Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

ม้าฮ้อ....มังกรคาบแก้ว.. เมี่ยงเห็ด 3 อย่าง

เห็นชื่อเมนูวันนี้ผู้อ่านหลายท่านอาจสงสัยว่าอะไรน่ะ แม่ผมทำอาหารอะไร หรือนึกยังไงถึงได้ตั้งชื่ออาหารเสียวิลิสมาหราเสียขนาดนี้ แล้วชื่อ 3 ชื่อนี้เป็นอาหารชนิดเดียวกัน หรือเป็นอาหาร 3 ชนิดล่ะ ผมจะเฉลยให้ว่า... ชื่อ .... ม้าฮ้อ.... มังกรคาบแก้ว.. เมี่ยงเห็ด 3 อย่าง แต่ละชื่อนี้จะเป็นชื่อของว่าง 3 ชนิด ที่ทำทีเดียวแต่เปลี่ยนเครื่องแกล้มก็จะได้ของว่างที่แตกต่างกันถึง 3 ชนิด

โดยม้าฮ้อ และมังกรคาบแก้วเป็นชื่อของว่างโบราณของไทยที่นิยมทำในเทศกาลงานบุญ โดยเฉพาะในชุมชน ไทย-มอญ ซึ่ง ม้าฮ้อ และมังกรคาบแก้วก็คือ...พริกเกลือที่เอาไว้ทานกับผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นกลวิธีหรือศิลปะการสร้างสรรค์อาหารที่ทำให้ทานผักผลไม้รสเปรี้ยวได้ในปริมาณมาก เป็นความฉลาดในการหาวิธีรับประทานอาหารที่รสชาดทานยากให้อร่อยขึ้น แบบเดียวกับการทานปลาแห้งกับแตงโมนั่นเอง

การทำพริกเกลือแบบนี้ที่ยุ่งยากกว่าพริกเกลือตามรถเข็นขายผลไม้หน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับยากเกินไปนัก ซึ่งถ้าใครทำไส้สาคูไส้หมูเป็นก็จะทำพริกเกลือแบบม้าฮ้อเป็น เพียงแต่ม้าฮ้อจะไม่ใส่หัวผักกาดแห้ง ดังนั้นพริกเกลือม้าฮ้อก็จะประกอบไปด้วย หมูสับ กุ้งสับ ถัวลิสงคั่ว หอมแดง ผัดกับเครื่องเทศ ปรุงรสหวานเค็ม โดยกวนให้เหนียวจะได้ปั้นเป็นก้อนๆ ได้คล้าย ๆ กับไส้ของสาคูไส้หมู เมื่อนำมามาวางบนชิ้นสับปะรดจะเรียกว่า ม้าฮ้อ หรือนำพริกเกลือนี้ยัดไส้ในส้มผ่าซีกจะเรียกว่า.. มังกรคาบแก้ว

แต่ในวันนี้แม่ผมปรับปรุงม้าฮ้อและมังกรคาบแก้ว โดยจะทำให้เป็น ม้าฮ้อสุขภาพ ด้วยการใส่เห็ด 3 อย่าง (ที่มีประโยชน์ในการล้างพิษในตับ)เพิ่มเข้าไป จริงๆ ถ้าจะสุขภาพจริงๆ ต้องใส่แค่เห็ด 3 อย่าง โดยไม่ต้องใส่หมูกับกุ้ง แต่ทีนี้แม่ผมเกรงว่าถ้าไม่มีหมูและกุ้งจะทำให้ม้าฮ้ออร่อยน้อยลง และจะไม่มีใครทานต้องเททิ้งทั้กระทะ นอกจากเพิ่มเห็ดแล้วแม่ผมยังลดปริมาณน้ำตาลลง เพื่อจะได้ไม่ต้องทานหวานมาก แล้วนำใบชะพลูมาเป็นตัวเลือกเพิ่มในการทานกับพริกเกลือม้าฮ้อ ทำให้ได้อาหารว่างชนิดใหม่ขึ้นมาคือ ... เมี่ยงเห็ด 3 อย่าง

สำหรับผักผลไม้ทั้ง 3 นั้น แม่บอกว่าถ้าลิ้นเด็กๆ อายุน้อยรับรู้รสได้ดีแบบพี่ยีนส์ จะทานได้แค่ม้าฮ้อกับมังกรคาบแก้ว แต่ถ้าลิ้นสูงวัยไม่รับรู้ความขมความขื่นแบบยายกับตาผมก็สามารถทานได้ทั้ง 3 ชนิด โดยไม่เดือดร้อนแถมอีนิดหนึ่ง ชื่อ..ม้าฮ้อนี่แม่ผมว่า...น่าจะได้จากการทานม้าฮ้อเยอะๆ ผู้ทานต้องวิ่งฮ้ออย่างเร็วเหมือนม้าไปจู๊ด จู๊ด หรือเปล่าก็ไม่รู้

ส่วนผสม



- น้ำมันมะกอก 3 ชต.
- เนื้อหมูบด ( สับ ) 1 ถ.
- กุ้งสดบด ( สับ) 1 ถ.
- เห็ดหูหนูซอยละเอียด 1 ถ้วย
- เห็ดฟาง 1 ถ้วย
- เห็ดหอมสด 1 ถ้วย
- หอมแดงซอย 1/ 2 ถ.
- พริกไทย กระเทียม รากผักชี โขลกละเอียด 3 -4 ชต.
- น้ำปลา 3 ช้อนคาว.
- น้ำตาลปึก 1 ตลับ
- พริกแดงหั่นฝอย 1 เม็ด
- ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 2 ชต.
- ผักไว้ทานกับเมี่ยง ผักสลัด ใบทองหลาง ใบชะพลู
- ส้มเขียวหวาน 500 กรัม
- สับปะรด ( ที่เปรี้ยวๆหวานๆ ) 1 ผล
- ผักชี พริกขี้หนู

วิธีทำ



- โขลกรากผักชีกระเทียมพริกไทยให้ละเอียด สับหมู กุ้ง สับเห็ดทั้ง 3 ชนิดพอหยาบๆ ซอยหอมแดงเตรียมไว้



- นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพอร้อนใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยที่โขลกไว้ผัดให้หอม ใส่หมูสับ กุ้งสับ ลงไปผัดให้สุก



ใส่เห็ดทั้ง 3 ชนิดลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว เกลือ ซีอิ้วขาว น้ำปลา ผัดจนแห้งออกเหนียวนิดๆ แต่ไม่เหนียวเท่าสูตรดั้งเดิมเพราะสูตรนี้เพื่อสุขภาพเลยลดน้ำตาลให้น้อยลง พักไว้ให้เย็น



นำมาเสริฟคู่กับผักและผลไม้ชนิดที่แตกต่างกันก็จะได้ของว่างที่รสชาดแตกต่างกันไป และมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ตามที่คนไทยโบราณได้ตั้งไว้



โดยถ้าตักเป็นก้อนกลมๆ วางบนสับปะรดแต่งหน้าด้วยผักชี และพริกขี้หนูแดงซอย จะเรียกว่า ม้าฮ้อ หรือ นำไปใส่ในส้มผ่าซีกแต่งหน้าด้วยผักชี และพริกขี้หนูแดงซอยจะเรียกว่า.. มังกรคาบแก้ว



นำมาทานกับใบชะพลู ใบทองหลาง ผักสลัด ก็จะเรียกว่า...เมี่ยงเห็ดสามอย่าง




 

Create Date : 29 เมษายน 2551
9 comments
Last Update : 29 เมษายน 2551 14:52:57 น.
Counter : 1954 Pageviews.

 

เมนูนี้เห็นแล้วอยากหม่ำเลยคะ วันนั้นดูรายการสูตรลับคุณยาย แล้วอยากลองทำเลยคะ มาดูที่นี่อีกรอบยิ่งอยากลองคะ แต่สูตรวันนั้นเค้าใช้ไก่สับอะคะ อันนี้ทรงเครื่องมากๆ เพราะมีทั้งกุ้งทั้งหมู เคยคิดอยากลองทำม้าฮ้อ เมื่อนานมาแว้ว แต่ก็ยังไม่ได้ลองอะคะ สงสัยต้องเอาไปลองจริงๆซะแล้ว หิวๆๆ ของว่างตอนบ่ายๆแบบนี้เหมาะมากๆเลยนะคะเนี่ย

 

โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) 29 เมษายน 2551 15:14:03 น.  

 

น่ากินมาก มากเลยค่ะรูปที่ถ่ายมาทั้ง 3 แบบก้อสวยมาก จัดได้น่ากินมากจิงๆๆ

เครื่องเยอะมากมาย สุดยอด

 

โดย: Lady_Jane 29 เมษายน 2551 15:29:36 น.  

 




ดี.แวะมาส่งความคิดถึงน๊า

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 29 เมษายน 2551 18:58:20 น.  

 

เป็นของทานเล่นตำรับโบราณ หายากนะคะ
ได้ยินชื่อมานานแล้วค่ะ

ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
....จะมีปัญญาทำไม๊น๊อ

 

โดย: นางไม้หน้า3 29 เมษายน 2551 19:16:11 น.  

 

น่ากินมาก ๆเลยค่ะ ขอจดสูตรไว้ลองทำกินบางนะคะ...

 

โดย: นางฟ้าของชาลี 30 เมษายน 2551 0:18:56 น.  

 

น่ากินมากๆ อยา่งนี้ต้องขอสูตรไปลองทำกินมั่ง

 

โดย: jjbd 30 เมษายน 2551 1:09:05 น.  

 

น่าหม่ำมากๆเลยค่ะ แม่บัดดี้ ขอจกสูตรไปทำบ้างนะค่ะ

 

โดย: อ้อมกอดของความเหงา 30 เมษายน 2551 13:07:04 น.  

 

งดงามน่ากินจริงๆ

 

โดย: sweetie bakery IP: 203.146.186.2 2 พฤษภาคม 2551 15:15:56 น.  

 

น่ากินอีกแล้วค่ะ

 

โดย: Galilee 2 พฤษภาคม 2551 16:37:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อ้วนดำปื๊ดปื๊อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 59 คน [?]




Friends' blogs
[Add อ้วนดำปื๊ดปื๊อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.