เรื่องผีๆ

วิญญาณน9ศพเหยื่อซีวิคโผล่เห็นกันจะจะ
ผวาวิญญาณน 9 ศพเหยื่อไฮโซสาวซีวิค ทำขนหัวลุกซู่ โผล่เห็นจะจะ ป้ายรถเมล์ใกล้จุดเกิดเหตุ ชาวบ้านไปขึ้นรถเมล์ช่วงเช้ามืดแทบช็อก เห็นคนนั่งอยู่ดี ๆ หันหน้ามาเลือดท่วม ด้าน วิน จยย.รับจ้างใกล้จุดเกิดเหตุนิมนต์พระ 9 รูปทำบุญอุทิศส่วนกุศล ชาวบ้านแห่ร่วมทำบุญด้วย

จากกรณีเยาวชนสาวตระกูลดัง ซิ่งรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถตู้โดยสารโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-BTS หมอชิต บนทางด่วนโทลล์เวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด ทางหญิงสาวคนขับรถได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและได้รับการปล่อยตัว ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่วินรถจยย.รับจ้างศาลาริมถนนวิภาวดีฯ ใกล้ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตบางเขน) ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค พุ่งชนท้ายรถตู้โดยสารบนทางยกระดับ โทลล์เวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ โดยนายสุนทร แก่นแก้ว อายุ 50 ปี หัวหน้าวิน จยย. ได้จัดพิธีทำ บุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดพระศรีมหาธาตุ (บางเขน) 9 รูป มาประกอบพิธี มีวิน จยย.รับจ้างรวมถึงประชาชนในย่านนั้นเข้าร่วมพิธีจำนวนหนึ่ง

นายสุนทร กล่าวว่า หลังจากเกิดโศกนาฏกรรม คนขี่รถจยย.รับจ้างในวิน รวมทั้งประชาชนผู้ที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวต่างรู้สึกขวัญเสีย นอกจากนี้ก็มีผู้พบเหตุ การณ์แปลก ๆ อย่างเช่น มีผู้โดยสารรายหนึ่งได้พูดกับตนเองว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เดินทางจากบ้านเพื่อขึ้นรถประจำทางไปทำ งานในช่วงเช้ามืด เมื่อเดินลงมาจากสะพานลอย สังเกตเห็นมีคนนั่งรอรถอยู่ เมื่อเข้าไปใกล้ถึงกับขนลุกซู่ เมื่อชายคนนั้นหันมามองด้วยเลือดเต็มใบหน้า พอมองกลับไปอีกทีก็ไม่พบแล้ว รวมทั้งยังมีเหตุการณ์แปลก ๆ อีกมากมาย ทำให้คนในวินจยย. และผู้ที่ผ่านสัญจรไปมาต่างรู้สึกไม่สบายใจ จึงร่วมกันจัดทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลขึ้น.

------------------------------------------------

ลือหึ่ง! ‘กระสือ’ อาละวาด กัดคอดูดเลือดไก่ ชาวบ้านหนองปาตอง เมืองแปดริ้ว เห็นจะๆ นัดแห่ท้าพิสูจน์

วันนี้ ( 9 ม.ค.) ที่หมู่บ้านหนองปาตอง หมู่ 2 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านล่ำลือกันว่า พบผีกระสือออกหากินตอนกลางคืน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายณะเรศ สุดชื่น อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/2 และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาว เปิดเผยว่า ชาวบ้านสงสัยหญิงสูงอายุคนหนึ่งในพื้นที่ว่าจะเป็นผีกระสือ เนื่องจากลูกชายไปเรียนวิชาไสยศาสตร์มาจากอีสาน ก่อนมาเป็นร่างทรงเลี้ยงภูตผีเอาไว้ และมักจะเอาเลือดหมู เลือดไก่ มาเซ่นไหว้ประจำ

ต่อ มาได้หายตัวออกจากบ้านไป แต่จู่ๆ ก็มีคนพบเห็นดวงไฟลอยออกมาจากบริเวณบ้านของชายคนดังกล่าวเป็นประจำ จึงลือกันว่าเป็นผีกระสือ ซึ่งสิงอยู่ในร่างของแม่คนเข้าทรง

โดย ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านได้พากันไปดักซุ่มพิสูจน์ และเห็นดวงไฟสีแดงขนาดเท่าผลส้มลอยสูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร จึงยิงปืนขู่ หลังจากนั้นดวงไฟดังกล่าวก็ลอยหายไป กระทั่งช่วงเช้าก็มาพบว่าไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ในเล้าล้มตายหลายตัว โดยที่ลำคอมีรูคล้ายรอยถูกกัดดูดเลือด ขณะที่บริเวณเล้าไม่มีขนไก่หลุดร่วงให้เห็นเหมือนถูกสุนัขหรือสัตว์อื่นเข้ามากัดกิน อย่างไรก็ตามในคืนนี้ชาวบ้านได้นัดร่วมตัวกันเดินทางไปพิสูจน์อีกครั้ง.
-------------------------------------------------------

อเล็กซ์ เจอดี-เหตุไม่ครอบครูโขน

อเล็กซ์ เรนเดล ขนหัวลุก เจอดี ผีผู้หญิงบีบคอ เหตุไม่ครอบครูโขน หลังจากที่ต้องมีการรำโขนในภาพยนตร์เรื่อง เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก
ราย ละเอียดในเรื่องนี้ พระเอกหนุ่ม อเล็กซ์ เรนเดล ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมงานฉลอง 100 ล้าน ภาพยนตร์เรื่อง สุดเขต สเลดเป็ด ที่ร้าน Bangkok Brass ย่านพหลโยธิน ว่า ในเรื่อง ตนกับนางเอกเป็นนักเรียนนาฏศิลป์ แล้วในเรื่องตนต้องเล่นโขนเป็นตัวทศกัณฑ์ ส่วนนางเอกเล่นเป็นสีดา ต้องรำโขนด้วยและต้องไปเรียนอย่างหนัก เพราะไม่มีพื้นฐานในเรื่องการรำโขนเลย รำยากมาก แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ซึ่งปัญหาคือเราต้องไหว้เจ้าที่ไหว้ครูให้ดีๆ เพราะตนเจอมากับตัวแล้ว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แล้วเจอจริงๆ เคยได้ยินแต่คนเขาพูดกันถึงเรื่องอาถรรพ์ต่างๆ แต่ไม่เคยเจอกับตัว ครั้งนี้มาเจอรู้เลย

"คือวันแรกผมไปถ่ายที่โรงเรียนนาฏศิลป์ นอนอยู่ในรถเพื่อรอถ่าย นอนๆ อยู่รู้สึกเหมือนมีใครมากดทำให้หายใจไม่ออก แต่ยังรู้สึกตัวอยู่ตลอดนะ แต่ขยับร่างกายช่วงบนไม่ได้เลย รู้เลยว่าของเขาแรงจริงๆ ครั้งนั้นผ่านไปก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็บอกพี่ๆ ทีมงานให้ไปไหว้ขอเจ้าที่ ไหว้ขอถ่ายทำก็ผ่านไปพี่ๆ เขาก็ไปไหว้"

นักแสดงหนุ่มเล่าต่อว่า แล้วมามีอีกครั้งต้องไปถ่ายทำที่ตึกนาฏศิลป์ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต นอนในรถเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้รู้สึกว่ามีใครมาบีบคอจากข้างหลัง ก็จับแขนที่บีบคออยู่ รู้สึกเลยว่าเป็นแขน จึงหันไปมองข้างหลัง เห็นผู้หญิงผมยาวนั่งก้มหน้าอยู่ แล้วมือก็บีบคอตนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะผู้หญิงคนนั้นตัวขาวๆ พอบีบหนักขึ้นเรื่อยๆไม่รู้จะทำยังไง ก็ท่องนะโมอยู่แบบนั้น เพราะท่องบทอื่นไม่ได้ ท่องผิดท่องถูก จนไม่ไหวแล้วก็หันไปจิกหัวผู้หญิงคนนั้น นาทีนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร เลยใช้เท้าพยายามกดแตรรถให้คนข้างนอกได้ยิน แล้วก็ร้องให้คนช่วย

ตอน นั้นผมรู้สึกว่าผมพยายามร้องออกไปให้ดัง แต่เสียงมันไม่ออก จนพี่ทีมงานเข้ามาเคาะกระจกรถ ผมเห็นนะตอนที่เขาเคาะกระจก แต่พี่เขาบอกว่าเขาเคาะกระจกแล้วผมไม่ตื่น แต่เห็นว่าปากของผมพยายามพูดอะไรสักอย่าง จนพี่เขาเปิดประตูรถมาที่ผม หลังจากนั้นผมก็เล่าเหตุการณ์ให้เขาฟัง แล้วถามเขาว่าได้ไหว้เจ้าที่หรือยัง เขาก็บอกว่าไหว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ครอบครูโขนหรืออะไรสักอย่าง หลังจากนั้นมาผมไม่เคยนอนหลับในรถอีกเลย เวลาที่ขับรถกลับบ้านตอนกลางคืนก็พยายามเปิดเพลงดังๆ เป็นเพื่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนถ่ายทำได้ไหว้ครูก่อนหรือเปล่า อเล็กซ์ตอบไหว้ครูแล้ว เพราะครูที่สอนรำบอกให้ไหว้ครูก่อน แต่ครอบครูโขนอันนี้ไม่ได้ครอบครู เคยแต่ครอบครูปกติที่ช่อง 3 ที่จัดประจำทุกปี ก่อนหน้าถ่ายเรื่องนี้ก็มีคนเตือนหลายคนว่าให้ระวัง เพราะครูโขนแรง จะทำอะไรอย่าทำเล่นๆ ไม่เคยทำเล่นๆ แล้วตอนที่จะสวมหัวโขนที่เป็นหัวทศกัณฑ์ให้ตน มีสองคนเป็นครูผู้หญิงกับครูผู้ชาย แต่ตอนที่สวมครูทั้งสองเกี่ยงกัน ให้อีกคนสวมให้ ก็รู้สึกแล้วว่าอะไร
-----------------------------------------------------
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัดควนดินแดง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้ยินเสียงโหยหวนของผู้หญิงกลางดึก ต่างเชื่อเป็นวิญญาณถูกต้นตะเคียนทับ หลังโบสถ์ไม้พังช่วงพายุถล่ม เจ้าอาวาสวอนหน่วยงานเร่งฟื้นฟู...


20 ธ.ค. หลังจากมีเสียงร่ำลือในหมู่ชาวอ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า ที่วัดควนดินแดง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ในหมู่ 8 ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด ช่วงกลางดึก พระในวัดและชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด จะได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากในวัด เป็นที่น่าหวาดกลัว ทำให้ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าโบสถ์ของวัดพังทลาย ไม้ที่เป็นส่วนประกอบของโบสถ์ยังกองพะเนินอยู่ในเขตวัดเป็นจำนวนมาก

เกี่ยว กับเรื่องนี้ พระอธิการน้อย นันทสีโล อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสของวัด กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุดีเปรสชั่นพัดถล่มพื้นที่ภาคใต้ วัดควนดินแดงเป็นหนึ่งในพื้นที่ๆ ถูกลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้โบสถ์ที่ก่อสร้างใหม่และกำลังจะเสร็จ พังถล่มลงมาทั้งหลังอย่างที่เห็น โดยโบสถ์หลังนี้สร้างขึ้นใจกลางของวัด บริเวณที่เป็นที่ดินเนินสูงสุดของวัด และยกระดับพื้นขึ้นมา 50 เมตร ฐานเป็นคอนกรีตและอิฐ ตัวโบสถ์สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ส่วนประกอบเป็นไม้แกะสลักด้วยศิลปะศรีวิชัยทั้งหมด เป็นเรื่องแปลกที่เสาของโบสถ์ซึ่งเป็นไม้ตะเคียนต้นใหญ่ มีน้ำสีน้ำตาลหยดออกมาในช่วงกลางคืนด้วย

ส่วนกรณีที่ช่วงกลางคืน ชาวบ้านได้ยินเสียงโหยหวนดังมาจากวัดนั้น เจ้าอาวาสปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องของนานาจิตตัง และไม่อยากให้ผู้คนพุทธบริษัทไปเชื่อในเรื่องที่ไม่ใช่แนวทางคำสั่งสอนของ พระพุทธศาสนา แต่ยอมรับว่าพระในวัดและชาวบ้านหวาดหวั่นในเรื่องนี้

"สำหรับ วัดแห่งนี้ หลังประสบเหตุภัยธรรมชาติแล้ว มีเพียงเจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เข้ามาสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นเพียงครั้งเดียว โดยแจ้งกับทางวัดว่า อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายไม้และส่วนประกอบของโบสถ์ที่พัง เพราะจะเชิญผู้ใหญ่มาตรวจสอบและดำเนินการช่วยเหลือ แล้วก็เงียบหายไป หลังจากนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานนี้ และหน่วยอื่นใดที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล วัดจึงมีสภาพอย่างที่เห็น อยากจะเจริญพรถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม ช่วยเข้ามาดูแลด้วย และขอบอกบุญถึงพุทธบริษัทญาติโยมที่มีจิตกุศล เข้ามาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อกู้โบสถ์ และจัดการสร้างขึ้นมาใหม่ทดแทน เพื่อให้พระสงฆ์และสามเณร มีสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ รวมทั้งประชาชนมีสถานที่ปฏิบัติธรรมต่อไป" พระอธิการน้อย กล่าว

นอก จากนี้ พระอธิการน้อย ยังกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากวัดควนดินแดงแล้ว ยังมีวัดต่างๆ ในจ.นครศรีธรรมราช และจ.พัทลุง ที่ประสบเหตุอุทกภัยและวาตภัย ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทางราชการช่วยเหลือประชาชนอยู่ในขณะนี้ แต่คงลืมนึกถึงวัด สำนักสงฆ์ และสถานที่สำคัญทางศาสนาต่างๆ ที่ประสบภัยด้วย บางวัด โบสถ์พัง กุฏิพัง ห้องน้ำชำรุดเสียหาย พระเณรไม่มีห้องน้ำใช้ ไม่มีสถานที่สรงน้ำ จึงขอวิงวอนผ่านสื่อมวลชน ให้ช่วยเป็นสื่อกลาง แจ้งความเดือดร้อนของพระภิกษุสงฆ์ที่วัดประสบภัยและได้รับความเดือดร้อน ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือองค์กรที่มีจิตสาธารณะช่วยมาดูแล เพื่อทำนุบำรุงวัดและสำนักสงฆ์ ให้คงอยู่คู่พระพุทธศาสนาสืบไป

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสนทนากับเจ้าอาวาสแล้ว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่รอบๆ วัด หลายคนยืนยันว่าได้ยินเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิงในช่วงกลางคืน และไม่น่าจะเป็นเสียงร้องของคนธรรมดา แต่น่าจะเป็นภูตผีปีศาจ ซึ่งนางละเมียด หนูแช่มทอง อายุ 74 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัด เผยว่า ในช่วงที่ตนยังเป็นเด็ก สถานที่ตั้งโบสถ์ในอดีตเคยเป็นสุสานเก่าโบราณ ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงไปใช้สถานที่ด้านหลังทำเมรุและสุสาน ที่ดินตรงนี้นำมาใช้สร้างหอพระ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นการสร้างโบสถ์ อีกประการหนึ่ง ไม้ที่นำมาทำเสาโบสถ์ เป็นไม้ตะเคียนดึกดำบรรพ์ ก่อนนำมาใช้สร้างโบสถ์ ไม่แน่ใจว่ามีการทำพิธีบอกกล่าวหรือไม่ ชาวบ้านจึงร่ำลือกันไปต่างๆ นานา การที่โบสถ์ดังกล่าวพังลงมา อาจทับที่รวมวิญญาณคนตายมากมาย เมื่อยังไม่มีการนำเสาตะเคียนออกมา ก็อาจเป็นเรื่องที่วิญญาณถูกเสาทับไว้นาน จึงร้องโหยหวนช่วงกลางดึก เพราะเสาตะเคียนอาจไปทับเขา อาจไปทับสถานที่สิงสถิตย์ของเจ้าที่เจ้าทาง หรือจุดที่เป็นไสยศาสตร์โบราณ


ไทยรัฐออนไลน์


โดย ทีมข่าวภูมิภาค
20 ธันวาคม 2553, 16:54 น.


-----------------------------------------------------------

เณรโดนยักษ์สิงร่าง


-เรื่องวิญญาณสิงร่างคนยอมรับว่าตอนเป็นเด็กเคยเห็นและเห็นบ่อย เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็วิ่งไปดู ซึ่งก็จะเห็นคนที่ถูกสิงแสดงกิริยาอาการ ท่าทาง ตลอดจนคำพูดแปลกๆ ออกมา ซึ่งไม่ใช่ของคนที่กำลังถูกสิงร่าง

โดยเฉพาะคำพูดที่เปล่งออกมาบ่งบอกชัดเจน เพราะผู้ที่สิงร่างมีการบอกชื่อแซ่ของตนว่าเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน พร้อมบอกเหตุผลที่มาสิงร่างคนคนนั้นเมื่อถูกหมอธรรมถาม เป็นต้นว่าเพราะคนคนนั้นไปแสดงกิริยาอาการไม่ดีหรือลบหลู่ต่อเขา ต่อสถานที่ที่เขาสถิตอยู่ จึงต้องการสั่งสอน

ญาติผมเองก็เคยเจอกับปรากฏการณ์นี้มาแล้ว เพราะไปถางไม้บนจอมปลวกใหญ่พร้อมจุดไฟเผาไม้บนนั้น ทำให้เขาต้องเดือดดาลใจที่ไปทำลายที่อยู่ของเขา กว่าจะหายเป็นปกติก็เมื่อหมอธรรมแนะนำให้แต่งขันธ์ห้าขันธ์แปดพร้อมของเซ่นไปทำพิธีขอขมาคนที่ถูกสิง จึงหายกลับเป็นปกติดังเดิม

ในสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องแบบนี้และเกิดขึ้นที่วัด โดยเกิดขึ้นกับสามเณรรูปหนึ่งชื่อสานุสามเณร ซึ่งสามเณรรูปนี้เคร่งในศีลมาก ทุกวันจะตื่นแต่เช้าเพื่อตักน้ำใส่ตุ่ม เก็บกวาดโรงธรรม ตามประทีปแล้วประกาศเชิญคนมาฟังธรรม

คราวหนึ่งพระให้สามเณรขึ้นแสดงธรรมแก่ญาติโยม ปรากฏว่าสามเณรเทศน์อย่างจับใจ เทศน์จบก่อนลงก็จะพูดว่าอาตมาขอมอบส่วนบุญครั้งนี้ให้แก่โยมแม่ ซึ่งโยมแม่ที่สามเณรเอ่ยถึงนั้นเป็นแม่ในอดีตชาติที่ตอนนี้เกิดเป็นยักษิณี ซึ่งได้มาฟังธรรมของสามเณรพร้อมกับเหล่าเทวดาด้วย ซึ่งยักษิณีได้อนุโมทนาส่วนบุญที่สามเณรอุทิศให้ด้วย

สามเณรรูปนี้ได้เป็นที่รักของเหล่ามนุษย์และเทวดา โดยเฉพาะเทวดาให้ความเคารพมากพร้อมทั้งพลอยให้ความเคารพยักษิณีนั้นด้วย

ต่อมาเมื่อสามเณรโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเกิดอยากสึก แต่ไม่กล้าบอกใครแม้กระทั่งอุปัชฌาย์ ปล่อยตัว ไม่ยอมโกนผม ปล่อยเล็บมือเล็บเท้ายาว เก็บตัวเงียบ เมื่อรู้ตัวว่าไม่ไหวก็ไปหาโยมแม่ที่บ้าน เล่าความจริงให้ฟัง ซึ่งแม่ก็ไม่ขัดขวางพร้อมเอาชุดฆราวาสมาให้

แต่ขณะที่สามเณรกำลังดื่มยาคูไปพลางฉันอาหารไปพลางนั้น ยักษิณีแม่ในอดีตก็ตรวจดูด้วยความเป็นห่วงว่าได้ฉันอาหารหรือยัง ก็ทราบว่าสามเณรกำลังดื่มยาคูที่บ้าน และทราบด้วยความคิดว่าสามเณรกำลังอยากสึก แต่ตนไม่ประสงค์ให้สึกจึงคิดที่จะไปขวาง

ยักษิณีจึงไปขัดขวางด้วยการเข้าสิงร่างสามเณร ทำให้คอบิด ปากเบี้ยว หงายหลังตึงบนพื้น ดิ้นทุรนทุราย นัยน์ตาเหลือก น้ำลายไหล ฝ่ายแม่เห็นลูกเป็นอย่างนั้นก็ประคองพาดบนตัก ส่วนเพื่อนบ้านก็วิ่งมาดูต่างก็แน่ใจว่าสามเณรถูกผีสิงจึงช่วยทำพิธีขับไล่ผี




ฝ่ายโยมแม่กลัวลูกตายก็ได้ร้องไห้คร่ำครวญว่า “พระอรหันต์สอนไว้ซึ่งแม่ก็ได้ยินมาว่าคนใดที่ประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีลอุโบสถในวัน 8 ค่ำ 14 ค่ำ 15 ค่ำ ยักษ์ย่อมไม่เล่นกับคนนั้น แต่มาวันนี้ และเดี๋ยวนี้แม่เห็นว่ายักษ์ทั้งหลายกำลังเล่นอยู่กับสานุสามเณร”

นางยักษ์ฟังคำของแม่สามเณรก็ได้กล่าวตอบว่า คำสอนดังกล่าวที่ท่านได้ยินมาถูกต้องแล้ว จากนั้นก็กล่าวต่อไปว่า ขอสานุสามเณรอย่าได้ทำบาป ทั้งที่ลับที่แจ้ง ถ้าทำจักไม่มีทางพ้นทุกข์ จากนั้นก็ออกจากร่างสามเณร

สามเณรพอรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาเห็นโยมแม่ร้องไห้ คนมามุงดูเยอะก็สงสัย จึงถามโยมแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้รู้ความจริงสามเณรจึงไม่คิดที่จะสึกอีกเลย

จะเรียกว่าผีสิงหรือวิญญาณสิงหรือยักษ์สิงก็สุดแต่ แต่เรื่องแบบนี้มีจริงในโลกใบนี้


--------------------
ที่มา:โพสต์ทูเดย์

Create Date : 11 มกราคม 2554		1 comments
Last Update : 11 มกราคม 2554 22:21:09 น.
Counter : 1894 Pageviews.
Share Tweet