BlogGang.com : : Alex on the rock : เที่ยวเมืองรอง ศรีสะเกษ : เมืองแห่งปราสาท(1)

เที่ยวเมืองรอง ศรีสะเกษ : เมืองแห่งปราสาท(1)

วันหยุดที่ผ่านมามีเวลาเหลือเฟือ จริงๆ ต้องเรียกว่าโคตรเหลือเลยล่ะ เพราะเราทำงานเสร็จไว วันทำงานก็เลยไม่ค่อยได้ทำงาน แต่ก็ไปทำงานนะ มาพอให้ได้ใส่ชุดทำงานออกมา 555 เข้าเรื่องดีกว่า เราก็เลือกที่จะไปเที่ยวเมืองรองหวังจะลดหย่อนภาษี จุดหมายปลายทางรอบนี้คือ ศรีสะเกษ

ทีแรกก็ดูแผนที่จากกูเกิลมาแล้ว แต่อย่างว่าแหละ เราก็อ่านแผนที่ไม่เก่ง เลยสอบถามทางจากพี่ที่ทำงานแกไปบ่อยกว่า บอกทางละเอียดมาก ไม่หลงเลย แต่เราแวะกินมื้อเที่ยงที่ไร่ออนซอน ร้อยเอ็ดก่อน

ที่นี่เป็นสนามม้าเก่า มาทำเป็นไร่ปลูกผัก ปลูกเมล่อน แต่เขาไม่ได้ให้เข้าไปดูไร่เมล่อน สภาพอากาศคือฟ้าหลัวทั้งวัน ไม่เย็นอะไรเลย แต่ลมแรง

ร้านอาหารมีหลากหลายเมนู แต่ที่นำเสนอคือผลไม้สดปั่น และไอศกรีมโฮมเมด เราคงเป็นลูกค้าคนแรกของวันนั้น สลัดผักสด น้ำสลัดรสเข้มข้น

ไม่มีที่ให้ถ่ายรูป มันดูแล้งๆ หน่อย

เดินทางต่อไปยังอำเภอสุวรรณภูมิ และราษีไศล แวะไปดูเขื่อนนิดนึง แต่ไม่รู้ที่ทำการลึกแค่ไหน เลยได้แอบส่องดูใกล้ๆ กลัวลึกจะเสียเวลา เพราะอีกยาวไกล เดี๋ยวจะค่ำ

ออกจากบ้านเก้าโมงกว่า ถึงศรีสะเกษราวเกือบบ่ายสาม ยาวนานมาก 555 จนหิวข้าวอีกรอบ จะหาขนมกิน แต่ไม่รู้จะไปร้านไหน สุดท้ายเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อจำชื่อร้านไม่ได้ อยู่แถวตลาด จัดเลย

มีแรงไปเดินห้างเล็กๆ ของท้องถิ่น ชื่อชุ่นเฮง เดินสิบนาทีทั่วห้างแล้ว ไม่รู้จะไปไหนไปไม่ถูก หลงค่ะ จะนั่งสามล้อ ก็ไม่รู้จะบอกว่าไปไหน 5555

ที่นี่มีหอนาฬิกาไม่ใหญ่มาก เห็นป้ายโฆษณาหนังที่นี่ยังเป็นแบบเขียนอยู่เลย เท่ดีแฮะ

หลงกันสนุกสนาน จนไมเกรนขึ้นเพราะไม่ใช้แผนที่หรือกูเกิล อาศัยจำชื่อถนนกับห้างร้านต่างๆ เอาเองว่าเคยผ่านมั้ย จะถามก็ไม่ถามด้วย เวียนไปเวียนมา เจอร้านขายลูกชิ้นทอด อยู่หัวมุมถนนวิจิตรนคร เห็นมีคนยืนกินหลายคน แสดงว่าอร่อย เลยจอดบ้าง หน้าโรงเรียนเทศบาล

ดีนะที่จอดแวะซื้อ ตั้งหลักได้เพราะจำชื่อถนนได้ ทำให้เจอทางออกกลับได้เสียที ไม่รู้จะไปไหนสุดท้ายก็แวะสวนสักการะ ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรม ถือโอกาสเปลี่ยนที่ออกกำลังกายซะเลย

สวนแห่งนี้โดดเด่นกว่าใครตรงที่มีหอคอยอยู่เกาะกลางน้ำ แต่ดูเหมือนจะร้างๆ ดูน่ากลัว ไม่กล้าเดินไปถึงเกาะกลางน้ำ ยิ่งไปตอนตะวันตกดินด้วยแล้ว เอาแค่สะพานก็พอ

รอบๆ บึงจะเป็นถนน บางคนก็ขี่จักรยาน (มีให้เช่าด้วย) หรือจะวิ่งก็ได้ แต่ไกลมาก เราไม่กล้าเดิน เพราะกลัวมาถึงมืดแล้ว หน้าหนาวมืดไวด้วย

ส่งท้ายด้วยภาพตะวันตกดินของเย็นวันแรกของการเดินทาง พร้อมกับอาการไมเกรนรับประทานอย่างรุนแรง จากการขับรถหลงทางนั่นเอง

เล่าเพิ่มเติมหน่อยว่า คืนนั้นเรานอนตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่ง สั่งอาหารที่โรงแรมมากินยังดีนะที่มีครัว กินข้าวกินยาเสร็จนอนเลย ปวดหัวจนแทบอ้วกแตก ตื่นมาอีกทีตีหนึ่ง เวรกรรม ตื่นมาทำไม ทำไมยาไม่ออกฤทธิ์ยาวๆ ทีนี้ลุกมากินลูกชิ้นที่ซื้อมา ดีนะที่ไม่ทิ้ง ตอนซื้อมันก็อิ่มกินไม่หมด ไม่ค่อยรู้สึกอร่อย แต่พอมากินตอนตีสองครึ่ง อร่อยมาก 555 จากนั้นก็นั่งแก้นิยาย (ดีที่เอาโน้ตบุ๊กมาด้วย) ตีสามครึ่งทดลองนอนอีกรอบ คาดว่าตีสี่ น่าจะหลับอีกรอบ

คลิกอ่านวันที่สอง

Create Date : 11 ธันวาคม 2561

Last Update : 12 ธันวาคม 2561 14:30:25 น.

8 comments

Counter : 1297 Pageviews.