นี่เขาใช้ หนอ นี่เขาใช้หนอ ![]() ![]() แต่มีหมอดูหลายท่านทักว่าถ้าแฟนได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต ตอนแรกดิฉันคบกับแฟนก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่ามีหมอดูเคยทักไว้กับพ่อแม่แฟน ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญทำทาน นั่งสมาธิและสวดมนต์ แฟนก็ทำตามดิฉันเพราะดิฉันบังคับแรกๆ เมื่อไม่กี่วันนี้พาแฟนไปนั่งสมาธิมา (แบบยุบหนอพองหนอ) แค่ไม่กี่ชั่วโมง แฟนดิฉันก็ผิดปกติไปค่ะ เค้าตื่นมาจากสมาธิ เค้าถามดิฉันว่า รู้สึกถึงลมหายใจที่ชัดเห็นเค้ารู้สึกว่าส่วนท้องเค้ามันยุบลงไปแค่ไหนอย่างไรเวลาหายใจเข้าออก เวลาเดินจงกรม เค้ารู้สึกถึงเท้าที่ย่ำลงพื้นว่าส่วนไหนที่กระทบพื้นชัดเจน เค้าถามดิฉันว่ามันคืออะไร ดิฉันได้แต่นั่ง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ กลับมาจากวัดเค้าพูดว่า เค้าสดชื่น จับพวงมาลัยรถรู้ว่า มือเค้าจับพวงมาลัย รู้สึกชัดเจนมากๆ มีสติเค้าบอกเค้าเข้าใจถึงคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานว่ามันมีจริงๆ เหมือนคนใส่เเว่นมัวๆมาแล้วเช็ดจนมันใสชัดเจน เค้าพูดแต่เรื่องนั่งสมาธิ กลับมาเค้าไม่ดื่มเหล้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยิ้ม ใจเย็นและดูจะอิ่มบุญมากมาหลายวันแล้วค่ะ ดิฉันดีใจค่ะที่เค้าเป็นแบบนี้ เค้าบอกเค้ากลัวที่ไปสูบบุหรี่ หรือ กินเหล้าอีกความรู้สึกแบบนี้จะหายไป เค้ากำลังเข้าถึงสมาธิใช่ไหมคะ ดิฉันจะพาเค้าไปนั่งบ่อยๆเค้าจะได้เป็นคนดี ดิฉันอยากนั่งได้แบบเค้าจังเลยค่ะ ทำมาตั้งนาน ก็ยังไม่เป็นเหมือนเค้า เค้านั่งแป๊บเดียวเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ด้วย มันน่าน้อยใจนัก!! อีกตย.หนึ่ง ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() มันไม่ตายไม่แตกหรอก เป็นเพียงแค่ความรู้สึก ว่ามันจะแตก จะนั่นจะนี่ นี่แหละสภาวทุกข์ (สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์) มันบีบคั้น ผู้ภาวนามัยคนนี้ มีแนวปฏิบัติ นั่นก็คือกำหนดตามสภาวะ หากผู้ซึ่งไม่มีแนวทางแล้วได้ร้องโวยวายเป็นผีเข้า สติแตกก็ตอนนี้แหละ กำหนดจิตด้วย (จิตตานุปัสสนา) จิตสั่น กำหนดเลย สั่นหนอๆๆๆ ทนไม่ได้หนอๆๆ กลัวหนอๆๆ ท้องจะแตกหนอๆๆๆ กำหนดไปตามอาการตามเรื่องที่เป็นที่คิด กำหนดแล้วก็ดึงสติให้กำหนดอาการพอง-ยุบต่อไปใหม่ รู้สึกนั่นนี่อีก กำหนดอีก กำหนดแล้ว กลับไปจับอาการพอง-ยุบใหม่ ฐานทั้งสี ที่เรียกว่า สติปัฏฐานสี่ คือ กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา ธัมมานุปัสสนา พอง-ยุบ เป็นหลัก สภาวะอื่นจากนั้นกระทบแรง รู้สึก วางพอง-ยุบก่อนแล้วกำหนดอารมณ์นั่น เช่น สุขเวทนาเกิด รู้สึกตัว สุขหนอๆๆๆ กำหนดแล้วปล่อย แล้วตามพอง กับ ยุบไปใหม่ ตามทันพองเป็นพอง ยุบเป็นยุบ แต่ละขณะๆ อ้าวคิดฟุ้งเตลิดไปอื่น รู้สึกกำหนดความคิดนั่น คิดหนอๆๆๆ (ฟุ้งซ่านหนอๆๆๆ) กำหนดตามนั้นแล้วปล่อย ตามพองกับยุบไปใหม่ ปฏิบัติทำนองนี้ นั่งอยู่ตรงนั้น อารมณ์ปัฏฐานเกิดได้หมด (ไม่เกิดก็ไม่ต้องไปกำหนด กำหนดที่มันเกิด) ไม่ใช่ไปทำทีละข้อๆๆ หนึ่ง สอง สาม สี่ ไม่เอาแบบนั้น แบบนั้น ตามไม่ทันอารมณ์ปัจจุบันแต่ละขณะๆ ตัวอย่างนี้ ![]() ![]() เอา ตย.อีกก็ได้ ![]() ![]() ![]() ให้ดูอีกตัวอย่างหนึ่ง ![]() ![]() https://pantip.com/topic/40645579 เอามาตรงนี้หน่อยก็ได้ ![]() ![]() ทีนี้เรามาสวดแบบทำกรรมฐานค่ะ สวดแบบตั้งสัจจะอธิษฐาน แล้วก็เกิดศรัทธาท่วมท้น เหมือนคนพบแนวทาง รู้สึกเกิดความแน่ใจ เราสวดเช้าเย็น ว่างก็ฟังธรรม นึกได้ก็สวดในหัว ทีนี้ไม่นาน เรารูสึกว่าจิตมันเบาขึ้น สวดได้นิ่งขึ้น ปัญหาก็ตามมา คือพอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มทำดีแล้วเนี่ย จิตอกุศลมันมากวนบ่อย แล้วมันมาแบบชั่วช้ามากกว่าแต่ก่อน มันเกิดกับครูบาที่เราเคารพมากๆด้วย กับท่านอื่นไม่เป็นนะคะ ตอนแรกตกใจมากๆ ทำตัวไม่ถูก ก็ปัดๆออก แต่มันก็มาอีกเรื่อยๆ จนเราคิดว่าหรือเราหมกมุ่นอะไรมากไปไหม เราก็เริ่มกลัวแล้วก็ถอยๆออกมา หาเรื่องอื่นมาใส่หัว ไม่กล้ามองรูปท่าน ไม่กล้านึกถึงท่านมากเท่าไร ใจมันกังวล คือเราอ่านกระทู้เก่าๆเยอะมาก ได้คำตอบว่าคนเป็นกันเยอะ เราเลยพยายามวางเฉย รู้ให้ทัน ฝึกรู้เฉยๆ ชั่วก็รู้ ดีก็รู้ ทีนี้มันเริ่มสับสนค่ะ มันงงตัวเองว่า ไอ้ที่เราบอกตัวเองว่าเรารู้เฉยๆเนี่ย เราได้ไปเผลอปรุงมันต่อหรือเปล่า -เราไปช่วยมันปรุงต่อชัวร์อยู่แล้ว วางใจเป็นกลางนั่นๆนี่ๆ วางเฉยนี่นั่น พูดเอาเองทั้งเพ จะเรียกว่า ปลอบใจตัวเองก็ย่อมได้ มีสำนักหนึ่งบอกกันทำนองนั้นแหละ ![]() https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=samathijit&month=04-2021&date=06&group=1&gblog=12 |
บทความทั้งหมด
|