สภาวะปีติ ๕ - สภาวะปีติ (ธรรมชาติเป็นอย่างนั้น ผู้ปฏิบัติจะเอาอย่างนี้ มันเลยขัดกัน คนกับธรรมะขัดกัน) วิปัสสนูปกิเลส (เกิดในขณะอุทยัพพยญาณอย่างอ่อน - ตรุณวิปัสสนา) ๑. โอภาส เห็นแสงสว่างต่างๆ ๒. ปีติ ๕ อย่าง (ปีติจะเกิด) ดังนี้ 1. ขุททกาปีติ มีลักษณะ ดังนี้ 1.1 เยือกเย็น ขนลุกตั้งชันไปทั้งตัว 1.2 ร่างกาย มึน ตึง หนัก 1.3 น้ำตาไหลพราก 1.4 ปรากฏเป็นสีขาวต่างๆ ๒. ขณิกาปีติ มีลักษณะ ดังนี้ 2.1 เป็นประกายดังฟ้าแลบ 2.2 ร่างกายแข็ง หัวใจสั่น 2.3 แสบร้อนตามเนื้อตามตัว 2.4 คันยุบยิบ เหมือนแมลงไต่ตามตัว ๓. โอกกันติกาปีติ มีลักษณะ ดังนี้ 3.1 ร่างกายไหวโยก โคลงแคลง บางครั้งสั่นระรัว 3.2 สะบัดหน้า สะบัดมือ สะบัดเท้า 3.3 น้ำลายสอในปาก คลื่นไส้ อาเจียน 3.4 มีอาการคล้ายๆละลอกคลื่นซัด 3.5 ปรากฏมีสีม่วงอ่อน สีเหลืองอ่อน ๔. อุเพงคาปีติ มีลักษณะ ดังนี้ 4.1 มีอาการคล้ายๆกายสูงขึ้น ตัวเบา ตัวลอย 4.2 คันยุบยิบ เหมือนมีตัวไร ตอมไต่ตามหน้าตา 4.3 ท้องเสีย ลงท้อง 4.4 สัปหงกไปข้างบ้าง ข้างหลังบ้าง 4.5 หัวหมุนไปมา 4.6 กัดฟันบ้าง อ้าปากบ้าง หุบปากบ้าง 4.7 กายงุ้มไปข้างหลังบ้าง ข้างๆบ้าง 4.8 กายกระตุก ยกแขน ยกขา 4.9 ปรากฏสีไข่มุก สีนุ่น ๕. ผรณาปีติ มีลักษณะ ดังนี้ 5.1 ร่างกายเยือกเย็นแผ่ซ่านไปทั้งตัว 5.2 ซึมๆไม่อยากลืมตา ไม่อยากเคลื่อนไหว 5.3 ปรากฏเป็นสีคราม สีเขียว สีบงกด สิ่งเหล่านั้นผู้ปฏิบัติๆจนถึงแล้ว จำต้องกำหนดละทั้งหมด วิธีละก็กำหนดจิตลงไปตรงๆกับสภาวะ มันเป็นยังไง รู้สึกยังไง เห็น ได้ยิน อะไรยังไง กำหนดยังงั้นทุกครั้งทุกขณะ เห็นก็เห็น ได้ยินก็ได้ยิน ไม่เลี่ยงหนี ไม่หลอกตัวเอง ตัวอย่างโอภาส กลัวการนั่งสมาธิค่ะ เคยนั่งสมาธิแล้วมีแสงสว่างจ้าวาบเข้ามาในตา ขนลุก น้ำตาไหล เลยไม่กล้านั่งอีกเพราะเคยได้ยินมาว่า ถ้าจู่ๆไปนั่งสมาธิเองเดี๋ยวจิตหลุดไปไม่กลับมาอีก เคยสอบถามในพันทิปครั้งนึงแล้วว่าเกิดจากอะไร ก็ได้รับคำตอบว่าอาจจะเป็นที่ใช้ ทรศ มากไปหรือไม่ก็ปีติ ที่แน่ๆคืออยากกลับไปทำให้ตัวเองสงบแต่ก็ยังกลัวอยู่ดี ทำไงดีคะ. อีกตัวอย่างหนึ่ง เหมือนมีแมลงไต่ ได้ยินเสียงนั่นนี่โน่น เดี๋ยวนี้ไม่ได้นั่งสมาธิเลยค่ะ กลัวอะไรก็บอกไม่ถูก เมื่อก่อนเวลานั่งสักพักรู้สึกเหมือนมีแมลงมาไต่อยู่ที่ขา ลูบดูก็ไม่มี วันต่อๆ มาก็เป็นอีก จุดเดิม ที่เดิม เหมือนเดินไต่ไปเรื่อยๆ แต่รู้ว่ามันไม่มีอะไรไต่จริง แต่ก็ไม่รู้มันคืออะไร บางครั้งก็ได้ยินเสียงดัง "ปัง" ดังมากด้วย เหมือนอะไรตกบนบ้าน แต่ถามแม่ แม่กลับไม่ได้ยิน ตอนนี้ กลับมาคิด สมัยเด็กๆ เล็กๆ ชอบจับแมลงมาหักขา พวกแมงมุมขายาวๆ ที่อยู่ตามเพดาน เจอเป็นจับมาหักขาหมด ตอนนั้นไม่รู้อะไรควรไม่ควร โตมาพอรู้ความรู้สึกแย่มากๆ ค่ะ รู้สึกผิดกับพวกเค้า เค้าคงทรมานมากๆ ถึงจะเป็นแมลงตัวเล็กๆ แต่ก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เคยทำลงไปมากจริงๆ จะเกี่ยวกันรึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ อีกตย. นี่ทางกาย คคห.8 https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html แล้วอาการทางกายล่ะคะ คุณเคยได้ยินว่ามีคนผิดปกติทางกายจากการฝึกสมาธิแล้วไม่หายไหมคะ เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว จึงไม่กล้าทำอีก เพราะตอนที่เป็นนั้น เหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา ตอนออกจากสมาธิก็ยังเป็น ตอนนั้นค่อนข้างหวั่นใจ แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะ กลัวว่าคราวนี้ทำอีกแล้วเกิดมันเป็นอีก แล้วไม่หายจะแย่ ....(หากเรื่องที่เขาพูดกันว่าหมดวาสนาทางนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนพูดใส่เราแบบนั้นเช่นกันแต่ดิฉันเองไม่อยากจะเชื่อ ผลของทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุแต่ดิฉันไม่รู้ว่าเหตุใด ร่างกายเราเกิดอาการผิดปกติเช่นนั้นจากการทำสมาธิแล้วจะไปป้องกัน หรือเลี่ยงมันได้อย่างไร ) จำพวกปีติทั้งนั้น เมื่อผู้ปฏิบัติประสบแล้วพึงกำหนดรู้ตรงๆกำหนดแล้วสัก ๓-๔ ครั้งแล้วปล่อย ไม่จมไม่แช่อยู่กับมันแล้วกำหนดกรรมฐาน เช่น ลมหายใจเข้า-ออก, ท้องพอง-ท้องยุบต่อไปใหม่ จนกว่าจะข้ามพ้นปีติได้ ซึ่งก็เร็ว-ช้าไม่แน่ แต่เมื่อปีติเกิดต้องกำหนดรู้ทุกครั้งทุกขณะ คคห. 11 ที่ จขกท.บอก เป็นอาการของปีติทั้งนั้น 2. เล่าอาการที่คุณพบ ให้ละเอียดขึ้นหน่อย ประมาณวันที่สี่เริ่มลูกตาหมุนติ้ว อดทนนั่งจนหายไป วันต่อมาเหมือนมีคนจับหน้าตาเราบิดเบี้ยวเป็นแม้แต่ตอนออกจากสมาธิแล้ว ก็อดทนนั่งจนหายไป มีเห็นแสงสี ต่อมาเริ่มหูแว่วเหมือนคุยกับคนอื่นทางจิตได้ กลับบ้านก็ตาฝาด เห็นธงวัด ธงชาติปักสลับบอกว่าต่อไปเราจะไปสร้างวัดตรงนี้ |
บทความทั้งหมด
|