I AM SOMEONE
<<
เมษายน 2567
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
20 เมษายน 2567

วันนี้สอบราชการ

จากความเดิมตอนที่แล้วว่าสมัครสอบราชการอีกครั้งในรอบเกือบสามสิบปี วันที่ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบเมื่อวันที่ 5 เมษายที่ผ่านมา ก็ถอดใจแล้ว เพราะมีผู้สมัครในตำแหน่งเราถึง 3004 คน คิดว่าปล่อยให้เด็กๆ เขาไปสอบเถอะ เขามีโอกาสมากกว่าเรา เราแก่แล้ว ถึงจะได้แต่ก็รับราชการอยู่ไม่กี่ปีไม่แก่ก็ตาย แม่ยังไม่เห็นด้วยเลย หนังสือก็ไม่คิดจะอ่านด้วย และยังบอกกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งว่าเราไม่ไปสอบ ถึงสอบก็ไม่ได้อยู่ดี

แต่พอวันที่ 12 เมษายน ประกาศสถานที่สอบ เราก็เกิดความลังเล เพราะมีคนในอาชีพอาจารย์เหมือนกัน เขาให้กำลังใจและยุให้ไปสอบ จะได้หลุดพ้นเสียที จริงๆ ต่อให้ไม่สอบเราก็หลุดพ้นอยู่ดี เพราะไม่เอาแล้ว หมอดูในตต.บอก เดินหน้าแล้วอย่าลังเล

เอาวะไปสอบก็ได้ ชีวิตคือการแข่งขัน ไม่ลองก็ไม่รู้ ทีนี้เราก็ไม่อยากขับรถมาเพราะน้ำมันแพงมาก และเพิ่งเข้ากทม.เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง ร้อนเหนื่อยขี้เกียจขับรถ จะนั่งรถทัวร์ก็เต็มถึงวันที่ 20 ก็เลยได้ขับรถมา เรามาตั้งแต่วันที่ 18 ไม่ได้จริงจังกับชีวิตมาก อ่านหนังสือรอบเดียว แล้วก็ไม่จำอะไรด้วย แวะหาเพื่อนที่สระบุรี เมาท์มอยหอยสังข์กันเรื่องชีวิต บอกเพื่อนว่าจะมาสอบ

วันที่ 19 ถึงกทม. แบบเพลียแดดเพราะรถเยอะมาก ร้อนมาก ไมเกรนก็ขึ้นเลยกินยานอนหลับและยาไมเกรนด้วย ไม่ได้กังวลอะไรแต่กว่าจะหลับก็นาน สะดุ้งตื่นมาหกโมงกว่า เราไม่อยากตั้งนาฬิกาปลุกกลัวจะกังวลแล้วนอนไม่พอ รีบอาบน้ำแต่งตัวไปย้ายรถเปลี่ยนฝั่งจอด แล้วนั่งแท็กซี่ไปสนามสอบ ถ้าตื่นสายกว่านี้สงสัยจะไม่ทัน เพราะขนาดไปเร็ว รถไม่ติดวันเสาร์ แต่อุปสรรคจนเกือบสาย เวลาเข้าห้องสอบ 9.00 น. เริ่มสอบ 9.30 น. ห้ามสายเกินครึ่งชม.

อยากเล่าให้น้องๆ หลานๆ ที่ไม่เคยสอบราชการ แล้วสนใจสอบเตรียมตัวเมื่อเข้าสนามสอบคนเป็นพันมาอยู่รวมกัน

อย่างแรกคือ ห้ามใส่เครื่องประดับทุกชนิด แต่แว่นสายตายังใส่ได้ เรายังได้ทิ้งกิ๊บหนีบผม

ถัดมาคือกระเป๋าทุกชนิดห้าม แม้แต่กระเป๋าใส่ดินสอก็ต้องโปร่งๆ ใสๆ ไม่มีซิปโลหะ หรือใส่ถุงพลาสติกใส เตรียมมาเอง เราไม่รู้เราก็ไม่ได้เตรียมอะไรมา ดีที่ชุดเรากระเป๋าสี่ช่องเลยใส่แม่งทุกช่อง 5555 ดินสอ 12 แท่งอะคิดดูเพราะไม่มีกบเหลา อย่าลืมยางลบ ปากกาควรเป็นปากกาลูกลื่น เราใช้ปากกาหมึกเจล ไม่รู้อีกไงแต่เขาก็ไม่ว่าอะไร น้ำยาลบคำผิดได้ หรือเทปลบคำผิดได้ แต่ถึงเวลานั้นรีบๆ เขียนผิดก็ฆ่าทิ้งโลด

โดยจะมีจุดฝากกระเป๋ายาวเหยียด ใจเย็นๆ มันจะเสียเวลาอยู่บ้างจึงต้องมาไวๆ ดีที่มีร่มเงาบัง ไม่งั้นมีเป็นลมแดดกันบ้างล่ะ เอาธนบัตรติดกระเป๋าไว้ซื้อข้าวกินตอนเที่ยงได้ เหรียญไม่ได้ โทรศัพท์เอาเข้าไม่ได้ ทิ้งไว้ในกระเป๋าเลย ทั้งวันไม่ต้องใช้ ถ้าสอบทั้งวัน ระหว่างวันก็ไม่ให้ไปเอา วันนี้เราก็นั่งน้ำลายบูดไปเลย เพราะไม่ได้คุยกับใคร

อย่างที่สามคือ อย่าลืมเอาหน้ากากไปด้วย ไม่มีให้ ใส่ตลอดเวลาที่นั่งสอบ
อย่างที่สี่คือ บัตรประชาชนเท่านั้น บัตรเราก็เลือนๆ แล้วจะครบกำหนดทำใหม่แล้ว ก็ใช้ให้คุ้มซะหน่อย

เสื้อผ้าเน้นสุภาพใส่สบาย เราฟลุคที่ใส่เดรสที่มีกระเป๋าเยอะไม่งั้นก็ไม่รู้จะทำไง คงอดกินข้าวแน่ๆ จะกำทุกอย่างไว้มือก็ไม่ได้ รองเท้าผ้าใบก็ได้ ผู้ชายบางคนใส่เสื้อโปโล เสื้อเชิ้ตแขนยาวเรียบๆ ผู้หญิงนุ่งกางเกงผ้าก็ได้

ข้อสำคัญคือจำรหัสที่สอบให้ดี เรานี่โป๊ะมาก เรารู้ว่าคนสอบสามพันคน แต่เราดันจำมาแค่สามตัวท้าย ทีนี้ดูห้องสอบผิด ปรากฏว่าไปผิดตึก ไม่มีชื่อเข้าสอบ ชิบหายแล้วทำไงดี ตอนนั้นเก้าโมงแล้ว เขาไม่มีรายชื่อติด ต้องไปกองอำนวยการ เข้าก็คีย์เลขบัตรถึงรู้ห้องสอบ จริงๆ ต้องจำสี่ตัวท้าย หายไปหนึ่งตัว เกือบเป็น sliding door

การไปสอบครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของเราในรอบเกือบสามสิบปีเช่นกัน ตรวจร่างกายเหมือนสนามบิน การสอบเข้มงวดมาก ห้องสอบดี แต่เขาให้ข้อสอบบนโต๊ะห้ามวางพื้นหรือใต้โต๊ะ เข้าห้องน้ำได้ระหว่างสอบแต่ขออนุญาตก่อน แต่เราไม่ได้เข้าสักครั้ง

ห้องสอบหลวมๆ ไม่ติดกัน มีนาฬิกาเรือนใหญ่บนจอ มีเสียงประกาศดังทั่วกัน

หลังจากสอบวันนี้เราอยากกลับมาเขียนเล่ามากๆ เริ่มจากการสังเกตว่าผู้ขาดสอบห้องเราประมาณสิบกว่าคน ก็ครึ่งหนึ่งเพราะห้องหนึ่งมีประมาณ 30 คน ทีแรกเราคิดว่าเออเป็นการตัดคู่เข้าแข่งขันออกไป อัตราส่วนก็ลดลง แต่จริงๆ แล้วคิดแบบนั้นไม่ได้ แม้ผู้ขาดสอบเยอะ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีโอกาสมากขึ้น

เพราะอันที่จริง เราแข่งกับตัวเอง เราต้องทำข้อสอบให้ได้เอง ไม่ใช่เราทำไม่ได้ คนอื่นก็คงทำไม่ได้ แล้วเราจะมีโอกาสมากกว่าเขา คิดแบบนั้นไม่ได้ หากเราทำไม่ได้ นั่นหมายถึงเราไม่ได้คะแนน เมื่อคะแนนไม่ถึง 60 เราก็สอบตกนั่นเอง เขาไม่ได้รันตามคะแนนมากน้อย แต่เขาใช้เกณฑ์สอบผ่านหรือไม่ก่อน

ข้อสอบภาคเช้าเป็นการสอบวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับเราแล้วไม่ยากแต่ไม่ง่าย เพราะเราไม่ลึกสักด้าน 5555 ฟังข่าวก็จริง แต่ให้ตายสิ ถามอะไรยากจัง ข้อที่เป็นปรนัยเดาไปแล้วเกินสิบข้อ แล้วเราเป็นคนเดาไรไม่ค่อยถูกเสียด้วยสิ 5555

อัตนัยก็อาศัยเขียนบทความบ่อยๆ บวกกับจับแพะชนแกะเชื่อมโยงเก่งเลยพอถูๆ ไถๆ ไปได้ อาจจะถึง 60 ตอนแรกคิดว่าสองชม.ครึ่งเหลือๆ ที่ไหนได้ เกือบไม่ทัน จากลายมือพออ่านได้ กลายเป็นลายเท้าไปเรียบร้อย ปวดนิ้วเลย

นึกถึงตอนที่เราออกข้อสอบให้เด็ก กรรมตามสนองเราก็ตอนนี้ล่ะ เด็กก็คงอารมณ์เดียวกับเรา มันออกอะไรวะ มีอะไรก็ตอบๆ ไป เด็กยังตอบข้อสอบดีกว่าเราเสียอีก 555

ตอนเที่ยงซื้อข้าวที่เขาทำไว้ขาย ไม่อร่อยก็ต้องกิน 5555 อย่าลืมว่าอย่าให้มีเหรียญทอนมาไม่งั้นต้องทิ้งเหรียญเข้าห้องสอบไม่ได้อีก รอเวลาเข้าสอบตอน 13.00 เริ่มสอบ 13.30

ภาคบ่ายเป็นภาษาอังกฤษ คนที่ยุเรามาสอบบอกว่าภาษาอังกฤษม.ต้น ก็เชื่อเลยมาสอบ ที่ไหนได้นี่มัน tu get หรือ cu tep วะเนี่ย ยากชิบหายตายห่าไปเลยจ้า 5555 ปรนัย 40 ข้อ เดาทุกข้อ อ่านไม่ออก แปลไม่ได้ ทั้ง vocab grammar จับใจความ มีสรุปด้วย ดีนะที่ให้สรุปภาษาไทยได้ เราก็แต่งเรื่องเองซะเลย 5555 อ่านรู้เรื่องแต่ชื่อเรื่อง นอกนั้นไม่ได้สักอย่าง นั่งทำเหมือนทำได้ เขียนไม่หยุด ไม่ต้องใช้สมองคิด เพราะคิดไปก็ผิดอยู่ดี กรรมการตรวจคงงงว่ากูออกข้อสอบแบบนี้เหรอ 555 ข้อสุดท้ายให้ตอบเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ก็เหมือนเอาคำมาต่อกัน grammar tense อะไรไม่มีสักอย่าง เล่นเอาสองชม.ครึ่งเกือบหมดเวลาเหมือนกัน ขนาดเดาทั้งหมดเลยนะ คะแนนภาษาอังกฤษ น่าจะไม่ถึง 5 คะแนนจาก 100 ซึ่ง 5 คะแนนก็อาจจะมาจากเดาถูกใน 40 ข้อนั่นแหละ

อุปสรรคการสอบในวัยชราคือสายตาค่ะ อ่านข้อสอบไม่เท่าไหร่ แต่ตอนฝนด้วยดินสอนี่สิ ไม่รู้ดำสนิทหรือยัง และไม่รู้ฝนเต็มวงหรือเปล่า เลยวงเกินๆ ไปก่อน จะไปทำงานอะไรได้ล่ะเนี่ย พังไปทั้งร่างอย่างนี้

สิ่งที่เราอยากเล่านอกจากเรื่องสอบแล้ว เราอยากเล่าถึงบรรยากาศของสนามสอบ มีตั้งแต่วัยรุ่นเพิ่งเรียนจบมาสอบ ดูจากเครื่องแบบนศ.ที่ใส่มา บางคนยังใส่เข็มขัดมหาลัยอยู่เลย มีทั้งวัยผู้ใหญ่แบบแก่ประมาณเราก็มี หรืออาจจะแก่กว่าก็ไม่รู้ แต่เขาก็มาสอบอยู่ (แม่เราสบายใจได้ และสงสัยว่าทำไมยังมาสอบ 555 ก็เขาไม่มีงานหรือไม่ก็อยากได้สวัสดิการข้าราชการ)

บางคนเดินทางจากตจว.มาเพื่อสอบโดยเฉพาะที่รู้เพราะว่าเขาไปฝากกระเป๋าเดินทางกันหลายคน แปลว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่ลงทุนน้ำมันหลายพันและลงแรงมาสอบ แต่พวกเขาคงมีความหวังในชีวิตมากกว่าเราเยอะ
บางคนมีเพื่อนหรือคนรักพามาสอบหรือมานั่งรอใต้ตึก เพื่อจะได้เฝ้าของ ไม่ต้องฝาก ซื้อข้าวซื้อน้ำให้กิน มีโทรศัพท์ให้ใช้ตอนพักเที่ยง

และอีกจำนวนมากที่มาเป็นครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง พ่อแม่หลายคนก็ 50-60 กันแล้ว จะเห็นได้ว่าเขายังมีความหวังว่าลูกจะได้รับราชการ นานแค่ไหนก็รอ มาให้กำลังใจ มีข้าวห่อมาให้ ดูน่ารักดี แต่เมื่อสามสิบปีก่อนแม่เราไม่เฝ้าแล้ว เรียนจบก็ดูแลตัวเอง

การสอบราชการยังไม่ใช่เรื่องเชยหรือคิดว่าไม่น่าจะมีคนสอบกันแล้ว ที่ไหนได้ คนยังสอบกันอยู่และเยอะมากด้วย การแข่งขันสูงกว่าเข้ามหาลัยสมัยนี้เสียอีก เพราะข้าราชการก็คืองานที่มั่นคงสุดแล้วในตอนนี้

ส่วนเราไม่ได้หวังว่าจะเอาสวัสดิการอะไร เราหวังแค่มีงานทำไม่เบื่อ และพอมีรายได้เติมน้ำมัน กินข้าว จ่ายค่าส่วนกลางคอนโด ไม่ต้องขอแม่ หมื่นกว่าบาทก็อยู่ได้แล้ว ที่เพราะงานเอกชนไม่มีใครรับวัยเราแล้ว เหลือแต่งานราชการ แต่เท่าที่ทำข้อสอบ สงสัยจะได้ขอแม่กินตามที่ตั้งใจแน่ๆ เพราะสอบไม่ผ่านแน่ๆ

จากที่แม่ไม่เห็นด้วยว่าให้เราสอบ แกก็ไปหาใบรับรองกพ.ภาค ก.จนเจอ และโทรมาถาม แกว่าเราสอบได้แน่เลยเพราะเราเก่งว่าคนออกข้อสอบแล้ว 555 นี่น่าจะเป็นไม่กี่ครั้งที่แม่ชมเรา เราก็บอกไปว่ายาก ทำไม่ได้เลย ใบรับรองก็เก็บไว้ จะได้ใช้ต่อเมื่อเราสอบผ่าน ซึ่งโอกาสผ่านริบหรี่

แต่วันนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิตบั้นปลาย ได้เห็นโลกของการแข่งขันดิ้นรน คนหนุ่มสาวยังอยากรับราชการ รวมทั้งคนแก่อีกหลายคนที่สู้จนกว่าจะหมดโอกาสสู้แล้ว




 

Create Date : 20 เมษายน 2567
2 comments
Last Update : 21 เมษายน 2567 15:45:35 น.
Counter : 146 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ

 

ขอให้สอบได้ ได้เป็นข้าราชการครับ
คนรู้จักคนหนึ่่งสอบเข้ารับราชการได้ตอนอายุ 50 ปี ก็อยู่จนเกษียณ

 

โดย: สองแผ่นดิน 20 เมษายน 2567 22:52:13 น.  

 

ความน่าจะเป็นพอๆ กับถูกเลขท้ายสองตัวเลยค่ะ เผลอๆ น้อยกว่าอีก 555

 

โดย: Alex on the rock 21 เมษายน 2567 15:30:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]