จาก
https://pantip.com/topic/42708538ความคิดเห็นที่ 10จขกท. จะแนะนำเขายังไงนี่
-
นั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสีขาว สว่างเป็นดวงสีขาวลางๆ ต้องทำยังไงต่อไปครับ->สวัสดีครับ ผมเคยนั่ง
สมาธิตอนอายุ 14 ที่สถานที่ปฏิบัติธรรม วัดตาลเอน ที่ จ.อยุธยา แล้วก็ไม่ได้นั่งอีกเลยเป็นเวลา 7 ปี แต่ตอนนี้กลับมาสนใจนั่งสมาธิ ผมเลยเริ่มนั่งวันแรกเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 67 ที่ผ่านมานี้ แล้ว
นั่งได้ 45 นาทีรวดเดียว ทำมาจนถึงตอนนี้แล้ว
เห็นแสงสีขาวๆรูปร่างเป็นดวงกลมๆ สว่างเหมือนมีคนฉายไฟส่องหน้า ผมควรจะทำยังไงต่อไปครับ เช่น กำหนดลมหายใจเข้า ออก ฝึกไปเรื่อยๆ หรือ ต้องภาวนายังไงครับ เพราะ
ตอนนี้ไม่ภาวนาเลย ทุกครั้งที่นั่งผมจะรู้ตลอดเวลา ว่าตอนนี้หายใจเข้าหรือ
ออก.
ธรรมมุธัจจ์ ๑๐
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=10-02-2023&group=5&gblog=63 ความคิดเห็นที่ 10-1เห็นแล้วมีประโยชน์อะไรล่ะครับ
ในเมื่อสิ่งที่เห็น ก็ไม่ใช่ของจริงแล้วมันช่วยให้ละ
อวิชชา ละความไม่รู้ได้อย่างไรล่ะครับ ก็คนที่นั่งแล้วเห็นเอง ก็ยังไม่รู้เลยต้องมาเที่ยวถามคนอื่น แล้วคนอื่น
จะรู้มั้ยล่ะนั่น*
ทำไมถึงไม่สนใจของจริงที่กำลังปรากฏอยู่ทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย และใจ ให้รู้ตามความเป็นจริงล่ะครับ ไปสนใจของปลอมอยู่ทำไมความคิดเห็นที่ 10-3"ทำไมถึงไม่สนใจของจริงที่กำลังปรากฏอยู่ทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย และใจ ให้รู้ตามความเป็นจริงล่ะครับ ไปสนใจของปลอมอยู่ทำไม"แล้วนั้นพ้นจาก
กายใจตรงไหน เออ
ความคิดเห็นที่ 10-4ทำไมถึงต้องพ้นจากกายใจล่ะครับ
แทนที่จะ
ละอวิชชา ละความเห็นผิดว่าเป็นตัวเป็นตน มองให้
เห็นสัจธรรมความจริงตามที่มันปรากฏ แต่กลับจะหนีให้พ้นจากกายใจ จะบินหนีไปไหน นั่งสมาธิให้ลืมของจริงที่เป็นอยู่ เพื่อ
หนีไปให้พ้นจากกายใจ แล้วสุดท้ายก็ต้องกลับมาทุกข์เหมือนเดิมตราบใดที่ยังละ
อวิชชาไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 10-6ก้าวแรกของการได้ดวงตาเห็นธรรม เปลี่ยนจากปุถุชน ไปเป็นพระโสดาบัน
ผู้นั้นจะสามารถ
ละสักกายทิฏฐิได้โดยเด็ดขาด คือ
ไม่เห็นโดยความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน อีกต่อไป
เหตุที่ ปุถุชนที่ยังมีกิเลส มีสักกายทิฏฐิ ก็เพราะการรับรู้สิ่งที่ปรากฏทางหู ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ มันเกิดจากการเกิดดับๆๆๆ ของสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏอย่างสืบเนื่องต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว จนเห็นปะติดปะต่อกันเป็นรูปพรรณสัณฐานของคน สัตว์ สิ่งของ กลายเป็นการประชุมรวมกันเป็นกลุ่มก้อน
วิธีที่จะละสักกายทิฏฐิ หรือความเห็นผิดว่าเป็นตัวตนได้นั้น ก็จะต้องเพิกถอน
ฆนะ หรือความเป็นกลุ่มก้อนของสิ่งที่มาประชุมรวมกันให้แตกทำลายออก ไม่รวมกันเป็นคน สัตว์ สิ่งของ
การเจริญ
สติปัฏฐานสี่โดยปกติทาง
ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เพื่อให้
สติพร้อมด้วยปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้สิ่งที่ปรากฏทางทวารทั้งหก เพียงทีละหนึ่งทางไม่ปะปนกัน จะเป็นหนทางเดียวที่จะเพิกถอนทำลาย
ฆนะ หรือ เพิกถอนความเป็นกลุ่มก้อน จนเห็นในความเป็น
อนัตตา ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน อีกต่อไป จึงจะละ
อวิชชาความเห็นผิดได้
ไม่ใช่ไปรู้แสงสีขาว รู้เพื่อประโยชน์อะไร ในเมื่อเห็นแสงสีขาวในสมาธิแล้ว แต่ดันไม่รู้ว่าคืออะไร จนต้องมาตั้งกระทู้ถามคนในพันทิป คือ สรุป เห็นแสงสีขาวแล้ว แต่ยังโง่ปัญญาทึบเหมือนเดิม แล้วจะเห็นไปเพื่ออะไร?
ความคิดเห็นที่ 10-7นั่นพูดแบบบทสำเร็จ พูดเอาแต่ได้ 5555
- จขกท. 607 พูดถึง
อนัตตา และศัพท์แสงทางธรรมซึ่งมีความหมายสูงๆอีกมาก จำมาจากตำราทางพุทธศาสนา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตัวอย่างนี่
เขาเห็นจากการปฏิบัติ จากปฏิปทา จาก
ปฏิปัตติ การเห็นของจริงอย่างนี้แหละตรรกะหยั่งไม่ถึง
ความคิดเห็นที่ 51รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น
ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาที่ที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า
แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเราจะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหม แต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน
https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html- จำคำศัพท์ธรรมสูงๆได้ ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา จนกว่าตนจะลงมือทำแล้วถึงจุดนั้นๆเองแล้วก็ร้องอ๋อ มันเป็นยังงี้นี่เอง
ผู้ที่ลงมือทำจริงๆ
มักไม่พูดคำศัพท์นัก แต่จะพูดบอกว่าทำแล้วมันเป็นยังงี้ๆ ควรทำยังไง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=21-06-2021&group=5&gblog=21 สรุป
การปฏิบัติกรรมฐาน, การเจริญภาวนา ควรมีผู้รู้ภาคปฏิบัติจริงเป็นที่ปรึกษา (สอบอารมณ์) ไม่ยังงั้นจะหลงจนเพี้ยน (ความคิดเห็นที่ 51) ส่วนการ
รู้ธรรมเลียนแบบอุปติสสะเป็นต้นท้ายๆของทุกๆสูตร
ไม่เป็นไร แล้วแต่จินตนาการแต่ละคน