:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 301 ::
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 301 ::โจทย์ --- เรื่องที่อยากเล่าผู้คิดโจทย์ --- toor36
: จงเป็นเช่นท้องฟ้าเฉย ๆ :
แรกที่เปิดเจอคลิปนี้ผมเลื่อนผ่านไปเมื่อเห็นว่าคลิปมีความยาว 2 ชั่วโมงกว่า ผมเคยดูรายการ “คุยกับอุ๋ย” มาบ้าง เป็นรายการแนวสัมภาษณ์ แต่ EP.18 นี้เป็นการสัมภาษณ์คุณฟองเบียร์ นักแต่งเพลงที่มีเพลงฮิตมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ แต่งเพลงไว้กว่า 500 เพลง ผลงานที่โด่งดัง เช่น เพลงขอโทษของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ รักแท้ดูแลไม่ได้ของโปเตโต้ ใจกลางความรู้สึกดีดีโดย เอ๊ะ จิรากร เป็นต้น
ผมเคยดูคลิปสัมภาษณ์คุณฟองเบียร์อยู่สามสี่คลิปในยูทูป เลยคิดเองเออเองว่าคลิปนี้คงเป็นการพูดถึงความสำเร็จในด้านการแต่งเพลงเป็นหลัก ทำให้รู้สึกว่าผมก็ดูคลิปอื่นมาพอสมควรแล้ว แถมคลิปนี้มีความยาวพอสมควร เลยยังไม่คิดจะดู
แต่เช้าวันก่อน ผมตื่นเช้ามาก หลังจากอัพบล็อกเสร็จ เลยนั่งเปิดดูยูทูปรอเวลา คลิปนี้ก็กลับมาให้เห็นอีกครั้ง ผมตัดสินใจคลิกดู เมื่อดูจบได้แต่บอกตัวเองว่า นี่คือคลิปสัมภาษณ์ที่ดีที่สุดคลิปหนึ่งตั้งแต่ผมเคยดูรายการสัมภาษณ์มาเลย
คุณฟองเบียร์บอกเล่าเรื่องของตัวเองอย่างหมดเปลือก แม้แต่ความเจ็บปวดในชีวิตซึ่งเกิดจากวิธีเลี้ยงดูของคุณพ่อตั้งแต่วัยเด็ก จนส่งผลกับชีวิตตอนโต และทำให้เป็นโรคซึมเศร้า
ปัญหาด้านสุขภาพอันเกิดจากการสูบบุหรี่วันละ 6 ซอง กินเบียร์และเหล้าทุกวัน เครียด ทำงานหนัก ทั้งหมดแลกมากับปัญหาสุขภาพที่เกือบทำให้ต้องเสียชีวิต
คุณฟองเบียร์ บอกว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้เหมือนเป็นการเขียน “พินัยกรรมอาชีพ” ทุกเรื่องเล่าคือ “เรื่องจริง” ที่เก็บไว้ในใจมานานและอยู่ในความทรงจำลึกสุดใจ
ผมชอบประโยคหนึ่งในการสัมภาษณ์มาก ๆ ขอยกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน
-----------------------------------------:: จงเป็นเช่นท้องฟ้า ::
จงเป็นเช่นท้องฟ้า แค่นั้น --- ห้ามเติมอะไรทั้งนั้น จงเป็นท้องฟ้าเฉย ๆ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเติมข้างหลัง
จะต้องเป็นท้องฟ้า...ที่สดใส คุณจะเริ่มตะกุยเมฆให้ออกไป ต้องการให้ฟ้ามันฟ้า
คุณต้องการเป็นท้องฟ้า...ที่ดาวพร่างพราย คืนนั้นคุณจะเฝ้ารอและถ้าดวงดาวมันไม่ขึ้น คุณก็เซ็ง
คุณต้องเป็นท้องฟ้า...ที่พระจันทร์เต็มดวง พอพระจันทร์มาเสี้ยวเดียว คุณก็ผิดหวัง
คุณต้องการเป็นท้องฟ้า...ที่เงียบสงบ แต่วันนั้นฝนตก คุณก็รำคาญ
แต่ทุกอย่างที่พูดมามันทำอะไรท้องฟ้าได้ไหม ? ท้องฟ้ามันก็ยังเป็นท้องฟ้า
จงเป็นท้องฟ้าเฉย ๆ และให้องค์ประกอบทุกอย่างผ่านคุณไป เพราะคุณถึงจุดที่ไม่ต้องการอะไรฟองเบียร์ - ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม(นักแต่งเพลงมืออาชีพ)
รายการ : คุยกับอุ๋ย EP.18
------------------------------------------
22 ปีที่แล้ว ตอนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ ๆ ที่ร้าน ผมจำได้เลยว่าการทำงานกับพ่อตัวเองนั้นเป็นเรื่องโคตรอึดอัด พ่อไม่เคยชม มีแต่คำตำหนิ คำด่า มีแต่คำสั่ง คำสอนของพ่อมีแต่ข้อห้าม ห้ามๆๆๆๆๆ มึงอย่าทำแบบนี้ มึงอย่าพูดแบบนั้น เราเริ่มต้นทำร้านด้วยหนี้ก้อนโตมหาศาล ในวันที่ในบ้านแทบจะไม่เหลือเงินให้หมุนในธุรกิจ 2 ปีแรกของการทำงานผมไม่เคยได้หยุดงาน ได้หยุด 2 วันคือวันที่ป่วยจนลุกขึ้นมาทำงานไม่ไหว งานหนัก แถมแบกรับความเครียดไว้อย่างยาวนาน วันหนึ่งผมจึงระเบิดอารมณ์ เตะเก้าอี้ในห้องทำงานจนล้ม ตะโกนด่าทอเสียงดัง จังหวะเดียวกันกับพี่ชายของผมแวะมาหาที่ร้านพอดี (ตอนนั้นพี่ชายทำร้านถ่ายรูปอยู่) พี่ชายรีบเอาผมขึ้นรถ แล้วขับพาไปเรื่อย ๆ จนถึงลำพูน ผมนั่งร้องไห้ไปตลอดทาง บ่นระบายความอึดอัดทั้งหมดที่มีในการทำงานกับพ่อ เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าผมจะเริ่มสงบแต่ยังคงสะอื้นไห้ พี่ชายบอกว่า
“มึงเปลี่ยนป๊าเค้าไม่ได้หรอก เขาเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ก่อนมึงเกิดอีก”
คำนี้คำเดียวทำให้ผมได้สติจริง ๆ ผมหยุดร้องไห้และนั่งเงียบมาตลอดทาง พี่ชายเลี้ยวรถกลับ ขับมาเชียงใหม่ และส่งผมที่ร้านโดยที่พ่อไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับผม
วันรุ่งขึ้นผมกลับไปทำงานที่ร้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พ่อก็ยังเป็นพ่อคนเดิมที่จริงจังกับการทำงาน และใช้การด่าขับเคลื่อนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นใคร เมีย ลูก พนักงาน ทุกคนโดนด่าตลอดเวลา ต้องทำงานและใช้ชีวิตภายใต้ความกดดันไปกับคำพูดและอารมณ์รุนแรงของพ่อ แต่ผมกลับวางเฉยกับคำพูดเหล่านั้นได้มากขึ้น ทุกครั้งซึ่งกลับไปคิดถึงคำพูดที่พี่ชายพูดกับผม
“มึงเปลี่ยนเขาไม่ได้หรอก”
ผมไม่เคยคิดเปลี่ยนใครอีกเลย นอกจากทำใจยอมรับ และมองให้เห็นเบื้องหลังคำพูดและอารมณ์ของใครก็ตามที่ผมกำลังปฏิสัมพันธ์ด้วย
เรื่องราวของคุณฟองเบียร์ที่มีปัญหาในความรู้สึกกับพ่อ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องของตัวเองอีกครั้ง ผมเคยผ่านมันมาเช่นกัน แต่มันไม่เหลือริ้วรอยบาดแผลใดในความรู้สึกอีกแล้ว ผมเข้าใจพ่อมากขึ้น และเข้าใจมากที่สุดในวันที่พี่ชายผมเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน ความเสียใจของพ่อและการแสดงออกในงานศพของพี่ชาย นั่นคือ ตัวตนที่พ่อเก็บซ่อนเอาไว้มาโดยตลอด พ่อมีบาดแผลในวัยเด็กที่ผมพอรู้แต่ไม่เคยถามตรง ๆ ถึงวันนี้ผมเข้าใจในความเป็นพ่อ และไม่คิดจะเปลี่ยนอะไรอีกแล้ว นอกจากยอมรับและเข้าใจพ่ออย่างที่พ่อเป็น
2 ปีกว่าที่เกิดโควิด ร้านของเราต้องปิดตัวลงอย่างยาวนาน พ่อกลับเป็นคนที่ดูผ่อนคลายและรับมือกับปัญหาหนักหนาสาหัสครั้งนี้ได้ดี ทำใจได้ ปรับตัวง่าย และไม่ค่อยบ่นด่าอะไรใครอีกแล้ว
ผมเองชอบมองดูท้องฟ้า ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม ท้องฟ้าและเมฆทำให้ผมสามารถหยุดยืนมองดูได้เสมอ“จงเป็นเช่นท้องฟ้าเฉย ๆ”บางทีผมอาจเป็นท้องฟ้ามานานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้บอกใคร
Create Date : 30 เมษายน 2565 |
|
28 comments |
Last Update : 30 เมษายน 2565 6:13:20 น. |
Counter : 2070 Pageviews. |
|
|