BlogGang.com : : Alex on the rock : วัดมหาชัย วัดเก่าแก่คู่มหาสารคาม

วัดมหาชัย วัดเก่าแก่คู่มหาสารคาม

ด้วยความที่ที่นี่มหาสารคามไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ ไม่รู้จะไปไหนดี วันหยุดอากาศดีๆ แบบนี้ก็เลยขับรถเข้าเมืองไปซื้อของ ขากลับก็แวะเข้าวัดสักหน่อยเพราะอยู่ใกล้ๆกับร้านค้า ผ่านหลายหนแล้วเห็นบอกว่ามีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอีสานเลยขอแวะเข้าไปชมสักหน่อย

วัดนี้เงียบมาก อาจจะเป็นเพราะเรามาตอนบ่าย คนทำบุญก็เลยกลับกันหมดแล้ว มีพระอยู่ไม่กี่รูปที่เราเห็น กวาดลานบ้าง อยู่กุฏิบ้าง นอกนั้นก็เป็นเด็กวัด ซึ่งมองเราแปลกๆ ไม่ยิ้ม ไม่ทักทาย

วัดนี้ชื่อวัดมหาชัยอยู่ใจกลางเมือง ท่ามกลางชุมชนเก่าแก่ และสงบเงียบในถนนสายเล็กๆ

วัดมหาชัย เดิมชาวบ้านเรียกว่าวัดเหนือ สร้างตั้งแต่ปี 2408 และได้รับการยกให้เป็นพระอารามหลวง มีการเก็บรวบรวมภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้ที่นี่และได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์

แต่...วันนี้พิพิธภัณฑ์ปิด (และไม่รู้ว่าเขาเปิดวันไหน เพราะไม่มีป้ายแจ้งให้ทราบ)

รอบๆ พิพิธภัณฑ์ มีใบเสมาที่เป็นศิลาแลงเก่าๆ คิดว่าคงเป็นร้อยๆปี แต่เสียดาย เขาบูรณะแบบจับเข้ากับวัสดุสมัยใหม่ มันเลยกลายเป็นใบเสมาที่ตั้งอยู่บนแท่นปูนซีเมนต์ ดูขัดๆตา คุณค่าหรือความน่าสนใจก็เลยลดลงไปด้วย

ดูจากบริบทภายในวัด เดาว่าน่าจะเป็นวัดที่ตระกูลเก่าของมหาสารคามเป็นผู้สร้าง และมีอนุสาวรีย์ของต้นตระกูลต่างๆ ที่เป็นตระกูลเก่าของที่นี่ด้วย เช่น อัตถากร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ธนสีลังกูร(นามสกุลเหมือนเพื่อนเราเลย แต่กลับเป็นคนใต้ซะนี่) และสุวรรณเลิศ

ที่นี่ไม่ได้เน้นสถาปัตยกรรมที่ปราณีตหรือวิจิตรนัก การตกแต่งส่วนใหญ่เป็นปูนปั้น ไม่ใช่กระจกหรือวัสดุไม้แกะสลักแต่อย่างใด อย่างยักษ์ของที่นี่ก็ปั้นง่ายๆ ไม่เหมือนยักษ์วัดโพธิ์หรือวัดพระแก้ว จึงดูเป็นยักษ์ใจดีกว่า หรือแม้แต่สิงโตหน้าโบสถ์(หรือสิม) ก็ตาม หน้าตาไม่ดุร้ายเลย

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์คัมภีร์ใบลานด้วย แต่ก็ปิดเช่นกัน สรุปว่าได้เห็นแต่ภายนอก

เดินไปทั่วๆ วัดก็พบกับกุฏิพระ เดาว่าน่าจะเป็นเจ้าอาวาส เพราะไม่ได้มีป้ายบอก มีแต่บอกว่า "หลวงอ้วน" กุฏิน่าอยู่มาก เพราะเป็นไม้ทั้งหลัง ดูจะเย็นสบายในหน้าร้อน แต่อาจจะหนาวสักหน่อยในหน้าหนาว

แต่รอบๆ มีต้นไม้ร่มรื่นดีจัง

ติดกันก็เป็นกุฏิไม้เช่นกัน

เท่าที่เดินดูรอบๆ ยังไม่เห็นเมรุ จึงสันนิษฐานว่าที่นี่คงไม่รับฌาปนกิจ อันนี้เดาจริงๆ

ส่วนที่น่าจะเป็นสัญลักษณ์ของวัดมหาชัยอีกอย่างหนึ่งก็คือผนังของหอปริยัติศึกษาที่เป็นรูปประติมากรรมนูนต่ำพระพักต์ของพระพุทธรูปขนาดใหญ่นี้แหละ ที่เข้ามาแล้วเห็นเด่นเป็นสง่าที่สุด

การมาเที่ยวชมวัดเก่าแก่คู่จังหวัดครั้งนี้ ไม่มีโอกาสเข้าไปกราบพระหรือเที่ยวชมภายในแต่อย่างใด เพราะไม่มีที่ใดเปิดสักแห่ง น่าเสียดาย แต่ก็รู้สึกดีค่ะเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ไม่เคยเที่ยวชมวัดไหนจริงจังสักแห่งเดียว

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 16:23:26 น.

3 comments

Counter : 4225 Pageviews.

ขอให้วัดรอดปลอดภัยจากน้องน้ำนะคะ

โดย: พรานอักษร

วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:14:50 น.

โดย: Kavanich96

วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:4:20:56 น.

ต้องขอเข้าชมกับเจ้าหน้าที่ครับ

โดย: Nong IP: 182.232.185.100 วันที่: 20 พฤษภาคม 2561 เวลา:17:27:50 น.