ไทดำ ชาติพันธุ์แห่งเชียงคาน
เชียงคาน ไม่ใช่มีแค่ริมโขงหรือบ้านเรือนเก่าๆ ให้ท่องเที่ยวแบบโหยหาอดีตเท่านั้น แต่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงคาน เมื่อไปจากเมืองเลยก็ยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ ที่บ้านนาป่านาด ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน จ.เลย หมู่บ้านไทดำหนึ่งเดียวในอีสาน
การเดินทางไปที่นี่ต้องอาศัยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น เพราะเข้าไปในหมู่บ้านเชิงเขา ซึ่งเข้าออกได้สองทางแล้วแต่ว่าจะมาจากทางไหนและ google map จะพาไปเส้นใด หมู่บ้านนี้เป็นดินแดนที่ไทดำชาติพันธุ์แห่งเชียงคานอยู่อาศัยกันจริงๆ แต่มีศูนย์กลางของหมู่บ้านเป็นพิพิธภัณฑ์ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ไม่กระจัดกระจายไปรบกวนวิถีชีวิตส่วนตัวของแต่ละบ้าน มีตัวแทนหมู่บ้านมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกๆ วัน เป็นลักษณะของวิสาหกิจชุมชนรูปแบบหนึ่ง
นอกจากพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในครั้งอดีตแล้ว ยังมีการสาธิตงานหัตถกรรม จัดจำหน่ายของที่ระลึก ไฮไลท์วันนี้ คือการแสดงเซิ้งของไทดำ ที่จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวใส่ผ้าโพกหัวแล้วเซิ้งง่ายๆ ไปด้วยกันตามจังหวะเพลงท้องถิ่นของชาวไทดำผ่านเครื่องเสียงชั้นดี
จริงๆ แม่ๆ ยายๆ กวักมือเชิญเราไปเซิ้งด้วย แต่เราไปคนเดียว อากาศร้อนเราไม่สู้แดดขนาดนั้น จึงขอยืนชมให้กำลังใจอยู่ห่างๆ
เมื่อเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระราชชนนีพันปีหลวงประดับบนบ้านก็เดาได้ว่าพระองค์ก็คงเคยเสด็จมาเยี่ยมราษฎรไทดำที่เชียงคานด้วยเป็นแน่แท้ ไม่มีที่ใดที่ในหลวง ร.๙ ไม่เคยเสด็จไปถึง แม้จะเป็นถิ่นทุรกันดารของชาติพันธุ์ใดก็ตาม และต้องมีพระราชินีของพระองค์ตามไปด้วยเสมอ ยิ่งที่นั่นมีงานหัตถศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองด้วยแล้วทรงอุปถัมภ์อย่างแน่นอน
คุณยายชาวไทดำเล่าว่า ผ้าที่สวมใส่และจำหน่ายเหล่านี้ก็เป็นผ้าฝ้ายทอมือฝีมือของชาวไทดำ ราคาไม่แพง ลวดลายก็มาจากชีวิตประจำวัน เช่น ลายแตงโม เราว่าชื่อน่ารักจัง แกจึงเล่าต่อว่า ชาวบ้านนึกไม่ออกว่าจะทอลายอะไรดี ก็เห็นแตงโมมีลายเป็นเส้นๆ ก็เลยทำตามลายนั้น และเรียกว่าลายแตงโม ส่วนสินค้าที่ระลึกที่ขายดีและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือผ้าโพกหัวที่ปักด้วยมือ
เรามองว่าไม่จำเป็นต้องโพกหัวก็ได้นะคะ ลวดลายและสีสันสดใส เอาไปใส่กรอบตกแต่งบ้านยังได้เลย เสียดายที่คิดช้าไป น่าจะซื้อติดไม้ติดมือกลับมาสักผืนสองผืน
ผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต้องมาสัมผัสด้วยตนเองแล้วล่ะ ชาวไทดำแม้จะเป็นผู้สูงวัยแต่สื่อสารภาษากลางได้หมด ทุกคนพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น รอยยิ้มของแม่ๆ ยายๆ หรือน้องๆ ที่นี่น่ารักทุกคน เราปล่อยเวลาล่วงเลยร่วมชั่วโมงไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่การมาถ่ายรูปเช็คอินแล้วรีบกลับ นับว่าคุ้มค่าที่เดินทางมาเยือนแล้ว
ก่อนกลับมานั่งชิลล์ เล่นเน็ตที่ร้านกาแฟเล็กๆ เข้ากับบรรยากาศที่มองไปเห็นทุ่งนาป่าเขา กับเครื่องดื่มเย็นๆ ราคาไม่แพง แถมรสชาติดีด้วย
โดยปกติก็คงมีคณะทัศนศึกษามาอยู่เรื่อยๆ นอกจากเที่ยวชมแล้วก็คงกิจกรรมอื่นๆ เช่น กินอาหารแบบชาวไทดำ การละเล่นต่างๆ แต่งกาย เซิ้ง อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย
ขณะที่เรามาเที่ยวในวันธรรมดาช่วง Low Season ราวเดือนสิงหาคมซึ่งก็ดีไปอย่าง ดูเป็นส่วนตัวมากกว่า เหมาะกับการท่องเที่ยวคนเดียว แต่หากใครชอบความครึกครื้นมีนักท่องเที่ยวคึกคัก หน้าหนาวคงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ต้องแวะก่อนจะเดินทางไปถึงตัวเมืองเชียงคานค่ะ





























Create Date : 02 พฤศจิกายน 2566 |
|
0 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2566 10:56:12 น. |
Counter : 228 Pageviews. |
 |
|