Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
ทานโยเกิร์ตให้ได้ประโยชน์ ต้องทำทานเอง

โดยปกติในร่างกายคนเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่เป็นล้านล้านตัว ซึ่งมีทั้งจุลชีพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และจุลชีพที่เป็นโทษต่อร่างกาย ซึ่งในเด็กเล็กๆ จะมีจุลชีพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมาก จะเห็นได้ว่า.. เด็กเล็กๆ จะไม่ค่อยป่วยด้วยโรคแปลกๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ยิ่งอายุมากเท่าไหร่จุลชีพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็จะปริมาณน้อยลง

เพื่อรักษาสมดุลของจุลชีพของร่างกาย จึงนำจุลชีพที่มีประโยชน์มารับประทาน แต่เนื่องจากในกระเพาะคนเรามีความเป็นกรดสูง ค่า pH ในกระเพาะอาหารคนต่ำถึงประมาณ 2 ทำให้จุลินทรีย์ส่วนใหญ่ไม่สามารถรอดชีวิตได้ แต่จะมีจุลินทรีย์บางสายพันธุ์สามารถรอดชีวิตได้ ซึ่งเมื่อรอดไปถึงลำไส้และเจริญเติบโตในลำไส้ของเรา ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค ปรับสมดุลในลำไส้ จุลินทรีย์พวกนี้เรียกว่า Probiotic

Probiotic ซึ่งเป็นจุลชีพ lactobacillus ที่ไม่ทำให้เกิดโรคต่อคน และเป็นจุลชีพที่แข็งแรงมาก เป็นจอมมาเฟีย จะไปฆ่าจุลชีพชนิดอื่นที่ทำให้เกิดโรค เพราะฉะนั้นเมื่อทานเข้าไปจะไปเพิ่ม normal flora ที่อยู่ในทางเดินอาหาร ช่วยกำจัดเชื้อที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ในทางเดินอาหารได้ ซึ่งสามารถฆ่าเชื้ออีโคไลน์ที่ทำให้ท้องร่วงทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง (ดูประโยชน์ของโยเกิร์ตในการรักษาท้องร่วงของสุนัข คลิกที่นี่) นอกจากนี้ lactobacillus ยังกินเชื้อราเป็นอาหาร ผิวหนังของคนตามปกติจะมีเชื้อชนิดนี้อยู่ ทำหน้าที่ช่วยกำจัดเชื้อราตามธรรมชาติ

โยเกิร์ตส่วนใหญ่ตามท้องตลาดจะไม่ใช้จุลินทรีย์ Lactobacillus acidophilus, Lactobacillus casei และพวกตระกูล Bifidobacterium ซึ่งเป็น Probiotic เพราะเชื้อ Probiotic ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่สามารถให้กลิ่นรส และเนื้อโยเกิร์ตที่ดีและอร่อยเหมือนเชื้อ Streptococcus thermophilus (ชื่อเดิม Streptococcus salivarius ssp. thermophilus) ร่วมกับ Lactobacillus delbrueckii ssp. bulgaricus ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ประเภท lacticacid bacteria คือ จุลินทรีย์ที่ผลิตกรดแลคติก ทำให้นมเกิดการตกตะกอนและเปรี้ยวได้

ในการผลิตโยเกิร์ตที่มีเชื้อ Probiotic จึงใช้เชื้อ Probiotic เสริมด้วยเท่านั้น ไม่ได้ใช้เชื้อ Probotic ล้วน ๆ

แต่การรับประทานเชื้อ Probiotic เข้าไป ก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่า จะมีเชื้อ Probiotic เจริญในลำไส้ โดยเฉพาะในลำไส้ใหญ่ เนื่องจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ส่วนใหญ่จะถูกย่อยและดูดซึมไปหมดในกระเพาะและลำไส้เล็ก ในส่วนลำไส้ใหญ่จะเป็นการดูดน้ำและเกลือแร่เท่านั้น ดังนั้นเชื้อ Probiotic ในลำไส้ใหญ่มักจะขาดอาหาร จึงมีการคิดค้น Prebiotic ซึ่งเป็น Fiber ที่ร่างกายไม่ดูดซึม และจะหลือรอดไปถึงลำไส้ใหญ่ ให้เป็นอาหารของเชื้อ Probiotic ได้ โดย Prebiotic จะมีมากในแก้วมังกร กล้วย มะเขือเทศ หอมใหญ่

แบคทีเรียในโยเกิร์ตตระกูล Lactobacillus และ Streptococcus thermophilus มีประโยชน์ ในการช่วยย่อยอาหาร ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดี นอกจากนี้ในโยเกิร์ตยังประกอบไปด้วย กรดแลคติกและวิตามิน B2 จำนวนมาก แต่มีปริมาณแคลอรีไม่ต่างไปจากนมสดธรรมดา นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คนได้รับคำแนะนำให้รับประทาน โยเกิร์ตเสริมในขณะที่ลดน้ำหนัก เพื่อไม่ให้ร่างกาย ขาดสารอาหารบางตัวที่จำเป็น หรือบางคนทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องผูก

ถึงแม้โยเกิร์ตจะได้ชื่อว่าเป็นอาหารสุขภาพ แต่ปัจจุบันนี้โยเกิร์ตที่มีอยู่ในท้องตลาดเป็นโยเกิร์ต ที่ถูกนำมาปรุงแต่งรสชาติจนรสชาติเต็มไปด้วยน้ำตาลและผลไม้เชื่อม น้ำเชื่อม ซึ่งโยเกิร์ตที่ใส่น้าตาล ใส่ผลไม้ เขาจะฆ่าเชื้อ lactobacillus ก่อนบรรจุถ้วยเพื่อให้เก็บไว้ได้นานซึ่งแทบจะไมมีจุลลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ดังนั้น
การทานโยเกิร์ตให้ได้ประโยชน์ ต้องทานโยเกิร์ต ที่มีเชิ้อ Probiotic และเป็นโยเกิร์ตที่ไม่ได้ปรุงแต่งด้วยผลไม้ หรือใส่น้ำเชื่อมจนเจือจางเป็น Soft Yoghurt และเมื่อทานโยเกิร์ตต้องทานกล้วย หรือผลไม้อื่นที่จะได้เป็นอาหารจุลลินทรีย์ให้ตกค้างอยู่ในลำไส้เราด้วย

สำหรับโยเกิร์ตในท้องตลาดที่ผสมเชื้อโปรไบโอติกมีอยู่ 3 - 4 ยี่ห้อ คือ



- Bio (Lactobacillus acidophilus, Lactobacillus casei และพวกตระกูล Bifidobacterium)



- โฟรโมสต (pre pro balance) Lactobacillus acidophilus และพวกตระกูล Bifidobacterium)

- เนสท์เล่ LC1 ถ้วยสีน้ำเงิน



- บราวนส์ brownes (Lactobacillus acidophilus, Lactobacillus casei และพวกตระกูล Bifidobacterium)... ลองไปเดินตามซุปเบอร์แล้วอ่านดูที่ฉลากนะคะ เขาจะเขียนกำกับไว้ว่ามีเชื้อโปรไบโอติกหรือเขียนชื่อเชื้อไว้ด้วย

ถ้าจะให้ดีการทานโยเกิร์ตให้มีประโยชน์ ควรหาซื้อเชื้อโยเกิร์ตที่มี Probiotic มาทำโยเกิร์ตทานเอง จะได้ประโยชน์สูงสุด แม่ผมก็ทำโยเกิร์ตทานเอง เพราะสัปดาห์หนึ่งผมและแม่ทานโยเกิร์ตประมาณ 2000 ซีซี ซึ่งโยเกิร์ตที่มีเชื้อ Probiotic บางทีก็หาไม่ได้ต้องไปซุปเปอร์แบบฟู๊ดแลนด์ถึงจะมี

ส่วนผสมโยเกิร์ต



- นมไขมันต่ำ 1750 cc (2 ขวด)
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 10 ช้อนโต๊ะ
- นมผงขาดมันเนย 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

- เอาโยเกิร์ตออกมาวางไว้นอกตู้เย็น 1 ชั่วโมง



- นมเอาเข้าไมโครเวฟ ครั้งละ 500 cc ไฟแรงสุด ใช้เวลา 2 นาที อุ่นนมให้หมด เทรวมในอ่างผสมใบใหญ่ ใช้ช้อนคนๆ ให้ทั่วๆ ใส่นมผงลงไป คนให้ละลาย



- ตักฟองออกจากนม เอานมหยดใส่หลังมือถ้ารู้สึกว่านมอุ่นขนาดทนได้ก็ใส่เชื้อโยเกิร์ตได้ (อย่าให้นมร้อนจัดเกินไปนะครับ)

- yogurt หัวเชื้อวันนี้ใช้ 2 ยี่ห้อ เพราะต้องการเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ที่อยู่ในกลุ่ม Probiotic ที่มีเชื้อดังนี้ Lactobacillus acidophilus, Lactobacillus casei และพวกตระกูล Bifidobacterium นอกจากนี้เพื่อความให้ได้เนื้อโยเกิร์ตที่อร่อยด้วยเลยใส่ Streptococcus salivarius ssp. thermophilus) กับ Lactobacillus bulgaricus ลงไปด้วย



พอใส่เชื้อลงไปแล้วก็คนๆ ให้เข้ากับนม เทกลับคืนใส่ขวดนมที่ใส่นมมา จะตั้งทิ้งไว้หลังตู้เย็นหรือใกล้ๆ กระติกน้ำร้อน ซักประมาณ 8 - 10 ชั่วโมง ถ้าไปขยับดูแล้ว เนื้อเป็นก้อนๆ แข็งตัวแล้วก็ใช้ได้ ถ้าตั้งทิ้งไว้นานเกินไปจะเปรี้ยวไป แล้วกลายเป็น cottage cheese




Create Date : 03 กันยายน 2549
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 23:28:22 น. 37 comments
Counter : 9898 Pageviews.

 
มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ได้ความรู้อีกแล้ววันนี้ ขอบคุณนะคะ


โดย: Picike วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:2:58:54 น.  

 
จะเอาไปลองทำดูนะคะ คงจะมีประโยชน์มากๆ


โดย: Namtarn_Sweet วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:3:01:44 น.  

 
กินได้แต่ไมชอบเท่าไหร่ แต่สูตรนี้จะลองไปทำดูค่ะ
วันนี้ ญ มีหมอนข้างน่ารักๆ มาฝากนะค่ะ คริกๆๆ




โดย: ying kys kys (takom ) วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:3:33:13 น.  

 

ดีจังเลยค่ะ..เดี๋ยวไปลองทำมั่งค่ะ


โดย: random-4 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:6:40:48 น.  

 
ลองทำดูดีกว่าน๊าทำเสร็จแล้ว บัดดี้จะกล้าหม่ำด้วยมั้ยน๊า555+


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:6:58:44 น.  

 
บางประโยคคุ้น ๆ แฮะ


โดย: n0nglek IP: 124.121.107.233 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:7:30:52 น.  

 
กล้วยเป็น Fiber .....
เเล้วยังงี้ในกล้วยปิ้งนี้มีสาร Prebiotic ไหมค่ะ?
เมื่อมันถูกความร้อนสารพวกนี้จะถูกทำลายไหมค่ะ


โดย: มู๋ IP: 124.157.152.168 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:8:10:23 น.  

 
ทำไมคนอื่นอ่านได้ แต่เราไม่เห็นอะไรเลยอ่า


โดย: คุณย่า วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:10:29:17 น.  

 
อุ้ยเป็นความรู้ใหม่ค่ะ ... ปกติไม่เคยสังเกตเลยว่ามันเป็นโยเกิร์ตแบบไหนอ่ะค่ะ

ปกติก็กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติทุกวันอยู่แล้วค่ะ ^^


โดย: Triny IP: 124.121.18.220 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:13:14:13 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆค่ะ


โดย: เป็ดหัดบิน IP: 83.250.74.25 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:14:54:23 น.  

 
เด๋วต้องไปดูของนู๋มรรคเสียหน่อยว่ามีเชื้อหรือเป่า อิอิ
ของที่นี่ เค้ามีโยเกิร์ตสำหรับให้เบบี๋ กะผู้ใหญ่นะ... ตอนนี้ให้กินของเนสเล่อยู่ รสกีวี่ผสมกะสตอฯ มั่วไปหมด...ไม่ใช่อะไรหรอก คุณแม่ชอบลุ้นคะ แบบเปิดฝา ลุ้นเงินสดทันที...เปิดมาหลายโหลละ เจอแต่ "ซอรี่"...นู๋มรรคก็กินจนตัวแน่นไปหม้ด...
และ ก็คงต้องกินต่อไป
โซเด๊ะ


โดย: มรรคณิชา วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:17:39:48 น.  

 
ไม่ค่อยได้ทานโยเกิร์ตเลยค่ะ แต่ช่วงที่ทานก็จำได้ว่าเวลาซื้อมีแต่จะดูว่ามีรสอะไรบ้างไม่เคยรู้เลยว่ามีโยเกิร์ตในท้องตลาดมีหลายชนิดแบบนี้


โดย: Lauderdale By The Sea วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:18:24:37 น.  

 
หัวเชื้อโยเกิร์ต หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ


โดย: zMee วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:0:23:47 น.  

 
หัวเชื่อโยเกริ์ตก็โยเกริตรสธรรมดาที่เราทานถ้วยละ 12 บาทอะค่ะ ^^
ลองทำดูแล้วนะคะ.. แต่ยังไม่รู้เลยว่าเปงไง เด๋วพรุ่งนี้เช้าลองชิม..
ใช้นมเมจิไขมน0% กับดัชชี่แบบLow Fat คะ


โดย: มู๋ IP: 124.157.152.168 วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:1:12:58 น.  

 
หัวเชื้อโยเกิร์ต คือ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ใช้ยี่ห้อที่เราชอบ ดูชื่อจุลลินทรีย์ข้างถ้วยให้เป็นพวก Probiotic ค่ะ

คุณมู๋ สำเร็จไหมคะ ไม่ยากเลยค่ะ ส่วนกล้วยถ้าทานสดได้น่าจะดีกว่านะคะ


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:2:09:11 น.  

 
หยิบสูตรไปหละนะค่ะ เพราะกินโยเกิร์ตทุกวัน คราวนี้จะลองสูตรทำเองบ้าง


โดย: Dressy วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:5:13:13 น.  

 
น่าทานจังเยยยยย


โดย: ยอดชายนายกวางตุ้ง IP: 202.69.140.233 วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:8:25:48 น.  

 


โดย: แฟนคนที่17 IP: 202.57.183.177 วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:22:32:36 น.  

 
โอเช...เดียวคืนนี้ทำเลยจ๊ะ
พรุ่งนี้มาแจ้งผลนะจ๊ะ


โดย: zMee วันที่: 5 กันยายน 2549 เวลา:12:18:14 น.  

 
หูยยย คนที่บ้านเก่งมากเลยค่ะพี่ ทำโยเกิร์ตเองได้ด้วย
พี่ ๆ สบายดีกันนะคะ งานยุ่งป่าวค่ะตอนนี้
แวะมาหาคิดถึงนะคะ


โดย: อ้อย IP: 68.47.106.39 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:4:51:13 น.  

 
จะเอาไปหัดลองทำดูคะ

ดีจัง มีประโยชน์มาก ๆ


โดย: ไอซ์ IP: 125.25.55.136 วันที่: 19 กันยายน 2549 เวลา:15:07:25 น.  

 
ดัชชี่ไม่เห็นมีบอกว่ามีเชื้ออะไรเลยเราก้อพลิกดูตั้งหลายรอบแล้วอ่ะ ไม่เห็นจริงๆ นา


โดย: เสลาสีม่วง (เสลาสีม่วง ) วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:20:24:49 น.  

 
ต้องดัชชี่ไบโอนะคะ


โดย: แม่บัดดี้ IP: 124.121.123.123 วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:19:14:45 น.  

 



โดย: ปูต๋า IP: 124.121.71.191 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:56:24 น.  

 
จิงจังไม่จิงจัย...(รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ) ดัชชี่ อร่อยดีค่ะชอบๆมากเยย!และก็มีประโยชน์ด้วยงิ....


โดย: _ABARAT_ IP: 124.121.71.191 วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:00:47 น.  

 
สูตรนี้ เก็บไว้ในตู้เย็นได้กี่วันหรอคะ แล้วถ้ามันเสียเราจะรู้ได้ยังไงคะ


โดย: ส้มโอ IP: 124.120.70.204 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:11:05:29 น.  

 
คุณ ส้มโอ เก็บไว้ได้ประมาณ 15 วันค่ะ ถ้าเริ่มจะไม่ดีคือจะแยกน้ำกับเนื้อออกจากกันแต่ถึงเสียก็ไม่ต้องทิ้งทำเป็นครีมชีสสดต่อได้ค่ะ แต่ถ้าเสียแบบต้องทิ้งคือกลิ่นเปลี่ยนไปจากเดิมค่ะ


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:13:56:08 น.  

 
ขอบคุณมากเลยค่ะ เมื่อวานลองทำดูแล้ว เป็นโยเกิร์ตจิงๆ ด้วย เย๊ๆๆ

ถ้าเราใช้นมยูเอชทีทำล่ะคะ มันจะได้ประโยชน์เหมือนนมสดหรือเปล่า แล้วจะเก็บไว้ได้นานเพิ่มขึ้นหรือเปล่าคะ เพราะที่บ้านจะซื้อนมยูเอชทีมาไว้ เพราะนมสดต้องออกไปซื้อที่ห้างอ่ะค่ะ

ขอถามอีกนิดนะคะ อิอิ ว่าเราควรทานโยเกิร์ตตอนไหนแน่นะ บางทีอ่านเจอว่าทานตอนเช้าเพื่อล้างพิษ บางทีก็หลังอาหาร บางทีก็ก่อนอาหาร เง้อ งงๆๆ อ่าค่ะ รบกวนคุณอ้วนดำปื๊ดปื๊อตอบด้วยนะคะ (ตัวดำแต่ใจมะดำนะคะ คริๆ)


โดย: ส้มโอ IP: 124.120.77.208 วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:14:18:08 น.  

 
ดีใจด้วยค่ะคุณส้มโอ

นมยูเอชทีก็ทำได้ค่ะแต่ไม่แน่ใจเรื่องการเก็บไว้ได้นานนะคะ

ส่วนเวลาทานโยเกิร์ตตามหนังสือนาฬิกาชีวิตบอกว่าให้ทานช่วงบ่ายเพราะเป็นเวลาของลำไส้ค่ะ แต่ถ้าจะทานตอนเช้าก็ไม่ผิดกติกาอะไรค่ะ


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:1:30:39 น.  

 
ขอบคุณมากๆ เลยค่า อิอิ เด๋วจะไปแนะนำให้เพื่อนทานด้วยอ่ะค่ะ เพราะเพื่อนเป็นโรคภูมิแพ้ เผื่อจะช่วยให้ดีขึ้นบ้าง อิอิ


โดย: ส้มโอ IP: 124.120.78.48 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:11:26:10 น.  

 
อยากรู้อ่ะค่ะว่าจาไปหาเชื้อที่ชื่อ Streptococcus salivarius ssp. thermophilus กับ Lactobacillus bulgaricusได้ที่ไหนอ่ะคะ

อยากให้ช่วยตอบหน่อยอ่ะค่ะ


โดย: อิอิ..นู๋โบว์ IP: 125.24.133.192 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:02:00 น.  

 
Lactobacillus acidophilus and Bifidobacterium infantis นี่มีอยู่ในยา Infloran Berna หาซื้อได้ตามร้านขายยาใหญ่ๆ

โดย Bifidobacteria และ Lactobacilii พบในระบบทางเดินอาหารปกติของคน ไม่ทนต่อความเป็นกรดของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และน้ำดี มีประมาณ 30% ที่มีชีวิตรอดไปจนถึง กระเพาะอาหารไปได้ มีความสามารถในการเกาะในทางเดินอาหาร ช่วยขัดขวางการเกาะตัวของเชื้อ โรคในลำไส้เช่นอีโคไลและแซลโมเนลลา

อัตราส่วนของหัวเชื้อแบบผง คือ นมสด 3 กิโลกรัม และหัวเชื้อโยเกิร์ต 90 กรัม

ดูรายละเอียดเชื้อโยเกิร์ตเริ่มตั้น

//www.ultimate-weight-products.com/page/UN/PROD/yogurt/H-Yogourmet-Starter&QTS=froogle


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:33:36 น.  

 
อือ คือว่า อยากรู้วิธีทำครีมชีสอะคะ พอจาบอกวิธีทำหน่อยได้ไหมคะ


โดย: ละเอียด IP: 61.7.174.83 วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:1:57:08 น.  

 
อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับคีเฟอร์ด้วยอะคะ เคยมีคนเอาหัวเชื้อมาให้แต่ทำไม่เป็น อยากรู้วิธีทำว่าจะทำได้ง่ายๆเหมือนโยเกริ์ตมั้ยคะ ช่วยบอกหน่อยนะคะ
ขอบคุณคะ


โดย: ละเอียด IP: 61.7.174.83 วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:2:17:03 น.  

 
คุณละเอียดคะครีมชีสดูได้ที่บล็อกตามลิงค์ข้างล่างค่ะ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=buddy&month=01-08-2007&group=6&gblog=297

ส่วนโยเกิร์ตที่ทำจาก.. บัวหิมะ (คีเฟอร์) ทำไม่ยากเช่นกัน โดย เมื่อได้รับเห็ดหัวเชื้อมาครั้งแรก เห็ดจะมีสภาพซึ่งแซ่อยู่ในนมแล้ว ให้นำมากรองแยกนมออกจากเห็ด โดยวิธีการกรองให้ใช้อุปกรณ์การกรองที่ไม่ใช่โลหะโดยเด็ดขาด ดื่มนมที่ได้จากการกรองซึ่งประมาณ 8 ออนซ์ หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดเห็ดโดยให้น้ำไหลผ่านจนสะอาดแล้วบิดให้แห้งแล้วใส่ลงไปในแก้วพลาสติก แล้วใส่นมเข้าไปประมาณ 8 ออนซ์แซ่ไว้ 24 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิห้องแล้วนำมากรองเพื่อจะดื่มเหมือนดังที่ได้มาตอนแรก ซึ่งนมที่ได้มาขณะนี้ได้เปลี่ยนมามีรสชาติเปรี้ยว


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:4:50:07 น.  

 
ได้ประโยชน์มาก เพราะว่าชอบทานโยเกิร์ต แต่ว่าหัวเชื่อซื้อได้ที่ไหนคะ


โดย: NathalieNoelle วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:12:24:09 น.  

 
รูปไม่ขึ้นอะค่ะ อยากเห็นรูป


โดย: แจน IP: 110.171.118.134 วันที่: 26 มีนาคม 2556 เวลา:7:02:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อ้วนดำปื๊ดปื๊อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 59 คน [?]




Friends' blogs
[Add อ้วนดำปื๊ดปื๊อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.