น้ำตาคลอเบ้าตา

   หลายคงทราบกันดีว่า ผมเป็นคนที่รักสถาบันมากและผมก็ไม่ชอบเรื่องการเมืองผมจึงไม่ค่อยติดตามเรื่องเหล่านี้สักเท่าไหร่
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมเห็นเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง (ทิพย์) ของผมเธอถูกเพื่อนเรียนหรือต้องเรียกว่ากลุ่มเพื่อนรักสนิทสนมกันมาก ต้องโดนเพื่อนเกือบทั้งกลุ่ม
พูดกระทบเหน็บแนม ถามว่าเรื่องอะไร ผมต้องบอกว่าก็เพราะเรื่อง "คนละสี" Line มาลักษณะสมน้ำหน้ารัฐบาลยุบสภา  ก่อนอื่นผมบอกท่านก่อนว่าผมไม่พูดเรื่องการเมืองแต่ผมพูดเรื่องที่สามารถนำมาเป็นธรรมทานได้และมันก็จะเป็นเครื่องเตือนใจทุกคนและทุกสี

           วันที่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภา เพื่อนผมกลุ่มสีเหลืองก็ Line มาที่ทิพย์ที่เป็นกลุ่มอีกสี แต่ผมจะบอกว่า
ซึ่งแท้จริงแล้วทิพย์เขาไม่ได้เลือกสีนะครับเพียงแต่ระแวกบ้านเอย เจ้านายเอย สิ่งแวดล้อมการงานมันต้องเขาไปอยู่ในเขตแดน
ของสีรัฐบาล เขาจำเป็นต้องเรียนรู้และเขาก็รักในหลวงเหมือนผม แต่ความที่คนเราไม่ได้ปฏิบัติธรรมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงมีคำพูดของ
ผู้ชนะออกมาหลายคำพุดกระแทกแดกดัน และตอกย้ำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ มันทำให้ความเป็นเพื่อนเสียไป

            ผมว่าการเมืองมันจบไปแล้ว แต่พวกเราไม่ครองอยู่ในสติกันเลย ยังคงแบ่งแยกความรักที่เคยมีต่อกัน จนทำให้ผมเกิดความสงสาร
ทิพย์เป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนไม่เข้าใจเธอ มีแต่ผมที่เห็นสิ่งที่อยู่ลึก ๆ ข้างในของทิพย์ ผมจึงเขาไปพูดคุยปลอบโยนดังนี้

ผู้เขียน : ทิพย์...หนิงเห็นคลิ๊ปคุณยิ่งลักษณ์เธอน้ำตาคลอและคำพูดของเธอนั้น หนิงเข้าใจความหมายและความรู้สึกของผู้หญิงเป็นอย่างดี
           มันไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่นี่คือกรรมที่ทุกคนต้องรับมันก็ผลัดกันชนะและแพ้ (ส่วนตัวทิพย์เองนั้น เจ้านายเป็น สส.ของชลบุรี คือท่าน
           นายพลสุรพล จันทร์แดง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นครูของทหาร เป็นผู้ที่มีความตั้งมั่นในคุณธรรมอย่างแท้จริง เขาจึงสามารถชนะใจคนทั้งหลาย
           ครั้งแรกที่ผมได้ไปไหว้ท่าน ผมสัมผัสถึงบุญบารมี ความมีเมตตาของท่านนายพลอย่างผิดแผกจากคนทั่วไปมาก คือมันรู้สึกอยากกอด
           ซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกับที่ผมรู้สึกกับแม่ชีใหญ่ ผมยอมรับว่าถึงหนิงจะไม่ได้อยู่ในเขตสีเดียวกับใครทั้งนั้น แต่บารมีท่านแรงมากครับ)

ทิพย์   : หนิง...ทิพย์ไม่ได้อยู่สีแดงนะ ทิพย์รักประเทศไทย ทิพย์รังเกียจการคดโกง แต่ชีวิตใครมันดำเนินไปอย่างไร บางครั้งเราจำเป็นต้องเข้าไป
          ตามหน้าที่การงานกำหนด อย่างที่ทิพย์ทำนี่ ไม่มีใครรู้นะหนิง เงินเดือนที่ท่านให้ทิพย์มา ทิพย์เห็นเป็นเงินของประชาชน รู้ไหมทิพย์แทบ
          ไม่ได้ใช้เงินส่วนนี้เลยนะ เวลามีงานศพ งานอะไรต่าง ๆ ที่ทิพย์จะช่วยประชาชนได้ทิพย์ก็เอาเงินเดือนทิพย์นี่แหละไปบริจาค เพราะทิพย์รู้
           ว่ามันเป็นเงินของประชาชน

หนิง    : ก็เพราะหนิงรู้จักนิสัยของเธอดีนี่ไงเล่า หนิงจึงมาปลอบเธอว่า "คนล้มแล้วไม่ควรข้าม" หนิงไม่เห็นทิพย์ล้มนะ แต่หนิงเห็นคนที่เขา Line
           มากระแทกแดกดันทิพย์นั้น เขา"ไร้สติ" ความเป็นเพื่อนรักกันมันเสียไปส่วนหนึ่ง หนิงไม่เห็นใครชนะนะ ถ้าพูดกันแนวนี้จะพบว่า สงคราม
           มันหยุดแล้วทำไมเราต้องฆ่าเชลยศึก ทำไมเราจึงไม่มีความเมตตา ก็เพราะคนเหล่านี้ยังไม่เข้าใจในเมตตาบารมี

           ผมว่าทิพย์รู้สึกดีขึ้นและผมอยากบอกทุกคนว่า เวลาที่คนล้มแล้วอย่าข้ามเขาเลย เพราะเวลาที่เราข้ามเขาไปแล้ว มันเกิดเป็นสัญญากรรม   
เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายในทันที และในคน ๆ หนึ่งนั้น เราไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเขาทั้งหมดหรอก อย่าไปคิดแทนเขาหมดครับ ทำไมเราไม่ให้อภัยและปล่อยเชลยศึกนั้นไปอยู่ดูแลเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียเลี้ยงพ่อแม่เขา สงครามมันจบลงแล้วอย่าผูกสัญญาใด ๆ กันไว้อีกเลยครับ

ขอบคุณข้อเขียนธรรมทานของคุณเด็กวัด----แทนใจหลายๆคน คนเราถ้าไม่สุดๆ ไม่
หลั่งน้ำตาหรอกครับ 
การเมืองมันก็คือมายา คนหลงก็พาไล่ฆ่ากัน มันคือสิ่งที่ตรงข้่ามกับธรรมมะและความดี  ตัณหาพาให้หลง อนัตตาคือทางธรรมที่แท้จริง



Create Date : 14 ธันวาคม 2556
Last Update : 14 ธันวาคม 2556 19:01:46 น. 0 comments
Counter : 1169 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.