สองปีที่แล้วผมเริ่มปั่นจักรยานทางไกล โดยการชักชวนของเจ้านาย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าปั่น Audax ปั่นจนเก็บระยะจนถึง 600 กม. จะไปปั่น 1,000 กม. ดูแล้วมันไกลมาก ก็เลยลองเปลี่ยนมาวิ่งบ้าง
เริ่มซ้อมวิ่งวันแรก เหนื่อยมาก ๆ ไม่เหมือนกับปั่นจักรยานเลยครับ วิ่งได้แปบเดียวต้องหยุดเดิน จนหายเหนื่อยแล้ววิ่งใหม่ ผมซ้อมจนวิ่ง 5 กม. สบาย ๆ แล้ว เพิ่มระยะไปเรื่อย ๆ เพื่อนชวนออกไปวิ่งงานวิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มสนุกมาก ๆ เพราะคนมาวิ่งเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ สวย ๆ น่ารักทั้งนั้นเลยครับ 555
ผมหันมาวิ่งแบบจริงจังประมาณ 5 เดือน วิ่งได้ระยะสูงสุด คือ 10 ไมล์ เท่ากับ 16 กม. เจ้านายคนเดิมก็มาพูดกรอกหูทั้งวันว่า ไปฮาล์ฟได้แล้ว ผมยังไม่กล้าสมัคร เพราะคิดว่ามันเหนื่อยมาก ๆ
น้องที่ไปฟูลมาแล้ว ก็มาบอกว่าพี่ไปฮาล์ฟได้แล้ว ปั่นจักรยานมาตั้งไกล ฮาล์ฟนี่สบายเลย
ผมตัดสินใจสมัครฮาล์ฟงานแรกเลยครับ ด้วยความบ้าลูกยุ
พอกดสมัคร จ่ายตังค์ไปเรียบร้อย เริ่มมาคิด จะไหวป่าวหว่า ???
ผมเริ่มซ้อมวิ่งวันละ 10 กม. วันเว้นวัน สลับกับปั่นจักรยานบ้าง จนเริ่มมั่นใจว่าแรงถึง
วันก่อนวิ่งวันนึง ผมต้องนอนกลางวัน เพราะมันเริ่มวิ่งตอนตีสาม สำหรับฮาล์ฟมารอน แต่ผมนอนไม่หลับ ก็เลยไปหาของกินแทน กินก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ อัดไปเยอะมาก แต่ไม่ได้กินข้าวเลย เนื่องจากร้านประจำปิด อัดผลไม้ไปเต็มที่ ตกกลางคืน ผมก็นอนไม่หลับอีก จนถึงประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ก็เดินทางไปสนามหลวง
ไปถึงไวมากครับ ขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกหน่อยละกัน ไม่ค่อยได้มาดึก ๆ แบบนี้บ่อยครับ
ไปถึงสนามหลวงตอนตีหนึ่งครึ่ง เหลือเวลาอีกชั่วโมงครึ่งก็เดินเล่นวอร์มแถวนั้น มานั่งพัก จนประมาณตีสองครึ่ง ก็เดินไปที่จุดสตาร์ท
ตีสามก็ปล่อยตัวออกวิ่ง ตามแผนที่เลยครับ ผมเริ่มวิ่งตาม ๆ เค้าไป เพื่อนมันฝากบอกมา ว่าไม่ต้องสปีดเร็วนะ เดี๋ยวจะเป็นตะคริว ผมเริ่มวิ่งไปเรื่อย ๆ จนถึงครึ่งทาง 10.5 กม. เลี้ยวกลับ
เอาละหว่า เริ่มง่วงนอนละครับ เพราะไม่ได้นอนเลยเมื่อคืน ผมต้องวิ่งไป ส่ายหัวกระตุ้นตัวเองไป 2 กม. แวะกินน้ำทีนึง ตามจุด
พอเหลือ 5 กม.สุดท้าย เริ่มหิวละครับ ไม่ได้พกเจลมาด้วย กินแตงโมตรงจุดแจกน้ำ ก็เอาไม่อยู่ ตอนนี้ผมวิ่งสลับกับเดิน จนเหลือ 1 กม.สุดท้าย ก็เลยกลั้นใจวิ่งจนเข้า Finish สนนเวลา 3 ชม. 8 นาที เวลาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ ผมตั้งเป้าไว้ไม่เกิน 3 ชม. แต่ก็ทันเวลาคัทออฟ 4 ชม.
รับเหรียญเรียบร้อยแล้ว เดินไปซุ้มอาหาร คนต่อแถวเยอะมาก ก็เลยไปรับเสื้อ Finisher และเข้าแถวรับหมวก ระหว่างที่รอรับหมวก ตาผมเริ่มลาย โลกหมุน ผมจำไรไม่ได้ ตื่นมาอีกที หมอมาปั๊มหัวใจ และให้ยกแขน ยกขาว่าเป็นยังงัยบ้าง ผมบอกหมอว่าปกติ ถามแกว่าเกิดไรขึ้น แกบอกว่าผมยืนอยู่แล้วล้มไป อาจารย์จากศิริราชก็เลยบอกให้ผมขึ้นรถ embulance ไปตรวจให้ละเอียดที่ศิริราช
พอไปถึงหมอก็เอาเครื่องช่วยหายใจมาครอบ ตรวจหัวใจ ผมปกติหมดทุกอย่าง ค่า RHR 45 หมอถึงขั้นตกใจอุทานออกมาว่า ค่าต่ำขนาดนี้ ทำไมถึงเป็นลมไปได้ ผมบอกแกว่า ผมไม่ได้กินข้าวเลยครับ ไม่ได้นอน แกก็เลยบอกว่างานหน้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้นะ เพราะมันอันตรายมาก ๆ ผมนอนอยุ่สักพัก ก็เดินทางหลับ
จบฮาล์ฟมาราธอนแรก แบบตื่นเต้นจริง ๆ ครับ
ปิดท้ายด้วยเสื้อ Finisher เลยละกันครับ
ดีนะคะที่ไม่ค่อยเป็นอะไรมาก
ล้มวูบไป อันตรายค่ะ
คุณแฟรก์เก่งและแข็งแรงมาก
ที่วิ่งฮาฟได้ แต่ร่างกายไปพร้อมแบบนี้
น่าห่วงมากนะคะ
ดีใจด้วยที่ไม่เป็นอะไรมากค่ะ