ธรรมสากัจฉา โอภาส

235  จาก   450

https://pantip.com/topic/42708538

ความคิดเห็นที่ 10
จขกท. จะแนะนำเขายังไงนี่    450

- นั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสีขาว สว่างเป็นดวงสีขาวลางๆ ต้องทำยังไงต่อไปครับ

->สวัสดีครับ ผมเคยนั่งสมาธิตอนอายุ 14 ที่สถานที่ปฏิบัติธรรม วัดตาลเอน ที่ จ.อยุธยา แล้วก็ไม่ได้นั่งอีกเลยเป็นเวลา 7 ปี แต่ตอนนี้กลับมาสนใจนั่งสมาธิ  ผมเลยเริ่มนั่งวันแรกเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 67 ที่ผ่านมานี้ แล้วนั่งได้ 45 นาทีรวดเดียว ทำมาจนถึงตอนนี้แล้วเห็นแสงสีขาวๆรูปร่างเป็นดวงกลมๆ   สว่างเหมือนมีคนฉายไฟส่องหน้า  ผมควรจะทำยังไงต่อไปครับ  เช่น  กำหนดลมหายใจเข้า ออก ฝึกไปเรื่อยๆ หรือ ต้องภาวนายังไงครับ  เพราะตอนนี้ไม่ภาวนาเลย   ทุกครั้งที่นั่งผมจะรู้ตลอดเวลา ว่าตอนนี้หายใจเข้าหรือออก.


235 ธรรมมุธัจจ์ ๑๐
 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=10-02-2023&group=5&gblog=63

 



ความคิดเห็นที่ 10-1
เห็นแล้วมีประโยชน์อะไรล่ะครับ

ในเมื่อสิ่งที่เห็น ก็ไม่ใช่ของจริงแล้วมันช่วยให้ละอวิชชา ละความไม่รู้ได้อย่างไรล่ะครับ ก็คนที่นั่งแล้วเห็นเอง  ก็ยังไม่รู้เลยต้องมาเที่ยวถามคนอื่น  แล้วคนอื่นจะรู้มั้ยล่ะนั่น
*
ทำไมถึงไม่สนใจของจริงที่กำลังปรากฏอยู่ทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย และใจ ให้รู้ตามความเป็นจริงล่ะครับ  ไปสนใจของปลอมอยู่ทำไม


ความคิดเห็นที่ 10-3
"ทำไมถึงไม่สนใจของจริงที่กำลังปรากฏอยู่ทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย และใจ ให้รู้ตามความเป็นจริงล่ะครับ ไปสนใจของปลอมอยู่ทำไม"

แล้วนั้นพ้นจากกายใจตรงไหน เออ


ความคิดเห็นที่ 10-4
ทำไมถึงต้องพ้นจากกายใจล่ะครับ

แทนที่จะละอวิชชา ละความเห็นผิดว่าเป็นตัวเป็นตน มองให้เห็นสัจธรรมความจริงตามที่มันปรากฏ  แต่กลับจะหนีให้พ้นจากกายใจ จะบินหนีไปไหน  นั่งสมาธิให้ลืมของจริงที่เป็นอยู่  เพื่อหนีไปให้พ้นจากกายใจ   แล้วสุดท้ายก็ต้องกลับมาทุกข์เหมือนเดิมตราบใดที่ยังละอวิชชาไม่ได้

ความคิดเห็นที่ 10-6
ก้าวแรกของการได้ดวงตาเห็นธรรม เปลี่ยนจากปุถุชน ไปเป็นพระโสดาบัน

ผู้นั้นจะสามารถละสักกายทิฏฐิได้โดยเด็ดขาด คือ ไม่เห็นโดยความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน อีกต่อไป
เหตุที่ ปุถุชนที่ยังมีกิเลส  มีสักกายทิฏฐิ  ก็เพราะการรับรู้สิ่งที่ปรากฏทางหู ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ มันเกิดจากการเกิดดับๆๆๆ ของสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏอย่างสืบเนื่องต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว จนเห็นปะติดปะต่อกันเป็นรูปพรรณสัณฐานของคน สัตว์ สิ่งของ กลายเป็นการประชุมรวมกันเป็นกลุ่มก้อน

วิธีที่จะละสักกายทิฏฐิ หรือความเห็นผิดว่าเป็นตัวตนได้นั้น ก็จะต้องเพิกถอนฆนะ หรือความเป็นกลุ่มก้อนของสิ่งที่มาประชุมรวมกันให้แตกทำลายออก ไม่รวมกันเป็นคน สัตว์ สิ่งของ

การเจริญสติปัฏฐานสี่โดยปกติทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ  เพื่อให้สติพร้อมด้วยปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้สิ่งที่ปรากฏทางทวารทั้งหก   เพียงทีละหนึ่งทางไม่ปะปนกัน   จะเป็นหนทางเดียวที่จะเพิกถอนทำลายฆนะ หรือ เพิกถอนความเป็นกลุ่มก้อน   จนเห็นในความเป็นอนัตตา  ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน อีกต่อไป จึงจะละอวิชชาความเห็นผิดได้

ไม่ใช่ไปรู้แสงสีขาว  รู้เพื่อประโยชน์อะไร  ในเมื่อเห็นแสงสีขาวในสมาธิแล้ว  แต่ดันไม่รู้ว่าคืออะไร จนต้องมาตั้งกระทู้ถามคนในพันทิป คือ สรุป เห็นแสงสีขาวแล้ว แต่ยังโง่ปัญญาทึบเหมือนเดิม แล้วจะเห็นไปเพื่ออะไร?


ความคิดเห็นที่ 10-7
นั่นพูดแบบบทสำเร็จ  พูดเอาแต่ได้  5555


- จขกท. 607 พูดถึงอนัตตา และศัพท์แสงทางธรรมซึ่งมีความหมายสูงๆอีกมาก  จำมาจากตำราทางพุทธศาสนา  อนิจจัง  ทุกขัง   อนัตตา  

   ตัวอย่างนี่ 450 เขาเห็นจากการปฏิบัติ  จากปฏิปทา จากปฏิปัตติ  การเห็นของจริงอย่างนี้แหละตรรกะหยั่งไม่ถึง  

ความคิดเห็นที่ 51

รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม  ช่วงนาที่ที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง  ร้องให้เลย  ตอนนั้นรู้สึกว่าแม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเราจะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ  แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหม แต่มันแบบไม่ถึงที่สุด  ปัญญาแค่เสี่ยว  ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน

https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html


- จำคำศัพท์ธรรมสูงๆได้  ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา จนกว่าตนจะลงมือทำแล้วถึงจุดนั้นๆเองแล้วก็ร้องอ๋อ  มันเป็นยังงี้นี่เอง    11 

235 ผู้ที่ลงมือทำจริงๆ 450 มักไม่พูดคำศัพท์นัก  แต่จะพูดบอกว่าทำแล้วมันเป็นยังงี้ๆ ควรทำยังไง 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=21-06-2021&group=5&gblog=21


235 สรุป การปฏิบัติกรรมฐาน, การเจริญภาวนา ควรมีผู้รู้ภาคปฏิบัติจริงเป็นที่ปรึกษา (สอบอารมณ์)  ไม่ยังงั้นจะหลงจนเพี้ยน  (ความคิดเห็นที่ 51) ส่วนการรู้ธรรมเลียนแบบอุปติสสะเป็นต้นท้ายๆของทุกๆสูตร  ไม่เป็นไร  แล้วแต่จินตนาการแต่ละคน


 

 



Create Date : 15 พฤษภาคม 2567
Last Update : 12 กรกฎาคม 2567 15:45:18 น.
Counter : 91 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ธรรมะที่สำคัญ ปัญญา Dh
(19 ก.ค. 2567 01:37:22 น.)
:: คิลานะ :: กะว่าก๋า
(15 ก.ค. 2567 22:00:43 น.)
: ธรรมTrip 2 รวมมิตรรวมใจ : กะว่าก๋า
(11 ก.ค. 2567 05:47:59 น.)
การอยู่ที่ควร ลักษณะของกิเลส ปัญญา Dh
(9 ก.ค. 2567 13:55:28 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samathijit.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด