ตุลาคม 2566
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
28 ตุลาคม 2566

: “บางคำถาม” ไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” :



: “บางคำถาม” ไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” :









28 ปีก่อน... ผมเคยเป็นครูฝึกสอนอยู่หนึ่งเทอมเต็มที่วิทยาลัยช่างศิลป์
คาบแรกของการเป็นครู ผมเดินเข้าไปในห้อง ปวช.3
ห้องเงียบลงในชั่วขณะ นักศึกษามองมาที่ผม เสียงเงียบเหมือนการหยั่งเชิงกัน
ผมยืนตรงหน้าชั้น กวาดสายตาไปทั่วห้อง นักศึกษาแต่ละคนดูท่าทางไม่ธรรมดา
ใช่---เด็กศิลป์ย่อมไม่ธรรมดา....


“สวัสดีครับทุกคน เทอมนี้ผมจะมาเป็นอาจารย์ประจำชั้นห้องนี้
สิ่งที่ผมอยากบอกทุกคนก็คือ โดยอายุผมคงเป็นรุ่นพี่คุณไม่กี่ปี
ผมไม่ได้มีความรู้เยอะไปกว่าพวกคุณหรอก แต่สิ่งใดที่ผมรู้ ผมจะถ่ายทอดอย่างเต็มที่”


ผมหยุดพูดชั่วขณะเพื่อดูปฏิกิริยาของเด็กในห้อง...ทุกคนยังเงียบอยู่


“ผมไม่สนใจเรื่องทรงผม ใครอยากจะไว้ผมยาว เจาะหู เจาะจมูก ย้อมผมสีม่วง สีส้มก็ทำไป
ถ้าอยู่กับผม ใครอยากแต่งตัวยังไงก็ทำไป จะเอาเสื้อออกนอกกางเกงก็ทำไป ผมขออย่างเดียว”


เมื่อผมหยุดคำพูดตรงนี้ เด็กยิ่งตั้งใจฟังว่าผมจะพูดอะไรต่อ....


“ผมขอแค่คุณเข้าเรียน ส่งงานผมให้ครบ ผมขอเท่านี้พอ เรื่องแต่งกาย เรื่องทรงผม
หลบครูฝ่ายปกครองเอาเองล่ะกัน อย่าบอกว่าผมเป็นคนบอกนะ”


พูดจบเด็กเฮขึ้นมาพร้อมกัน ผมเห็นรอยยิ้มของนักศึกษาส่วนใหญ่ในห้อง
ทุกคนรู้แล้วว่าผมไม่ได้เข้ามาในห้องเพื่อควบคุม สั่งการ หรือบังคับอะไรใคร

หลังจากนั้นผมก็สอนครบทุกคาบทุกสัปดาห์ จนถึงช่วงการตัดเกรด
มีคุณแม่ท่านหนึ่งมาที่แผนก ขอเข้าพบกับหัวหน้าคณะเพื่อพูดคุยอะไรบางอย่าง
ผมนั่งทำงานอยู่อีกฝั่งอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งหัวหน้าคณะเรียกผมเข้าพบ
เพื่อให้ผมเป็นคนพูดคุยกับคุณแม่ท่านนี้ด้วยตัวเอง

“อาจารย์ตัดสินใจได้เต็มที่เลยนะคะ” หัวหน้าแผนกบอกกับผม

เรื่องราวทั้งหมด คือ ลูกชายของคุณแม่ท่านนี้ไม่เคยเข้าเรียนในคาบผมเลยแม้แต่คาบเดียว
ไม่เคยส่งงานแม้แต่ชิ้นเดียว
คุณแม่บอกว่าลูกมีปัญหาเรื่องติดยา อยากขอร้องให้ผมช่วยให้เกรดผ่านกับลูกของเธอด้วย
เพราะถ้าปีนี้เกรดเฉลี่ยไม่ถึง เด็กคนนี้ก็ต้องโดนไล่ออกจากวิทยาลัย


“น้องไม่เคยส่งงานผมแม้แต่ชิ้นเดียวครับคุณแม่ ไม่เคยเข้าเรียนแม้แต่ครั้งเดียว
ตอนนี้มีเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถ้าน้องทำงานมาส่งผมให้ครบ ผมจะตรวจงานให้
แต่ถ้าไม่ทำมาส่ง ก็คงต้องตัดเกรดไปตามความเป็นจริงครับ”


ผมตอบไปตามหลักการ คุณแม่นั่งร้องไห้อ้อนวอนให้ผมช่วยลูกของเธอ
ในขณะที่หน้าห้องลูกชายตัวแสบนั่งยิ้มล่องลอยโดยไม่สนใจอะไรเลย
ผมยังยืนยันกับคุณแม่อีกครั้งว่า น้องต้องทำงานมาส่ง
และต้องทำให้ผ่านเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้เท่านั้น ไม่มีการช่วยเหลืออะไรใดใดนอกจากนี้...



สุดท้าย...นักศึกษาคนนี้ก็ไม่ได้ส่งงาน นั่นเป็นนักศึกษาเพียงคนเดียวที่ผมให้ F
โดยนักศึกษาเกือบทั้งห้องที่เข้าเรียนสม่ำเสมอ และส่งงานผ่านด้วยคุณภาพที่ผมตั้งไว้
ต่างได้ A กันไปโดยไม่ยากเย็นนัก

ผมไม่เคยเจอเด็กนักศึกษาชุดนี้อีกเลย ไม่เคยติดต่อกัน
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้แต่ละคนจะเติบโตเป็นอย่างไรบ้าง

ผมนึกถึงเรื่องนี้ในวันที่ “ชุดนักเรียนและทรงผม” กลายเป็นหัวข้อให้คนในสังคมถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง
ผมนึกถึง “คาบแรก” ที่ผมเข้าสอน

อะไรคือ “แก่นแท้ของการศึกษา ?”
อะไรคือ “ปรัชญาที่แท้จริงของการศึกษา ?”

“บางคำถาม” ไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” หรอกครับ
เมื่อถึงเวลา “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง”
ก็จะพัดพาและเปลี่ยนความคิด ความเชื่อของคนในสังคมได้เอง
ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับ “คำตอบนั้น” ก็ตามที











Create Date : 28 ตุลาคม 2566
Last Update : 28 ตุลาคม 2566 5:55:25 น. 14 comments
Counter : 1192 Pageviews.  

 
อืม แบบนี้ต้องเรียกว่าคุณก๋าครูผู้มาก่อนกาลซินะ
วันนี้แวะมาทักทายก่อนไปสวดมนต์เช้าใส่บาตรจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:6:07:09 น.  

 
นึกถึงเสียงเพลงClassic rock อมตะ
ของวงScorpion
Wind Of Change ช่วงทุบ/ สลายกำแพงเบอร์ลิน


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:6:22:02 น.  

 
คุณก๋า เข้าถึงจิตน้อง ๆ นักศึกษาได้ดีมาก ๆ เลยครับ

แต่นักศึกษาบางคน ทำอะไรขัดใจคนแหะ ๆ แก ร่.. อย่างเยอะ
บางคนที่ แรงอย่างที่เป็นข่าวทีแรกคิดว่า ครูอาจารย์น่าจะเข้ม
ภายหลังเพื่อน ๆ ขอให้โรงเรียนช่วยผ่อนผัน..

ติดตามข่าวห่าง ๆ คือ รร.ผ่อนผันให้แต่ ไม่นานเด็กคนนั้นก่อเรื่องไม่เคารพมารยาทการอยู่ร่วมกันทั้งที่เพื่อนเป็นผู้สนับสนุน เพื่อนๆ
เลยตัดหางปล่อย

....
เมื่อก่อนผมไปเข้าสอบที่เพาะช่าง (ทำตามกระแสเพราะครู
อาจารย์สนับสนุน) ปลื้มนะครับ... ระหว่างที่ฝึกซ้อมฝึกเขียนฝึกวาด ก็เห็นนักศึกษาแต่งตัวแต่งกายไม่เหมือนที่อืนอยู่บ้าง
แต่ไม่มากก็ไม่ได้ทึ่งอะไรมากนัก แต่เมื่อก่อนไม่มียาเสพติด
อย่างมากก็สูบบุหรี่ ใส่เสื้อขาวขาดโดยตั้งใจให้ขาดมีสีเปื้อนเสื้อก็เท่ดี หุ หุ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:6:26:43 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักหรอกค่ะ
ยังมีครูที่คิดต่าง คิดว่าเป็นครูแล้วจะทำอะไรกับนักเรียนก็ได้อยู่นะคะก๋า
ทุกวันนี้ก็ยังคงมีเรื่องราวเล่านั้นหลบซ่อนอยู่แน่ๆเชื่อเถอะค่ะ
ต้องรอให้ยุคสมัยเปลี่ยนอีกสักหน่อย ครูที่อีโก้สูงๆหายไปนั่นแหละค่ะ

.......

เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยแปลกนะคะก๋าที่จะมีร้านกาแฟเยอะ
และราคาแพงขนาดนั้น ก็ไว้สำหรับคนมีเงินถุงเงินถังหรือนักท่องเที่ยวนะคะ
แต่ชัยนาทนี่แหละค่ะ เมืองผ่าน ใครจะมาคะ คนก็กินวนๆไปค่ะ 555

คุณหอมกรมาแต่เช้าเลยนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:6:38:03 น.  

 


โดย: หอมกร วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:7:31:50 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ พี่ก๋า

วัยรุ่นไม่ชอบการบังคับ
เปิดใจให้คนที่เข้าใจ และยอมรับในตัวเขา แบบที่เขาเป็น
คงเป้นช่วงเวลาดีๆของเด็กห้องนี้ที่ได้เรียนกับพี่ค่ะ

วันนี้แปดริ้ว แดดดีเหมือนเดิมค่ะ
เมื่อวานตอนค่ำๆหนูเดินอยู่ ฟ้าแลบไกลๆค่ะ
นึกว่าดึกๆฝนจะตก แต่ไม่ตกค่ะ

หนูไปทิ้งข้อความไว้ที่เฟซพี่ก๋านะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:9:59:09 น.  

 
ประเด็นการศึกษาเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน เป็นครูอันดับแรกที่คุณต้องทำให้ได้คือ กุมหัวใจเด็กครับ ถ้าทำไม่ได้ต่อให้คุณมีเทคนิคดีแค่ไหนก็ไม่รอดหรอก

ถึงตอนนี้ ณ วันนี้เรายังเถียงกันเรื่อง ทรงผม เถียงกันเรื่องเครื่องแบบอยู่เลย ในขณะที่ประเทศอื่นเขาไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว จริงๆ แล้วผมว่าสิ่งที่การศึกษาไทยไม่ได้สอนเด็กคือเรื่อง "วิธีการเรียนรู้" เราต้องมาศึกษาหาวิธีกันเอง ซึ่งแต่ละคนมันก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป ใครจับจุดหาวิธีได้ดีก็ไปได้เร็ว

กรณีที่พี่ก๋ายกมา เงื่อนไขต่ำสุดๆ แล้ว ก็แค่ทำงานมาส่งให้ครบ แถมมีเวลาตั้งสัปดาห์ไม่ทำก็สมควรเอฟ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:10:44:53 น.  

 
อ่านแล้วชอบบทสรุปมากค่ะ
เมื่อถึงเวลา “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง”
ก็จะพัดพาและเปลี่ยนความคิด ความเชื่อของคนในสังคมได้เอง

ตอนจบใหม่พี่ก็เคยสอนเด็กแต่เป็นมัธยมค่ะ วัยไม่แตกต่างกันมาก
ด้วยเป็นโรงเรียนประจำ ทำให้มีความใกล้ชิดสนิทสนมคุ้นเคยกันดี ปัญหาก็เลยแทบไม่มีหรือมีน้อยมาก
จะว่าไปแล้วเด็กรุ่นก่อนแม้จะมีปัญหาบ้าง แต่ก็ไม่เหมือนที่เป็นข่าวในปัจจุบันนะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:11:54:34 น.  

 
สร้างความเชื่อให้ให้เด็กตั้งแต่แรกพบสำคัญจริงครับ หลังจากนั้นง่ายเลย
ดีนะพี่ก๋าซื้อใจเด็กๆได้ โดยไม่ปล่อยให้เถลไถลไปไกล
เด็กที่เกินเยียวยา ปล่อยให้ผ่านออกไป ไม่รู้ชีวิตหรือสังคมที่น้องเข้าไปอยู่ จะเจออะไรที่แย่กว่านี้อีก และจะเปิดทางให้มีเด็กแบบนี้เยอะขึ้นด้วย


โดย: ชีริว วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:15:04:15 น.  

 
หลานได้ไปสอนโรงเรียนเอกชนในกทม.แตกต่างกับโรงเรียนรัฐบาลต่างจังหวัดอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
เด็กๆในกทม.มีความพร้อมในการเรียนการสอนสูงมาก

พรุ่งนี้วิ่งมินิครับ คืนนี้เข้านอนคงไม่ดึก ตื่นตี 4





โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:18:29:23 น.  

 
เด็กคนนั้นไม่รู้จะเป็นงัยบ้างนะครับ โตออกไปอยุ่สังคมข้างนอกโรงเรียน
ผมตอนนี้ก็เป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอน Lab ที่ทำงานอยู่ครับ โชคดีมาก ๆ ที่เป็นรุ่นน้องที่สถาบัน ทำให้สอนแบบเป็นกันเองได้ สอนมา 19 ปี เริ่มเบื่อละครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:20:31:26 น.  

 
ชุดนักเรียนและทรงผม ส่วนตัวมองว่ามันแทบจะเป็นปัญหาโลกแตกเลยค่ะพี่

จริงอยู่ทรงผมกับชุดที่ใส่ไม่ได้มีผลกับการเรียน
แต่มองว่าในวัยประถมมัธยมของบ้านเมืองเรา
ใส่ชุดนักเรียนอยู่น่าจะดีกว่า ดูมีความน่ารัก เห็นชัดได้ง่ายในแง่ความปลอดภัยด้วย เวลาที่เด็กเดินทางไปกลับโรงเรียน
หรือแม้แต่ความมีระเบียบพอประมาณ
ไม่ต้องเเข้มงวดแบบวัดความสั้นยาวของกระโปรงขนาดนั้น
ส่วนทรงผม จะไว้ยาวหรือสั้น แค่ให้มันดูเรียบร้อยไม่ปล่อยรุงรังก็พอ อยากให้เด็กผู้ชายประถมมัธยมไว้ผมยาวได้ด้วยซ้ำ 55
ฟังดูย้อนแย้งนะคะ คงเพราะอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมาเยอะมั้งคะ
เลยรู้สึกว่า อยากให้เด็กใส่ชุดนักเรียนน่ารักๆ ชุดผู้ชายก็แบบเท่ๆไปเลย เด็กๆอาจจะชอบใส่เครื่องแบบก็ได้

มุมมองแต่ละคนก็มองต่างมุมแหละเนาะ ขนาดหนูเองยังมองแย้งกันในตัวเองอยู่เลย

เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบจริงๆ




โดย: NENE77 วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:23:18:05 น.  

 
สวัสดีครับ

ณ ตอนนั้น คุณก๋าทำหน้าที่ของครูได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยครับ
ว่าแต่มาดามไม่ว่าเรื่องผมยาวแล้วใช่ไหมครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 28 ตุลาคม 2566 เวลา:23:29:52 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

อาจารย์ขอแค่เข้าเรียนกับส่งงาน
ให้อิสระในเรื่องภาพลักษณ์อย่างมากแล้วนะคะ
เมื่อนักศึกษาทำสิ่งขอไม่ได้ก็ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ
ที่จะไม่ผ่านเกณฑ์
หากต้องออกก็คือออก ก็เป็นอีกบทเรียนชีวิต
ที่นักศึกษาและผู้ปกครองได้รับและคงได้เรียนรู้จากสิ่งนี้

วันนี้ฝนตกหนักมากค่ะ เสียงเหมือนฟ้าผ่า
คุณลุงอยู่ข้างบ้านโทรมาถามว่าบ้านไฟดับมั๊ย
บ้านลุงไฟฟ้าดับ ที่บ้านไฟไม่ดับแต่น้ำล้นรางระบายน้ำฝน
แล้วย้อนเข้าครัว น้ำเข้าลิ้นชักและนองพื้น
ต้องเก็บอย่างเยอะค่ะ ^^

ขอบคุณคุณก๋าสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจนะคะ
คุณก๋าฝันดีคืนนี้ค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 29 ตุลาคม 2566 เวลา:0:21:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add 's blog to your web]