กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
ก่อนศึกษาพุทธธรรม
กรรมฐาน
จงกรม
หลักปฏิบัติ
สภาวธรรม
ลำดับญาณ,ทวนญาณ
ภาค ๑. มัชเฌนธรรมเทศนา
ภาค ๒. มัชฌิมาปฏิปทา
ภาค ๓. อารยธรรมวิถี
ภาษาธรรมวันละคำ
ปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
ข้อธัมม์ที่ถาม-เถียงกันบ่อย
บุญ
ผู้พิพากษาตั้งตุลา ใ ห้ สั ง ค ม ส ม ดุ ล
คติธรรมสั้นๆ
รู้เขา รู้เรา
พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน,
ความเป็นมาของการบวช
การทำวัตรสวดมนต์
ทำยังไงจึงจะมีอายุยืนและมีความสุข
พลังดันคน
ที่ทำงานของจิต
บรรลุธรรมอะไร?
พุทธปรัชญาในสุตตันตปิฎก
ธัมมาธิบาย
สวดมนต์
ความจน เ ป็ น ทุ ก ข์ ใ น โ ล ก
เรียนบาลีเพื่อรักษาพุทธพจน์
ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะพินาศ
หลักธรรมสำหรับผู้ยังไม่นับถือศาสนาใดๆ
วัฒนธรรมประเพณี
จาริกบุญ จารึกธรรม
สมาธิ,ฌาน
ถ้าศาสนาพุทธมีหลักธรรมดีจริง คงไม่สูญสิ้นจากถิ่นเดิม
ศีลกับเจตนารมณ์ทางสังคม
คุณค่าทางจริยธรรมของไตรลักษณ์
สติปัฏฐาน
ศีลสำหรับประชาชน
วิธีการแห่งศรัทธา (ปรโตโฆสะที่ดี)
วิธีการแห่งปัญญา (โยนิโสมนสิการ)
ทางดำเนินชีวิตสายกลาง
คุณสมบัติบุคคลโสดาบัน
กาม
ความสุข
อริยสัจ ๔
ธรรมฉันทะ - ตัณหาฉันทะ
กรรม
ฅนไทย ใช่กบเฒ่า ?
พระไทย ใช่เขาใช่เรา?
สมถะ,วิปัสสนา,เจโตวิมุตติ,ปัญญาวิมุตติ
อนัตตา
สมมุติบัญญัติ
ศีล-สีลัพพตปรามาส
นรก สวรรค์ ในพระไตรปิฎก
วันสำคัญของชาวพุทธไทย
วิธีฝึกหูทิพย์ ตาทิพย์
ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะ ศ.ประจำชาติ
ภาวะแห่งนิพพาน
ระดับของผู้บรรลุนิพพาน
ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน
อิทธิบาท ๔
รู้ทุกอย่างแต่ปล่อยวางไม่ได้
สติ,สติปัฏฐาน
ตถตา
อ่าน แล้ว คิดว่าเป็นนั่นเป็นนี่
ทำยังไงจะให้เชื่อเรื่องกรรม
<<
กุมภาพันธ์ 2567
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
14 กุมภาพันธ์ 2567
อิสรภาพของมนุษย์ จะได้ด้วยการศึกษาที่ถึงธรรม
พระพุทธเจ้ามา ประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
???
คิดปรุงแต่ง กับ คิดวิปัสสนา
พระพุทธเจ้าตรัสรู้เพราะโยนิโสมนสิการ
ประมูลอัญมณีที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
วิธีล้างบาป
ชาวพุทธต้องทำใจ
ถ้าเชื่อก็เป็นแม่ ถ้าไม่เชื่อก็เป็นสายธาร
เอกบุคคลที่เป็นมิจฉาทิฏฐิกับเอกบุคคลที่เป็นสัมมาทิฏฐิผู้เกิดมาในโลก
คนในอดีตบอกอะไรคนปัจจุบัน
ภาพรวมพุทธธรรม
คคห.ทูตอินเดียว่าธรรมะพระพุทธองค์สอดคล้องท้าทายยุคสมัย
ทำไมพุทธศาสนาหายไปจากอินเดีย
กำเนิดพุทธรูปัง
อารยธรรมอินเดีย
อริยสัจ ๔ หัวใจพุทธศาสนาหมายความว่าอะไร
อปุญญาภิสังขาร VS ปุญญาภิสังขาร
อินโดฯ จัดยิ่งใหญ่
ดินแดนที่ตกอยู่ในความวุ่นวาย
หมายเหตุ
ทีนี้ มองดูเกาะใหญ่ ถัดลงไปทางใต้
มะละกาลับหาย สุมาตรา-ชวา เฟื่องฟูขึ้นมาใหม่
มะละกา ที่แดนมาเลเซียขึ้นมาเป็นใหญ่เหนือ ชวา
มุสลิมอินโดฯ
ชวา ขึ้นมาล้ำ สุมาตรา
มลายู ขยายจากสุมาตรา ขึ้นยังมาเลเซีย
อิสลาม เริ่มเข้าที่ สุมาตรา
อินโดนีเซีย: ที่สุมาตรา ย้อนไปถึง ศรีวิชัย
???
อินโดจีน ส่วนล่างกับอดีตเด่นดังที่ ลังกาสุกะ
อินโดจีน ย้อนอดีตถึง ทวารวดี
จีน- อินเดีย แล้วเกิดมี อินโดจีน - อินโดนีเซีย
ภาคผนวก
คู่ต่างคู่เติม เสริมความรู้ธรรมให้เต็ม
พุทธในอินเดียแต่ละยุคๆ
ทัพมุสลิมเตอร์ก เก็บฉาก
ปุษยมิตร - มิหิรกุละ - ศาศางกะ ทำลายพุทธในระหว่าง
ศิวะอวตาร
นารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้า
เรื่องเกี่ยวกับโพธิสัตว์
ต้นโพธิ์ พระสถูป พระพุทธรูป
ย้ำอีกที
พระรัตนตรัย:สื่อเชื่อมต่อ และส่งเข้าสู่ทาง
ดูข้างเคียงให้ทั่ว จะเห็นของตัวว่าเป็นอย่างไร
ย้ำ
วัดถ้ำ: พุทธ เชน ฮินดู เปลือกดูคล้าย
เค้าอวสานแห่งพุทธศาสนา
ฮินดูฟื้น พุทธศาสนาสลบ
พุทธศาสนาประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
วัดกับถ้ำ
หลังพุทธกาล คามวาสี-อรัญญวาสี จึงมี
ถ้ำกับชีวิตของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
อชันตา เอลโลรา
๑๑. รักษาธรรม คือรักษาความเป็นไท
ระบบสัมพันธ์ของธรรม
รู้ทุกข์จึงดับทุกข์ได้ไม่ใช่รู้ทุกข์ไป แล้วกลายเป็นทุกข์
เศรษฐกิจจะพอดี เมื่อมันทำหน้าที่เป็นปัจจัย
ปัญญา
สัญญา
ผู้ปล่อยวางได้ แต่ไม่ปล่อยปละละเลย
ความไม่ยึดมั่นถือมั่นที่แท้ อีกที
ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูจากคติพระอรหันต์
สมมุติ,บัญญัติ
ธรรมกับวินัยเสริมกัน
วินัยเป็นบรรทัดฐานแห่งพฤติกรรมที่ถูกต้องตามธรรม
วินัย
ดูหัวข้อนี้ให้ชัด
ธรรมที่ตรัสไว้ต่างชุด ดุจเครื่องมือที่ใช้กับต่างงาน
ดุลยภาพในระบบความสัมพันธ์ของธรรม
ความเชื่ออีกแนวหนึ่ง
ความไม่ประมาท ช่วยปรับให้พอดี จึงเป็นทางสายกลาง
สติมา ปัญญาเกิด
มองอินเดียกับฝรั่ง ให้เห็นความแตกต่างที่เป็นคติแก่ไทย
บทบาทหน้าที่ของสติ กับ ปัญญา
ระบบทุกข์ภัยประดิษฐ์ ดีกว่าปล่อยให้มักง่าย
เรียบง่าย แต่ระวัง อย่าให้กลายเป็นมักง่าย
ความประมาท ความไม่ประมาท เป็นไฉน
ผู้ไม่ประมาทใช้ประโยชน์จากอนิจจัง
มนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญต่อความเสื่อมความเจริญ
ความไม่ประมาท คือความสามารถที่จะไม่เสื่อม
๑๐ ทางสายกลาง เพื่อชีวิตสังคมที่สุขสมบูรณ์
???
ธรรมานุธรรมปฏิบัติ
สันโดษ ไม่สันโดษ ดีไม่ดี
ได้ดุลพอดี ที่เป็นลักษณะทางสายกลาง
ปัญญา ชี้นำเข้ามาและเดินหน้าในทางสายกลาง
อธิษฐานจิต
ใช้เวลาสักนิด กับ เรื่องภวังคจิต
ไสย์ กับ พุทธ
???
สมาธิมีประโยชน์มากมาย ต้องใช้ให้คุ้มและให้ครบ
อย่าทิ้งความคิดปรุงแต่งทันที ปรุงแต่งดีได้ถึงฌานสมาบัติ
พระพุทธศาสนากับเพลง
จะอาศัยสิ่งกล่อมหรือจะใช้วิริยะและปัญญา
อิสรภาพของมนุษย์ จะได้ด้วยการศึกษาที่ถึงธรรม
พระพุทธเจ้ามา ประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
???
คิดปรุงแต่ง กับ คิดวิปัสสนา
พระพุทธเจ้าตรัสรู้เพราะโยนิโสมนสิการ
มีโยนิโสมนสิการ เรื่องร้ายก็กลายเป็นดี
รูปกาย ธรรมกาย ปรากฏและเป็นไป ที่สังเวชนียสถาน ๔
๙. ที่ประกาศอิสรภาพของมนุษย์ (คติจากสังเวชนียสถาน)
มุสลีมะอินโด ฯ
ปฏิบัติธรรมก้าวหน้าไป นามกายเจริญเอง
โปรยธรรมบนเส้นทางสู่ที่ปรินิพพาน
เส้นทางพุทธกิจ: พุทธคยา ถึง กุสินารา
๘. ถ้าสังเวชเป็น ก็จะได้เห็นธรรมกาย
มุสลิมเตอร์ก มุสลิมมองโกล รุ่งแล้วเลือนลับ
จากยุคมุสลิมอาหรับ เข้าสู่ยุคมุสลิมเตอร์ก
สุหนี่นำอิสลามครองสะเปน จ่อแดนจีน
ชีอะฮ์ แ ย ก อ อ ก ม า
อิสลามแผ่ไพศาล
อิสลามรวมอาหรับ
เมตตาที่มีปัญญา จึงพาโลกสู่สันติสุขได้
???
๗. รักษาแผ่นดินไทย ให้เป็นแผ่นดินธรรม
๖. จุดเริ่มของแผ่นดินธรรม
ถ้าคนประสานกับธรรม ก็มีทางแก้ปัญหาชีวิตและสังคม
พุทธะโยงเราเข้าถึงธรรม
พระรัตนตรัย ต้องรู้จักใช้ให้เป็นสรณะ
มนุษย์ประเสริฐเพราะเป็นสัตว์ที่ฝึกได้
จากเทพสู่ธรรม จากธรรมสู่กรรม
พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว จะประกาศธรรมแสนยาก
ย้ำ
รู้ธรรม คือรู้เรื่องธรรมดา
๕. โพธิพฤกษ์ โพธิญาณ
มหาวิทยาลัยสงฆ์มีไว้ทำไม
ขัดแย้งกันที่แดนสวรรค์
๕ แคว้น ที่ยิ่งใหญ่
ย้ำอุเบกขา
มาฆบูชา พัฒนาความรักแห่งวาเลนไทน์
ให้รักกับรู้ มาเข้าคู่ดูแลกัน
มนุษย์กับมนุษย์รักกัน แต่มนุษย์ต้องอยู่ให้ดีกับธรรม
ถึงความรักจะดี ก็ไม่พอ
มาฆบูชา กับ วาเลนไทน์
ละชั่ว ทําดียังไม่พอ ต้องต่อด้วย
หัวใจเดียว แต่มีสี่ห้อง
มาฆบูชาขึ้นมาเป็นวันสําคัญในพระพุทธศาสนา
สาระของโอวาทปาติโมกข์
มาฆบูชา กับ หัวใจพระพุทธศาสนา
ราชคฤห์ ศูนย์อํานาจการเมือง
๔. หัวใจธรรม จากจุดศูนย์กลาง
พระพุทธศาสนาในมือของพุทธบริษัท
ร่องรอยที่เหลือ และเค้าการฟื้นฟูหลังหมดสิ้น
อวสานมาถึง เมื่อทัพมุสลิมเตอร์กลงดาบสุดท้าย
เทียบ ปทท.
นาลันทากับความเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนา
วัดพุทธ ต้นกําเนิดมหาวิทยาลัยของโลก
๓. ความยิ่งใหญ่ ที่ทำให้ทั้งเจริญและเสื่อม
???
เอาธรรมไปเป็นหลักประกันชีวิตและสังคมไว้
ธรรมเป็นอิสระจากคน คนถึงธรรมเป็นอิสระจากสังขาร
ศรัทธากับปัญญา นำเข้าเฝ้าพระพุทธเจ่า
๒. เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับ
ราชสังคหวัตถุ ๔
หลักธรรมที่อโศกราชาใช้ปกครองบ้านเมือง
อโศกราชากล้าหาญในทางสันติ
เทียบกันแล้ว สรุปได้
ดูพุทธพจน์แล้ว อ่านธรรมโองการเทียบ
อโศกธรรม หรือ คหัฐวินัย
ธรรมวิชัย:หลักการใหญ่ที่นําเข้าสู่พุทธธรรม
อโศกมหาราช อโศกธรรม
ศิลาจารึกอโศก เป็นของพระเจ้าอโศกมหาราชแน่หรือ
ทรัพย์และอํานาจ สู่ความหมายและคุณค่าใหม่
ธรรมวิชัย
ไม่ประมาท ก็ไม่เสื่อม
วัดพระราม
ชมพูทวีปในพุทธกาล
สังเวชนียสถาน ๔
๑. ย้อนทางเข้าสู่แดนพุทธภูมิ
พระพุทธเจ้ามา ประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
พระพุทธเจ้าเสด็จมา ประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
ขอย้อนกลับมาสู่เรื่องการ
ตรัสรู้
ของพระพุทธเจ้า คือการเข้าถึง
สัจธรรม
ความจริง ดังที่ได้เคยพูดไปแล้วว่า ในพระพุทธศาสนานี้ เราถือ
ธรรม
เป็นใหญ่
การที่
พระพุทธเจ้าตรัสรู้นี้ ตรัสรู้อะไร
ได้บอกแล้วว่าตรัสรู้ความจริงที่มีอยู่ตามธรรมดา คือธรรม ซึ่งเป็นความจริงของสิ่งทั้งหลายตามธรรมชาติเป็นกฎธรรมชาติ
พระพุทธเจ้าจะเกิดขึ้น
หรือ
ไม่เกิดขึ้น ความจริงของสิ่งทั้งหลายก็ดำรงอยู่อย่างนั้นเอง
พระพุทธเจ้าของเรานี้ พระองค์มีปัญญา ทรงค้นพบความจริงนั้นแล้ว ก็มาประกาศทำให้ปรากฏขึ้น
การค้นพบและประกาศธรรมคือความจริงนี้ ถือเป็นการปฏิวัติ เป็นการปฏิวัติทางความคิด การปฏิวัติทางความเชื่อ หรือการปฏิวัติทางปัญญา ซึ่งเป็นการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ทั้งนี้เพราะว่า โลกสมัยก่อน
ตามความเชื่อถือของคนในยุคพุทธกาล ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นนั้น ไม่ได้ถืออย่างนี้ เขาไม่ได้ถือธรรม เขาไม่ได้ถือว่าสิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่เป็นกฎธรรมชาติตามธรรมดาของมัน แต่เขาถือว่ามันเป็นไปตามการดลบันดาลของเทพเจ้า มีเทพเจ้าอยู่เบื้องหลัง มี
พระพรหม
เป็นผู้สร้างผู้ปรุงแต่ง
เรื่องการตรัสรู้นี้ ก็เลยโยงมาหาเรื่องการประสูติด้วย เรื่องการประสูติกับการตรัสรู้นี้มีความเกี่ยวเนื่องกันในตอนนี้ด้วย จึงขอพูดย้อนมาที่การประสูติอีกครั้งหนึ่ง วันนี้จะพูดโยงกันไปโยงกันมา เรื่องประสูติบ้าง เรื่องตรัสรู้บ้าง ถ้ามีเวลาก็พูดไปถึงเรื่องการประกาศปฐมเทศนาและปรินิพพาน
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ
ประสูติ
นั้น มีเหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่ง ตำนานเล่าว่า เจ้าชายสิทธัตถะองค์น้อยประสูติแล้ว ก็ดำเนินไปเจ็ดก้าวบนดอกบัว แล้วก็ได้เปล่งอาสภิวาจาว่า
อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส.
แปลว่า: เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นพี่ใหญ่แห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดแห่งโลก
อันนี้เรียกว่าวาจาอาจหาญ ภาษาบาลีเรียกว่า
อาสภิวาจา
วาจานี้ มีความหมายอย่างไร
การประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ หมายถึง การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าที่จะมีตามมา ถ้าไม่มีเจ้าชายสิทธัตถะเกิดขึ้น ก็ไม่มีพระพุทธเจ้า การเกิดขึ้นของเจ้าชายสิทธัตถะนี้คือการเกิดมาเป็นมนุษย์ และมนุษย์ผู้นี้จะได้เป็นพระพุทธเจ้า การเปล่งอาสภิวาจานี้ มีความหมายที่ถือว่า เป็น
การประกาศอิสรภาพของมนุษย์
ทำไมจึงว่า การประสูติเป็นการประกาศอิสรภาพของมนุษย์ เพราะว่าก่อนหน้านี้ มนุษย์ชาวชมพูทวีปนั้น ฝากโชคชะตาชีวิตไว้กับพระพรหม และเทพเจ้าทั้งหลาย ชาวอินเดียทั้งหลายเชื่อในพระพรหมว่า เป็นผู้สร้างโลก ปรุงแต่งทุกสิ่งทุกอย่าง
ชีวิตและสังคมมนุษย์จะเป็นอย่างไร แล้วแต่พระพรหมจะบันดาล เพราะฉะนั้น คนเกิดมาก็ต้องเข้าอยู่ในวรรณะ ๔ ทันที เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้า คือพระพรหมทรงจัดสรรสังคมมนุษย์ไว้เสร็จแล้ว
พระพรหม
นั้น ทรงจัดแบ่งมนุษย์ไว้เป็น ๔ พวก เรียกว่า วรรณะ ๔ คือ
พระองค์
สร้างมนุษย์
จำพวกหนึ่งขึ้นมาจากพระ
โอษฐ์
คือ
ปาก
ของพระองค์ มนุษย์จำพวกนี้เกิดมา เรียกว่า
พราหมณ์
แล้วพระองค์ก็สร้างมนุษย์อีกจำพวกหนึ่งขึ้นมาจาก
พระ
พาหา
คือ
แขน
ของพระองค์ พวกนี้เกิดมาแล้วเป็น
นักรบนักปกครอง
เรียกว่า
กษัตริย์
ต่อนั้น พระองค์ก็สร้างมนุษย์อีกจำพวกหนึ่งขึ้นมาจาก
ตะโพก
ของพระองค์ พวกนี้
เดินทางเก่ง
มาเป็น
พ่อค้าพาณิช
เที่ยวนำกองเกวียนไปค้าขายในที่ต่างๆ เรียกว่า
วรรณะแพศย์
ท้ายสุด พระองค์ก็สร้างมนุษย์จำพวกที่สี่ขึ้นมาจาก
พระบาท
ของพระองค์ เกิดมาเป็นพวกรับใช้เขา เรียกว่า
วรรณะศูทร
พระผู้เป็นเจ้าสร้างมาเสร็จหมด ทรงกำหนดให้คนเกิดมาต้องอยู่ในวรรณะ ๔ เหล่านี้ จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ใครเกิดมาในวรรณะไหน ก็ต้องอยู่ในวรรณะนั้น และอยู่ใต้กฎเกณฑ์ประจำวรรณะนั้นไปตลอดชีวิต
นอกจากนั้น เมื่อเกิดมาแล้ว
ทุกคนก็ต้องอ้อนวอนเทพเจ้า บวงสรวง เซ่นไหว้ ขอร้อง เอาอกเอาใจให้เทพเจ้าช่วยเหลือ ให้พ้นภัยหรือให้ได้ลาภผลที่ต้องการ ดังนั้น คนทั้งหลาย ก็เอาใจเทพเจ้า ด้วยการทำพิธีบวงสรวงอ้อนวอนกันไป
แต่จะทำอย่างไรให้เทพเจ้าพอใจ มันไม่มีจุดกำหนดว่าแค่ไหนเทพเจ้าจะพอใจ ก็เลยปรุงแต่งวิธีเอาอกเอาใจเทพเจ้ากันไปกันมา กลายเป็นพิธี
บูชายัญ
มากมาย และบูชากันไปกันมา พิธีบูชายัญก็ใหญ่โตขึ้นๆ
พราหมณ์นี่ เขาเป็นเจ้าพิธี เขาถือว่าเขาเป็นผู้ติดต่อกับพระเจ้า เพราะว่าเป็นบุคคลพิเศษชั้นสูงสุด สร้างมาจากปากของพระพรหม เขามีหน้าที่
สื่อสารระหว่างพระเจ้า
กับมนุษย์และพระเจ้าก็ให้เขามีอำนาจ ที่จะกล่าวสอนคนอื่น แล้วพระพรหมก็ถ่ายทอดความรู้ความต้องการของพระองค์มาทางพวกพราหมณ์นี้
พราหมณ์พวกนี้ก็มาเที่ยวกำหนดให้ชาวบ้านทำพิธีต่างๆ ว่าจะต้องทำพิธีบูชายัญอย่างนั้นอย่างนี้ ประดิษฐ์ประดอยพิธีบูชายัญ จนกระทั่งในที่สุดถึงกับฆ่าสัตว์ฆ่ามนุษย์บูชายัญ เอาอกเอาใจกันขนาดนั้น
นี่เป็นสภาพของมนุษย์ในยุคพุทธกาล ที่เป็นไปตามอำนาจครอบงำของศาสนาพราหมณ์ซึ่งมีอิทธิพลในสังคมอินเดียมาจนกระทั่งบัดนี้
อินเดียเป็นสังคม
ที่มอบความไว้วางใจไว้กับเทพเจ้า ฝากความหวังไว้กับการดลบันดาลของเทพเจ้า สังคมที่หวังพึ่งเทพเจ้าจะเป็นอย่างไร ก็ให้ดูสังคมอินเดียเป็นตัวอย่าง
พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมา ทรงมองเห็นสภาพอย่างนี้ พระองค์ทรงเห็นว่า สังคมอย่างนี้ไปไม่รอด และชีวิตก็ไปไม่รอด คือผู้คนมองออกไปแต่ข้างนอก คิดแต่ว่า เอ ... พระเจ้าท่านจะว่าอย่างไร เราจะเอาอกเอาใจท่านอย่างไรดี
แทนที่จะคิดว่า
ตัวเรา
จะต้องทำอะไร และ
เรา
จะต้องทำอะไรกับตัวเรา สองอย่างนี้ คนไม่คิดเลย
เมื่อต้องการอะไร ก็คิดแต่เพียงว่า เราจะไปหาเทพเจ้าองค์ไหน เราจะไปเอาใจพระเจ้าอย่างไร เราจะขอท่านอย่างไร
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมา อย่างที่ได้เคยเล่าให้ฟังแล้ว พระองค์ก็ทรง
ดึงจากเทพสู่ธรรม
คือ ชี้ให้มนุษย์ดูว่า นี่นะท่านทั้งหลาย อย่ามัวไปมองข้างนอก อย่ามัวแต่มองไปที่เทพเจ้า สิ่งทั้งหลายนั้นมันเป็นไปตามธรรมดา คือ เหตุปัจจัยของมัน
ผลเกิดจากเหตุ
ถ้าเราต้องการ
ผล
อะไร เราก็
ทำเหตุ
เอา โดย
ศึกษาเหตุให้เข้าใจ
แล้วก็
ปฏิบัติตามเหตุ
นั้น ให้ดูที่ความจริง
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 19 เมษายน 2568 15:31:49 น.
0 comments
Counter : 311 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
Bloggang.com