ว ในระหว่างการทำงาน เธอจำเป็นต้องใกล้ชิด พัวพันกับนายตำรวจหนุ่มอยู่เนือง ๆ
เพราะป็นภารกิจเสี่ยงอันตรายที่นายตำรวจหนุ่มต้องคอยปกป้องดูแลเธอ
ก่อให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นในใจนางร้ายสาวอยู่ไม่น้อยทีเดียว...

ทั้งนายแบบหนุ่มที่ปรากฏในภาพลับเฉพาะ ที่ทำท่าหันเหจากนางเอกสาวพลอยนิลแล้วหันมาหาเธอ...
สร้างความโกรธแค้นให้เพื่อนรักถึงขั้นแตกหัก
โดยที่เธอไม่สามารถปริปากบอกพลอยนิลได้เลยว่า...
คนรักของเจ้าหล่อนมีพฤติกรรมประหนึ่งเสือไบ...
ซ้ำยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งของตำรวจว่ามีส่วนพัวพันในคดียาเสพติด...
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเผลอไผลมีความสัมพันธ์ด้วย...
แล้วไหนจะพระเอกหนุ่มหน้าใหม่ที่พยายามจะสานสัมพันธ์กับเธอให้ลึกซึ้งกว่าเพื่อนร่วมงานนั้นอีก

ชีวิตนักแสดงของเธอที่เหมือนจะกำลังอยู่ในภาวะขาลง...
จึงมีแต่เรื่องวุ่นวายให้ตื่นเต้น ให้ติดตามลุ้นระทึกขึ้นมาทีเดียวเชียว!







นั่นเป็นเรื่องย่อที่ย่อมาก ๆ เพราะยังมีเรื่องราว รายละเอียดอีกเยอะแยะมากมายจาระไนไม่หมด...
พล็อตเก๋และทันสมัยดีค่ะ หยิบยกเรื่องราวฉาว ๆ คาว ๆ ของคนในวงการบันเทิงมาตีแผ่
ผสมผสานกับปัญหาสังคมอย่างปัญหายาเสพติด...ทำให้เรื่องราวมีแก่นสาระน่าสนใจดี
การดำเนินเรื่องก็รวดเร็ว กระชับฉับไวไม่เยิ่นเย้อยืดยาด...

จะติดอยู่นิดก็ตรงสำนวนภาษาที่ใช้นั่นแหละ
ทังสำนวนการเล่าเรื่อง ทั้งบทสนทนาของตัวละครในเรื่อง
มันช่างแฝงไว้ซึ่งการประชดประชันเสียดสี กระแนะกระแหนอยู่ตลอดเวลา
เจอนิด หน่อย ๆ ยังพอทำเนา แต่นี่เขาเล่นหยอกแกมหยิก จิกกัดอยู่แทบจะทุกบรรทัด ทุกหน้า...
บอกตามตรงว่า...มันเฝือ มันเฝื่อน เยอะเข้า ๆ พานวิงเวียนคลื่นเหียนอีกต่างหาก

แต่นี่ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ
นักอ่านรุ่นใหม่ ๆ อาจจะชอบอะไรที่แรง ๆ แซ่บ ๆ แบบนี้ก็ได้ แหะ ๆ

ก็...ตามกระแสละครหลังข่าว อ่านจบแล้วหยิบมาเล่าต่อค่า...

อ้อ พูดถึงละคร ขอเสริมอีกนิด...ปกติส่วนตัวชอบปีเตอร์นะคะ
แต่ดูเรื่องนี้รู้สึกว่าปีเตอร์ไม่เหมือนสารวัตรนฤเบศในหนังสือเลยอะ
ส่วนนางเอก...มาร์กี้ก็ดูจะเด็กไปนิดกับบทนางร้ายเบอร์หนึ่ง
แถมการแสดงเรื่องนี้ก็ดูแปลก ๆ เหมือนจะโอเวอร์แอ็คชั่นไปหน่อยไหม...
ก็ความเห็นส่วนตัวอีกนั่นแหละค่ะ









 

Create Date : 09 สิงหาคม 2556    
Last Update : 9 สิงหาคม 2556 15:32:36 น.
Counter : 5090 Pageviews.  

~ เล่ห์รักถักใจ : นิยายแนวฟีลกู้ด โดย "เนตรนภัส " ~





เล่ห์รักถักใจ
ผู้เขียน : เนตรนภัส
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(มี.ค. ๕๖)
๓๗๕ หน้า ราคา ๒๖๕ บาท



จากสำนักพิมพ์ (และปกหลัง) :



เธอเป็นดั่งปิ่นรัก...ปักที่กลางใจ
ให้สองเราได้ชิดใกล้ด้วยดวงใจปฏิพัทธ์

“รักแรกพบ” ใครว่าไม่มีจริง!!
เมื่อชายหนุ่มแสนอบอุ่นเกิดตกหลุมรักสาวน้อยช่างฝันเข้าเต็มเปา
งานนี้ต้องใช้เจ้าขนปุยเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์จากเพื่อนบ้านเป็นเพื่อนใจ...

รักหวานละมุนของสาวน้อยวัยใสกับผู้ชายแสนดีที่มีแมวเป็นอาวุธ!

ปิ่นปัก ไม่เคยนึกเลยว่าความฝันเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต
ซึ่งทำให้เกิดแผลเป็นบนร่างกายอย่างไม่อาจลบเลือน
จะเป็นลางบอกเหตุร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับชีวิตอันแสนสดใสของเธอในไม่ช้า

เริ่มตั้งแต่ป้าของหญิงสาวที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมาอยู่ร่วมบ้านกันอีกครั้ง
และทำให้บ้านที่เคยสงบสุขกลับเต็มไปด้วยความอึดอัด
ในขณะเดียวกันปิ่นปักยังเจอเรื่องแย่ๆอีกหลายครั้ง
อย่างยากจะเชื่อว่าเป็นเหตุบังเอิญ!

โชคดีที่มีกานต์ ชายหนุ่มผู้แสนสุภาพ อ่อนโยน
ซึ่งปิ่นปักมีโอกาสรู้จักเพราะเขานำลูกแมวที่ตกลงมาในห้องนอนของเธอไปเลี้ยง
และคอยช่วยเหลือให้กำลังใจเธอจนก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้

แต่แล้วความรักของเขาและเธอกลับมีอันต้องสะดุด
เมื่อกานต์กลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้น!


ความรักของปิ่นปักจะดำเนินต่อไปอย่างไรในสถานการณ์ที่ไม่อาจไว้ใจใครได้เลย







หลังอ่าน...

เรื่องย่อ ๆ ก็ประมาณข้างบนนั่นเลยค่ะ
เป็นนิยายรักนุ่ม ๆ เบา ๆ ที่พล็อตไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย
พระนางปิ๊งกันตั้งแต่แรกพบ โดยมีน้องเหมียวเป็นสื่อรัก

เรื่องราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและดำเนินไปในเรื่อง
ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของทางฝั่งนางเอกเสียเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งก็มีปมดราม่าตามขนบนิยายรักโดยทั่วไป...
ปมอันเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นกับเธออย่างต่อเนื่อง
โดยคนอ่านก็สามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือใคร...
แม้คนเขียนเค้าจะแอบซ่อนปมไว้หลอกคนอ่านอยู่แบบเนียน ๆ พอสมควรก็ตามที

ซึ่งก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นมากค่ะ เพราะนางเอกเค้ามีพระเอกที่แสนดีคอยปกป้องดูแลอยู่
(แถมด้วยคุณตาผู้มีบารมีนั่นอีก...
คนอ่านอ่านอย่างสบายใจค่ะว่ายังไง๊-ยังไง นางเอกก็คงไม่เพลี่ยงพล้ำหรอก หุหุ)

ในเรื่องของความรักระหว่างพระ-นางเรื่องนี้ราบรื่นมากค่ะ
ไม่มีตัวร้าย นางอิจฉามาให้รำคาญใจ ...
สำนวนภาษาคนเขียนอ่านได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติดีค่ะ
การเล่าเรื่อง การนำเสนอตัวละครก็เป็นไปแบบเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ
แต่ก็มีมุมกุ๊กกิ๊ก ๆ น่ารักๆ อ่านแล้วฟินอยู่บ้างเหมือนกัน...

จะมีจุดสะดุดนิด ๆ ก็...
พระเอกจะงี่เง่าและขาดความมั่นใจไปหน่อยไหม
กับการเฝ้าระแวงและหึงหวงนางเอกกับคุณตาวัยร่วมเจ็ดสิบนั่น...?
อ่านแล้วมันทำให้ภาพลักษณ์ของพระเอกที่แสนดีดร็อปลงนิด ๆ อะ(แหะ ๆ คหสต.ค่ะ)

จุดที่ชอบมาก ๆ ในนิยายเรื่องนี้ก็คือนางเอกค่ะ...
เธอเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดี
แม้จะโก๊ะ จะเอ๋อบ้าง แต่เธอก็เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น
และรู้จักเอื้ออาทรต่อความรู้สึกของคนรอบข้างเสมอ
ไม่เว้นกระทั่งคนที่แสดงออกว่าเกลียดเธอนักหนา...
ชอบงานที่เธอทำกับวิธีคิดในการทำงานด้วยค่ะ
เป็นวิธีคิดที่สอดคล้องกับยุคสมัยมาก มีลูกมีหลานอยากให้เขาคิดได้แบบนี้
คือถ้าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักด้วยความมุ่งมั่นเต็มที่แล้ว
ผลจะออกมายังไงก็ต้องยอมรับ...

กับเรื่องราวความผูกพันของคนในครอบครัว ที่...ในที่สุดแล้ว...
สายใยความใกล้ชิดผูกพันก็มั่นคงและมีความหมายยิ่งกว่าสายเลือดที่ไม่ได้เลี้ยงดู

สรุปว่า...อ่านจบแล้วชอบในระดับหนึ่งค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นนิยายแนวฟีลกู้ด ที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ๆ กรุ่น ๆ ในหัวใจดี

อ้อ...ฝากถึงคนเขียนค่ะ (ถ้าบังเอิญได้เข้ามาอ่าน)
แอบติดใจคู่แฝดพระเอกล่ะ ท่าทางจะกวน ๆ ดี จับมาเป็นพระเอกสักเรื่องเป็นไงคะ...?












 

Create Date : 01 สิงหาคม 2556    
Last Update : 1 สิงหาคม 2556 11:49:30 น.
Counter : 3258 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.