: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชีวิตตื่นรู้ โลกเบิกบาน :
: ชีวิตตื่นรู้ โลกเบิกบาน :เขียน : Diana Winstonแปล : นุจรีย์ ชลคุป
หนังสือเล่มนี้ Diana Winston ตั้งใจเขียนขึ้น เพื่อใช้เป็นคู่มือในการสอนเยาวชนและวัยรุ่นชาวอเมริกัน ที่มีความสนใจในการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของศาสนาพุทธ
Diana Winston มีความสนใจในเรื่องศาสนาพุทธตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เธอมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาธรรมะ เพื่อใช้แก้ปัญหาชีวิตของตัวเอง ท่ามกลางทางเลือกมากมายในเรื่องจิตวิญญาณและศาสนา ซึ่งในประเทศตะวันตกมีความเปิดกว้างและเปิดรับได้หลากหลายกว่าทางเอเชีย
ด้วยความสนใจใฝ่รู้อย่างจริงจัง เธอตัดสินใจเดินทางมาบวชเป็นแม่ชีที่ประเทศพม่าเป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้นจึงเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นวัดไทย วัดเซ็น วัดธิเบต รวมทั้งเดินทางไปอินเดียเพื่อปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ
หลังจากสึกออกมาจากการเป็นแม่ชี Diana Winston ทำงานเป็นนักเขียน ครูสอนภาวนา จัดตั้งองค์กรอิสระเกี่ยวกับศาสนาพุทธ และฝึกอบรมวัยรุ่นเยาวชนด้วยหลักธรรมตามแนวทางพุทธศาสนา
หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราว คำสอน หลักการภาวนา ศีล 5 และการนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเน้นหัวข้อและเรื่องราวซึ่งวัยรุ่นมีความสนใจมากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุที่หนังสือเล่มนี้ต้องการสื่อสารกับกลุ่มวัยวุ่นและเยาวชน จึงทำให้เนื้อหาภายในเล่มถูกเรียบเรียงให้อ่านง่าย กระชับ และไม่มีศัพท์แสงทางธรรมมากมาย
พุทธธรรมสำหรับวัยรุ่น จึงมุ่งเน้นไปยังการแก้ปัญหาของเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเหมาะสมในเรื่องเซ็กส์ มุมมองในเรื่องยาเสพติด ความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นและครอบครัว เพื่อน ไปจนถึงเรื่องของการเรียนและการทำงาน
Diana Winston ทำให้วัยุร่นได้เห็นแนวทางของการปฏิบัติที่เรียบง่ายแต่ได้ผลจริง หลักศีลธรรมซึ่งไม่ใช่ข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์อันเข้มงวด แต่เป็นหลักการดำเนินชีวิตเพื่อให้รับมือกับความทุกข์ทุกรูปแบบที่ทุกคนจะต้องพบเผชิญ เธอนำหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนาปรับใช้กับชีวิตประจำวันในทุก ๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องราวธรรมดาในชีวิต ไปจนถึงปัญหาส่วนใหญ่ซึ่งวัยรุ่นต้องพบเจอ
เพราะหลักใหญ่ใจความของคำสอนในพุทธศาสนา คือ “ทุกข์และการดับทุกข์” การฝึกฝนตนเองจนเกิดทักษะในการรับมือกับความจริง จนถึงการยอมรับความจริงอย่างที่มันเป็น ทั้งหมดสามารถบ่มเพาะให้เกิดขึ้นได้อย่างมีระบบแบบแผนการเรียนรู้ มีขั้นมีตอนและการประเมินความก้าวหน้าในการฝึกฝนตน
การพูดถึง “ความทุกข์” มิได้หมายความว่า ‘ศาสนาพุทธ’ จะเป็นศาสนาแห่งความเศร้าสร้อยโศกครวญ มิใช่แนวคิดของคนผู้มองโลกในแง่ร้ายจนเห็นแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด หากแต่เป็นการมองโลกอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง เห็นความจริงอย่างที่มันเป็น เห็นแล้วยอมรับความจริง ค้นจนพบวิธีรับมือกับความจริงนั้น เพื่อปล่อยวางตัวตนจนพ้นทุกข์ได้ในที่สุด
สิ่งสำคัญ คือ การเรียนรู้นั้น จะต้องถูกนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม มิใช่เพียงการนั่งท่องจำคำสอน หรือกราบไหว้วิงวอนร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดใด
‘ปัญญาที่แท้จริง’ สิ่งนี้มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน ขอเพียงค้นพบให้เจอ แล้วนำสิ่งนั้นมาปรับใช้กับตนเอง แสวงหา ‘ความจริงแห่งชีวิต’ ในตัวเอง เพื่อนำไปสู่การยอมรับ การเข้าใจในความจริง ซึ่งเราต้องพบผ่านและเผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญ ไม่ว่าจะเป็นการเกิด การเจ็บ การป่วย การตาย หรือการพลัดพรากจากทุกสิ่งที่คิดว่าเป็นของเรา
ความรู้ทางโลกเป็นสิ่งจำเป็นต้องรู้ แต่ความรู้ทางธรรมก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะความรู้ทางธรรมนั้นสามารถยกระดับจิตใจของเรา ให้เปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นคนที่ดีกว่า เปลี่ยนสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นสิ่งถูก เปลี่ยนความมืดมนให้กลายเป็นความสว่าง
หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะสำหรับวัยรุ่น เยาวชน ตลอดจนพ่อแม่ที่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในตัวบุตรหลานของตนเอง อย่างน้อยเนื้อความในเล่มก็ทำให้เราพอทราบแนวทาง เห็นแนวคิด ได้รู้วิธีการบางอย่างที่อาจนำไปปรับใช้กับตนเองได้ ไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาใด หรือมีความคิด ความเชื่อแบบใดก็ตาม
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2566 |
|
12 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2566 5:12:42 น. |
Counter : 1088 Pageviews. |
|
|
หนังสือเล่มนี้อ่านง่ายและเข้าใจได้ไม่ยากนะคะ
เมื่อวานพี่ไปเยี่ยมหลานชายมาค่ะ
ในกรมนี้บรรยากาศดีที่เดียวค่ะ
หลานก็ดูปรับตัวเข้ากับเพื่อนทหารใหม่ได้ดี
บางครอบครัวมากันไกลที่เดียวค่ะ เหนือ อีสานก็มีค่ะ
บางครอบครัวเหมารถตู้มา 2 คันเลย ยกหมู่บ้านมาเลยค่ะ
หลานชายผอมลงผิวนี่สองสีไปแล้วค่ะ แต่ดูเขาแฮ้ปปี้ดีค่ะ
หายห่วงไปค่ะ
เช้านี้พี่คงมาก่อนคุณหอมกรแน่ๆค่ะ