No. 859 ไล่ยังไงก็ไม่ไป (ตะพาบ) |
|
เห็นหัวข้อให้เขียน แล้วอมยิ้มเลยหลอกให้เขียนด่าคนนั้น เอ้ยหลาย ๆ คนนั้นใช่ปะ |
ไม่หลวมตัวเขียนหรอกยังไม่อยากกินข้าวผัดกะเป็บซี่ พวกเขาเยอะมาก ความกลัวครอบงำไปทั่วแล้ว 555 |
|
วันนี้กะจะเขียนถึงหนังสือเล่มหนึ่ง ไผ่แดง |
ฮู้พอเอ่ยคำว่า แดง ๆ พวกนี้เริ่มคิดถึง ท่านผู้นั้นร้องไห้ หรือพวกคอมมิวนิสต์ พวกหัวรุนแรงเข้ากับใคร |
ไม่ค่อยได้ หรือพวกหัวคิดใหม่ที่กำลังจะถูกดำเนินคดี |
หนังสือเรื่องไผ่แดงนี้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชท่านเขียนไว้ประมาณปี พศ.2497 ประมาณนั้น |
น่าจะดัดแปลงมาจากหนังสือตปท.เรื่อง โลกใบเล็กของหลวงพ่อ ดอน คามิลโลเป็นเรื่องชาวอิตาเลี่ยน |
ผมได้อ่านเรื่องนี้เมื่ออายุเยอะแล้วตอนอายุเกือบยี่สิบปี นับนิ้วมือโหหลายสิบปีหยุดนับดีกว่า (คำพูดเนื้อเรื่อง ไม่ได้ตรงเป๊ะ ๆ เป็นเพียงบุคคลิคตัวเอก ของเรื่องเท่านั้น) |
|
ไผ่แดงเป็นหนังสือแนวเสียดสีสังคม |
มีชายหนุ่มสองคนที่โตมาด้วยกัน ไกลจากกรุงเทพก็หลายสิบกิโลเมตรทั้งสองค่อนข้างเป็นเซียนมีหัวคิดแปลก |
คู่นี้เป็นเพื่อนกัน |
คนแรกชื่อ กร่าง ...แต่ไม่กร่างเหมือนนายทหารคนนั้น แต่เป็นนักเลงมิใช่อันธพาลท่านบวชในศาสนาพุทธ |
จนได้เป็นสมภารกร่าง เป็นภิกษุที่ปฏิบัติตนตามภาระกิจและอยู่ในศิลธรรม |
แต่...แหะ ๆยังมีอารมณ์ร้อนคุมสติไม่ค่อยได้ก็ มิได้เข้าทำสมาธิถึงขั้นสูง ๆ นี่เนาะ |
|
ส่วนนายแกว่นเพื่อนซี้ไปทำงานที่ไหนเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ จิตใจฝักไฝ่ลัทธิลัทธิคอมมิวนิสต์ |
ก็กลับมาทำนาทำอะไรก๊อก ๆ แก๊ก ๆในหมู่บ้านเวลาใครมีเรื่องอะไรก็จะช่วยเหลือหรือไม่ก็ |
พาชาวบ้านปลุกม๊อบว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นคนชั้นศักดินา กินดีอยู่ดีเอาเปรียบชาวบ้านพวกเราว่างั้น |
ก่อปัญหานา ๆ ข้าราชการเลยทำอะไรไม่สะดวก หุ หุ |
|
แม้แต่เรื่องสมภารกร่างเพื่อนผู้บวชก็ยังถูกกระแนะกระแหน..ว่าไม่ทำมาหากินบวชเป็นพระทำไม |
|
วันหนึ่งมีพระรูปหนึ่ง มาขอจำวัดสมภารก็อนุญาตให้อยู่.ใหม่ ๆ ก็ดูดีเคร่งครัดทำวัตรเช้าวัตรเย็น |
กลางวันก็มีชาวบ้านเริ่มเข้าหาแหะ ๆ หมายถึงเข้าไปปรึกษามั้งแล้วก็เพิ่มมากขึ้นทุกวัน คนมาเล่าให้ฟังว่าหลวงพี่ |
คนใหม่มีวิชาอาคมของขลัง เสกเป่าแจกตะกรุด ยันต์ก็รับฟัง ข่าวว่าเป็นของเก่าจากที่อื่นนำมาแจก |
แล้วแต่ใครจะทำบุญ...ว่าแล้ว..หุ หุ |
|
อยู่นานเดือนเข้ามีพิธีกรรมแปลก ๆ เกิดขึ้นทำให้สมภารกร่างไม่สบายใจเลยเรียก พระองค์นั้นมาพูดคุยตักเตือน |
เรียกเตือนหลายครั้ง ก็ยังไม่หยุดมอมเมาชาวบ้าน ....... |
ก่อนกลับกุฏิก็เข้ามานั่งสงบนิ่ง คิด ๆ หาทางแก้ไขอยู่หลายคืนพลางบ่นพึมพำไปตามเรื่อง |
เฮ้อ..อะไรกันนักหนาเตือนก็ไม่ฟัง |
สมภารก็นั่งบนศาลาเอาผ้าปัดยุงไปมา รอบกายสงบไฟจากบ้านชาวบ้านค่อย ๆ ดับหลังสุดท้ายปิด |
เทียนเล็กที่ปักไว้ค่อย ๆ มอดดับเหลือเทียนสุดท้ายเล็กหน้าองค์พระใหญ่ ลมพัดเปลววับแวม |
ทำไงดี ให้หยุดปลุกเสกก็ไม่ยอม ชาวบ้านเสียเงินเสียทองไปซื้อไปเช่า..ไม่เข้าท่า |
สมภารลองคิดต้นเหตุซิมาจากไหน (เสียงทุ้มนุ่มๆ ลอยมาจากความมืด) |
ก็ผมไม่รู้เหมือนกัน เอะ..ใครพูดออกมาให้เห็นหน้าซิ |
สมภารเห็นหน้าฉันทุกวันอยู่แล้วนี่ |
เดี๋ยวใครพูด ผี..ผ..อะผี |
อะไรพระกลัวผีด้วย |
ก็ ก็ บวชมาไม่กี่ปีนี่....วัดนี้เก่าด้วย |
สมภารไม่ต้องกลัวหันมามองหน้าฉันซิ องค์ใหญ่นี่แหละ |
ท่าน ๆ พูดได้ด้วย ไม่จริง |
จริงซิ เราเป็นพระจะพูดโกหกได้ไงสมภารมีอะไรเล่าซิ |
ทีนี้สมภารเริ่มหายกลัวยกมือกราบพระประธาน เงยหน้าขึ้นเล่าให้หลวงพ่อใหญ่ฟังหลายเรื่อง ท่านก็ชี้แจงหาทาง |
ออกแนะนำหลายเรื่อง คืนนั้นสมภารเลยสนทนาธรรมนาน |
เอาละสมภารกลับไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้รับนิมนต์งานแต่งงานอีปิ๊กไอ้ลอยไว้มิใช่หรือ |
ครับหลวงพ่อ ฮ้าหลวงพ่อรู้ด้วย |
ดีละมีอะไรก็มาปรึกษาฉันได้ตอนไม่มีใครอยู่นะอย่าไปเล่าให้ใครฟังว่าฉันพูดด้วย ฉันจะไม่ตอบไม่ส่งเสียง |
เด็ดขาดสมภารจะถูกเขาว่า บ้า นะ |
หลังจากนั้นสมภารกร่างก็แวะมากราบนมัสการเพื่อสนทนาธรรมประจำมิกล้าแพร่งพรายให้ใครรู้ |
ส่วนพระที่มาอาศัยจำวัด ปลุกเสก ขายของขลังทำน้ำมนต์ บางวันก็เต้นเร่า ๆ ทำเอาสมภารอายสุด ๆ |
นี่คุณหยุดปลุกเสก ทำตัวน่าเกลียดได้แล้ว คุณไปอยู่ทึ่อื่นเถอะฉันไม่ต้อนรับ |
เอะ สมภารผมอุตส่าห์หาเงินถวายเยอะแยะจากวัดเหงาหลังคาผุตอนนี้ได้เงินมาเยอะแยะไม่ดีหรือ |
คุณไปเถอะ |
ไม่ไปผมจะทำอีก เอางี้ผมจะถามลูกศิษย์ในหมู่บ้านให้ผมย้ายไปอยู่ที่อื่นยอมหรือเปล่า |
คุณจะปลุกมอบเหรอ |
เขาศรัทธาผม ผมทำให้พวกเขาได้ของขลัง ถูกหวยกันเยอะทุกงวด |
คืนหนึ่งดึกสงัด สมภารก็เข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อองค์ใหญ่ |
ไม่สบายใจเลยครับหลวงพ่อ ผมให้เขาย้ายไปอยู่วัดอื่นก็ไม่ยอมไป กลับไล่ผมออกไปอยู่ที่อื่นแทน |
หึ หึ ไม่เห็นยากเลยสมภารปรึกษาเจ้าแกว่นซิ |
ไม่ดีมังครับหลวงพ่อ มันคอมมิวนิสต์ |
ไม่หรอกเจ้าแกว่นมีหัวคิดดี ๆ อยู่เยอะจริงแล้วมันไม่รู้เรื่องคอมมิวนิสต์คอมมูหน่อยอะไรหรอกมันจำ ๆ เขามา |
ได้ครับผมจะลองปรึกษาเจ้าแกว่นดู |
อีกสี่คืนต่อมา |
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ |
เรียบร้อยหรือยัง |
ครับเมื่อคืนก่อนตีสองผมกับเจ้าแกว่นเข้าไปกุฏิของเขาจับมัดแขนมัดขาผูกตา จับแข้งขาโยนลงเรือไปพร้อมเงินทองกระโหลก ผี ผ้ายันต์ ปลัดขลิกสบงจีวร |
แกว่นมันพายในคลองไกลออกไปแม่น้ำปล่อยลอยไปไกล ยอมเสียเรือหมูเก่า ๆไปลำหนึ่งครับ คงไม่กล้ากลับมาอีกแล้วครับ |
แน่ใจเหรอว่า แกว่นพายไปทิ้งให้ลอยให้แม่น้ำเจ้าพระยาเฉย ๆ |
ก็ ๆ แหะ ๆ มันตุ๊บตับหลายที คงเข็ดไปนาน ผมบาปหรือเปล่าครับหลวงพ่อ |
สมภารคิดว่าบาปหรือเปล่าละ |
ผมเปล่าต่อยคงไม่บาป ช่วยไม่ให้ชาวบ้านหลงเชื่อเสียเงินเสียทอง ต่อไปผมประพรมน้ำมนต์ต่อดีเปล่าครับ |
เงียบ...หลวงพ่อไม่ยอมตอบอีกเลย....จนกระทั่งวันนี้ |
|
ผมยังคิดเลยว่า จะถามท่านผู้ประพันธ์ว่า หลวงพ่อองค์ใหญ่อยู่วัดไหน แหะ ๆ ผมจะจับพวกที่ตระบัดสัตย์ |
บุกรุกที่ดิน พวกแจกเงิน ทำโครงการณ์แล้วให้พวกตนเองตรวจสอบแล้วรีบสรุปว่าไม่ผิด จับไปลอย |
มหาสมุทรไหนดีครับ ฮ่า ๆ ๆ จะได้ไม่เจอเรือรับกลับคืนมาอีก |
เขียนเรื่องตอนนี้ เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้ครั้งเดียว ละคร ก็ไม่ได้ดู จำ ๆ เอามานะครับภาพทั้งหมดเป็นภาพแทน |
ขอขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
L |
st.counter ผู้เข้าชม 1,628,945 |
= |
ขอบคุณเพื่อนผู้คลิกเข้าอ่าน กรุณาเม้นท์นิดหน่อยผมจะได้เข้าไปเยี่ยมได้ถูกคนครับ |
Diarist |
|
ไผ่แดง เป็น อมตะ วรรณกรรม
นำมาถ่ายทอดเมื่อใด
ก๋น่าชมทุกครั้ง
ไม่มีล่าสมัย