คนจนยังมีน้ำใจ-รายได้เป็นแสน-ไม่ได้รักชาติ -และข่าวกินในที่ลับ

------ขอโทษเถอะ ผมขอเงินท่านประธาน กับสส.ท่านละ 100บาท มาช่วยคนน้ำท่วมยังไม่ให้เลยสักบาท แถมยีงมาพูดแทน สส.ชั่วๆ กระแนะกระแหนว่าเงินไม่พอใช้ (เออแล้วคนไทย เงินเดือนไม่มี มันน่าตายให้หมดประเทศ สมน้ำหน้าจัง) แล้วอ้ายหน้ามาตัวไหนที่เที่ยวกราบกรานในคืนหมาหอนยขอเป็น สส. กันล่ะ ถ้าไม่ใช่หน้าสุนัข ใจสัตว์ ต่ำข้าสาธาร์ณพวกนี้ อ่านข่าวเอาเองครับ ประชาชนก็แค่ตัวหมากตัวเบี้ย เป็นผักปลาให้เขาคร่าชีวิตสังเวยความกระหายอำนาจ

ข่าวที่สอง การปัดสวะในกระทรวงแสนยุติธรรม
ข่าวที่สาม แสดงถึงพรรค ปชป. หาหลักฐานสู้คดียุบพรรคไม่ได้ จึงให้พวกลิ่วล้อ ออกทำงาน ทำลายความน่าเชื่อถือของสาน ทั้งๆที่ปีก่อนนี้ยังใช้สานแห่งนี้-รัดทำมะนูน-- เป็นเครื่องมือกำจัดศัครูทางการเมืองไปหยกๆ งง เป็นที่สุด งง กันมะท่าน
--------------------------------------------------------------------

ด่วน!!!!มีคำสั่งจากเบื้องบน
----ให้จรูล จรัล ชัช ถอนจากองค์ประชุม สาเหตุจากคลิปมหาภัย ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม จึงเป็นเหตุให้เลื่อนยุบพรรคปชปออกไปอีก และอาจเป็นเหตุให้นะจ๊ะออกมาทำงาน

อันนี้ทราบข่าวมาจากคุณmaver จาก cbox นปชusa มาอีกที
ไหง.. เมืองนอกรู้ข่าวเร็วกว่าเมืองไทยจัง ชัวร์หรือมั่วนิ่มก็คอยดูกันต่อไปครับ!!!
---------------------------------------------------------------------
เห็นทั่นเด็ก น า ย- ก นั่งเก็บมาม่าใส่ถุง-- งานที่เด็กอนุบาลก็ทำได้ ไร้ปัญญาที่จะทำและจะพูดอะไร ยิ้มอย่างโง่ๆ กับกล้อง เคยอ่านในเรื่องจีนโบราณว่า พืชผลเสียหาย ให้ลด หรืองดภาษี เพื่อช่วยประชาชน (เราเก็บเท่าเดิม กลัว สส.ไม่มี-จาแดรกค้าบ) ท่านก็จะว่า ส่งมาม่าให้สองซอง กินได้ 6 คน ต่อปี แล้วจะเอาอะไรกะท่านอีก อ่า ท่านก็ยิ่งใหญ่เปรียบเสมือน ซ่งตีงไงครับ เหยียบลงมาหญ้าแพรกก็แหลกราญ เมื่อต้นปีท่านก็ฆ่าคนขู่พวกเราได้เกือบร้อย น่าเป็นความกรุณาอย่างสูงเลย ไม่มีคำว่าเสียใจ --ช่วยช้าไป หรือผมขอรับผิดชอบ เพราะบทนี้ท่านแสดงไม่เป็น แง่บๆ

เงินเดือนร่วมแสน ขอหัก 10% ช่วยน้ำท่วมไม่ได้

ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม กล่าวเป็นเงินสดหรือซื้อเป็นสิ่งของมอบให้ส.ส.นำไปแจกจ่าย หากได้ความชัดเจนจะมีการยืมเงินสำรองของสภาทอลองจ่ายไปก่อนและจะมาหักหนี้จากส.ส. ในภายหลัง ส่วนขอเสนอที่ให้ส.ส.ช่วยเหลือด้วยการหักเงินเดือน 10 เปอร์เซ็นต์เพื่อนนำไปบริจาคนั้น ขอเรียนว่าส.ส.ก็ยากลำบากเหมือนกัน ขนาดตนเป็นประธานสภาได้เงินเดือนๆละ 1 แสนบาท หักภาษีแล้วเหลือ 8 หมื่น ต้องจ่ายค่าน้ำมันรถและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งต้องเอาจากบ้านมาใช้เหมือนกัน(บ้านท่านโคตรรวย) อะไรกันนี่ ไม่ต้องลงพื้นที่หาเสียง ส่วน สส.นั่งเครื่องบินยังฟรี โคตรจนเลยละจ้า หากไม่มีเงินเดือนก็อดตาย เพราะหาแดรกทางอื่นไม่เป็นแล้ว

----วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ตุลาการไล่ "ชัช ชลวร" เจ้าตัวไขสือ
--------แหล่งข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมตุลาการศาล รธน.จี้ “ชัช” แสดงความรับผิดชอบ มากกว่าสั่งปลดเลขานุการ หวั่นข้อครหาตามหลัง ด้าน “ชัช” ใบ้กินหูทวนลม วันนี้ (21 ต.ค.) แหล่งข่าวจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ในการหารือของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีการแอบถ่ายคลิปวิดีโอในห้องประชุมคณะตุลาการ และการที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีคลิปวิดีโอตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โกงข้อสอบการสอบเข้าเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญนั้น ปรากฏว่า ได้มีการตุลาการคนหนึ่งกล่าวถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ว่า “ขณะนี้สังคมต้องการให้ นายชัช ชลวร แสดงความรับผิดชอบต่อการที่ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ทำเรื่องเสื่อมเสียมากกว่า แค่การปลด นายพสิษฐ์ ปลดออกจากตำแหน่ง ไม่ทราบว่าประธานเห็นอย่างไร” ซึ่ง นายชัช ก็นิ่งเฉยไม่ได้แสดงท่าทีแต่อย่างใด

--------ทั้งนี้ ในวงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันเอง ว่า คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่า นายชัช จะลงมติอย่างไร ก็ไม่พ้นถูกครหา เพราะหากลงมติว่าไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ สังคมก็จะเชื่อ เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ มาล็อบบี้ให้ไม่ยุบ โดยผ่านนายพสิษฐ์ แต่ถ้ายุบพรรค ก็เพราะ นายนายพสิษฐ์ ทำไม่สำเร็จ ซึ่งจะเห็นว่าสังคมไม่เชื่อว่านายพสิษฐ์ กระทำการโดยที่ นายชัช ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น โดยตุลาการก็ได้แสดงความเป็นในห่วงเรื่องนี้ต่อ นายชัช แล้ว แต่ นายชัช ก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร อย่างไรก็ตาม ตุลาการบางคนก็มีความสงสัยในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน เพราะในการปฏิบัติหน้าที่ของ นายชัช ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่า ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ นายพสิษฐ์ เป็นอย่างมาก ทั้งที่พฤติกรรมของนายพสิษฐ์ มีข้อสังสัยหลายอย่าง เช่น ตอนที่มาอยู่ศาลใหม่ ก็จะพูดกับเจ้าหน้าที่ศาล ว่า เคยทำงานเป็นแพทย์ที่ รพ.บำรุงราษฎร์ รับเงินเดือนหลักแสน แต่เมื่อเกิดเหตุเผยแพร่คลิป ก็มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อ นายพสิษฐ์ มีตำแหน่งอะไรที่ รพ.ดังกล่าว และในระหว่างที่ นายพสิษฐ์ ทำหน้าที่เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายชัช ยังได้มีการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้กับ นายพสิษฐ์ โดยในงานพระราชพิธีสำคัญที่ส่วนราชการจะมีการเชิญประธาน และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปร่วม ก็ปรากฏภาพทางสื่อให้เห็นว่า หลายครั้ง นายพสิษฐ์ ได้ไปร่วมงาน โดยช่วยทำหน้าที่เลขานุการประธาน นายพสิษฐ์ ก็ยังพยายามจะเข้ามาตีสนิทกับตุลาการทุกคน ด้วยการอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ ทั้งงานในสำนักงาน และงานส่วนตัว ซึ่งก็มีตุลาการบางคนที่เห็นว่าไม่เหมาะสม


วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553
จาตุรนต์ย้ำ "ดูสาระในคลิป มากกว่าหาคนแอบถ่ายคลิป"
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงที่ห้องทานตะวัน โรงแรมเรดิสัน พระราม 9 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมถึงคลิปฉาวคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ว่าตนในฐานะที่เป็นเหยื่อของการยุบพรรคด้วยการใช้กฎหมายเผด็จการย้อนหลังนั้นก็เป็นห่วงศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีตุลาการบางส่วนไปมีส่วนทำให้เกิดความสงสัยว่ามีความพยายามที่จะช่วยเหลือให้พรรคประชาธิปัตย์รอดพ้นจากการยุบพรรค เพราะในคลิปฉาวดังกล่าวมีประเด็นสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะแนวทางการสู้คดีของทีมทนายความของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ได้มุ่งเน้นการต่อสู้ในเรื่องพยานหลักฐานและเอกสารที่จะเป็นเครื่องชี้วัดว่าถูกผิดอย่างไร
แต่เน้นไปที่การทำลายความน่าเชื่อถือของพยานฝ่ายผู้ร้อง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวและการทำหน้าที่ของพยานฝ่ายผู้ร้อง และใช้การแถลงข่าวเป็นระยะๆ ผ่านสื่อมวลชนมากกว่าการพิจารณาคดียุบพรรคทุกพรรคที่ผ่านมา เพื่อสร้างกระแสความชอบธรรมให้กับตัวเอง ทั้งๆที่มักจะพูดซ้ำๆว่าไม่ควรสร้างกระแสหรือกดดันศาล
นอกจากนั้นยังใช้ข้าราชการ โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอไอ) มาทำลายความน่าเชื่อถือของพยานฝ่ายผู้ร้องและผู้ทำหน้าที่สอบสวนคดีนี้ ทั้งๆที่อธิบดีดีเอสไอเอง เป็นผู้แสดงบทบาทในเรื่องอื่นๆ อย่างไม่เหมาะสมบ่อยครั้ง และเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสนอให้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์เป็นคดีพิเศษ
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ในส่วนเนื้อหาการสู้คดีนั้นจะพบว่าในกฎหมายทุกฉบับระบุชัดเจนว่าให้หัวหน้าพรรคการเมืองจัดทำบัญชีงบดุลฯให้ถูกต้อง เมื่อมีการทำไม่ถูกต้อง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่เคยเห็นชอบกับรายงานงบดุลและเป็นคนที่เห็นว่าไม่ควรยุบพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดี จึงต้องนำตัวประธาน กกต. มาเป็นพยาน
“การปลดนายพสิษฐ์ จากตำแหน่งเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญหรือการออกมาบอกว่าจะดำเนินคดีว่าใครบันทึกเทปและเผยแพร่คลิปนั้นไม่สามารถลบล้างข้อความการหารือกันในคลิปได้ ดังนั้นจึงไม่ควรหลงประเด็น และศาลรัฐธรรมนูญก็ควรไปตรวจสอบว่ามีการพูดตามที่ปรากฎในคลิปจริงหรือไม่ และใครเป็นผู้พูด พูดว่าอะไร มีการแต่งหน้าเลียนแบบหรือเลียนเสียงตุลาการหรือไม่ หากไม่จริงก็ให้ชี้แจงเพื่อให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ แต่หากจริงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องทั้งหลายก็ควรลาออกจากตำแหน่ง และสังคมก็ควรช่วยกันคิดว่าตุลาการเหล่านั้นควรจะลาออกก่อนคดียุบพรรคหรือจะรอให้พิพากษาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์เสียก่อนแล้วถึงค่อยลาออก แต่หากพบว่าข้อมูลทั้งหมดจริงแล้วยังไม่ลาออกจากตำแหน่งอีกในอนาคตเมื่อมีโอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ควรยุบศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการบัญญัติให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้หมดวาระ แล้วแก้ไขที่มาขององค์ประกอบที่มาของศาลรัฐธรรมนูญใหม่ให้สามารถตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญได้แล้วสรรหากันใหม่ เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรมไว้”

ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์




Create Date : 22 ตุลาคม 2553
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 0:35:26 น. 0 comments
Counter : 1357 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.