: บางคำถาม ไม่ได้ต้องการ คำตอบ :
: “บางคำถาม” ไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” :
28 ปีก่อน... ผมเคยเป็นครูฝึกสอนอยู่หนึ่งเทอมเต็มที่วิทยาลัยช่างศิลป์ คาบแรกของการเป็นครู ผมเดินเข้าไปในห้อง ปวช.3 ห้องเงียบลงในชั่วขณะ นักศึกษามองมาที่ผม เสียงเงียบเหมือนการหยั่งเชิงกัน ผมยืนตรงหน้าชั้น กวาดสายตาไปทั่วห้อง นักศึกษาแต่ละคนดูท่าทางไม่ธรรมดา ใช่---เด็กศิลป์ย่อมไม่ธรรมดา....
“สวัสดีครับทุกคน เทอมนี้ผมจะมาเป็นอาจารย์ประจำชั้นห้องนี้ สิ่งที่ผมอยากบอกทุกคนก็คือ โดยอายุผมคงเป็นรุ่นพี่คุณไม่กี่ปี ผมไม่ได้มีความรู้เยอะไปกว่าพวกคุณหรอก แต่สิ่งใดที่ผมรู้ ผมจะถ่ายทอดอย่างเต็มที่”
ผมหยุดพูดชั่วขณะเพื่อดูปฏิกิริยาของเด็กในห้อง...ทุกคนยังเงียบอยู่
“ผมไม่สนใจเรื่องทรงผม ใครอยากจะไว้ผมยาว เจาะหู เจาะจมูก ย้อมผมสีม่วง สีส้มก็ทำไป ถ้าอยู่กับผม ใครอยากแต่งตัวยังไงก็ทำไป จะเอาเสื้อออกนอกกางเกงก็ทำไป ผมขออย่างเดียว”
เมื่อผมหยุดคำพูดตรงนี้ เด็กยิ่งตั้งใจฟังว่าผมจะพูดอะไรต่อ....
“ผมขอแค่คุณเข้าเรียน ส่งงานผมให้ครบ ผมขอเท่านี้พอ เรื่องแต่งกาย เรื่องทรงผม หลบครูฝ่ายปกครองเอาเองล่ะกัน อย่าบอกว่าผมเป็นคนบอกนะ”
พูดจบเด็กเฮขึ้นมาพร้อมกัน ผมเห็นรอยยิ้มของนักศึกษาส่วนใหญ่ในห้อง ทุกคนรู้แล้วว่าผมไม่ได้เข้ามาในห้องเพื่อควบคุม สั่งการ หรือบังคับอะไรใคร
หลังจากนั้นผมก็สอนครบทุกคาบทุกสัปดาห์ จนถึงช่วงการตัดเกรด มีคุณแม่ท่านหนึ่งมาที่แผนก ขอเข้าพบกับหัวหน้าคณะเพื่อพูดคุยอะไรบางอย่าง ผมนั่งทำงานอยู่อีกฝั่งอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งหัวหน้าคณะเรียกผมเข้าพบ เพื่อให้ผมเป็นคนพูดคุยกับคุณแม่ท่านนี้ด้วยตัวเอง
“อาจารย์ตัดสินใจได้เต็มที่เลยนะคะ” หัวหน้าแผนกบอกกับผม
เรื่องราวทั้งหมด คือ ลูกชายของคุณแม่ท่านนี้ไม่เคยเข้าเรียนในคาบผมเลยแม้แต่คาบเดียว ไม่เคยส่งงานแม้แต่ชิ้นเดียว คุณแม่บอกว่าลูกมีปัญหาเรื่องติดยา อยากขอร้องให้ผมช่วยให้เกรดผ่านกับลูกของเธอด้วย เพราะถ้าปีนี้เกรดเฉลี่ยไม่ถึง เด็กคนนี้ก็ต้องโดนไล่ออกจากวิทยาลัย
“น้องไม่เคยส่งงานผมแม้แต่ชิ้นเดียวครับคุณแม่ ไม่เคยเข้าเรียนแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้มีเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถ้าน้องทำงานมาส่งผมให้ครบ ผมจะตรวจงานให้ แต่ถ้าไม่ทำมาส่ง ก็คงต้องตัดเกรดไปตามความเป็นจริงครับ”
ผมตอบไปตามหลักการ คุณแม่นั่งร้องไห้อ้อนวอนให้ผมช่วยลูกของเธอ ในขณะที่หน้าห้องลูกชายตัวแสบนั่งยิ้มล่องลอยโดยไม่สนใจอะไรเลย ผมยังยืนยันกับคุณแม่อีกครั้งว่า น้องต้องทำงานมาส่ง และต้องทำให้ผ่านเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้เท่านั้น ไม่มีการช่วยเหลืออะไรใดใดนอกจากนี้...
สุดท้าย...นักศึกษาคนนี้ก็ไม่ได้ส่งงาน นั่นเป็นนักศึกษาเพียงคนเดียวที่ผมให้ F โดยนักศึกษาเกือบทั้งห้องที่เข้าเรียนสม่ำเสมอ และส่งงานผ่านด้วยคุณภาพที่ผมตั้งไว้ ต่างได้ A กันไปโดยไม่ยากเย็นนัก
ผมไม่เคยเจอเด็กนักศึกษาชุดนี้อีกเลย ไม่เคยติดต่อกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้แต่ละคนจะเติบโตเป็นอย่างไรบ้าง
ผมนึกถึงเรื่องนี้ในวันที่ “ชุดนักเรียนและทรงผม” กลายเป็นหัวข้อให้คนในสังคมถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ผมนึกถึง “คาบแรก” ที่ผมเข้าสอน
อะไรคือ “แก่นแท้ของการศึกษา ?” อะไรคือ “ปรัชญาที่แท้จริงของการศึกษา ?”
“บางคำถาม” ไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” หรอกครับ เมื่อถึงเวลา “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” ก็จะพัดพาและเปลี่ยนความคิด ความเชื่อของคนในสังคมได้เอง ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับ “คำตอบนั้น” ก็ตามที
Create Date : 28 ตุลาคม 2566 |
Last Update : 28 ตุลาคม 2566 5:55:25 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1192 Pageviews. |
|
|
|
|
วันนี้แวะมาทักทายก่อนไปสวดมนต์เช้าใส่บาตรจ้า