๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง...เสด็จสู่สวรรคาลัย
สองสามวันที่ผ่านมา เราลังเลว่าจะไปถวายดอกไม้จันทน์ที่ไหนดี ระหว่างศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งไปดูสถานที่มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถึงวันจริงเราก็เปลี่ยน เพราะคิดว่าที่ไหนก็เหมือนกัน เราจึงตัดสินใจเลือกไปที่วัดสุวรรณาวาส อำเภอกันทรวิชัย ทีแรกก็วุ่นนวายอยู่กับการหาเสื้อผ้าให้ตรงตามระเบียบแบบแผน กลัวกระโปรงจะสั้นไป จะใส่ถุงน่องก็ไม่ดี แต่คิดว่าในตัวอำเภอคงจะไม่เข้มงวดมาก เพราะแถบนี้มีแต่ชาวบ้านทั้งนั้น เราเองก็ไปในฐานะชาวบ้านพสกนิกรของพระราชา จะไม่ให้เข้าก็ดูจะใจร้ายเกิน
เมื่อไปถึงประมาณสิบโมงกว่าเรารู้สึกดีที่ตัดสินใจมาที่นี่ในภาคประชาชนที่ไม่ต้องมีเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์ เพราะนอกจากเราได้เห็นน้ำใจ ได้แสดงน้ำใจแล้ว ยังได้รู้ว่าทุกคนมาด้วยใจด้วย
นายอำเภอกันทรวิชัยใจดีมากที่ให้ทุกคนที่มาได้เข้าถวายแม้จะแต่งกายไม่ได้เป็นไปตามระเบียบแบบแผน เราเองก็เรียบง่าย แต่ชาวบ้านที่เขาไม่มีชุดไม่มีเสื้อผ้าไม่มีรองเท้าเพราะอาชีพหลักก็ชาวนาชาวไร่รับจ้างแต่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทัดเทียมกัน ลูกเล็กเด็กแดงผู้เฒ่าผู้แก่ก็มา ชุดไหนก็ชุดนั้นขอให้เป็นสีดำจะมีลายบ้าง ขาดบ้าง เก่าบ้าง ผู้หญิงนุ่งกางเกงบ้าง ใส่ร้องเท้าแตะ เสื้อยืดบ้าง เขาก็หาได้ดีที่สุดในชีวิตแล้ว ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ยังไม่เคยรังเกียจพสกนิกรของพระองค์เลย ได้ยินโฆษกในงานประกาศว่านายอำเภอไม่ว่าเพราะรู้ว่าทุกคนตั้งใจที่จะมาแล้วต้องได้เข้าถวายทุกคน
เราไม่ได้ทานข้าวเช้ามา ทีแรกนึกว่าต้องเป็นลมตายแน่เลย อากาศก็ร้อน แถมไปคนเดียวด้วย เรานั่งนิ่งๆ ทำใจให้สงบเพื่อจะได้ไม่หิว ไม่เหนื่อย ไม่ร้อน ไม่หงุดหงิด และอดทนรอ ระหว่างที่ยืนรอ มีชาวบ้านคนหนึ่งเห็นเราหน้าขาวไปหน่อย คิดว่าเราจะเป็นลมจึงยื่นยาดมที่จิตอาสาแจกมาให้ ถามว่า "เอาบ่" ดูสิช่างมีน้ำใจเหลือเกิน ตอนนั้นยืนใส่ส้นสูงนาน แต่ไม่เป็นไร กลัวการนั่งมากกว่า กลัวปวดขา แต่พอได้นั่งเท่านั้นล่ะ ไม่มีอาการปวดเลยเหมือนถูกสั่งว่าห้ามเจ็บป่วย เรายืนรอและนั่งรอร่วมๆ ชั่วโมงครึ่ง
ยายคนหนึ่งนั่งข้างเราตอนรอในศาลา แกไอรุนแรงมาก ไม่หยุด น้ำหูน้ำตาไหล จนคนข้างๆ หันมาถาม ใจเราได้แต่คิดว่าอย่าบ้วนน้ำลายลงพื้นนะ และยายก็ไม่บ้วนเลย แกบ้วนใส่ผ้าเช็ดหน้าที่คนข้างๆ ยื่นให้ เราถามแกว่า "ยายไหวบ่" แกตอบภาษาอีสานมาแต่เราฟังไม่ออก จึงลุกไปบอกจิตอาสาว่าขอน้ำให้ยายหน่อย ยายไม่สบาย
ยายที่นั่งติดกับเราอีกทางหนึ่งรีบควักขวดน้ำที่กินแล้วครึ่งขวดส่งให้เรา เรารีบให้ยายต่อทันที ยายกินน้ำจนอาการไอค่อยบรรเทาลง ไม่ได้คุยอะไรกันอีก เพราะต้องไปยืนต่อแถวเตรียมถวายดอกไม้จันทน์แล้ว
ขณะหยิบจะมีเจ้าหน้าที่บอกให้ทำพร้อมกัน ใครจะหยิบมือข้างไหนอะไรอย่างไรก็ไม่ได้ว่า แต่ทุกคนหยิบมาแนบที่หัวใจเหมือนกันหมด
หลังจากหยิบดอกไม้จันทน์มาถือ เราหันไปข้างหลัง ยายที่ไอเมื่อครู่ยืนต่อหลังเรา แกไม่มีอาการไออีกเลย สีหน้าแช่มชื่นขึ้น เราถามแกว่า "หายแล้วบ่" แกพูดอีสานจับความได้ว่า ดีขึ้นแล้ว เมื่อกี๊นี้ไอเกือบตาย คิดว่าจะไม่มีบุญได้ถวายดอกไม้จันทน์แล้ว พอแกพูดจบ เราหันมาน้ำตาไหลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนจะเข้าทำความเคารพและวางดอกไม้จันทน์เสร็จตอนเที่ยงตรง
ขับรถกลับมาน้ำตาไหลตลอดทาง นึกในใจว่านี่ล่ะ...บุญของยาย ของเรา และของทุกๆ คนแล้ว พสกนิกรทุกแห่งหนรักพระองค์จริงๆ
Create Date : 26 ตุลาคม 2560 |
|
3 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2560 20:04:38 น. |
Counter : 1683 Pageviews. |
|
|
เจิมบอก