I AM SOMEONE
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
10 สิงหาคม 2550

แอ่วเมืองแป้ ประตูสู่ล้านนา (ตื่นตาธรรมชาติ)

หลังจากที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังวนอุทยานแพะเมืองผีค่ะ



ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณสิบกว่าโล ใช้เวลาไม่นานก็ถึง ช่วงนี้เค้าว่านักท่องเที่ยวจะน้อย เพราะหน้าฝนแต่ถ้าเข้าหน้าหนาว จะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า มากางเต๊นท์นอน เข้าค่ายกันเยอะ ร้านค้าแถวนี้ก็พลอยขายได้ไปด้วย

เคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่เรียนสังคมศึกษาแล้วว่า แพะเมืองผีเป็นสถานที่ที่เกิดจากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของไทย เมื่อก่อนเราคิดว่าแพะเมืองผี เป็นที่อยู่ของแพะ หรืออะไรที่เกี่ยวกับแพะแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ไม่ใช่ค่ะ คนละเรื่องเลย มีตำนานลี้ลับว่ามียายแก่เข้าไปเที่ยวในป่าหาผักหน่อไม้มาเป็นอาหาร ได้หลงไปในที่แห่งนี้แล้วพบหลุมเงินหลุมทองจึงเอาเงินเอาทองใส่หาบจนเต็มแล้วยกใส่บ่าเพื่อจะหาบกลับบ้านแต่ก็หลงไปหลงมาในป่าแห่งนั้น เพราะเทวดาเจ้าถิ่นนั้นไม่ให้เอาไป เพียงแต่เอามาอวดให้เห็น ยายผู้นั้นจึงหาหนทางเอาหาบนั้นกลับบ้านไม่ได้ จึงได้วางหาบนั้นไว้แล้วจัดแจงตัดไม้มาคาดทำเป็นราว แต่ก็ยังไม่สามารถนำหาบเงินหาบทองนั้นออกมาได้สักที ยิ่งยกเท้าไปข้างหน้าก็ยิ่งเหมือนยกถอยหลังไปอีกเหมือนหนึ่งว่ามีคนดึงหาบนั้นไว้ ยายแก่จึงวางหาบไว้ที่นั่นแล้วรีบไปบอกชาวบ้านให้มาดูหาบเงินหาบทองนั้น พอชาวบ้านหลั่งไหลไปเป็นจำนวนมาก ครั้นเมื่อไปถึงเงินทองนั้นกลับหายไปตามป่านั้น เมื่อพบรอยเท้าจึงสะกดจามรอยเท้าไปจนถึงเสาเมโร และไม่มีรอยปรากฏไปทางอื่นเลย ยายแก่กับชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า “แพะเมืองผี”
แพะ หมายถึง ป่าละเมาะ
เมืองผี หมายถึง ความเงียบเหงาเหมือนเมืองผี
เสาเมโร หมายถึง เสารูปเหมือนปราสาทศพผู้ตายทางภาคเหนือ



เอ๊ะ เราจะทะลึ่งไปมั้ย ถ้าเราคิดไรกับเสาหินอันเล็กนั่น

มองจากจุดนี้ยอมรับว่าเสียวค่ะ กลัวความสูงก็กลัว (ทั้งที่ไม่สูงมาก) แต่ที่เสียวกว่านั้น คือกลัวมันถล่มค่ะ เพราะด้วยความที่คิดว่ามันเป็นทราย (เหมือนทรายก่อสร้างอัดแน่นๆ) ยืนนานๆมันต้องทรุดแน่ๆ





ตอนแรกเราคิดว่าเล็กจิ๊ดเดียว แต่พอเดินลงไป (ซึ่งเค้าห้ามลงไปตอนฝนตกแต่ตอนนี้แดดเปรี้ยงค่ะ) กว้างพอสมควร และความเข้าใจผิดของเราก็ถูกแปรเปลี่ยนไป เมื่อเอามือไปลูบเสาหิน มันแข็งเป๊กเลยค่ะ เราคิดว่ามันจะเป็นทรายร่วนๆด้วยซ้ำ ที่แท้มันเป็นดินที่กลายเป็นหินไปแล้ว ก็มันมีอายุนานกว่าสิบห้าล้านปีแล้วนี่คะ






ได้ยินนักท่องเที่ยวคนอื่นที่มาเยือน เค้าสั่งสอนหลานเค้าว่าอย่าไปจับ เก็บไว้ให้คนอื่นดูบ้าง มันอยู่มาเป็นล้านปี อย่าไปทำลายมัน ฟังแล้วรู้สึกดีจังค่ะ ที่เห็นการสั่งสอนไม่ใช่ห้ามปรามแบบไม่มีเหตุผล แล้วหลานแกก็เชื่อฟังเสียด้วยนะคะ



ดูไกลๆ เราคิดว่าหินเป็นสีส้มแต่จริงๆแล้ว ถ้าดูใกล้ๆ จะพบว่ามันมีเนื้อสีชมพูปนอยู่ด้วยค่ะ เราว่าอีกสักสิบยี่สิบปี ที่นี่น่าจะเปลี่ยนไป หากภาวะอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงเร็วเช่นนี้




งั้นอีกสิบปี ถ้ายังไม่ตาย เรามาดูกันใหม่ ดีมั้ยคะ

ปิดท้ายด้วยต้นดิกเดียมค่ะ เราเคยดูในทีวี รู้สึกว่ามหัศจรรย์เหมือนกัน เลยมาพิสูจน์ให้เห็นกับตาซะหน่อย แต่ให้ตายเหอะค่ะ...กว่าจะสังเกตได้ว่ามันดิกเดียม (หรือแปลว่าจั๊กกะจี้) ก็เล่นเอาเหงื่อตก แยกไม่ออกว่าลมพัดหรือว่ามันไหวจริงๆหว่า???






Create Date : 10 สิงหาคม 2550
Last Update : 10 สิงหาคม 2550 23:06:21 น. 2 comments
Counter : 1891 Pageviews.  

 
เพิ่งจะเคยเห็นภาพแพะเมืองผีเยอะๆ ก็ที่นี่แหละ แต่ดูแห้งแล้งจังเลยเน๊อะพี่เล็ก

แล้วไอ้เสาหินแท่นนั้นน่ะ...ก็เหมือนอยู่นะแต่มันสั้นไปนิด555+++


โดย: kao IP: 125.24.35.138 วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:0:30:22 น.  

 
ตามมาแพะเมืองผีต่อ

ยังไม่เคยเที่ยวแพร่นิ


โดย: jetmom3425 วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:17:25:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]