แยก สมมุติ กับ สภาวธรรม ให้ชัด เราจะเรียกชื่อ ปฏิบัติกรรมฐาน, ปฏิบัติธรรม, นั่งสมาธิ, ภาวนา ใช้ชื่อไหนก็แล้วแต่ ชื่อไม่สำคัญ จะบัญญัติชื่อเรียกยังไงก็ได้ นี่อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง คำบริกรรม,คำภาวนา ยังไงก็ได้ ใช้วิธีนับเลขก็ได้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ก็ได้ ใช้หนอก็ได้ (พองหนอ -ยุบหนอ คือ ใช้อาการท้องที่พองขึ้น กับ ยุบลง เป็นที่ทำงานของจิต คือ เป็นกรรมฐาน) ก็ได้ ไม่ใช้ก็ยังได้ แต่เบื้องต้น ให้อ่านบทความสั้นๆนี้ให้เข้าใจก่อน แยกความหมาย สมมุติ กับ สภาวธรรมให้ชัดให้เข้าใจก่อน ถ้าสั้นไปไม่ชัด อ่านยาวๆ ตามลิงค์ข้างล่างดู ![]() “สัตว์” “บุคคล” “ตัวตน” “เราเขา” เป็นต้น ที่สมมุติขึ้นมานี้ ไม่มีจริง เมื่อเอาชื่อ หรือ คำเรียกออกไป หรือมองผ่านทะลุคำเรียกชื่อนั้นไป ก็มีเพียงรูปธรรมและนามธรรม “รูปธรรม-นามธรรม”แม้จะเป็นคำเรียกที่บัญญัติขึ้นมา แต่ก็เป็นคำที่สื่อถึงสิ่งที่มีอยู่จริง (ใช้คำอย่างบาลีว่า “สภาวะ” หรือ“สภาวธรรม” คือสิ่งที่มีภาวะของมันเองหรือสิ่งที่มีความเป็นจริงของมัน) ส่วน “สัตว์” “บุคคล” “ตัวตน/อัตตา/อาตมา/อาตมัน” “เรา” “เขา”เป็นต้น ไม่สื่อถึงสภาวะ คือ สิ่งที่มีอยู่จริงนั้น แต่เป็นชื่อที่สมมุติซ้อนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง บนของจริงที่เป็นสภาวะของมัน ที่สัมพันธ์กันอยู่ เช่น เป็นเหตุปัจจัยแก่กันในลักษณะอาการต่างๆ พอระบบสัมพันธ์นั้นแปรหรือสลาย องค์ประกอบวิบัติกระจัดกระจาย “สัตว์” “บุคคล” “ตัวตน,อัตตา,อาตมา,อาตมัน” ฯลฯ นั้นๆ ก็หายไป มีแต่สภาวธรรมทั้งหลายที่เป็นไปตามวิถีทางของมัน https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=08-04-2021&group=6&gblog=4 ฅนกำลังเล่นอยู่กับธรรมะระดับแก่น ธรรมก็อย่างฅนก็อย่าง ธรรมมันมีมันเป็นไปตามเรื่องของมัน ส่วนฅนจะเอาแต่ใจตัว นี่ธรรมะกับคนขัดกันแล้ว ![]() ยกตัวอย่างง่ายๆ ขำๆ ![]() ![]() ![]() ![]() กำหนดรู้ทุกๆขณะก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงความไม่คงที่ของมัน ถึงบางอ้อเลย อ้อมันเป็นยังงี้นี่เอง กูหลงยึดสะตั้งนาน เมื่อรู้เองเห็นเองก็ปล่อยวางสุขทุกข์ได้ อะไรเกิดรับรู้สู้หน้าได้ทุกเรื่อง ใจก็เป็นกลางคือมีอุเบกขาว่างั้นเถอะ อุเบกขาเห็นด้วยตนเอง ไม่ใช่อุเบกขาแบบพูดเอา ดูตัวอย่าง ![]() หลังจากนั่งสมาธิสวดมนต์แล้วรู้สึกแปลกๆ เราเป็นมาวันนี้วันที่สองแล้ว วันแรกตอนสวดมนต์ก็ปกติ พอนั่งสมาธิไปสักพักจะเริ่มมึนๆ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะหายใจไม่ถูกหรือร่างกายไม่พร้อมรึป่าว ส่วนวันที่สองนี้ เราลองท่องนโมก่อนนั่งสมาธิ เพราะกลัว หลังจากนั่งได้ไม่กี่นาที ก็มาสวดมนต์ แผ่เมตตา ตอนสวดรู้สึกมือสั่นแต่คิดว่ากล้ามเนื้อคงเกร็งหลังจากเล่นโทรศัพท์มา แต่พอตอนพูดว่า ข้าพเจ้า...ขออุทิศ...ยิ่งพูดนานเท่าไหร่ยิ่งนิ่ง ยิ่งรู้สึกตัวเองมือโต เท้าโต ตัวเล็ก มองมุมกว้าง ควรทำอย่างไรดีคะ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เพราะได้หยุดนั่งสมาธิไปเกือบสองปี หลังจากนั่งเป็น ชม. เเล้วข้างในโยกเยกก็เลยกลัว รบกวนแนะแนวแนะนำหน่อยนะคะ สาธุค่ะ ![]() |
บทความทั้งหมด
|