นั่งสมาธิเกิดปรากฏการณ์ทางจิตแปลกๆ ,  อันที่จริงเรื่องธรรมดา (ธรรมะ ธรรมตา) ของชีวิต,ของรูปของนาม ไม่ใช่ของแปลกอะไร แต่เพราะเรา,คนเรา (โยคี) ไม่เคยประสบมาก่อนเลยในชีวิต เพิ่งมาประสบพบเจอกับมันก็ตอนที่ปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกัมมัฏฐาน นี่แหละ แต่เพราะไม่รู้ พอประสบเข้า ก็หลงคิดเตลิดเข้ารกเข้าพง บางรายเข้าศรีธัญญา  บางรายเข้า รพ.บ้านสมเด็จ ดู ความคิดเห็นที่ 24 ลิงค์ข้างล่าง ถาม  -> ดิฉันอยู่ประเทศเยอรมันนีมา 18 ปีแล้วค่ะ เมื่อ 6 ปีกว่าที่แล้ว ดิฉันป่วยหนักเป็นมะเร็งปากมดลูก ต้องรักษาตัวโดยการฉายรังสี และรับเคมีบำบัด ในระหว่างการรักษาตัวนั้นเจ็บปวดทรมานมาก ดิฉันหมดที่พึ่งจึงนึกถึงการสวดมนต์ขึ้นมาได้ เลยเปิดเสียงสวดมนต์ฟังและตั้งใจจดจ่ออยู่กับเสียงสวดมนต์นั้น ความเจ็บปวดคลายลงอย่างมาก ต่อมาภายหลังจึงได้เข้าใจว่านั่นเป็นการทําสมาธิแบบหนึ่ง พอดิฉันทุเลาจากอาการป่วยจึงตั้งใจปฏิบัติธรรมเองที่บ้าน (ที่เยอรมัน) โดยอาศัยหลักอานาปานสติ และบริกรรมภาวนา ปฏิบัติเรื่อยมามากบ้างน้อยบ้างตามเวลาที่พอจะทําได้ ส่วนใหญ่จะภาวนาวันละ 2-3 ชม ค่ะ พอเวลาผ่านไปไม่กี่อาทิตย์หลังการภาวนา ดิฉันเริ่มเจอประสบการณ์ทางจิตแปลกๆที่ไม่เคยเจอมาก่อนเช่น 1. จิตพูดภาษาบาลีขึ้นมาทั้งๆที่ไม่เคยเรียนมาก่อน แถมแปลให้เสร็จสรรพ จิตตัสสะ ทะมะโถ สาธุ, การฝึกจิตเป็นความดี” 2. มีแสงสว่างคล้ายดวงจันทร์เกิดขึ้น มากบ้างน้อยบ้าง 3. มีโพรงยืดหยุ่นได้เกิดขึ้นที่ปลายจมูก มันละเอียดนวลเนียน เย็นฃาบฃ่านมากเลยค่ะ มันขยายใหญ่ได้ด้วย 4. แสงนี้มันเคยรวมลงคล้ายสายฟ้าแลบ สองครั้ง ครั้งแรกเป็นสายเล็กๆจางๆ ครั้งที่สองเป็นสายเข้มชัดเจนและยาวมาก 5. โพรงยืดหยุ่นได้เกิดขึ้นที่ปลายจมูก จะรู้สึกตัวที่ปลายจมูกตลอดเวลาแม้ไม่ตั้งใจก็ตาม แค่ทําความรู้สึกตัวขึ้นมา ตัวนี้ก็โผล่มาทันที 6. แสงจันทร์ที่เห็นในสมาธิบางครั้งมันใสแจ๋วเป็นแผ่น ละเอียดปราณีตอย่างที่สุดค่ะ 7. ตอนนอนจิตมันจะภาวนาของมันเอง กายหลับแต่ใจมันภาวนาเองค่ะ รู้สึกถึงโพรงที่ยืดหยุ่นได้แม้กระทั่งตอนนอน หลับตานอนมันก็จะสว่างเรื่องๆ ใจเหมือนไม่ได้นอนด้วยกับกายค่ะ 8. บางครั้งเห็นก็แสงจันทร์ไหลย้อยกลับเข้ามาหาตัวเอง พอมาถึงตัวจะมีแสงสว่างวาบที่หน้าอก 9. ตอนนอนจะเห็นแสงสว่างที่ว่าหดลงมาเป็นดวงเท่าปลายนิ้วก้อยลอยอยู่ตรงปลายจมูก 10. เมื่อไม่นานมานี้ ตอนนอนภาวนาอยู่นะคะ พอเคลิ้มไปมีเสียงดังฟู่ตรงหน้าผาก พร้อมกับที่มีกระแสอะไรก็ไม่รู้ค่ะ พุ่งออกจากตรงหน้าผากมีเสียงคล้ายเสียงระเบิดดังมากในความรู้สึกค่ะ พร้อมแสงสว่างค่ะพุ่งออกไป 11. จากนั้นมา จิตก็หดรวมลงเป็นดวงเท่าปลายนิ้วก้อยที่ปลายจมูกอีก พอตามเข้าไปดู ตัวเหมือนถูกดูดตามเข้าไปด้วย เห็นสมองตัวเองชัดเจน แต่อยู่ได้ไม่นานก็หมดแรงแล้วก็หายไป เหตุการณ์แบบนี้เกิดฃํ้าอีกครั้งหนึ่งค่ะ แต่ครั้งที่สองเห็นมดลูกตัวเองที่ไหม้ แห้งกรัง 12. ดวงสว่างที่ว่ารู้สึกว่ามันมีกําลังมากด้วยค่ะ เวลาประคองไม่ดี มันจะพุ่งไปชนสิ่งของเสียงดังมากค่ะ มันเกิดฃํ้าๆหลายครั้งมาก ปฏิบัติธรรมเองที่บ้านต่างประเทศ เจอปรากฏการณ์ทางจิตแปลกๆ อยากกราบเรียนถามกับหลวงปู่จันทร์เรียนมากเลย มีใครช่วยได้มั้ยคะ - Pantip - จขกท. มีจุดประสงค์ใด,มีเจตนาอย่างไรในการปฏิบัติ - ความคิดเห็นที่ 4-1 -> ตอนแรกเอาแค่ละความเจ็บปวด กังวลจากการรักษามะเร็ง ตอนนี้เจอเหตุการณ์ทางจิตแปลกๆ เลยอยากจะเข้าใจกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ให้ท่านแนะนำการภาวนาต่อให้ค่ะ ถ้าการปฏิบัติของตัวเองยังถูกต้องก็จะได้ทำต่อค่ะ ถ้าไม่ถูกยังไงก็จะได้แก้ไข เพราะที่เยอรมันหาวัดป่าสายกรรมฐานแทบจะไม่มีเลยค่ะ อาการที่ปรากฏทั้ง ๑๒ ข้อ เป็นผลพวงจากจิตที่เป็นสมาธิระดับหนึ่ง (สมาธิล้ำวิริยะ) ไม่มีปัญหา แต่อย่าหลงไปตามสภาวะทุกๆอย่างที่ปรากฎ แต่คุมจิตอยู่กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก (อานาปาน+สติ = หลัก) ที่เป็นปัจจุบัน (อยู่กับหลัก) สภาวะใดเกิดรู้ เอาแค่รู้ (= ว่าในใจ อ้อมันเป็นยังงี้ วงจรมันจะขาด) แต่ไม่ตามมัน ทำไมล่ะ ? ตามไม่ได้หรอ ตามมันมันก็พาเราหลงไปเรื่อย ยิ่งสมาธิแรง เปลี่ยนเป็นนั่นเป็นนี่ไปตามธรรมดาของมัน (ข้อ ๑๒ เห็นชัด) หนักเข้าๆ นี่เบย  PANTIP.COM : Y9785609 ประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ [] - ศึกษาอาการปีติที่ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=26-11-2024&group=122&gblog=6 - การปฏิบัติถึงขั้นได้ผลจริงสภาวะดังว่าต้องหมดไป ปีติก็ต้องหมดไป หมดจากการกำหนดรู้มันนี่แหละ อนึ่ง ถ้าไม่ไหวจริง หยุดกำหนด หยุดภาวนา ไปทำการทำงานอะไรๆไปตามเรื่อง ไม่นึกถึงเพื่อให้สมาธิลดลง การกำหนดตอนเดินจงกรม ก็ลดสมาธิได้ด้วย แต่ต้องเดินระยะต่ำๆ ซ้าย ขวาๆๆๆๆ ก็เดินธรรมดาๆ เหมือนเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงนั่นแหละ  ดูเหมือน จขกท. ไม่พูดถึง สำคัญนะจะบอกให้ แต่ต้องตั้งทัศนคติให้ถูกให้ตรง   - ความคิดเห็นที่ 10-1 ขอบคุณมากๆค่ะ ขอเพิ่มเติมอีกนิด ปกติ จขกท. จะเดินเจริญสติด้วยค่ะ คือไม่ถึงขนาดมีทางจงกรม แต่เดินตามทางธรรมดา แบบมีสติ รู้การเหยียบฃ้ายขวาไปค่ะ ใช้ได้ครับ ต่อเมื่อสมาธิยังแรงยังล้ำวิริยะ ก็เดินสัก ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง เดินให้มากกว่านั่งไว้ศึกษาเพิ่มเติมที่ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=22-04-2021&group=1&gblog=32 ที่ว่า - > ไม่ถึงขนาดมีทางจงกรม จงกรม คือ เดินกลับไปกลับมาโดยมีสติกำกับ เดินตรงไหนก็ได้ ในห้องนอนก็เดินได้ ไม่ต้องไปทำทางจงกรม อย่างที่ดูในคลิปหรอกครับ - ความคิดเห็นที่ 10-2 อยากให้ช่วยอธิบาย อาการสมาธิลํ้าวิริยะเพิ่มค่ะ มีผลเสียมั้ยคะ ถ้าแก้ไขไม่ได้ จขกท รู้สึกเหมือนกันค่ะว่าจิตรวมเป็นสมาธิเร็ว และมีครูบาอาจารย์สายกรรมฐานที่ปฏิบัติตรงองค์ไหนมั้ยคะ ที่ควรไปกราบสอบถามปัญหาการภาวนากับท่านได้ เพราะได้ยินมาจะเข้าพบหลวงปู่จันทร์เรียนได้ยากมากๆค่ะ จขกท อยู่ทางภาคเหนือค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ศึกษาอินทรีย์ ๕ ประกอบความเข้าใจhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=01-11-2023&group=82&gblog=109 ไม่มีผลเสียอะไร ถ้าเรารู้เข้าใจ ย้ำ ถ้าเรารู้เข้าใจมัน (เมื่อโยคีรู้เข้าใจแล้วก็ปรับได้ด้วยการจงกรมนี่เอง)ทางธรรมเรียกว่า ปรับอินทรีย์ ๕ ได้แก่ ๑. ศรัทธา ๒. วิริยะ ๓. สติ ๔. สมาธิ ๕. ปัญญา ให้เสมอกัน (เรียกเต็ม ศรัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์) - ศรัทธา + ปัญญาา - วิริยะ + สมาธิ ส่วนสติยกเว้นยิ่งมากก็ยิ่งดี คู่สำคัญภาคปฏิบัติ วิริยะ กับ สมาธิ ทางภาคเหนือเท่าที่เห็นวัดร่ำเปิง เชียงใหม่ อาจารย์ทอง ไม่แน่ใจปัจจุบันท่านยังอยู่ไหม  เพิ่งเห็นแนวหลวงปู่ที่ขีดเส้นใต้ชัดๆ จากผู้ที่ปฏิบัติจากที่นั่นมาเล่าไว้ที่ กายเรา ความคิดเรา ล้วนไม่ใช่เรา - Pantip - ไปได้ไปเที่ยวชมสถานที่ได้ แต่ถ้าไปเพื่อปฏิบัติธรรม ปฏิบัติกรรมฐานอย่าไปเลยครับ
|
บทความทั้งหมด
|
|||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [