Power of Flowers ปฎิวัติแสนหวาน-ขบวนการนิวเอจ

---วันนี้เรามาฟังเพลงแนว ชิลๆ นิวเอจ อโรม่า สปา บอสซ่า ดาวน์เทมโป้ กัน
ซึ่งเพลงนิวเอจก็เกิดมาคู่ขบวนการนิวเอจ เช่น แวนเจลิส คิตาโร่ ฮิเมคามิ และโอซามุ คิทาจิม่า

----นอกจาnเขียนบล็อกแล้ว ผมยังหาเพลงจากต่างประเทศ มาปล่อยให้คนฟังที่บอร์ดปาล์ม-พลาซ่าด้วยครับ วันนี้จึงเอามาให้ฟังกัน ส่วนใหญ่ ก้ คิตาโร่เป้นหลัก ลิ้งค์ๆ เอาไปโหลดได้เลยนะครับ


------------------------
---I have many albums
1.--Bhudda Lounge3
2. Govinda --Worlds Within-2004
3. Ito Rayo--Green Dara Mantra
4. Rick Wakeman--Classic Rick (Ex-Keyboard of Yes)
5. Unkwon-Yesterday Once More
4. Ruchmaniof
5. Bharms Piano Concerto.
-----------------------------------------------------------------------
[b]Kitaro Romantic Ballads

//www.upload-thai.com/download.php?id=ae6daab982b75b232325bfc74d336471

//www.upload-thai.com/download.php?id=879372dcebed05aaee9b2f28f0ace0e5

---Kitaro Best

//www.4shared.com/file/vY5WudK0/Kitaro_-_Best_of_Kitaro_-_Full.htm

---------------------------------------------------------------------------
Kitaro meets london Symphony Orchestra

//www.upload-thai.com/download.php?id=be109c2eb55cd5e8b519cc6b88895994

//www.upload-thai.com/download.php?id=2a74da19685448d9fd91a569684190fb

----------------------------------------------------------------------------
-ผมเองก็ไม่นึกว่าจะได้มีโอกาสโพสเพลงของคิตาโร่ ในช่วงนี้หรอกครับ บังเอิญมีของเข้ามา เป็นพวกเพลงคลาสสิกก็เยอะ เอฤวี่เมทัล ซิมโฟนิคเมทัล
จนถึงนิวเอจแท้ๆ อย่าง คารุเนช ใจหนึ่งก็เป็นห่วงคนฟัง กลัวรับไม่ได้ทั้งสองแนว
คือคลาสสิกกับนิวเอจ จึงคิดว่า หาเพลงที่ฟังสบายๆ อย่างนิวเอจ-แนวสปา หรือคิตาโร่ ซึ่งคิตาโร่เป็นเจ้าพ่อของดนตรีนิวเอจอยู่แล้ว ในช่วงประมาณสิบกว่าปีมานี้ มีผู้สนใจ ทั้งการทานอาหารเจ นั่งสมาธิ ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว รักษาโรคด้วยสมุนไพร -พลังจิต-พลังอัญญมณี ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก แม้แต่ในอเมริกา ก็มีวิทยาลัยแพทย์ทางเลือก รวมๆแล้วเรียกว่าขบวนการ นิวเอจ--แต่นิวเอจ ไม่ใช่ระเบียบโลกใหม่นะครับ ขบวนการระเบียบโลกใหม่ต้องการให้โลกนี้มีรัฐบาลเดียวเท่านั้น
----สำหรับคิตาโร่ เป็นลูกชาวนา อยู่แถวๆ เชิงเขาฟูจิ แรกๆเขาเล่นกีต้าร์เป็นหลัก พอดีได้พบกับนักดนตรีชาวเยอรมัน ที่สอนให้รู้จักใช้ซินธีไซเซอร์ แล้วเขาก็นำมันมาใช้เรื่อยมา เขาเองชอบไปร่วมแจมการตีกลองพื้นบ้านกับชาวบ้านแถวๆนั้น จึงมีหลายๆเพลงที่โชว์การตีกลอง การสวดมนต์ อยู่ด้วย เป็นคนที่ไม่เปลี่ยนแนว จนโลกก็ต้องฟังดนตรีของเขาในที่สุด เราจะได้เจอเพลงของเขาในรายการทีวีเกี่ยวกับศาสตนา สมาธิ แต่ในญี่ปุ่นมักเปิดในงานปาร์ตี้ งานรื่นเริง
---ในระยะหลังทางบริษัทแผ่นเสียงก็ได้จัดหานักดนตรีให้ เช่นมือกีต้าร์ เบส จะเป็นพวกฝรั่ง และมืออเร้นจ์เพลง ก็ต้องมีพื้นฐานการอเร้นจ์เพลงแนวออร์เครสต้าร์ เนื่องจากเพลงของคิตาโร่จะเป็นแนวนั้น แต่มีการใช้เครื่องดนตรีให้น้อยที่สุด คือแบบ มินิมอลลิสต์ นั่นเอง
-----ในกระทู้นี้ ผมอาจจะนำศิลปินอื่นๆมาให้สัมผัสกัน ซึ่งของบางคน จะคล้ายกับคิตาโร่มาก เพราะอาจจะเป็นคนต้นแบบกัน คนญี่ปุ่นที่เล่นออกแนวนนี้ก็มี วงฮิเมคามิ และโอซามุ โอซามุจะออกแนวแจ๊ซ ฟังกี้นิดๆด้วยซ้ำไป แต่มีกลิ่นไอเพลงชาวบ้าน(พื้นบ้าน)ญี่ปุ่นอยู่อย่างแน่นอน

---ผมเองเคยเข้าดูคอนเสริตของเค้าที่สวนหลวง ร.9 ตอนนั้นก็อยู่เชียงราย ขอเงินแม่นั่งรถมา เพื่อจะดูคิตาโร่ พอ10โมง ผมก็เดินทางถึงที่ ก็เดินดูการจัดเครื่องเสียง การติดตั้งกระจกของเลเซอร์ไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเมืองไทยยังแทบไม่มีการยิงเลเซอร์ พอถึงเวลาเขาก็เอาเชือกกั้น ไม่ให้พวกเราเข้าใกล้ลำโพงยักษ์มากไป กลัวหูจะพัง แต่ในที่สุดก็ยอม เสียงสาวประกาศประมาณ 100กว่าครั้งห้ามใช้แฟลชโดยเด็ดขาด เพราะมีหลายครั้งที่แฟลชเข้าตาแล้วคิตาโร่หยุดเลjนเอาดื้อๆ เพราะไม่มีอารมณ์จะเล่น อย่างกับตอนตีกลองใหญ่ เขาจะเล่นตามอารมร์เพลงขณะนั้น จะนาน-ไม่นานก็แล้วแต่อารมณ์ กลางๆ จะมีนักร้องวงเยส คือ แลน แอนเดอร์สันมาร้องด้วย เพราะมาจากอัลบั้ม "ดรีม" ที่ทำร่วมกัน ผมชอบตอนโชว์โซโล่ของแต่ละคน มือเบสป็นฝรั่ง เล่นเบสพิเศษ 6 สาย ไม่มีเฟรต(เล่นยากแน่ๆ)
-----มีลีดกีต้าร์ ฝรง เซียนอะครับ มือไวโอลินไฟฟ้า มี 2 คน คนนึงมิโดริ ซึ่งเป็นระดับเซียน ออกแผ่นมาแล้ว อีกคนเป็นสาวเช่นกันจำชื่อไม่ได้ แต่ก็เก่ง ทุกคนจะเรียกตัวเองว่า เป็นนักบุญของคิตาโร่ ราวกับว่า คิตาโร่เป็นศาสดาอย่างนั้นแหละ
--คอนเสริตจบลง แต่คนดูยังไม่รู้จะไปทางไหน ก็เลยวิ่งตามรถบัสของวงไป บางคนก็เอาแผ่นเสียงมาให้พวกเขาเซ็น ซึ่งก็ได้ทั้งวงเลย เพราะรถมันติดคน
ที่ถนนแม้แต่รถเมล์ก็ติด นั่งรถสักพัก ก็นั่งรถเมล์ย้อนกลับมา เพราะมันไม่ไปไหน----ทราบทีหลังว่า บริษัทของญี่ปุ่นในไทยลงขันกันประมาณ 250 บริษัท เพื่อจัดคอนเสริตนี้ อืม ปล่อยควันสโม้ค แล้วยิงแสงให้มันสแกนไป ก็จะเห็นเป็นลายๆ คล้ายเมฆ ยิ่งยิงออกมาเป็นกระบอกแสงกลมๆ ก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เมืองไทยยังไม่มีในยุคนั้น ผมเองใช้ซาวอะเบ้าท์อัดไว้ฟังด้วย สรุปแล้วอิ่มอกอิ่มใจมากครับ

----เล่าต่อ----ในตอนนั้น ซึ่งเพลงหลังๆ เหมือนเพลงมาร์ช พวกอวกาศ คอสมิกเลิฟ(และซองฟอร์พีซ) แล้วก็มีการหยุดเล่น รอให้ร้องเรียกอังกอร์ แล้วก็กลับมาเล่นใหม่ มือไวโอลินสาวน่ารักมาก มิโดริรู้สึกจะส่งสายตาให้เจ้าหนุ่มมือกีต้าร์อยู่ตลอดเวลา ตอนจบยังมายืนโอบกันหน้าเวทีเห้นๆ
-----เมื่อเพลงจบแล้ว ความรู้สึกของคนฟังยังไม่จบ มีเสียงตะโกนเรียกชื่อคิตาโร่กันเซ็งแซ่ จากคนที่ไม่เคยฟัง หรือเพิ่งเคยฟัง ความรู้สึกของคนฟังตอนนั้นเหมือนวิญญาณดนตรีถูกปลุกให้ตื่น ดังว่าสวรรค์บันดาลให้เขาและวงนี้มาเผยแผ่ความงามอันสูงสุดในรูปแบบของดนตรีให้พวกเราฟัง ทุกคนก็ได้แต่เดินตามรถบัสของพวกเขาเมือนต้องมนต์สะกด

-------คอนเสริตหลังจากนั้นก็ได้ฟังทางวิทยุ เขาได้พูดถึงเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งเลียนเสียงเครื่องดนตรีธรรมชาติได้ทุกชนิด เข้าใจว่าจะเป็นแซมเปลอร์ คือนำเสียงจริงมาดัดแปลง หน้าตาก็เหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เห็นของยามาฮ่าตอนนั้นราคาห้าหมื่น มีที่เป่าเพื่อใช้พลังควบ
ขอบคุณครับ คอนเสริตหลังจากนั้นก็ได้ฟังทางวิทยุ เขาได้พูดถึงเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งเลียนเสียงเครื่องดนตรีธรรมชาติได้ทุกชนิด เข้าใจว่าจะเป็นแซมเปลอร์ คือนำเสียงจริงมาดัดแปลง หน้าตาก็เหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เห็นของยามาฮ่าตอนนั้นราคาห้าหมื่น มีที่เป่าเพื่อใช้พลังควบคุมมันด้วย มีคนถามว่าตีกลองสนุกไหม เขาก็ให้ขึ้นเวทีมาตีเองเลย เป็นกันเองดีครับ (คนเยอรมันที่สอนซินธ์ให้เขา ก็เล่นแนวนิวเอจเช่นกัน)
--------อยู่บ้านนอกก็รู้จักงานของเขาด้วยตัวเอง เห็นปกเทปรูปภูเขาไฟฟูจี ----ฟรอม เดอะ ฟูล มูน สตอรี่ เข้าใจว่าประกอบหนังนะครับ เพลงก็ลึกลับดีเกี่ยวกับการฟื้นจากตาย ก็มีชุดนี้ที่ประทับใจที่สุด หลังๆก็เจอ มิเลเนี่ยมควีน อะไรพวกนี้ ซึ่งพวกเพื่อนที่เป็นนักวาดรูปชอบให้เอาไปเปิดให้ฟังตอนทำงานเพลินๆ --
---------ตอนที่ได้พบลูกศิษย์ที่ไปเรียนราม ก็ไปหาซื้อเทปหน้าราม เจอชุดรวมฮิตของเขา เอาไปเปิดฟังที่หอกัน บางคนบอกว่า "อาจารย์ครับ ผมฟังแล้วอยากร้องไห้ น้ำตามันพาลจะไหล--นี่แค่ดนตรีบรรเลงนะ--เพลงที่ชอบที่สุดก็ Astral Trip หรือเทียนไก--เพลงเดียวกับชื่อชุด มีเสียงกลองนำ เสียงซินธ์เศร้าๆ ถ้าไปเปิดงานศพละก็ ร้องไห้กันน้ำตาท่วมงานแน่
-----------ผลงานของเขาก็มี แต่งดนตรีประกอบสารคดี หนัง งานเอ็กซ์โป เพลงที่ชื่อ มัทซูริ มักนำมาทดสอบเครื่องเสียงกัน เพราะเขาหวดกลองใหญ่ได้สะใจ เมืองไทยก็มีกลองสะบัดชัย กลองปู่จา หรือกลองยักษ์ ที่มีตามวัดทางเหนือ ดูการเล่นแล้วก็น่าสนุกมากครับ(ฝรั่งบางคนบอกว่าฟังบ่อยๆแล้วเฝือๆ เลี่ยนๆ ก็นานๆฟังทีซิครับ จะได้ไม่เลี่ยน บางคนสะสมทุกชุด เป็นกล่องมาเลย)
------เคยได้ฟังเพลงพ่อจ๋าอย่าร้องไห้ บรรเลงโดยติดตาโร่ไหมครับ เพราะและดูยิ่งใหณ่ดี อยู่ในชุดเอเชีย แต่มักโดนตัดออกไป (ถ้าเป็นเทปจะมี สังกัดโพลีดอร์นะ)


-----------------------------------------------------------------------
คิทาโร [/b]
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อจริง มะซะโนริ ทะคะฮะชิ
(高橋正則
วันเกิด 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953
แหล่งกำเนิด ประเทศญี่ปุ่น
แนวเพลง นิวเอจ (New Age)
อาชีพ นักแต่งเพลง,นักดนตรี
เครื่องดนตรี กีตาร์, ซินทีไซเซอร์, taiko drum, flute,เบส,คีย์บอร์ด
ปี ค.ศ. 1953 - ปัจจุบัน
ส่วนเกี่ยวข้อง Far East Family Band
เว็บไซต์ kitaromusic.com

คิทาโร (喜多郎 เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 มีชื่อจริงว่า มะซะโนริ ทะคะฮะชิ (高橋正則 ในเมืองโทะโยะฮะชิ จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ในครอบครัวชาวนาที่เลื่อมใสในลัทธิชินโต

คิทาโรเป็นนักดนตรีและนักประพันธ์ดนตรีแบบนิวเอจ ที่ใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (ซินทีไซเซอร์) ในการสร้างผลงาน สำหรับนามแฝง "คิทาโร" (Kitaro) นั้นเพื่อนๆ ตั้งให้ในภายหลัง ตามตัวละครตัวหนึ่งในภาพยนตร์การ์ตูนคิทาโรทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่น

คิทาโรเป็นนักดนตรีที่เรียนดนตรีด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าไม่สามารถอ่านโน้ตได้ เขาสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง เช่น กีตาร์, ซินธีไซเซอร์, กลอง taiko, ฟลุต เป็นต้น

<แก้> ประวัติ
สมัยเรียนระดับมัธยมศึกษา คิทาโรชอบดนตรีโซล (Soul) กับริทึมแอนด์บลูส์ (Rhythm & Blues) เขาได้เรียนกีตาร์ไฟฟ้า และเล่นอยู่กับวง"อัลบาทรอส" (Albatross) ในงานปาร์ตี้ และตามคลับต่างๆ ผู้ที่มีอิทธิพลต่อเขามากที่สุดในเวลานั้นก็คือ โอทิส เรดดิง (Otis Redding) เขาบอกว่า :"ริมทึมแอนด์บลูส์นั้น มีความอ่อนโยน มีความลึกซึ้ง ให้อารมณ์อย่างที่บอกไม่รู้ ผู้ฟังรู้สึกเหมือนกับอารมณ์อย่างเดียวกันจาก ดนตรีของผม ดนตรีของผมไม่ใช่ริทึมแอนด์บลูส์ แต่มันให้ความรู้สึกคล้ายโซล"

ในต้นยุค 70 เขาหันมาเล่นคีย์บอร์ด โดยอยู่ในวงที่ชื่อ "Far East Family Band" ที่ทำเพลงในแนวโพรเกรสซีฟ ร็อก (Progressive Rock) ได้ออกอัลบั้ม 2 อัลบั้ม และก็ได้ทัวร์รอบโลกกับวงนี้ ในขณะที่เขาทัวร์ในยุโรปเขาได้พบกับ Klaus Schulze มือซินธิไซเซอร์ชาวเยอรมัน และได้มีโอกาสทำอัลบั้ม ซินธิไซเซอร์ และทดลองเสียงใหม่ๆ อัลบั้มแรกของเขาออกได้ปี 1978 ชื่ออัลบั้ม "Astral Voyage"

2 ปีต่อมาเขาได้มีโอกาสทำเพลงประกอบสารคดีทางญี่ปุ่นที่ออกอากาศทางช่อง NHK ชื่อ Silk Road อัลบั้มชุดนี้ทำให้เขาได้รู้จักในวงกว้างรวมถึงระดับนานาชาติ

ในปี 1986 เขาได้ออกผลงาน International โดยเซ็นสัญญากับ บ. Geffen ในอเมริกา เขายังได้ร่วมงานกับศิลปินอย่าง Micky Hart (วง Grateful Dead) และ Jon Anderson (วง Yes) อัลบั้มแรกของเขาคือ "Tenku" ก็สร้างความประทับใจไปทั่วโลกอีกครั้ง หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคิตาโร่จากงานเพลงประกอบภาพยนตร์หลายเรื่อง และที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้นไตรภาค Heaven and Earth อันยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ

อัลบั้มของเขาขายได้มากกว่า 10 ล้านแผ่นทั่วโลก และยังถูกเสนอเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ถึง 2 ครั้ง จนปี 2000 เขาก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขา Best New-age Album จากอัลบั้ม Thinking Of You

<แก้> ผลงาน
ค.ศ. 1975 Asia
ค.ศ. 1978 In Person
ค.ศ. 1978 Astral Voyage
ค.ศ. 1978 Millennia
ค.ศ. 1978 Ten Kai Astral Trip
ค.ศ. 1979 Full Moon Story
ค.ศ. 1979 Ki
ค.ศ. 1979 Oasis
ค.ศ. 1979 From the Full Moon Story
ค.ศ. 1980 Silk Road Suite
ค.ศ. 1980 Tun Huang (Silk Road 3)
ค.ศ. 1980 Meets the London Symphony Orchestra
ค.ศ. 1980 In Person/Live K
ค.ศ. 1980 Silk Road Suite, Vol. 1
ค.ศ. 1980 Tun Huang (Silk Road 3)
ค.ศ. 1981 Silk Road, Vol. 1
ค.ศ. 1981 Silk Road, Vol. 2
ค.ศ. 1982 Queen of Millennia
ค.ศ. 1983 India
ค.ศ. 1983 Tenjiku (Silk Road, Vol. 4)
ค.ศ. 1986 Tenku
ค.ศ. 1986 Silver Cloud ค.ศ. 1986 Toward the West
ค.ศ. 1987 Silk Road Suite, Vol. 2
ค.ศ. 1987 The Light of the Spirit
ค.ศ. 1990 Kojiki
ค.ศ. 1991 Far East Family Band
ค.ศ. 1991 Kitaro Live in America
ค.ศ. 1992 Dream
ค.ศ. 1994 Mandala
ค.ศ. 1995 An Enchanted Evening
ค.ศ. 1996 Peace on Earth
ค.ศ. 1996 Kitaro's World of Music Featuring Yu-Xiao
ค.ศ. 1997 Cirque Ingenieux
ค.ศ. 1997 Heaven & Earth
ค.ศ. 1998 Gaia
ค.ศ. 1999 Thinking of You
ค.ศ. 2001 Ancient
ค.ศ. 2002 An Ancient Journey
ค.ศ. 2002 Mizuniinorite
ค.ศ. 2002 The Soong Sisters
ค.ศ. 2002 Daylight, Moonlight -Live in Yakushiji
ค.ศ. 2003 Sacred Journey of Ku-Kai

<แก้> แหล่งข้อมูลอื่น
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
Kitaro Store
Kitaro YouTube
ดึงข้อมูลจาก "//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3";.
หมวดหมู่: บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2496 | นักดนตรีชาวญี่ปุ่น | ผู้ที่ได้รับรางวัลแกรมมี
GAIA ONBASHIRA

KITARO - YAMADASHI
KITARO - PLAYER
KITARO - MISTY
KITARO - GAIA
KITARO - WOOD FAIRY
KITARO - SATOBIKI

TENKU

KITARO - TENKU
KITARO - ROMANCE
KITARO - WINGS
KITARO - AURA
KITARO - MESSAGE FROM THE COSMOS
KITARO - TIME TRAVELLER
KITARO - LEGEND OF THE ROAD
KITARO - MILKY WAY


--------------------------------------------------------------------------------

WORLD OF MUSIC


KITARO - TIME TRAVELLER
KITARO - LEGEND OF THE ROAD
KITARO - MILKY WAY
KITARO - 40800
KITARO - CARAVANSARY
KITARO - TAKLAMAKAN DESERT
KITARO - MANDALA
KITARO - FLYING CELESTIAL NYMPHS
KITARO - SILK ROAD
KITARO - PEACE
KITARO - LINDEN
KITARO - EVERLASTING ROAD

//www.up2pic.com/images/xk0at48atnbbezzxfh3.jpg

//www.up2pic.com/images/hrbxcjkgs16mlnn09.jpg

//www.up2pic.com/images/pfepkp6v15vg9wckmn36.jpg

----รายชื่อเพลง มีเพลงเก่าๆมาแทรกด้วย แต่ตงเล่นไปอีกแนวนึงในยูทิ้วบ์ก็มีสาวฝรั่งมาเล่นไวโอลิน แกจะเล่นประสานมั่งรับมั่ง แต่ในโทนเสียงต่ำ บางทีก็มาเล่นคีย์บอร์ด เก่งและสวย เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ นักคนตรีหญิงให้ความรู้สึก และเข้าถึงบทเพลงได้ลึกซี้งกว่า อันนี้ความเห็นส่วนตัว เอลตั้นจอห์นยังเป็นเกย์เลย และได้ยศ เป็นท่านเซอร์ เป็นอัจฉริยะทางการแต่งเพลงด้วย
เมื่อคืนเข้ายูทิ้วบ์ เจอคำว่า แฟลช ม็อบ นึกว่าชื่อวง ที่แท้คือคนที่มารวมตัวกันและสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว เช่นมาเต้นรำตามสถานีรถไฟ หรือสนามบิน (ไม่กี่ยวกับการเมืองใดๆครับ) พอดีตะกี้ดูทีวีไทย ก้เอามาให้ดูอีก บางกลุ่มก็แต่งตัวเป็นสตารวอร์นั่งรถไฟใต้ดิน สร้างรอยยิ้มกันเป้นแถวๆ สนุกมากจริงๆครับ

วันนี้ลดอาหาร กินนิดหน่อย ตอนเย็นกินโจ๊ก เหมือนว่าแคลอรี่ไม่ค่อยพอกับอากาศที่หนาวจับจิต 12 องศา เอามะเขือเทศมาจิ้มเกลือกิน อย่างน้อยคงลดน้ำตาลในเลือดมั่งกระมัง ที่จริงต้องกินมะระขี้นกครับ ลดแน่ๆ ถ้าออกกำลังหนัก เบาหวานก็จะไม่มาอีกเลย ซึ่งขัดกับหลักของแพทย์สมัยใหม่ เบาหวานไม่ใช่โรคที่รักษาหายขาด แต่แผนไทยบอกว่าหายขาดได้ ผมเองก็เคยหายขาดไปพักนึง แล้วกลับมาอีก ทุกวันนี้ก้กินยาตลอด ยังดีที่มียาของไทยราคาถูก อายุเกิน 40 มักจะเป็นทุกคน เพราะคนไทยนิยมกินขนมของฝรั่ง เค้ก ช็อกโกแลต อะไรแบบนี้ นานๆกินทีคงไม่เท่าไหร่กระมัง อย่าหาว่านอกเรื่องเลย เป็นเอกลักษณ์ของผมไปซะแล้ว ยังไงก้คุยกันบ้าง อย่าโหลดอย่างเดียว จะขาดอันตรกิริยา ปฏิสัมพันธ์ เป็นอันมากครับ อิอิ

//www.upload-thai.com/download.php?id=dac65ca1be2e7621a638f556ff73dc25

//www.upload-thai.com/download.php?id=1de234337513437f92bc2bc371a2e77b





Create Date : 02 มกราคม 2554
Last Update : 2 มกราคม 2554 23:01:05 น. 0 comments
Counter : 2292 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.