ประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ


235 จขกท. ใช้ชื่อ  modran  เขาปฏิบัติแล้วประสบสภาวธรรมครบเครื่อง หากผู้ปฏิบัติรู้วิธีแก้อารมณ์แล้วละก็  เขาจะเดินทางทางจิตไกลทีเดียว   มีอะไรบ้างคัดมาดูกัน

เริ่ม

การขอคำปรึกษาเรื่องอาการที่เกิดจากการฝึกสมาธิในที่สาธารณะแบบนี้ถือว่าสมควรไหม


คคห. 2 450 

มีความรู้เรื่องพุทธศาสนาน้อยมาก  จึงกังวลไปทั่วทุกอย่างค่ะ  ไปฝึกแล้วเป็นโรคจิต   (ตามที่หมอบอกจากอาการที่เราเป็น)   นั่งอ่านตามเว็บไซต์    ก็ไม่เห็นมีคนพูดกันว่าเจออะไรบ้าง   จึงไม่แน่ใจว่ามันควรพูดไหม  เดี๋ยวเจอข้อหาโทษศาสนา

คคห. 6  450

ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอนแล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก
ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ   ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีกเพราะขาดความไว้วางใจ   แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย  เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล  และก็รักษาจนรู้ตัวและเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว  (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่วแต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)  กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร  เสียงที่ได้ยินบอกว่าไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ   ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ  เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก
แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน
แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ  กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้


คคห.8 450 (เขาตอบ คห.7)  


ดูเหมือนกับว่าอาการทางจิตเกิดได้จากการทำสมาธิ (ไม่ถูกวิธี?)
แล้วอาการทางกายล่ะคะ   คุณเคยได้ยินว่ามีคนผิดปกติทางกายจากการฝึกสมาธิแล้วไม่หายไหมคะ เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว   จึงไม่กล้าทำอีก เพราะตอนที่เป็นนั้น เหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา ตอนออกจากสมาธิก็ยังเป็น   ตอนนั้นค่อนข้างหวั่นใจ   แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะ  กลัวว่าคราวนี้ทำอีกแล้วเกิดมันเป็นอีก แล้วไม่หายจะแย่ ....(หากเรื่องที่เขาพูดกันว่าหมดวาสนาทางนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนพูดใส่เราแบบนั้นเช่นกัน   แต่ดิฉันเองไม่อยากจะเชื่อ   ผลของทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุแต่ดิฉันไม่รู้ว่าเหตุใด ร่างกายเราเกิดอาการผิดปกติเช่นนั้นจากการทำสมาธิแล้วจะไปป้องกัน  หรือเลี่ยงมันได้อย่างไร )



(คคห. 9  ถาม)   ความคิดเห็นที่ 11 450

1. ที่คุณบอกว่า ฝึกสมาธินั้น คุณฝึกอย่างไร ฝึกด้วยวิธีไหน อาจารย์สอนคุณอย่างไร แล้วคุณทำไปอย่างไร ครับ

ตอบ.   ฝึกแบบอานาปานสติ ตามลมหายใจ สูดลมหายใจยาวรู้ว่ายาว สั้นรู้ว่าสั้น ปกติรู้ว่าปกติ จนลมหายใจละเอียด
แล้วหยุดจับที่ปลายจมูกเหมือนเป็นด่านเฝ้าดูลมหายใจเข้า และออก  เขาสอนอีกเยอะแต่จำได้แค่นี้ ก็ทำตามนี้แหล่ะค่ะ
แต่พอเจออะไรมากกว่านี้เลยไปไม่เป็น ....ขอไม่บอกชื่อผู้สอนค่ะ

2. เล่าอาการที่คุณพบ ให้ละเอียดขึ้นหน่อย

ตอบ.  ประมาณวันที่สี่เริ่มลูกตาหมุนติ้ว อดทนนั่งจนหายไป วันต่อมาเหมือนมีคนจับหน้าตาเราบิดเบี้ยวเป็นแม้แต่ตอนออกจากสมาธิแล้ว ก็อดทนนั่งจนหายไป
มีเห็นแสงสี ต่อมาเริ่มหูแว่วเหมือนคุยกับคนอื่นทางจิตได้
กลับบ้านก็ตาฝาด เห็นธงวัด ธงชาติปักสลับบอกว่าต่อไปเราจะไปสร้างวัดตรงนี้

3. ก่อนการฝึกสิ่งที่คุณเรียกว่าฝึกสมาธินี้ คุณเคยมีอาการทางจิตมาก่อนหรือเปล่า

ตอบ.ไม่เคย

4. ก่อนการฝึกสิ่งที่คุณเรียกว่าฝึกสมาธินี้ คุณเคยมีความทุกข์ใจมาก กลัดกลุ้มมากๆ จนอยากหาทางออก มีปัญหาในชีวิตมากๆ อะไรอย่างนี้บ้างหรือเปล่าครับ ถึงได้หาหนทางออกด้วยการมาฝึกสมาธิเพื่อให้พ้นจากความกลัดกลุ้มมากๆเหล่า นั้น

ตอบ. มีใครบ้างไม่เคยมีปัญหาชีวิต  จำได้ว่ากลุ้มมากสุดเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว หายแล้ว  อภัยไปหมดแล้ว
ดิฉันไม่ได้หาทางออกให้ชีวิตโดยการไปนั่งสมาธิ  แต่ชอบตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่งที่มหาลัย เคยบวชธรรมทายาทที่วัดธรรมกายตอนเป็นนักศึกษา   แต่เดินออกมาเพราะไม่เชื่อคำสอนหลายอย่าง
แต่ก็ชอบนั่งสมาธิ   แต่งานยุ่งก็ไม่ได้นั่งอีก   จนมาเริ่มอีกทีไม่นานนัก   ตอนไปคราวนั้นเป็นครั้งที่สาม   ไม่ได้กลุ้มอะไรแล้วไป    แค่เคยชอบ   อยากทำอีก   เพราะมันสงบ   เย็น เบาสบาย

5. ก่อนการฝึกสิ่งที่คุณเรียกว่าฝึกสมาธินี้   คุณเคยไปเข้าตามสำนักทรงเจ้าเข้าทรง อะไรพวกนี้มาก่อนหรือเปล่า

ตอบ. ดิฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เอาเลย จริงๆค่ะ

6. ใครแนะนำคุณไปฝึกสมาธิตามที่บอกข้างต้น เขาเป็นใคร มีพื้นเพ ความเชื่ออย่างไรครับ

ตอบ. ไปเอง เพราะศัทรา ดิฉันเชื่อยากแต่พร้อมที่จะทดสอบจนเห็นเอง

ดิฉันไม่ได้ขาดสติ   และรู้ตัวเกือบตลอดเวลา   (แต่มีบางครั้งที่ทำอะไรไม่รู้ตัวเลยแค่ช่วงเสี้ยวนาที)   เพียงแต่สิ่งที่เห็นกับตา ได้ยินกับหู ทำให้ดิฉันเชื่อว่าจริงเพราะไม่เคยรู้ ว่าอาการหลงจากสมาธิทำให้เกิดได้   (อย่างนี้คุณเรียกว่าขาดสติไหม ดิฉันคิดว่ามันเป็นการขาดความรู้มากกว่า แบบนี้เขาเรียกอวิชชาทำให้บ้าได้ใช่ไหม)



(ตอบคำถาม คคห. 14)   ความคิดเห็นที่ 15 450

อ่านบทความตามลิ้งทำให้ดิฉันหวนนึกไปถึงตอนที่ฝึกนั้น   ดิฉันไม่ได้จับที่จมูก ตลอดเวลาอย่างเดียว ทำแค่ขั้นนึง   แล้วนั่งดูตัวเองไปเรื่อยๆ  เพราะจำให้ว่าเขาสอนแบบนี้ด้วยค่ะ  แต่ดิฉันอาจจะทำผิดนะเพราะนั่งดูตัวเอง  เห็นว่าร่างกายดิฉันหายใจแบบผิดปกติค่ะ   บางทีนิ่งหายใจเบาจนแทบไม่หายใจเลย  บางทีก็หอบแรงมากเลยสลับไปมา ดิฉันก็นั่งดูมันใจแบบแปลก ๆ ไป เป็นชั่วโมง จนหายไปเอง

แต่ดิฉันเห็นว่าตัวเองผิดเป้าหมายสำคัญอันนึงไปค่ะ คือการนั่งเพื่อให้พ้นทุกข์!
ดิฉันไปนั่งสมาธิเพราะติดสุขเบาสบายจากการทำสมาธิ ไม่เคยคิดว่าจะเพื่อให้พ้นทุกข์เลย เหตุนี้เองกระมังถึงผิดเป้าหมายหลงไปหมด

ดิฉันอยากได้ข้อมูล เพื่อตัดสินใจค่ะว่า จะหยุดรักษาแบบนี้ที่ต้องกินยาเม็ดละหลายร้อยแถมมากลับอาการท้องผูกอย่างหนักนี้ดีไหม


ความคิดเห็นที่ 16 450

ดิฉันยืนยันแบบไม่ได้หลอกตัวเองค่ะว่าไม่ได้ติดกับจมูกแต่ดูที่ลมค่ะ  ค่อนข้างมั่นใจค่ะ เพียงแต่เฝ้าตรงทางที่มันเข้าและออก


(ตอบคำถาม 17)   ความคิดเห็นที่ 19 450

ใช่ค่ะ  แต่ไม่ได้เห็นคนมาคุยด้วย    เคยเห็นแค่ธง นกบินไปมาตอนที่คิดว่าเรากำลังรับข่าวสารตอบโต้ไปมานานเลย    ส่วนใหญ่จะเห็นอะไรที่ดีๆไม่น่ากลัวค่ะ   แต่มีเสียงคนมาคุยด้วยตลอด หลายคน พลัดกันไปมา เป็นอยู่หลายอาทิตย์จนเขาต้องพาไปโรงพยาบาล

ตอนนี้หายไปหมดแล้วค่ะ    เพียงแต่ยังมีเสียงมาจากใจแต่เหมือนเป็นคนอื่นพูดเท่านั้น  ดิฉันคิดว่ามันคงเป็นจิตเราเอง   แค่แปลกใจทำไมพูดเหมือนเป็นคนอื่น  แสดงว่ามันผิดปกติ แสดงว่ายังเป็น แสดงว่ายังต้องพึ่งยา


ความคิดเห็นที่ 39 450

ขอบคุณมากสำหรับทุกๆ ความเห็นค่ะ
แต่ว่าถ้าการฝึกสมาธิมันเสี่ยงกับการเป็นบ้า ทำไมเราถึงสนับสนุนคนให้ฝึกกันละคะ เพราะก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวเองมีเชื้อบ้าอยู่ในตัวไหม   น่าจะสนับสนุนให้ศึกษาธรรมมะให้เข้าใจก็พอแล้ว
คนที่เข้าใจธรรมมะจากการศึกษาก็พ้นทุกข์ได้ ไม่เห็นต้องมาเสี่ยงปฏิบัติ

ดิฉันไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อมากก่อนไหม   แต่รู้ว่าตัวเองสุขภาพจิตดีก่อนเกิดเหตุ  แต่เคยได้ยินว่าฝึกแล้วอาจจะบ้าได้   แต่เสียดายไม่เคยคิดเลยว่ามันใกล้ตัว   ไปก็ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรในการฝึก ทำไปตามปกติสบายสบาย     จนมันผิดปกติถึงได้พยายามแก้ไขเอง    นี่เองจุดหักเข้าสู้ความตาย   พอเห็นอาการทางกายหายไป    แล้วดิฉันเริ่มหลงเพราะเห็นพระที่ดิฉันนับถือที่สุดในชีวิตเอาพระองค์เล็กๆใส่มาในตัวเรา   ต่อจากนั้นก็รู้สึกไปว่าติดต่อทางจิตกับท่านตลอดเวลา... เจอมุขนี้ มือใหม่จะรับมือไหวได้ยังไง

หมอยังทำให้เบาใจได้ระดับนึงคือเขาคิดว่ามันเป็น Bipolar มากกว่า schizophrenia  (ข้อแตกต่างของสองอันคือ schizophrenia จะไม่มีทางหาย แต่ bipolar หายได้)


ความคิดเห็นที่ 46 450

ขอบคุณค่ะ   ดิฉันสนใจเรื่องสติกับจิตมาก   อยากรู้อยู่ แต่ไม่รู้จะอ่านอะไรที่ไหน พวกคุณชี้ทางสว่างพอดี

ดิฉันอยากตั้งข้อสงสัยอันนึงคือดิฉันทำงานที่ต้องใช้สมาธิมากวันละแปดถึงสิบชั่วโมง มาสิบกว่าปีแล้ว   อาจะเป็นเหตุนึงที่เหมือนเราฝึกสมาธิตลอด   สติจึงตามไม่ทัน แบบนี้อาชีพหรือกิจกรรมอาจจะส่งผลกระทบต่อการฝึกด้วยไหม    แบบนี้คนไปฝึกต้องระวังพื้นฐานตัวเองให้ดีว่ามีจุดอ่อนด้านไหน


ความคิดเห็นที่ 47 450

ปกติดิฉันรักษาศีลห้าประจำอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

ส่วนเรื่องเลิกทำสมาธิ   หากนับเรื่องงาน ก็ลำบากและเรื่องฝึกสตินี้ยากจังค่ะ   ในห้านาทีหลงไม่รู้กี่รอบ   แต่ดิฉันไม่อยากผูกตัวเองกับการต้องเป็นคนโรคจิตไปตลอดชีวิตค่ายาก็แพง แถมผลกระทบยิ่งร้ายท้องผูกมากมาย และยังไม่รู้จะหายไหม เพราะทานมาครึ่งปีอาการก็ยังอยู่ยังไงก็ต้องพยายามฝึกสติให้ได้ค่ะ


ความคิดเห็นที่ 51 450

ขอบคุณค่ะ
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้  ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาที่ที่เห็นเป็นกายมันเดินเอง  ร้องให้เลย  ตอนั้นรู้สึกว่าแม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเราจะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ   แบบนี้มันเกิดปัญญาใช่ไหมแต่มันแบบไม่ถึงที่สุด ปัญญาแค่เสี่ยว ต่อมาก็เลยหลงจนเพี้ยน


https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html

ไม่เห็น คคห.ไหนแก้อารมณ์ภาคปฏิบัติเลย


ตกม้าตายกันร้อยทั้งร้อย 450

แต่ดิฉันอาจจะทำผิดนะเพราะนั่งดูตัวเอง  เห็นว่าร่างกายดิฉันหายใจแบบผิดปกติค่ะ   บางทีนิ่งหายใจเบาจนแทบไม่หายใจเลย  บางทีก็หอบแรงมากเลยสลับไปมา  ดิฉันก็นั่งดูมันหายใจแบบแปลกๆไป  เป็นชั่วโมง  จนหายไปเอง

ท่านถึงบอกว่า  451"การประสบไตรลักษณ์อย่างไม่รู้เท่าทันอาจทำให้เกิดทุกข์"  อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา ไตรลักษณ์พูดกันบ่อยมากๆ แต่พอประสบกับมันเข้าจริงๆ เสร็จมัน ไม่รู้ ไม่รอด
คนเลยเป็นทุกข์เพราะไตรลักษณ์ไปฉิบ (แบบๆว่า คนเป็นทุกข์เพราะธรรมชาติ  อย่างนี้แหละท่านเรียก ทุกขอริยสัจ)   ลองสังเกตสิมีสภาวะใดเกิดขึ้นขึ้นแล้วไม่ดับบ้าง เกิดแล้วก็ดับ ๆๆๆ  เพราะฉะนั้นภาคปฏิบัติทางจิตแบบถึงแก่นใจ  (ใช้คำนี้) ผู้ปฏิบัติกำหนดรู้ทุกๆสภาวธรรมที่เกิด แรกๆกำหนดรู้ตามที่มันเป็นสัก ๓-๔ ครั้งแล้วปล่อย (อย่าจมแช่อยู่กับมัน)  แล้วดึงความคิดกำหนดกรรมฐาน (ลมเข้า-ออก, พอง-ยุบไปใหม่) จนหมดเวลาเลิก  แม้จะออกจากนั่งสมาธิแล้ว ก็ต้องกำหนดรู้ด้วย  เพราะสมาธิแรงมันก็เหมือนยังค้างอยู่ (ให้สังเกตแล้วทดลองได้)

 



Create Date : 26 พฤษภาคม 2566
Last Update : 30 พฤษภาคม 2566 7:03:35 น.
Counter : 360 Pageviews.

0 comments
หลักปฏิบัติ ปัญญา Dh
(18 เม.ย. 2567 19:08:42 น.)
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
อยาก อยากได้ กฎที่ถูกที่ดี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 05:37:27 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samathijit.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด