ลับ ลวง และเลือด-สิ่งที่เราทุกคนอยากรู้

---ผมว่าจะหาเล่มนี้มาอ่าน จะได้หายงงครับ ไม่ได้ขายของ เพราะไม่รู้จักผู้เขียนครับ

"ลับ ลวง เลือด" ยืนยัน "มีการนัดพบแบบลับๆ ระหว่าง "ผู้นำกองทัพ กับ คนสำคัญ" จนมีคำสั่งยิง


วาสนา นาน่วม กับ ลับ ลวง เลือด
ค้นหาความจริง"ใครสั่ง ใครยิง ใครเผา" จาก "ลับ ลวง เลือด"


"ลับ ลวง เลือด" บันทึกโดย "วาสนา นาน่วม" เป็นหนังสือที่มีความหนาที่สุดเท่าที่เคยเธอเขียนมา หลังจากที่ผลงาน "ลับ ลวง พราง" ออกจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้อ่าน โดยมีเนื้อหาอัดแน่นไปด้วยข้อมูลความรู้ของเหตุการณ์ เบื้องลึก เบื้องหลัง เหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ในการเผยโฉมตัวละครพร้อมทั้งเนื้อหาที่ประชาชนทั่วไปไม่อาจทราบข้อมูลได้ ใครที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้วคงได้รับความตื่นเต้น ตะลึงกับเหตุการณ์และตัวบุคคลในเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบกันมาแล้ว


มาถึงเล่มใหม่ล่าสุด "ลับ ลวง เลือด" ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนทั้งประเทศ ที่ต้องการรู้ความจริงของเหตุการณ์ "นองเลือด" ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 มีประชาชนและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการปราบปรามผู้ชุมนุมของกลุ่ม "คนเสื้อแดง" ความสูญเสียที่ไม่อาจหยุดและยับยั้งได้


ผู้ที่สนใจและติดตามเหตุการณ์ "กระชับวงล้อม กระชับพื้นที่ ขอพื้นที่คืน" จากสื่อ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และอินเตอร์เน็ต คงพอจะจับเนื้อหาใจความสำคัญของเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่ "ลับ ลวง เลือด" โดย วาสนา นาน่วม ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่ออธิบายเบื้องหน้า เบื้องหลังและเบื้องลึกของเหตุการณ์ทุกด้าน ในฐานะผู้สื่อข่าวสายทหารที่มีความใกล้ชิด เข้าถึงระดับผู้บังคับบัญชา นำเสนอเรื่องราวที่สลับซับซ้อนของเหตุการณ์อันมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่ สื่อทั่วไปไม่ได้นำเสนอและบางอย่างอาจนำเสนอไม่ได้ทางสื่ออื่นๆ


"วาสนา นาน่วม" บอกถึงความตั้งใจในการเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงรวบรวมเหตุการณ์สำคัญๆในช่วงเวลานั้นไว้ ส่วนใหญ่เป็นความเคลื่อนไหวของทางฝ่ายทหาร เกี่ยวกับ กลยุทธ์ วิธีการ โดยการรวบรวมคำบอกเล่าของทหารระดับปฏิบัติ ทั้งที่เปิดเผยชื่อและปกปิดชื่อ ในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ วัดปทุมวนารามฯ สี่แยกราชประสงค์ สี่แยกคอกวัว ฯลฯ หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่ากระสุนที่ฝังอยู่ในศพผู้ชุมนุมและประชาชนมาจากไหน ข้อข้องใจเรื่องนี้ "วาสนา" มีคำชี้แจงจากทหารไว้อย่างละเอียดว่า ใครยิง ยิงใคร ทำไมต้องยิง และไม่ได้ยิง เหตุผลของการกระทำและไม่กระทำ รวมทั้งกระบวนการหาคนรับผิดชอบโดยการกล่าวพาดพิงกันเอง


หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีแค่ฝ่ายทหารเท่านั้น ยังมีคำสัมภาษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง เพื่อนำเสนอข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายกองทัพไทยและกองทัพแดง


"วาสนา" เล่าถึงประเด็นที่เจาะลึกโดย ยกตัวอย่าง การเสียชีวิตของ "เสธ.แดง" นำเสนอปฏิกิริยาของบุคคลต้องสงสัย ความคิดความเห็นของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ว่ามีคำตอบต่อการเสียชีวิตของ เสธ.แดงอย่างไรกันบ้าง มีหน่วยงานใดหรือบุคคลใดที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย แต่จะไม่มีการสรุปหรือฟันธงว่าเป็นฝีมือใคร โดยมีกองทัพเป็นฝ่ายต้องสงสัย เพราะได้ประโยชน์สูงสุด หรืออาจจะเป็นพวกเดียวกันยิงกันเอง จากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลที่มีในมือและนำมาชั่งน้ำหนักในแต่ละกรณีว่า ประเด็นใดเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้


หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงการ "วางแผนผิดพลาด" ของเจ้าหน้าที่ หลังจากได้พูดคุยกับทหารระดับปฏิบัติการและระดับวางกลยุทธ์ ความผิดพลาดที่เกิดจาก การชะล่าใจ การรีบร้อน การโยนความผิดไปที่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงที่นำปัจจัยการเมืองมาเกี่ยวข้องกับทางทหาร ทำให้เกิดการสูญเสียการพ่ายแพ้ไปจนถึงมาตรการที่ทำได้สำเร็จ การประเมินความเสียหาย การนับศพคนตาย สามารถติดตามได้จากหนังสือเล่มนี้


นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของเหตุการณ์ที่คนภายนอกไม่รู้ ยกตัวอย่าง เมื่อครั้งเสื้อแดงไปยึดสถานีดาวเทียมไทยคม ที่อ.ลาดหลุมแก้ว เมื่อวันที่ 9 เมษายน วันเดียวกันนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งไปยังศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ให้ยึดพื้นที่คืนทันทีโดยเรียกกำลัง "บูรพาพยัคฆ์" เข้าไปยึดคืน วันนั้นทหารเตรียมลุยเต็มที่ แต่เสื้อแดงได้ถอนออกก่อนอาจจะรู้ข่าวมาก่อน สิ่งที่ตามมาในวันนั้น คือ ภาพทหารหน่อมแน้ม เสียหน้า ถูกสังคมประณาม ที่ปล่อยให้เสื้อแดงเข้ายึดสำเร็จ เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นที่มาของเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดตัดสินใจเด็ดขาดยึดพื้นที่สะพานผ่านฟ้าคืน แต่การปฏิบัติจริงใช้เวลา 3 ชั่วโมงจึงไม่สามารถทำได้


หนึ่งในเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ในวันยึดสถานีไทยคม คือ เสื้อแดงปิดล้อมทหาร 28 คน บนดาดฟ้าตึกไทยคม เหตุการณ์เผชิญหน้าครั้งนั้นมีอาวุธเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในสภาพคนเสื้อแดงเต็มพื้นที่ทหารจะหาทางออกอย่างไร ลับ ลวง เลือด มีคำตอบ


หนังสือเล่มนี้ต้องการให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริง ว่า ทางฝ่ายเสื้อแดงมีอาวุธและมีกองกำลังชุดดำติดอาวุธจริง ส่วนผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ก็มีจริง เป็นหนึ่งในเหตุผลที่กองทัพอ้างว่า มีความชอบธรรมในการเข้าสลายการชุมนุม และกองทัพต้องยอมรับว่าทหารมีส่วนในการตายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โยนว่าเป็นความผิดของกองกำลังติดอาวุธเสื้อแดงฆ่ากันเอง เพราะทหารเปิดไฟเขียวให้ยิงได้อยู่แล้ว กรณีนี้ต้องการเสนอข้อมูลที่ให้คนอ่านได้พิจารณาและตัดสินใจเองว่าจะเชื่อฝ่ายใด


มีเรื่องราวที่เป็นสีสันเนื้อหาเบาๆที่คนทั่วไปไม่รู้ เช่น การตั้ง "วอร์รูม ศอฉ." จะคัดเลือกทหารที่จบจากประเทศอังกฤษเหตุผลที่ต้องเลือกนายทหารจบจากต่างประเทศเลือกเฉพาะจากเมืองผู้ดี สามารถติดตามได้จาก "ลับ ลวง เลือด" และเกาะติดชีวิตของนายกรัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ ต้องมาอยู่ในค่ายทหารมีความเป็นอยู่กันอย่างไร ต้องแอบลอบ ลวง ย่อง หลบสื่อหนีม็อบอย่างไรบ้าง


ซัดกันเละ!! เรื่องนี้ไม่ใช่แค่คำบอกเล่าแต่มีหลักฐานรอยกระสุนในที่เกิดเหตุ เรียกว่า "มีกระสุนแค่ไหนใส่เต็มที่" ยิงกันสนั่นเมืองในคืนแรกของการประกาศเคอร์ฟิว 19 พฤษภาคม ภาพถ่ายรอยกระสุนปืนที่ยิงจากที่สูงลงมาบริเวณห้างเกสรพลาซ่า เพื่อหาคำตอบว่าจริงๆ แล้วทหารเข้าสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์จริงหรือไม่


"ลับ ลวง เลือด" ได้เปิดฉากลับการเปิดบ้าน "เกษะโกมล" มีการนัดพบกันแบบลับๆ ของผู้นำกองทัพกับคนสำคัญคนหนึ่งทำให้ทหารต้องตัดสินใจ


กรณีที่หลายคนสงสัยว่า... ป๋าเปรมหายไปไหน ?
พล.อ.เปรม ติณสูลลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อยู่ที่ไหนระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุม ซึ่งทหารคนสนิทบอกว่า ที่อันตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุด คือ บ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม อาจจะออกไปนอกบ้านทำกิจกรรมตามปกติแต่กลับมานอนบ้านเหมือนเดิมแต่มีการปล่อยข่าวว่า "ไม่อยู่ที่บ้าน" อีกด้านมีการเปิดสถานที่หลบภัยของแกนนำแดงมีการคุ้มกันโดยหน่วยซีลนอกจากจะดูแลเป็นอย่างดีแล้วยังเป็นผู้พาหลบหนี


ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีเรื่องไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง กรณี "เสื้อแดง" เทเลือดการใช้รูปปั้นและอื่นๆ ที่สะท้อนให้เห็นว่า นำไสยศาสตร์มาเล่นการเมือง และอาถรรพณ์เงาเซ็นทรัลเวิลด์ ทับโบสถ์ เป็นความเชื่อที่อาจจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงต้องพิจารณากันดูตามเหตุที่เกิดขึ้น


การตั้ง "กองร้อยทหารแว้น" ศอฉ.มีคำสั่งให้ทหารขี่มอเตอร์ไซค์เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วถึงที่เกิดเหตุใน 15-20 นาที ซึ่งหน่วยของทหารไม่มีรถมอเตอร์ไซค์จำเป็นต้องนำรถส่วนตัวมาปฏิบัติงานหรือไปยืมจากหน่วยอื่น เช่น ตำรวจ จ่ายค่าเช่าวันละ 250 บาท ในเหตุการณ์ครั้งนั้นใช้รถหมื่นกว่าคันแล้วต้องเสียงบประมาณไปเท่าไร
เปิดเบื้องลึกเบื้องหลังความจริงการตั้งโต๊ะเจรจานำไปสู่การใช้กระสุนจริง ทั้งหมดเป็นกลยุทธ์ลับ ลวง พราง นำไปสู่การนองเลือดของทุกฝ่าย


ปิดท้ายด้วยปัญหาของกองทัพและความแตกแยกของทหารมีส่วนทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงขึ้น เนื่องจาก "ต่างฝ่ายต่างมีทหาร" กองทัพไทยมีทหารที่ถูกต้องตามกฎหมายส่วนกองทัพแดง มีทหารเข้าร่วมทั้งที่เปิดเผยตัวและไม่เปิดเผย "ทหารสู้ทหาร" ชี้ให้เห็นว่า การต่อสู้ครั้งนี้ทันเกมกัน ผลลัพธ์ คือ เหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 10 เมษายน จะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะจุดตกของระเบิดเอ็ม 79 ลงกลางวงทหารระดับผู้บังคับบัญชาอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางทหารในการเด็ดหัวแม่ทัพ และเป็นการเปิดฉากศึกแรก จนกระทั่งมีการสร้างป้อมสร้างค่ายของเสื้อแดงเป็นการใช้ความรู้ทางทหารทั้งสิ้น


นอกจากชำแหละทหารแล้วยังเปิดเผยโฉมหน้ากองกำลังติดอาวุธ"โม่งดำ" มีหลายกลุ่มทั้ง ตำรวจ ทหาร และนักการเมืองว่ามีใครบ้าง


"ใครที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะมองเหตุการณ์ชัดเจนขึ้นอีกด้าน นอกเหนือจากข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้น ผู้อ่านจะเข้าใจยุทธศาสตร์ของเกมครั้งนี้ ได้เห็นความผิดพลาดของทุกฝ่าย เบื้องหลังการตัดสินใจแก้ปัญหา นายทหารคิดอย่างไร จบอย่างไร จะส่งผลต่อการเมืองในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไร เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นบทบาทของกองทัพ ตั้งแต่หลังการปฏิวัติ 19 กันยายน กองทัพไม่สามารถถอยออกจากการเมืองได้เลย จากนี้มีแต่แรงกับแรงเท่านั้น และไม่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคนเสื้อแดงจะมีโอกาสกลับมายึดอำนาจได้ เพราะเมืองไทยเป็นแบบนี้มานานและคนไทยยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น ฉะนั้นจะสู้ยังไงก็เลิกคิดที่จะเอาศพประชาชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อให้ประชาชนตายมากแค่ไหน วัฒนธรรมการเมืองไทยเปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬมีคนตาย 40-50 คน ทางรัฐบาลทหารแสดงสปิริตลาออก ตอนนี้มันไม่สามารถนำศพประชาชนมาเล่นทางการเมืองได้อีกแล้ว ควรกลับไปเล่นในเกมการเมือง" วาสนา ฝากถึงผู้อ่านและผู้นำประเทศ


ล้วงความลับ ใครลวง ใครลงมือ ในปฏิบัติการนองเลือดครั้งนี้ ติดตามอ่านได้ที่ "ลับ ลวง เลือด"


ขอบคุณที่มา มติชนออนไลน์




Create Date : 21 ตุลาคม 2553
Last Update : 21 ตุลาคม 2553 23:21:04 น. 0 comments
Counter : 1927 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.