:: ตระหนักอย่าตระหนก ::
:: ตระหนักอย่าตระหนก ::
เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
หลายปีก่อนตอนที่เศรษฐกิจตกต่ำในปี 2540 คุณทำอะไรอยู่ ? เรียนหนังสือ ยังเป็นเด็ก เริ่มทำธุรกิจแล้วก็เจ๊ง สมัครงานไป 100 กว่าแห่งไม่มีใครเรียก ทำงานไปสองเดือนแล้วตกงาน ถูกลดเงินเดือนเกินกว่าครึ่ง ผลิตสินค้าออกมาไม่มีคนซื้อ ฯลฯ
ดูท่าทางปีนี้และปีหน้าสถานการณ์จะหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าปี 2540 เสียอีก แล้วคุณจะทำอะไรต่อไป ?
..................................
ผมเจอข้อความนี้ในห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเชียงใหม่ แน่นอน...มันไม่เกี่ยวอะไรกับสภาพบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ก็แค่ข้อความของคนมือบอนคนหนึ่ง ที่ผ่านเข้ามาขี้ แต่ขี้ไม่ออก....
..................................
สถานการณ์ของนิตยสารไม่ดีเอาเสียเลย มีนิตยสารชื่อดังทยอยปิดตัวไปเรื่อย ๆ เหมือนคนเลือดไหลไม่หยุด
ขณะนี้แต่ละสำนักพิมพ์พิมพ์หนังสือออกมาน้อยมาก หนังสือบทกวี หนังสือธรรมะ ไม่ตอบโจทย์คนอ่าน จนแทบไม่เหลือพื้นที่วางอยู่ในร้านหนังสือ หนังสือติดอันดับขายดีเป็นหนังสือแนวทำยังไงให้รวยเร็ว ๆ เล่นหุ้นยังไงให้ได้กำไรเร็วที่สุด และหนังสือแนวกวดวิชาทั้งหลาย
ในฐานะคนอ่าน ผมไม่ได้มีความตระหนกตกใจอะไร แต่ในฐานะคนรักการเขียน ผมว่าสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ ควรทำให้เราตระหนักว่า อะไรคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และ อะไรคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
..................................
เราเคยฟังเทป เคยดูวีดีโอเทป ถัดมาไม่กี่ปี ซีดี วีซีดี และดีวีดีก็เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเรา
เราเคยถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ไม่นานนักกล้องดิจิตอลเข้ามา และร้านล้างรูปเจ้าประจำก็หายไปจากชีวิตชนิดที่เราแทบไม่รู้สึกตัว (ลองถามตัวเองดูสิครับว่าคุณล้างรูปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน)
รถเกียร์กระปุกกลายเป็นเกียร์ออโต้ หนังสือพิมพ์ที่เคยอ่านทุกวันก็อ่านน้อยลง ไปอ่านในคอม ร้านของชำที่เคยอุดหนุนกันมานานหายไป เราเปลี่ยนไปซื้อของใน 7-11 ที่มีกลาดเกลื่อนทุกหัวมุมถนน
เพลงโปรด ไปฟังในยูทูป หนัง ดูแบบออนไลน์ ฯลฯ
เราถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิต เพราะไม่มีทางเลือก หรือ เราเลือกแล้วว่าจะต้องเดินไปกับความเปลี่ยนแปลงนี้ ใช่หรือไม่ว่านี่คือโจทย์ที่ท้าทายของชีวิต
......................................
เวลาขี้ไม่ออก ยิ่งเบ่งก็ยิ่งเจ็บ และสิ่งเดียวที่ควรทำ คือ หาสาเหตุให้ได้ว่าขี้ไม่ออกเพราะอะไร ถ้าจะแก้ไขปัญหา ก็ต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ
เศรษฐกิจย่ำแย่ แค่อดทนไม่พอครับ จะสู้ ต้องรู้ตัวเองด้วยว่ากำลังสู้อยู่กับอะไร จะต้องสู้อย่างไร ถ้าสู้ไม่ได้ต้องทำอย่างไร ต้องหาทางออกให้ตัวเองด้วยว่าจะอยู่อย่างไร ต้องคิด ต้องทำอย่างไร เพื่อให้อยู่รอดได้ ในสภาวการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เหลือเกิน
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2559 6:14:33 น. |
|
22 comments
|
Counter : 1264 Pageviews. |
|
|
|
|
เขียน เป็นคนชอบระบาย..
ไม่เครียด ดีครับ 555
ผมเดินเข้าไปดูหนังสือในร้านขายหนังสือ..ค่อนข้างเงียบจริงด้วย
นาน ๆ จึงจะซื้อหนังสือที่ต้องการ น่าจะอ่านดีครับคุณก๋า
ผมสังเกต ต่อไปวงการหนังสือ คงจะเป็นทำนอง
ลงในเวฟ ที่ดังติดใจคนทั่วไป... คือลงให้คนอ่านฟรี..
เจ้าของเวฟ มีรายได้จาก คนขอเข้าโฆษณา แน่นอนมีนาย
หน้าติดต่อคนมาลงโฆษณา
แล้วเจ้าของเวฟ ก็แบ่งรายได้เป็นสินน้ำใจให้แก่นักเขียน 555
ปัจจุบัน.. ทราบข่าวว่าเพื่อนที่ลง ยูทูป คนเข้าดูธรรมมะ สวด
มนต์มากจริง ๆ เขาแบ่งรายได้ให้ เพื่อนครับ
แต่คงไม่มาก ไม่ติดต่อกัน
ระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทุกอย่างเหงา..ซบเซามาก ไม่ค่อย
มีคนเขียน ทำบล๊อก
เขาคงวิตก
แต่ผมเห็นในหลวงของเรา ขนาดพระองค์ไม่สบายยังทรงงาน
ไม่ย่อท้อเลย อยากจะให้คนทั่วไปมองเห็น ว่า อย่าหดหู่
ต้องทำงานต่อไปครับ
ส่วนผมทำไปเรื่อย ๆ เป็นการฝึกปรือ เพราะเคยชินต่อการ
พบปัญหาทีี่หนักหน่วงมา หลายครั้ง
คงเช่นเดียวกับคุณก๋า ยังอัพบล๊อกเรื่อย ๆ