:: กะก๋าแนะนำหนังสือ : แห่งความเข้าใจชีวิตและการศึกษาที่แท้ ::
:: แห่งความเข้าใจชีวิตและการศึกษาที่แท้ ::
บรรยาย : J. Krishnamurti แปล : โสรีช์ โพธิแก้ว
การศึกษาจะไม่มีความหมายเลย หากมันไม่ช่วยให้ท่านเข้าใจอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของชีวิต ซึ่งมีทั้งความละเอียดอ่อน ความสวยงาม ความเศร้าโศกเสียใจและความปีติยินดี ท่านอาจจะได้รับปริญญา และมีคำนำหน้าชื่ออีกมากมาย ท่านอาจมีอาชีพที่ดี แต่มากกว่านั้น มันจะมีความหมายอะไร หากว่าในกระแสชีวิตของตัวเอง จิตใจของท่านขุ่นมัว อ่อนแอและเขลา ดังนั้น ในขณะที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ท่านจะไม่แสวงหาความหมายของชีวิตหรือ ? และการศึกษาเท่านั้น ที่จะปลูกฝังท่านให้มีปัญญา ที่จะแสวงหาคำตอบต่าง ๆ เหล่านี้ ปัญญาคืออะไร ? ปัญญา คือ ความสามารถที่จะคิดด้วยความรู้สึกอิสระ โดยปราศจากความกลัว ปราศจากสูตรหรือกฎเกณฑ์ เพื่อท่านจะได้ค้นพบสิ่งที่เป็นความจริง เป็นสัจจะด้วยตนเอง แต่หากท่านกลัว ปัญญาของท่านก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ความโลภทุกรูปแบบทั้งทางสูงหรือต่ำ ก่อให้เกิดความวิตกกังวล ก่อให้เกิดความกลัว เพราะฉะนั้นความโลภ ไม่ช่วยให้เกิดความแจ่มใส และเกิดปัญญาได้เลย
เพียงข้อความนี้ข้อความเดียว แทบจะสรุปเนื้อหาทั้งหมดภายในหนังสือเล่มนี้จนครบถ้วนแล้ว
กฤษณมูรติให้คำจำกัดความเรื่องของการเรียนรู้ไว้อย่างน่าสนใจ เขากล่าวว่าโดยแท้จริงแล้ว การเรียนรู้หรือการศึกษาที่แท้จริง ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองและจบลงตรงความเข้าใจชีวิต การเรียนรู้ที่แท้จริงไม่ได้มีเพียงการเรียนรู้ในสถานศึกษา ไม่ได้เกิดจากการจดจำคำสอนของครู ศาสดา หรือผู้นำสังคม ไม่ได้อยู่แต่ในตำราหรือคัมภีร์โบราณ ความรู้เกิดขึ้นในทุกหนทุกแห่งรอบ ๆ ตัว ความคิดและคำสอนซ่อนอยู่กิ่งไม้แห้ง สายน้ำไหล รอยยิ้มของเด็ก เสียงร้องไห้อันเศร้าโศก ความตายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของคนที่เรารัก ชีวิตที่แท้จริงอยู่รอบตัวเรา เพียงแต่เราไม่เคยสังเกตมันอย่างจริงจัง อย่างค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ในชีวิต การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ จิตใจของผู้เรียนต้องไม่มีความกลัว ต้องไม่ถูกบังคับ ขู่ ทำให้เชื่องและเชื่อตาม ๆ ไปโดยไม่ตั้งข้อสงสัย
อิสรภาพทางการศึกษาไม่ได้แปลว่าผู้เรียนจะทำอะไรก็ได้ตามใจตนเอง แต่หมายถึงการมีอิสระทางการคิด โดยไม่ถูกตัดสินหรือครอบงำไปก่อน ว่าความคิดนั้นถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี ทำได้หรือห้ามทำ รวมทั้งไม่ถูกอิทธิพลของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่แวดล้อมกำหนดรูปแบบการคิด ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลจากพ่อแม่ ครู รัฐบาล ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ เขาไม่ได้บอกว่าห้ามเชื่อหรือดื้อรั้นต่อต้าน แต่ให้รู้จักตั้งคำถามกับตัวเอง ก่อนที่จะเลือกเชื่อหรือทำอะไรก็ตาม เมื่อเรารู้จักตั้งคำถาม และถามอย่างเป็นเหตุเป็นผล ความมั่นคงในใจจะเกิดขึ้น การพึ่งพา พึ่งพิงคนอื่นจะน้อยลง เมื่อคน ๆ นั้นพึ่งพาตัวเองมากขึ้น รู้จักคิดเอง ทำเอง รับผิดชอบในสิ่งที่คิดและทำ นั่นคือ เสรีภาพที่แท้จริงในความหมายของการใช้ชีวิตและการเรียนรู้
การศึกษาที่ดี ต้องทำให้ผู้เรียนรู้สึกถึง ความสุข ที่เกิดขึ้นในใจ และทำให้มีความอยาก ความสนใจ ใฝ่รู้ไปโดยตลอดต่อเนื่อง โดยมิต้องถูกบังคับ หรือถูกพิพากษาว่าเป็นคนเก่งหรือคนโง่ด้วยเกรด ด้วยปริญญาบัตร หรือด้วยคะแนนที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์เงื่อนไข
ตราบใดที่ใจยังมีความกลัว ความสุขในการเรียนรู้ย่อมไม่มีวันเกิดขึ้นได้ กลัวพ่อโกรธ กลัวแม่เสียใจ หากสอบตกหรือทำคะแนนได้ไม่ดี กลัวไม่สามารถเรียนต่อโรงเรียนดัง กลัวไม่สามารถเป็นที่รักของครู กลัวไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อน กลัวจบไปแล้วหางานที่ดีทำไม่ได้ ฯลฯ
การศึกษาที่ดีต้องทำให้เรารู้จักตนเอง เห็นตัวเองอย่างชัดเจน
และจัดการความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี โดยไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใคร และสามารถดูแลความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับคนรอบข้างได้อย่างราบรื่น และเราจะทำเช่นนั้น ก็ด้วยการมองเห็นผู้อื่นอย่างที่เขาเป็น มองเห็นตัวเองอย่างที่เป็น --- ยอมรับและเข้าใจ จนเลือกกำหนดรูปแบบความสัมพันธ์ที่ดีออกมาได้ด้วยตัวเอง
ความรู้ที่ดี จึงไม่ใช่การสะสมความรู้เพื่อจำและนำไปสอบ แต่คือ ความรู้ที่สร้างสรรค์ ความสร้างสรรค์นี้จะเกิดขึ้นด้วยความคิดที่เป็นอิสระ เหมือนวินัยที่ต้องเกิดขึ้นภายในตัวเอง ไม่ใช่จากการถูกบังคับให้ทำ
เป็นเรื่องท้าทายเหลือเกินสำหรับการสร้างรูปแบบความรู้ที่ดีในยุคสมัยแห่งการแข่งขัน คนรวย คนเก่ง คนมีความสามารถสูงส่ง ถูกยกย่องจากทุก ๆ คน แต่ภายใต้หน้ากากแห่งความสำเร็จนั้น เรากลับพบว่ามีไม่น้อยเลยที่คนเก่งเหล่านั้น กลับมีชีวิตที่ไม่มีความสุข รวยแต่ติดยาเสพติด เสพติดเซ็กส์และนอกใจคู่สมรส ความสัมพันธ์กับสามีภรรยาล้มเหลว ความอบอุ่นระหว่างตนเองกับลูกแทบไม่มี ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น วัดคุณค่าคนจากวัตถุสิ่งของและเงินตรา ฯลฯ
ทำไมการศึกษาจึงสร้างคนมีปัญหาออกมามากมายมหาศาล ทำไมยังมีสงคราม และความขัดแย้งทางด้านชนชั้น ทำไมยังมีการเข่นฆ่า ความเกลียดโกรธ ทำไมยังมีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นคิดและไม่รู้จักพอ ทำไมผู้คนขาดเมตตาต่อกัน ทำไมมีแต่คนไม่รู้หน้าที่ของตนเอง ทำไมจึงมีแต่ข่าวด้านลบเต็มไปหมดในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร ฯลฯ
โลกรุ่มร้อน เพราะคนวุ่นวาย การศึกษาจะทำอะไรได้บ้าง ? จะทำให้ผู้เรียนค้นพบตนเองได้อย่างไร ? นี่หาใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นคำถามที่เราต้องใส่ใจใคร่ครวญให้มาก เพื่อสร้างความแตกต่างจากสิ่งเลวร้ายที่เราเคยเผชิญ
Create Date : 18 กันยายน 2561 |
Last Update : 1 มีนาคม 2562 10:06:37 น. |
|
25 comments
|
Counter : 1956 Pageviews. |
|
|
|
เล่มนี้ เข้าใจการศึกษา เพื่อเข้าใจชีวิต