++++++++เคย โดน หรือยัง หนังสือเจ็บๆ คันๆ ฉบับโด๊น..โดน++++++++
ผู้แต่ง : William Sutcliffe ผู้แปล : นาลันทา คุปต์ สำนักพิมพ์ /จัดจำหน่าย :ระหว่างบรรทัด มติชนหนุนหลัง จำนวนหน้า: 232
หนึ่งในคำโปรยบนปกที่ควรยกมาให้อ่าน
"นวนิยายเรื่องนี้บรรจุตำราพิชัยสงคราม ว่าด้วยการเสียดสีและหักหาญน้ำใจคู่สนทนาและสังคมรอบข้าง รวบรวมไว้ได้ครบในทุกกรณีศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการแทง ประชดแบบโฉ่งฉ่างจนถึงหยอดยาพิษให้ตายในอีกหกเดือนให้หลัง ผู้อ่านพึงระวังลูกหลง" วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์
หนังสือเล่มนี้ท่านได้แต่ใดมา?
ไปร่วมเล่นสนุกที่ บล็อกนี้จ้า แล้วท่านให้
ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆ ที่ได้ฟรีมาค่ะ
ตั้งแต่บรรทัดนี้ไปสปอยบ้างตามควร (พึงระวังลูกหลง)
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวการเดินทางไปประเทศอินเดียของหนุ่มและสาวอังกฤษคู่หนึ่ง ต่างจุดมุ่งหมาย ต่างวิถีทาง ดำเนินสู่ผลลัพธ์ที่ต่างไป โดยนำเสนอผ่านมุมมองของฝ่ายชายเป็นหลักและขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นการเติบโตขึ้นอันเนื่องจากประสบการณ์ทั้งมวลในอินเดียด้วย (ในแบบฉบับของเขาเองน่ะนะ)
ความสนุกสนานของหนังสือเล่มนี้ที่สำคัญและโดดเด่น (มากๆ) คือ อารมณ์ขันและกลวิธีการเขียนหนังสือ+ เล่าเรื่อง ในแบบที่ไม่เคยเห็นในหนังสือเล่มไหน (อ่านแล้วนึกอยากให้ตัวเองเก่งภาษาอังกฤษกว่านี้แล้วลองอ่านฉบับภาษาอังกฤษดูจริงๆ ว่ามัน มันส์ ขนาดนี้หรือเปล่านี่?) เพราะงั้นที่ต้องชมมากๆ คือคนแปลค่ะ ที่แปลได้แบบ..เฮ้ย..เจ๋งว่ะ สำนวน การใช้คำ การถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาพูด(ในวงเล็บคำพูดทั้งหลาย) รวมถึงอารมณ์ขันเจ็บๆ คันๆ เสียดสี ชวนให้เกิดรอยยิ้มขันที่ริมฝีปาก จนกระทั่งหัวเราะหึๆ ในลำคอจะปรากฏเป็นระยะอยู่ตลอดการอ่าน
ท่านใดคิดเป็นนัก (อยาก) เขียน ควรหามาอ่านเพื่อเรียนรู้วิถีการเขียนอีกแนวที่..เอ่อ..สำหรับข้าพเจ้ามัน โดน จริงๆ เป็นการเปิดตา เปิดสมองสำหรับวิถีการถ่ายทอดตัวหนังสือในอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย..มันเขียนหนังสือแบบนี้กันก็ได้เว้ยยยยย คือ เรียกได้ว่า กระทั่งมีการพิมพ์ผิดในบางตัวอักษร ยังต้องอ่านย้อนซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าพิมพ์ผิดจริงๆ ไม่ใช่การเล่นกับวิธีการเขียนน่ะ...คิดดูเถอะท่าน
นอกจากการ เปลือย ทั้งความคิด วิถีชีวิต ทัศนคติ (ซึ่งสำหรับบางคนอาจไม่รู้ว่า ชาวต่างชาติหลายคนคิดอย่างไรถึงมาเที่ยวประเทศเรา) และการปฏิบัติตนในแบบตะวันต๊ก..ตะวันตกที่ผู้ใดที่ยังเป็นสาวน้อยอ่อนต่อโลกอาจรับไม่ได้ในบางตอน (เพราะฉะนั้นหากตนเองยังอยู่ในคำจำกัดความดังกล่าว กรุณาหลีกเลี่ยง) แล้ว หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราๆ ทั้งหลายรู้จักอินเดียในอีกแง่มุมหนึ่งที่หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึง รวมทั้งถ้อยคำสะดุดต่อมคิดที่ซุกซ่อนอยู่ในวาจาประชดเสียดแทง (ประหนึ่งไม่กลัวคนอ่านจะเลือดออกระหว่างการไล่สายตาไปตามตัวหนังสือ) ก็ชวนให้ครุ่นคิดได้ไม่หยอกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่พระเอกของเราได้เจอกับนักข่าวคนหนึ่ง ช่วงบทสนทนาท้ายๆ ที่เขาสองคนได้คุยกันนั่นแล ควรนำมาใคร่ครวญอย่างยิ่ง
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ขอแนะนำให้คนที่เป็นนัก (อยาก) เขียนทั้งหลายได้ลองหามาอ่านเพื่อจะได้เห็นอีกวิถีทางของการเขียนและเล่าเรื่อง สำหรับนัก (อยาก) อ่านทั้งหลาย หากคุณอยากรู้จักและอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่หากเปรียบเป็นคนๆ หนึ่งก็คงเป็นเพื่อนใหม่บุคลิกไม่เหมือนใคร กวนตีน (สุดๆ) แต่คุณโกรธไม่ลงแล้วล่ะก็...ลองไปหามาอ่านและทำความรู้จักดูนะคะ
จะได้มาถามไถ่กันต่อไปว่า แล้วคุณน่ะโดนหรือยัง?
ประกาศ
วันพรุ่งนี้สาวไกด์ฯ อาจไม่เข้าบล็อก (ถ้าเข้าคงเข้าจากที่บ้าน) และตั้งแต่วันพฤหัสถึงวันอาทิตย์จะติดต่อไม่ได้นะคะ ไปแอ่วเวียงเจียงใหม่ จึงเรียนมาเพื่อมิตรรักแฟนเพลงได้รับทราบค่ะ
ป.ล. หนังสือเล่มนี้ บล็อกพี่ grappa เคยเขียนถึงไว้มาแล้วนะคะ เผื่อใครจะอยากไปอ่านเวอร์ชั่นพี่กรัปป้าค่ะ
สำหรับท่านใดที่แวะมาบ้านสาวไกด์เป็นครั้งแรก (หรือเคยมาแล้วแต่มีหนังสือกับหนังที่อยากแนะนำเพิ่มเติม)
เรียนเชิญ ที่นี่ค่ะ
Create Date : 31 มกราคม 2549 |
|
65 comments |
Last Update : 31 มกราคม 2549 11:44:04 น. |
Counter : 2136 Pageviews. |
|
|
|
จริงๆ อันนั้นยังไม่ได้เขียนเลยจ้า แค่เกริ่นๆ ไว้
บอกเพิ่มเติมว่า หนังสือเล่มนี้เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเป็นเหมือนคัมภีร์ของชาวแบ็คแพ็คเกอร์เลย
ที่ชอบอีกอย่างคือหนังสือมันบอกว่า เอาเข้าจริงการเดินทางมันไม่ได้สวยหรู มันมีอุปสรรค
แต่ที่นักเดินทางแน่ๆจะได้คือประสบการณ์
ซึ่งคุณต้องออกเดินทางแล้วคุณจะรู้
พระเอกของเรื่องนี้ มันก็ไม่ได้เป็นพระเอ๊ก พระเอกน่ะ ค่อนข้างจะขี้กลัว วิตกจริต และไม่ค่อยกล้า
คนเขียนเขียนเรื่องนี้เมื่ออายุ 19 ชอบฝรั่งอยู่อย่างคือส่งเสริมให้คนรู้จักตัวเอง หลังจากจบมัธยมที่อังกฤษมันจะมีช่วงว่างอยู่หนึ่งปี ที่เรียกว่า Gap Year เด็กอังกฤษก็จะออกเดินทาง และช่วงนี้จะเป็นช่วงที่พวกเข่าได้คิดว่า อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือไม่
ไม่เหมือนเมืองไทย ที่ไม่ค่อยจะส่งเสริมให้เขาเป็นตัวของตัวเอง
เอะอะอะไร ผู้ใหญ่ก็คิดแทนเขาเสียหมด
ดี ๆ จะได้กลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้อีกรอบ
อยากเดินทางอีกแล้ว