กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
มกราคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
31 มกราคม 2567
space
space
space

ดูพุทธพจน์แล้ว อ่านธรรมโองการเทียบ



235 ดูพุทธพจน์แล้ว อ่านธรรมโองการเทียบ


     เห็นได้ชัดว่า ธรรมในศิลาจารึกอโศก ส่วนใหญ่และที่กล่าวถึงบ่อย เป็นเรื่องของการปฏิบัติชอบต่อกัน หรือต่อบุคคลประเภทต่างๆ ที่แต่ละคนควรดูแลรับผิดชอบหรือช่วยเหลือกัน ซึ่งใกล้เคียงกันมากกับพระสูตรที่ยกมาให้ดูแล้ว จึงขอยกข้อความในศิลาจารึกนั้นมาให้ดูบ้าง


     ขอเริ่มด้วยจารึกหลักศิลา ฉบับที่ ๗ ซึ่งตรัสเล่าความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการทำศิลาจารึกประกาศธรรมไว้ด้วยอันเป็นเรื่องที่น่ารู้

       ๑. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวย เทพ ตรัสไว้ ดังนี้:-

       ตลอดกาลยาวนานล่วงมาแล้ว ได้มีพระราชาหลายองค์ทรงปรารถนาว่า ทําไฉนประชาชนทั้งหลายจะพึงเจริญก้าวหน้าด้วยความเจริญทางธรรม  แต่ประชาชนก็หาได้เจริญก้าวหน้าขึ้นด้วยความเจริญทางธรรมตามสมควรไม่…ก็แลด้วยอุบายวิธีอันใดหนอ ประชาชนทั้งหลายจะพึงประพฤติปฏิบัติตาม…

       ๓. ในเรื่องนี้  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสไว้ ดังนี้:-

       ข้าฯ ได้เกิดมีความคิดขึ้นว่า ข้าฯ  จักจัดให้มีการประกาศธรรม ข้าฯ จักจัดให้มีการอบรมสั่งสอนธรรม ประชาชนทั้งหลาย ครั้นได้สดับธรรมนี้แล้ว ก็จักพากันประพฤติปฏิบัติตาม จักยกระดับตนเองสูงขึ้น และจักมีความเจริญก้าวหน้า ขึ้นด้วยความเจริญทางธรรมอย่างมั่นคง

       เพื่อประโยชน์นี้ ข้าฯ จึงจัดให้มีการประกาศธรรม และสั่งให้มีการอบรมสั่งสอนธรรมขึ้นเป็นหลายแบบหลายอย่าง  เพื่อให้ข้าราชการทั้งหลายที่ ข้าฯ ได้แต่งตั้งไว้ดูแลประชาชนจํานวนมาก จักได้ช่วยกันแนะนําสั่งสอนบ้าง ช่วยอธิบายขยายความให้แจ่มแจ้งออกไปบ้าง  แม้เจ้าหน้าที่รัชชูกะ ข้าฯ ก็ได้แต่งตั้งไว้ดูแลชีวิตหลายแสนชีวิต เจ้าหน้าที่รัชชูกะเหล่านั้น ก็ได้รับคําสั่งจาก ข้าฯ ว่า ท่านทั้งหลายจงอบรมสั่งสอนประชาชนให้เป็นผู้ประกอบด้วยธรรมอย่างนี้ๆ


      ๔. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสไว้ว่า:-

     เมื่อได้พิจารณาใครครวญในเรื่องนโดยถ่องแท้แล้วนั่นแล ข้าฯ  จึงให้ประดิษฐานหลักศิลาจารึกธรรมขึ้นไว้ แต่งตั้งธรรมมหาอํามาตย์ขึ้นไว้และจัดให้มีการประกาศธรรม

      ๕. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสไว้ ดังนี้:-

    แม้ตามถนนหนทาง  ข้าฯ ก็ได้ให้ปลูกต้นไทรขึ้นไว้เพื่อจักได้เป็นร่มเงาให้แก่สัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย ให้ปลูกสวนมะม่วง ให้ขุดบ่อน้ำไว้ทุกระยะกึ่งโกรศะ* ให้สร้างที่พักคนเดินทางขึ้นไว้ และให้สร้างอ่างเก็บน้ำจํานวนมากมายขึ้นไว้ในที่ต่างๆ เพื่อการใช้สอยแห่งสัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย

    แต่การใช้ประโยชน์เช่นนี้ยังจัดว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย  พระราชาทั้งหลายในกาลก่อนก็ดี ตัวข้าฯ ก็ดี ต่างก็ได้บํารุงประชาชนทั้งหลายให้มีความสุขด้วยวิธีการบํารุงสุขประการต่างๆ แต่ที่ข้า ฯ ได้ กระทําการเช่นนี้ก็ด้วยความมุ่งหมายข้อนี้ คือ เพื่อให้ประชาชนทั้งหลายประพฤติปฏิบัติตามธรรม…

      ๘. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสไว้ ดังนี้

    กรรมดีใดๆก็ตาม ที่ข้าฯ ได้กระทําแล้ว ประชาชนทั้งหลายก็ได้พากันประพฤติปฏิบัติกรรมดีนั้นๆ ตามอย่างแล้ว และยังคงดําเนินตามกรรมดีนั้นๆ อยู่ต่อไป ด้วยการกระทำเช่นนั้น ประชาชนทั้งหลายก็ได้มีความเจริญงอกงามขึ้นแล้ว และยังจักเจริญงอกงามยิ่งๆ ขึ้นไปอีกด้วย: 

     - การเชื่อฟังมารดาบิดา

     - การเชื่อฟังครูทั้งหลาย

     - การปฏิบัติชอบต่อท่านผู้เฒ่าชรา

     - การปฏิบัติชอบต่อพราหมณ์และสมณะ

     - (การปฏิบัติชอบ) ต่อคนยากจน และคนตกทุกข์

     - ตลอดถึงคนรับใช้ และคนงานทั้งหลาย


     จารึกศิลา ฉบับที่ ๓ ระบุธรรมที่พึงเผยแพร่ ดังนี้

     สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศี  ผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสไว้ดังนี้

     ข้า ฯ เมื่ออภิเษกแล้วได้ ๑๒ ปี ได้สั่งประกาศความข้อนี้ไว้ว่า ทุกหนทุกแห่งในแว่นแคว้นของข้าฯ เจ้าหน้าที่ยุกตะ เจ้าหน้าที่รัชชูกะ และเจ้าหน้าที่ปราเทศิกะ จงออกเดินทาง (ตรวจตรา) ทุกๆ ๕ ปีเพื่อประโยชน์อันนี้ คือ เพื่อการสั่งสอนธรรมนี้  พร้อมไปกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ อย่างอื่น

     (เจ้าหน้าที่เหล่านั้นพึงสั่งสอน) ว่า

    - การเชื่อฟังมารดาบิดา เป็นความดี

     - การให้ปันแก่มิตรสหาย ญาติ แก่พราหมณ์ และสมณะ เป็นความดี

     - การไม่ฆ่าสัตว์เป็นความดี

     - การประหยัดใช้จ่ายแต่น้อย  การสะสมแต่น้อย  (เลี้ยงชีวิตแต่พอดี ?)  เป็นความดี


     จารึกศิลา ฉบับที่ ๙ กล่าวถึงธรรมที่พึงปฏิบัติดังนี้

     สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสว่า ประชาชนทั้งหลาย ย่อมประกอบพิธีมงคลต่างๆ เป็นอันมาก…อันเป็นเรื่องหยุมหยิมไร้สาระ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์…โดยนัยตรงข้าม ยังมีพิธีกรรมที่เรียกว่าธรรมมงคล ซึ่งเป็นพิธิกรรมมีผลมาก ในธรรมมงคลนั้น ย่อมมีกิจต่อไปนี้ คือ

     - การปฏิบัติชอบต่อคนรับใช้และคนงาน

     - การแสดงความเคารพนับถือต่อครูอาจารย์

     - การสํารวมตนต่อสัตว์ทั้งหลาย

     - การถวายทานแก่สมณพราหมณ์ 

     ในจารึกศิลา ฉบับที่ ๑๑ นอกจากธรรมปฏิบัติที่คล้ายกับในจารึกอื่นแล้ว มีข้อพึงสังเกตพิเศษ คือเรื่องธรรมทาน และการบูชายัญ ที่จะพูดถึงเพิ่มเติมอีกข้างหน้า ดังนี้

     สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพตรัสไว้ ดังนี้

     ไม่มีทานใดเสมอด้วยการให้ธรรม (ธรรมทาน) การแจกจ่ายธรรม (ธรรมสังวิภาค) และความสัมพันธักันโดยธรรม (ธรรมสัมพันธ์) อาศัยธรรม (ธรรมทาน เป็นต้น) นี้ ย่อมบังเกิดมีสิ่งต่อไปนี้คือ

     - การปฏิบัติชอบต่อคนรับใช้ และคนงาน

     - การเชื่อฟังมารดาบิดา

     - การเผื่อแผ่แบ่งปันแก่มิตร คนคุ้นเคย ญาติ และแก่สมณพราหมณ์

     - การไม่ฆ่าสัตว์เพื่อบูชายัญ

     บิดาก็ดี  บุตรก็ดี  พี่น้องชายก็ดี  นาย (หรือสามี) ก็ดี มิตรและคนคุ้นเคยก็ดี ตลอดถึงเพื่อนบ้าน พึงกล่าวคํานี้ (แก่กัน) ว่า 'นี่เป็นสิ่งดีงามแท้  นี่เป็นกิจควรทํา'

     บุคคลผู้ปฏิบัติเช่นนี้ ย่อมทําความสุขในโลกนี้ให้สําเร็จด้วย และในโลกเบื้องหน้า ย่อมประสพบุญหาที่สุดมิได้เพราะอาศัยธรรมทานนั้นด้วย.

     ธรรมแบบที่เป็นหัวข้อนามธรรม คือเป็นตัวคุณธรรม พบในจารึก เพียง ๒ แห่ง คือจารึกหลักศิลา ฉบับที่ ๒ ดังนี้

     สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพตรัสไว้ ดังนี้ :

     - ธรรมเป็นสิ่งดีงาม ก็สิ่งใดเล่าชื่อว่าธรรม ธรรมนั้น ได้แก่สิ่งต่อไปนี้คือ

     - การมีความเสียหายน้อย (อัปปาทีนวะ?)

     - การมีความดีมาก (พหุกัลยาณะ)

     - ความเมตตา กรุณา  (ทยา)

     - การเผื่อแผ่แบ่งปัน  (ทาน)

     - ความสัตย์  (สัจจะ)

     - ความสะอาด  (โสไจย)

     อีกแห่งหนึ่งที่พบธรรมแบบที่เป็นหัวข้อนามธรรม คือเป็นตัวคุณ ธรรม ได้แก่จารึกหลักศิลา ฉบับที่ ๗ ดังนี้

     ๗. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพ ตรัสไว้ ดังนี้

     เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เหล่านี้และพวกอื่นๆ อีกจํานวนมาก ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ทําการจําแนกแจกทาน ทั้งในนามของ ข้าฯ เอง และในนามแห่งพระราชเทวีทั้งหลาย ทั่วทุกฝ่ายในของข้าฯ  เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เหล่านี้  สามารถจัดดําเนินการในกิจต่างๆ ที่มุ่งหมาย จนเป็นที่น่าพอใจได้ด้วยวิธีการมากหลาย ทั้งใน (พระนครหลวง) นี้  และในส่วนต่างๆ (ของประเทศ)


     อนึ่ง ในส่วนแห่งโอรสของข้า ฯ และเจ้าชายอื่นๆ ซึ่งประสูติแต่พระราชเทวีทั้งหลาย ข้าฯ ก็ได้สั่งให้กระทําการ (จําแนกแจกทาน) เช่นนี้  โอรสของข้าฯ เหล่านี้  จักเป็นผู้ฝักใฝ่ในการจําแนกแจกทาน อันจะเป็นการช่วยส่งเสริมหลักการทางธรรม และการประพฤติปฏิบัติตามธรรม หลักการทางธรรม และการประพฤติปฏิบัติตาม ธรรมเหล่านี้ กล่าวคือ

     - ความเมตตา กรุณา (ทยา)

     - การเผื่อแผ่แบ่งปัน (ทาน)

     - ความสัตย์ (สัจจะ)

     - ความสะอาด  (โสไจย)

     - ความสุภาพอ่อนโยน  (มัททวะ)

     - ความเป็นสาธุชน (สาธวะ)

     จะพึงเจริญเพิ่มพูนขึ้นในหมู่ประชาชน

     ส่วนอีกแห่งหนึ่ง ไม่ใช่เป็นหัวข้อธรรมหรือคุณธรรมที่จะสอนโดยตรง แต่กระตุ้นเตือนให้ตระหนักว่า การที่จะทำให้สำเร็จตามจุดหมายที่ตั้งไว้นั้น จะต้องทําตัวหรือปฏิบัติตนอย่างไร ได้แก่ จารึกหลักศิลา ฉบับที่ ๑ ซึ่งมีข้อความดังนี้

     สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปริยทรรศีผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพตรัสไว้ ดังนี้:-

     ธรรมโองการนี้ ข้าฯ ได้ให้จารึกขึ้นไว้  เมื่ออภิเษกแล้วได้  ๒๖ พรรษา ประโยชน์ในโลกนี้และโลกหน้า เป็นสิ่งที่จะพึงปฏิบัติให้สําเร็จได้โดยยาก หากปราศจาก


     - ความเป็นผู้ใคร่ธรรมอย่างยิ่งยวด   (อัคค-ธัมมกามตา)

     - การใช้ปัญญาไตร่ตรองอย่างยิ่งยวด  (อัคค-ปริกขา)

     - การตั้งใจฟังคําสั่งสอนอย่างยิ่งยวด  (อัคค-สุสสูสา)

     - ความเกรงกลัว (ต่อบาป) อย่างยิ่งยวด  (อัคค-ภยะ)

     - ความอุตสาหะอย่างยิ่งยวด  (อัคค-อุสสาหะ) *

         บัดนี้   ด้วยอาศัยคำสั่งสอนของข้าฯ  ความมุ่งหวังทางธรรม และความฝักใฝ่ใคร่ธรรม ได้เจริญงอกงามขึ้นแล้วทุกๆวัน  และจักเจริญงอกงามยิ่งขึ้นเรื่อยไป.



คำศัพท์ในวงเล็บทั้งหมดนี้ พึงทราบว่า ไมใช่รูปเดิมในศิลาจารึก แตเป็นการถอดรูปออกมาและ เขียนเทียบเป็นคำภาษาบาลีเพื่อให้ได้ประโยชน์ในการศึกษามากขึ้น  (เช่น ข้อ ๒ ที่ถอดเป็น “อัคค-ปรกขา” นั้น คำในจารึกเป็น   “อคาย ปลีขาย”)  แต่ที่นี่ มิใช่โอกาสที่จะอธิบายมากกว่านี้
 




 

Create Date : 31 มกราคม 2567
0 comments
Last Update : 31 มกราคม 2567 15:42:39 น.
Counter : 188 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space