No. 788 ขอเป็นคนดีบ้าง @ Romaram ร่มอารามธรรมสถาน |
|
 |
ปกติเป็นคนไกลวัด คือเห็นวัดก็เฉย ๆ ใครชวนไปวัดก็ไป ใครเขาไปนั่งสวดมนต์ก็ปล่อยเขานั่งข้างใน |
ส่วนผมนั่งอยู่ข้างนอก เรียกว่าไม่ขัดใจใคร… |
เวลาพระภิกษุสวด ก็นั่งฟัง เหน็บกินขา แล้วก็คิดในใจ ฟังไม่รู้เรื่องสวดทำไมว้า แต่ไมได้พูดออกมานะครับ |
ใจยังคิดเลยว่าน่าจะเทศน์แบบ หลวงพ่อปัญญา แห่งวัดชลประทานรังสฤษดิ์ หุ หุ |
ขออภัยต่อ พระภิกษุจริง ๆ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าสวดทำไม |
หลังจากนั้นก็หลายปี จึงรู้ว่าสวดเป็นภาษาบาลี สันสฤตทำไม |
|
เกือบครึ่งปีถ้าขับรถมักจะถูกต่อว่า ปนบ่นจากคนนั่งข้างหรือไม่ก็คนหลังว่าทำตัวเป็นคนใจร้อนได้ไง อายุเยอะแล้วนะ หุ หุ บางครั้งมันเหลืออดจริง ๆ ผมก็ต้องบ่น ด่าไปบ้าง หมายถึงคนข้างนอกรถนะเออ ไม่กล้าด่าให้ได้ยินหรอก หุ หุ |
ดูมัน ขับคนประสาอะไรอยู่เลนขวา แซงปาดหน้าทุเรศมาก |
ปริ้น ๆ ๆ |
แนะมันรีบเบรค จะให้ทิ่มท้าย งี้ก็สวยซิ จะลงไปถาม อ้าวมันรีบบึ่งหนี งั้นต้องตามว่าแล้วเหยียบคันเร่งจี้ |
ดู๊ รีบหนีไปไหน ไอ้.. |
ดีนะคนนั่งในรถรีบ บ่นปนด่า ใจเย็น ๆ พี่เรียนสมาธิมาแล้วนะ |
|
ใคร ๆ ก็มีปัญหาเข้านอนแล้วไม่หลับ ส่วนผมไม่สบอารมณ์จริง ๆ ชงกาแฟเข้มข้นจิบก่อนเข้านอน |
จะเป็นไรไป ฮึ ใครห้ามก็ไม่ฟัง |
|
ปกติจะเป็นคนออกกำลังกายโดยปั่นจักรยานเสือภูเขาวันละหลายกิโลเมตร ที่สวนบึงหนองบอนใกล้สวนหลวง ร.9 |
กรุงเทพอาทิตย์ละ 3 วันที่นั่นพื้นที่กว้าง 644 ไร่มีที่สงบ คนน้อย พอปั่นเสร็จจิตเริ่มสงบ เหมาะเข้าทำสมาธิ |
จะแวะหลบไปนั่งไกลคนนั่งสมาธิ ทำแบบนี้เป็นเวลาหลายปี |
แต่ระยะ 6 เดือนมานี้ ปิดตาแล้วบริกรรมตามที่เคยทำ แต่ไม่ค่อยทำสมาธิได้นาน ๆ ส่วนใหญ่ทำได้ 10 นาที |
ก็รู้สึกตัว เพราะมีขันธมารผจญ หุ หุ |
นั่งคิดหลายวัน คิดเลยว่าต้องไปหาที่สงบทำสมาธิ นึกได้ว่าเราเคยไป ร่มอารามธรรมสถานที่คลองสิบ ถนนเส้น |
ไปนครนายกที่ พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญริเริ่มก่อสร้างอบรมคนทั่วไปเป็นจำนวนมากรวมทั้งผมด้วย  เลยเข้าสมัครทางอินเตอร์เน็ต |
ทีแรกสมัครไม่ได้ ลองอีกสองครั้งสมัครได้ คลิ๊กดูคราวนี้มีชื่อผมเป็นผู้ชายคนที่ 9 ส่วนใหญ่เป็นหญิงมีกว่า 40 คนแสดงว่าสมัครสำเร็จแล้ว |
|
ร่มอาราม บอกว่าหลังสมัครแล้วหากไม่พร้อมขอให้ แจ้งให้ทราบเพื่อที่จะได้ให้คนอื่นเข้า อบรมแทน |
เรื่องนี้ทราบมาก่อนว่า เพราะครั้งก่อน ๆ ต้องจองล่วงหน้า 5 - 6 เดือนถ้าช้า เต็ม |
|
รอมา 3 ได้เดือน ถึงเวลาแล้ว บอกให้เพื่อน ๆ ช่วยกันทำงานแทน ถ้าพอเป็นคนดีกับเขาบ้างก็จะกลับมาให้เพื่อน |
บางคนบ่น (ฟ้อง) ให้ฟัง |
ขับรถจากบ้านเข้ามอเตอร์เวย์ม้วนตัวเข้าสู่ถนน ปทุมธานีสู่นครนายกเป็นเวลาเดินทางรวม ชั่วโมงเศษก็เลี้ยวเข้าถนน |
เรียบคลองสิบ น่าจะประมาณ 3 - 4 กม.เห็นสะพานสีฟ้าไม่ใช่ แล้วก็เจอสะพานข้ามคลองสีเหลืองใช่แล้ว ถนน |
ซอยเข้าสู่ร่มอารามธรรมสถานเป็นถนนคอนกรีต พื้นที่เขตที่ดินติดกับองค์การบริหารส่วนตำบลบึงบา  ขับรถเข้าไปเล็กหน่อยไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึง |
กะว่าคงไปถึงก่อนเพื่อนที่ไหนได้ เห็นหญิงใส่ชุดขาวนั่งบนเก้าอี้หินอ่อน 7 - 8 คน...เลยจอดรถ เดินดูสวนไป ภาพข้างล่างชั้นบนเป็น ห้องปฏิบัติธรรมทุกคนจะไปรวมกันที่นั่น ส่วนชั้นล่างเป็นห้องพักสตรี มีโรงเรือนพักอื่นด้วย |
 .....  |
ตรงนี้ พวกเรายืนเข้าแถวรอ ลงทะเบียนเข้ารับการอบรม และต้องฝากโทรศัพท์ใส่ถุงผ้า ธรรมบริกรจะเก็บไว้จนกว่าจะอบรมเสร็จ...มีป้ายให้ติดหน้าอก สองแผ่น  ธรรมบริกรหญิง เห็นหน้าผมก็ถามว่า เคยมาบ้างหรือยัง.... เคยมาบ้างแล้วครับ งั้นไม่ต้องพาไปชี้ที่พัก คงไปถูกนะคะ ครับคงไปถูก ที่ไหนได้ หาอาคารที่พักตามรายชื่อไม่เจอ ไม่ใช่ที่เก่า กลายเป็นอาคารด้านหลังที่สร้างใหม่  เห็นสภาพแล้ว นึกถึงที่รีสอร์ท จังหวัดหนึ่ง ยังไม่สะอาดเท่าที่นี่ หุ หุ ที่พักไม่มีเครื่องอบผ้า คงไม่เหมาะตากผ้ากลางแดด เลยใช้ผ้าขาวม้าแทนผ้าเช็ดตัวชนิดขนหนู ผ้าขาวม้าแห้งเร็วดี  มีห้องส่วนตัวด้วยน้า อ้าวลืมเก็บ กกน. 2 ตัวสายไปเสียแล้ว  ห้องพักเรียงเป็นตับ เขากำหนดให้ผมพักห้องหมายเลข 6 ตามภาพข้างบนเห็นชัดเจน งดพูดคุย ก่อนหน้านั้น เขาขอรับเครื่องโทรศัพท์เราไปเก็บใส่ถุงแต่ละคน ไปเก็บไว้ที่ห้องทำงาน(มั้ง) จุดประสงค์ มิให้พูดหรือติดต่อ ผมเตรียมกล้องถ่ายภาพคอมแพค เล็กไปด้วย ก็เขาไม่ได้ห้ามนี่นา เห็นที่รองนั่งสีน้ำเงิน ธรรมบริกรแนะนำให้นั่งประจำที่ใครจำไม่ได้ ใช้ป้ายเดียวกับ ห้องพัก มาติดที่เบาะ คนอื่นจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้วนะ เอะยังไง... หุ หุ  ก่อนถึงเวลาที่จะรับ คำแนะนำการปฏิบัติธรรม เลยขึ้นไปถ่ายที่ห้องรวมไว้ก่อน เขาจัดเตรียมอาสนะหรือเบาะรองนั่ง ไว้ รีบถ่ายภาพ เกรงว่าจะเป็นการรบกวนผู้อื่น  แต่ละคนเลือกนั่งตามที่ชอบ ผู้ชายมักจะนั่งแถวหน้าสุด ถ้าสังเกตหลังห้อง จะมีเก้าอี้ขาวเรียงไว้สำหรับ ส.ว. หรือผู้ที่ไม่อาจจะนั่งกับพื้นได้ ส่วนผมไม่สดวกเป็น ส.ว. หุ หุ เพียงแต่ นั่งแบบเทพบุตรนาน ๆ เพื่อกราบพระหรือนมัสการรับศิลไม่ได้ เลยนั่งเก้าอี้ด้านหลัง ทำให้สะดวกในการนั่งทำสมาธิด้วย ธรรมบริกรเริ่ม แนะนำระเบียบปฏิบัติ การนั่งแบบสงบ เวลาปฏิบัติ การนอนพักผ่อนให้งด พับถุงก๊อบแก๊บเด็ดขาด เข้านอนประมาณ 4 ทุ่ม ควรอาบน้ำเวลาใด งดพูดคุยห้ามอ่านหนังสือทุกชนิด จะจัดอาหารมังสะวิรัตน์ 2 มื้อทานให้อิ่ม ตอนเย็นมีน้ำปานะให้ดื่ม เช่นน้ำผลไม้ น้ำหวาน กาแฟ ชา น้ำเปล่า และย้ำว่า นอนหลับให้สบาย ตี 4.30 น.จะมีเสียงปลุกเป็นเสียงดนตรีกับเสียงร้อง(ไพเราะมาก) ให้ทุกคนรีบแปรงฟัน ล้างหน้า ตี 5 ทุกคนต้องเข้านั่งที่ห้องปฏิบัติธรรม จะมีพักเป็นระยะ แต่ทุกคนจะได้เข้านอนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง คนที่มาใหม่ หันหน้าไปมองกัน คงนึก ลำบากแน่ตั้งแต่เวลา ตี 4 ถึง 4 ทุ่ม ส่วนผมเฉย ๆ เพราะเคยมาที่นี่ 2 ครั้งที่ไหนก็ คล้าย ๆ กัน...ภาพต่อไปผมถ่ายหลัง ออกจากถือศิลแปดกลับมาถือศิลห้า กับตอนที่อยู่ไกลใช้กล้องคอมแพคเล็ก ดึงภาพถ่าย ดูไปเรื่อย ๆ นะครับ เพราะขณะปฏิบัติ งดถ่ายภาพ  ....  .....  ....  วันที่ 1 ถึงวันที่ 5 พวกเราจะเข้าห้องรวม ธรรมบริกรจะให้ พวกเราร่วมกันทำวัตรเช้า หมายถึงการสวดมนต์บทต่าง ๆ นานนับชั่วโมง พระอาจารย์ท่านจะมาดูเป็นระยะ...เทศน์สอนเป็นภาษาไทย แล้วก็ให้พวกเราลงไป ฝึกเดินจงกรม ที่สนามหญ้าด้านหน้าเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ค่อย ๆ เดินลงไป... ส่วนผมขามันยาว 555 เลยเดินไปถึงก่อน เลือกชัยภูมิหมายถึงสถานที่นะครับ มิใช่จังหวัด ก็จะยืนพนมมือ บริกรรมสั้น ๆ แล้วเดินจงกรม กลับไปกลับมาเป็นเวลาประมาณครึ่่งชั่วโมง  ...แล้ว ออกจากเดินจงกรมไปนั่งพักใกล้ ๆ ตรงอาคาร เลยถือโอกาศถ่ายภาพเพื่อน ๆ ไว้ โดยมิรบกวนผู้ใด พอพวกเราเริ่ม บริหารร่างกายก็รีบถ่ายภาพ แล้วเดินไปร่วมกับเพื่อน ๆ  เดินจงกรมเสร็จ ล้างเท้าแล้วเดินไป ห้องอาหารมังสะวิรัตน์...ทานได้เต็มที่ อาหารจะเปลี่ยนทุกมือ วันแรกที่ไปผมก็กิน อาหารมื้อเที่ยงเยอะมากกว่า เพราะรู้ว่า ต้องงดอาหารเย็น.... ผลคืออึดอัดมากในเวลาบ่าย เข็ดเลย วันต่อ ๆ มาก็ทานเท่า ๆ เดิมขณะอยู่ที่ทำงานหรือที่บ้าน  ที่นั่นมีผลไม้เปลี่ยนทุกวัน....บางวันมีขนม มีไอซ์ครีม ตอนเช้ามีข้าวต้ม มีขนมปังโฮลหวีต ธรรมดา แยม ส่วนเครื่องดื่ม กาแฟหลายยี่ห้อ ชาจีน ชาทรีอินวันหลายชนิด รวมทั้งผมนำ ชาทรีอินวันของเมียนมา ไปให้แม่ครัวนำไปรวม ด้วยสังเกต มีคนฉีกชงดื่ม โห..ปลื้มเหมือนเราถวายอาหารให้ภิกษุ แล้วท่านตักฉัน 555 เอ..อันนี้กิเลส หรือความปลื้มปิติ  เรื่องที่นั่งธรรมบริกร แนะนำว่า ควรนั่งโต๊ะ เก้าอี้เดิม มีโต๊ะชาย ยาว ๆ 1 โต๊ะมีผู่ชายครีังนี้ 10 คน ถ้าสตรีประมาณ 50 คน ภาพข้างล่าง เป็นที่จอดรถของ ธรรมบริกร ผมขอยืนยันว่า ธรรมบริกรไม่ดุ เหมือน...แหะ ๆ ........ คือผมเข้าใจนะครับว่า บางแห่งคนเยอะมาก ใครเผลอลุกจากที่นั่งกลับมา เสร็จเสียที่นั่ง หุ หุ ธรรมบริกรที่อื่นเลยต้องดุบ้าง โรงรถที่มีหลังคาจอดได้ประมาณ 30 คันมีช่องจอดสำหรับ ธรรมบริกรไว้ รถมันเยอะอีกลานจอดกว้างกลางแจ้งได้กว่า 50 คัน ของผมมาก่อน ๆเลยจอดช่องถัดไป อายรถตัวเองด้วย  กลางวันจะ แอบไปเอนหลังนิดนุงที่หห้องพัก หลังมันแข็งเป็นดาน...แค่ 10 นาทีก็พอ ภาพข้างล่างคงสำหรับ คนสูงวัยมั้ง ผมได้แต่ แล ยาหอม...หุ หุ. เขาวางไว้ที่อาคารเรือนนอน ๆ เป็นมุ้งลวดทั้งหมด  ทางเดินที่พัก จะมีจุดน้ำหอมตะใคร้ กันยุง แม้แต่ช่องระบายอากาศห้องน้ำ ป้องกันยุงได้ดี.  ที่นี่ มีข้อห้ามว่า ไม่ควรอาบน้ำก่อนตี 4 ใครอาบส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นที่นอนไม่ค่อยหลับ ผมตื่นมาเข้าห้องน้ำตี 4 รอเวลาเกินนิดหน่อย อาบน้ำเงียบ ๆ แต่เป็นฝักบัว ใครคงไม่ด่าเนาะ...  ...  ...  เพื่อน ๆ หลายคนรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ขึ้นไปที่ห้องรวม ติดแอร์เย็นสบาย สงบ นั่งรอพระอาจารย์ขึ้นมาสอนธรรมมะ.. ภาพข้างล่าง ถ่ายก่อนเข้าอบรม และ ถ่ายในวันสุดท้ายนำมาประกอบ ป้องกันเพื่อน ๆ เห็นตัวหนังสือแล้ว ง่วง 555  ภาพข้างล่าง ผมลงมาจงกรมพร้อม ๆ กับเพื่่อนเห็น พื้นที่เหมาะสมแสงไม่จ้า เลยเดินตรงสนามหญ้า เห็นรอยเดินจาง ๆ นั่นใช่เลย .  เช้าเราเข้า ทำวัตรเช้า ฟังเทศน์พระอาจารย์สอน นานเหมือนกัน...พอจะง่วงพระอาจารย์ก็ให้เดินจงกรม หายง่วงซิครับ  การเดินจงกรม พระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์แห่งวัดธรรมมงคล ท่านสอนผมไว้ว่า เป็นการทำจิตให้สงบ เป็นการเข้าสมาธิตึ้น...พอจิตสงบก็ให้นั่งสมาธิทันที  ส่วนใหญ่ผมเดินจงกรมก่อนเพื่อน พอครบ 30 นาทีก็ลงนั่งบนเก้าอี้ บริกรรมครบตามที่เรียนมาก่อน แล้วปิดตาทำสมาธิ  โดยเพ่งจิตก็ใจเรานั่นเอง ไปตรงฐานจิตที่มีอยู่ 5 แห่ง หน้าผาก หรือ จมูก หรือใบหน้า หรือ หัวใจ หรือสะดือ ของผม ถนัดตรงหน้าผาก....เพื่อนคนใดลองเพ่งจิตถ้าที่ใดเข้าสู่สมาธิได้ง่ายใช้ ตรงนั้นตลอดไป ห้ามเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา(พระอาจารย์กำชับไว้)ระหว่างที่เพ่งจิตจะบริกรรม พุทโธ ตลอด จนกระทั่งพุทโธหายไปเอง นั่นคือการเข้าสมาธิแล้ว ระหว่างบริกรรมพุทโธ ใจนึกถึง คนอื่น หรือนึกถึงงานให้ บริกรรมพุทโธ ถี่ ๆ ขึ้นจะเข้าสู่สมาธิได้  ขอบอกก่อนนะครับ หลักสูตรอบรมที่ ร่มอารามธรรมสถาน วันที่ผมไปนี้สำหรับ คนที่ เดินจงกรม นั่งสมาธิเป็นแล้ว จะไม่สอนแบบที่ผมกล่าวไว้...  เพื่อนอาจจะสงสัยว่า ทำสมาธิแล้วทำไม ต้องไปฝึกต่อ..เริ่มแรกผมเขียนโปรยไว้ว่า เป็นคนอารมณ์ร้อนโดยเฉพาะขับรถ ชอบด่าคนอื่นในรถ อิ อิ คนถูกด่าไม่ได้ยิน ไม่เห็นริมฝีปากด่า หลังจากเรียนสมาธิและเดินจงกรมนั่งสมาธิบ่อย ทำให้จิตเข้ม และมีสติดีขึ้นมาก ๆ เมื่อมีความโกรธ จะรู้สึกตัว และหายจากความโกรธได้เร็ว เพื่อน ๆ จะไม่ค่อยเห็นผมแสดงกิริยาที่ไม่ดี 555  |
เพื่อนคนหนึ่งถามว่าทำไมต้องไปปฏิบัติธรรมทำที่บ้านก็ได้ไม่ใช่หรือ หลายคนก็รู้ว่า ผมจะไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ที่กว้างแล้ว หลบไปนั่งสมาธิประจำ น่าจะพอ  ไม่พอหรอกครับ สังเกตมาหลายเดือน เข้าสมาธิได้ตื้น ๆ ได้เพียง 5 - 10 นาทีก็ ออกจากสมาธิแล้ว น้อยเกินไป  อีกอย่างไปทำสมาธิที่สวนสาธารณะ สงบน้อยแต่มีขันธมารเยอะ ไม่ใช่มารที่เราเห็นในภาพเขี้ยวโง้งนะครับ ขันธมารที่ผมหมายถึง อากาศร้อน อากาศเย็นจัด เสียงดัง แสงสว่างจ้า มดยุงกัด อีกอย่างคือขณะนั่ง มีความรู้สึกว่า มีอะไรไต่ตอบ จริงแล้วไม่มีเป็นเพียงความรู้สึก ถ้าคนที่ทำสมาธิบ่อยพลังจิตจะเข้มแข็งมิหวั่นไหว ส่วนผมบางครั้งสะสมพลังจิตน้อยไป ภาพห้องข้างล่างดูสว่าง เมื่อจะเดินจงกรม นั่งสมาธิจะปิดไฟให้ สลัว  ผมจึงมักจะไปสมัครปฏิบัติธรรมหลายแห่ง เพื่อทำตนให้อยู่ในกรอบ ละจากสิ่งที่ชวนไหลหลง อีกอย่างเพื่อ อาศัยพลังจิตจากเพื่อนที่เดินจงกรม นั่งสมาธิใกล้ตัว ทุกคนจะจิตสงบนิ่งมีเมตตา แผ่สร้านไปทั่ว ผมซึ่งอยู่บริเวณเดียวจะได้ พลังจิตความมีเมตตาเข้ามาเสริม ทำให้เข้าสมาธิได้นิ่ง นานกว่าเดิม การอาศัยพลังจิตจากกลุ่ม เป็นเรื่องจริงพระอาจารย์ท่านสอนไว้ และผมแอบพิสูจน์ อิ อิ.. จริงเลยครับ ผมจึงสมัครมาที่ ร่มอารามธรรมสถาน ผมเข้าปฏิบัติแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่สอง นั่งสมาธิครู่เดียวก็ดิ่งเข้าสมาธิได้เลยรู้ว่าเข้าสมาธิได้นานวันละ สามครั้ง บางวันบางครั้งก็ แหะเข้าสมาธิลึกไป คือนั่งหลับก็มีบ้างแหละ  การอยู่ในห้องที่สงบ เย็นสบายพอดี นั่งฟังธรรมะ เดินจงกรม นั่งสมาธิตอนบ่ายโมงถึง 5 โมงเย็นดีมาก ใครจะเดินจงกรมก็เดิน ใครจะนั่งทำสมาธิก็ทำ ทุกคนเงียบ ผมนั่งสมาธิเสร็จก็ตื่น เอ้ย...ออกจากสมาธิจึงรู้ว่าแต่ละคน กำลังปฏิบัติอยู่... ไม่น่าเบื่อแต่อย่างใด  วันสุดท้าย พระอาจารย์จะ ให้เราถือศิล 5 แทนศิล 8 ธรรมบริกรจะคืนโทรศัพท์และอนุญาตถ่ายภาพได้ ระหว่างนั้น พระอาจารย์จะตอบปัญหาในการทำสมาธิตามคำถามที่ เขียนใส่กระดาษถาม เมื่อเสร็จแล้ว  ผมเลยขออนุาตให้เพื่อนถ่ายภาพผมกับพระอาจารย์ทั้งสอง เพื่อน ๆ สนใจสมัครไปปฏิบัติธรรมได้ทางอินเตอร์เน็ต มีหลายหลักสูตร สั้น กับหลายวันแบบ ที่ผมไปในครั้งนีั 4 คืน 5 วัน... ชำระหนี้สงฆ์ หรือค่าใช้จ่ายอื่นตามที่คุณเห็นเหมาะสม ไม่มีการเรี่ยไร ก่อนกลับ พวกเราต่างไหว้ขอขมาในห้องปฏิบัติ และต่างคนต่างร่ำรากัน ใกล้ลานจอดรถ ผมเห็นชาวสวนแถวนั้น นำผักกาด ชะอม มะเขือ แตงกวาอ่อนจริง ๆ มะม่วงดิบ กับอย่างอื่นมาขาย กำละ 10 บาทผมก็ซื้อมา แพล๊บเดียวหมด ผมก็ขับรถออก เปิดกระจกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จะลาธรรมบริกร ขอลาไปเลยนะครับ ขอบคุณครับ โห ไปถึง เลย เหรอคะ แนะถูกแซว ไม่คิดว่าธรรมบริกรจะมีอารมณ์ขัน เลยหัวเราะกันเกรียว... ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L 1,494,924 |
st.ผู้เข้า 1,490,261 = 4.663 ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาเยือนมาเม้นท์ กรุณาทิ้งร่องรอยไว้ผมจะกลับไปเยือน |
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่สวยงาม
ดูมีระเบียบเรียบร้อย สะดวก
และปลอดภัยมากๆเลยครับ
เห็นแล้วชื่นชมการจัดการและการดูแลสถานที่เลย
ผมว่าตอนนี้คนไทยเราต้องการสถานที่ดีดีแบบนี้
ให้มีเยอะๆไปทั่วทุกจังหวัดเลยครับ