ทำสมาธิ, นั่งสมาธิ, ทำกรรมฐาน, ปฏิบัติกรรมฐาน, ปฏิบัติธรรม ฯลฯ ใครเรียกชื่ออะไรอีกก็ใส่เข้าไปอีก ชื่อเรียกไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเรียกแล้วต้องเข้าใจให้ถูก
เบื้องแรก คนยังไม่ได้ยังไม่ถึงทำให้ถึงให้ได้ก่อน นี่ขั้นที่หนึ่ง (ไม่มีต้องทำให้มีให้เป็นขึ้น)
ขั้นต่อไป ครั้นทำถึงแล้วทำได้แล้ว ก็ไม่ติดไม่หลงภาพในใจภาพนิมิตต่างๆ แต่ตรงข้ามต้องกำหนดภาพในใจทุกอย่างให้สิ้นไป จิตจึงจะมีกำลังก้าวหน้าผ่านขั้นนี้ไป ถึงอีกขั้นหนึ่ง. ยกเว้นทำสมถะหรือทำสมาธิเพียวๆ ซึ่งนั่น ต้องอาศัยภาพนิมิตบางอย่าง เช่น ภาพกสิณ เป็นต้น แบบนี้ต้องรักษานิมิตในใจ คือว่าเล่นกับภาพภายในใจนั่น
ในเบื้องต้นด้วยคำถามจากตัวอย่างนี้
ปรากฏการณ์หลังจาก
นั่งกรรมฐานหรือ
นั่งสมาธิหลายคนที่เคยนั่งกรรมฐานหรือนั่งสมาธิ แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างไหมคะ
เราจะเล่าให้ฟังค่ะ
ทุกครั้งหลังจากนั่งสมาธิหรือ
นั่งกรรมฐาน ฝนจะตกตอนเริ่มนั่งสมาธิ และฝนจะหยุดตกหลังออกจากสมาธิแล้วตลอดเลยค่ะ
เรื่องต่อมา
รู้สึกตัวเบามาก โล่งสบาย เหมือนกิเลสบางอย่างที่เกิดจากขันธ์ 5 และนิวรณ์ เบาบางลงด้วยเช่นกัน ถือศีล 5 มั่นคงมากขึ้น เราเริ่มเข้าใจในธรรมมากขึ้น
และ
เรายังเห็นนิมิตรเป็นเทวดาพนมมือรับบุญที่เรานั่งกรรมฐานด้วยค่ะ
หลังจากที่ออกจากการนั่งกรรมฐานแล้วนะคะ
สำหรับเราจะไม่หลงระเริงและเหลิงในสิ่งที่เห็นนะคะ
เราอธิษฐานในใจทุกวันว่า ขอให้เราได้
พบทางแห่งนิพพานในเร็ววันค่ะ
https://pantip.com/topic/41478771ช่วงนี้เป็นช่วงนี้ธัมมุทธัจจ์เกิด ผู้ปฏิบัติจะฟุ้งซ่าน คือฟุ้งซ่านธรรม อรรถกถาเรียกวิปัสสนูปกิเลส (ความเศร้าหมองแห่งวิปัสสนา) สภาวะที่ขีดเส้นใต้มีตัวอย่างให้ดู (แล้วต้องกำหนดให้สิ้นไปหมดไป)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=11-06-2022&group=5&gblog=39