น้ำ MRET น้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม ... ใครเชื่อ ผมไม่เชื่อ ????
ช่วงนี้ รู้สึกมีคนมาถามเรื่อง น้ำวิเศษ มหัสจรรย์พันลึก นี้อีกแล้ว ผมก็เลยรวบรวมกระทู้เกี่ยวกับน้ำ MRET ในห้องสวนลุม มีเหลือแค่ ๔ กระทู้ ???
ก้ลองอ่าน ๆ ดูนะครับ ... พิจารณาเหตุผล กันเอาเอง ว่า จะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร ...
ขอสอบถามเกี่ยวกับน้ำMRET //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L7770221/L7770221.html
น้ำMRET ครับ //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L7767694/L7767694.html คุณหมอช่วยด้วยครับ
แม่ผมปวดหัวมากๆหลังจากดื่มน้ำแอคทิเวท MRET //www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5281450/L5281450.html
### พวกที่วิจารณ์น้ำ MRET โดยไม่เคยอ่านสิทธิบัตรน่ะ เชิญทางนี้หน่อย ### //topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/11/X6062425/X6062425 .html
ส่วนตัวผม ไม่เชื่อเลยครับ .. ไม่มีอะไรที่มันจะวิเศษ ขนาดนั้น ..
คิดง่าย ๆ ถ้ามันได้ผลแบบที่โฆษณา แบบนี้ ก็ไม่ต้องมีหมอ ไม่ต้องมีโรงพยาบาลกันแล้ว ... กินน้ำนี้ ก็หาย ป้องกันได้ทุกโรค ก็คล้าย ๆ กับ อาหารเสริม นั่นแหละครับ .. บางคนกินแล้วก็ดี บางคนกินก็งั้น ๆ ... แต่คนที่กินแล้วดี ก็จะมีพูดมาโฆษณา แต่คนที่กินแล้วไม่ดี ก็เงียบ ๆ ไป .. หรือ จะเทียบให้ชัด ๆ ก็คล้ายกับการ ถูกรางวัลที่ ๑ ... คนที่ไม่ถูกมีเยอะแยะมาก แต่ไม่มีใครสนใจ สนใจเฉพาะคนที่ถูก ก็เลยซื้อกันใหญ่ เพราะคิดว่า ตนน่าจะโชคดีแบบนั้นบ้าง ... แต่ ผมก็ไม่ห้ามนะครับ ... ถ้าใครอยากจะ กินแล้ว รู้สึกดีขึ้น ก็กินไปเถอะครับ ไม่เป็นไร เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีผลข้างเคียง ผลเสียอะไรร้ายแรง ..
ยกเว้น เรื่องค่าใช้จ่าย .... ที่แพงมั๊ก ๆ
นำความเห็นบางส่วน จากบล็อกผม มาประกอบด้วย หลักการเดียวกัน .. อาหารเสริม ดีจริงหรือ ??? กินกูลต้าไธโอน ขาวจริงป่ะ ??? //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=10-08-2008&group=7&gblog=4
การโฆษณา หรือ ข้อมูลจากฉลากต่าง ๆ ก็ต้องชั่งใจไว้หน่อยว่า " ควรจะเชื่อ หรือไม่ ? " เพราะส่วนใหญ่ ก็จะบอกกว้าง ๆ (เกินจริง) เช่น ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น ช่วยทำให้ตับทำงานดีขึ้น ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ฯลฯ
สังเกต ว่า มักจะใช้คำว่า " ช่วย " หรือ " เสริม " ไม่ระบุชัดเจน ไม่ได้รับรองว่า จริง ตามนั้น ถ้าไม่ได้ผล เขาก็จะบอกว่า ก็เข้าไปช่วย เข้าไปเสริม เท่านั้นไม่ได้บอกว่า หาย ... กลายเป็นว่า คนซื้อ เข้าใจผิดไปเอง เป็นความผิดของคนซื้อ ซะงั้น ...
อะไรที่เรารู้สึกว่า "ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้ " ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่า " ไม่จริง " ยกตัวอย่างเช่น
ลดน้ำหนักเห็นผลใน ๑ เดือน ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้ยา ... ถ้าดีจริง ป่านนี้ ก็ไม่มีคนอ้วนไปแล้วสิ ใช่ป่ะ ?
กิน (ทา) แล้วทำให้ผิวขาว กระจ่างใส ... ถ้าดีจริง ป่านนี้ ก็ไม่มีคนผิวคล้ำ ผิวดำแล้ว ขาวทั้งประเทศ ใช่ป่ะ ?
เงินด่วน กู้ได้ ไม่ต้องใช้หลักประกัน สะดวกรวดเร็ว ... ถ้าดีจริง ธนาคาร ก็เจ๊งหมดแล้ว ใช่ป่ะ ?
โดยส่วนตัว ผมไม่แนะนำ แต่ก็ไม่ห้าม .. แต่ขอฝากหลักการง่าย ๆ ที่ใช้สำหรับการพิจารณา เรื่องทำนองนี้ก็คือ หาข้อมูลว่า สิ่งที่จะกินจะฉีด ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ ยา นั้น ๑. มีผลข้างเคียง มีอันตรายจริงหรือไม่ ??? ๒. ถ้าไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย แล้วอยากใช้หรือไม่ ??? ๓. ถ้าอยากใช้ ก็ใช้ไป ส่วนว่าจะได้ผลคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ..
ปล. เชื่อหรือไม่ ก็พิจารณากันเองนะครับ อย่าเชื่อเพราะเขาเป็นครู อย่าเชื่อเพราะเขาเป็นคนน่าเชื่อถือ อย่าเชื่อเพราะเขาน่าเชื่อ ( อย่าเชื่อเพราะว่า เขาเป็นหมอ ??? ) แม้กระทั่งตัวผมเอง ก็อย่างพึ่งเชื่อ 
......................................
อย. ย้ำ! อย่าตกเป็นเหยื่อซื้อเครื่องกรองน้ำขี้โม้ อ้างผลิตน้ำรักษาโรค
//webnotes.fda.moph.go.th/information2550.nsf/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2./B84B5E180FD4B6734725730C0011482B?opendocument
อย. เผย พบการโฆษณาน้ำดื่มที่ได้จากเครื่องกรองน้ำ/เครื่องผลิตน้ำ โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง อ้างช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฆ่าเชื้อโรคและสารก่อมะเร็ง กำจัดโลหะหนัก มีแร่ธาตุกว่า 20 ชนิด ที่ได้จากทรายปะการังโดยมีเจตนาแอบแฝงที่จะหลอกผู้บริโภคให้ซื้อเครื่องกรองน้ำ และอ้างว่าได้รับหนังสือรับรองจากกรมอนามัย อาหารแห่งโตเกียว อย. เตือน อย่าหลงเชื่อการโฆษณาโอ้อวดรักษาโรคดังกล่าว เพราะอาจทำให้เสียเงินและเสียโอกาสในการรักษาโรคให้หาย อีกทั้งอาจเป็นอันตราย ต่อร่างกายได้ นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับร้องเรียนให้ตรวจสอบการโฆษณา น้ำดื่มที่ได้จากเครื่องกรองน้ำที่อวดอ้างสรรพคุณว่าน้ำดื่มที่ผ่านการกรองจากเครื่องกรองน้ำดังกล่าวสามารถกรองคลอรีน สารเคมี สารก่อมะเร็ง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยอ้างว่าชั้นกรองที่ 1
ช่วยทำให้น้ำบริสุทธิ์ ชั้นกรองที่ 2
ช่วยฆ่าเชื้อโรคและสารก่อมะเร็งออก ชั้นกรองที่ 3
ทำหน้าที่กำจัดโลหะหนัก เติมแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และปรับน้ำให้เป็นด่างอ่อน ๆ ด้วยทรายปะการัง นอกจากนี้ยังมีไบโอเซรามิก แผ่นอัลคาลายน์ดิสเก็ต ที่ให้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานอินฟราเรด และแม่เหล็กพิเศษ โดยอวดอ้างว่าเมื่อทำงานร่วมกันจะให้พลังงานสามกษัตริย์ เปลี่ยนโครงสร้างน้ำจากรูปห้าเหลี่ยมเป็นรูปโมเลกุลหกเหลี่ยม ซึ่งเหมือนกับรูปร่างดีเอ็นเอของมนุษย์ อีกทั้งโอ้อวดว่าได้ใบรับรองจากการตรวจของกรมอนามัยอาหารแห่งโตเกียว รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า อย. ขอให้ผู้บริโภคอย่าได้หลงเชื่อการโฆษณาในลักษณะดังกล่าวไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบขายตรง จัดประชุมสัมมนา พูดโฆษณาแบบ ปากต่อปาก โฆษณาผ่านทางแผ่นพับ วีดิทัศน์ หรือนำบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ป่วยโรคต่าง ๆ มาเล่าประสบการณ์ว่ารับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้วหายหรืออาการดีขึ้น โดยเฉพาะกรณีนี้ที่อ้างว่า น้ำดื่มที่ได้จากเครื่องผลิตน้ำสามารถซ่อมแซมเซลล์ ที่สึกหรอ ช่วยฆ่าเชื้อโรค กรองสารก่อมะเร็ง เป็นน้ำที่สามารถบำบัดโรคในร่างกาย เป็นต้น เนื่องจาก ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาหรือผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ยืนยันว่าน้ำที่ผ่านการกรอง และบำบัดจากเครื่องกรองน้ำหรือเครื่องผลิตน้ำจะสามารถบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคได้ ดังนั้นขอให้ ผู้บริโภคใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและไม่เสียค่าใช้จ่ายในราคาสูง โดยไม่จำเป็นหรือเกิดประโยชน์ อย่างแท้จริง และอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในการปรึกษาและรักษา โดยแพทย์เกี่ยวกับโรคภัยของตนเองหรือครอบครัว ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ผู้บริโภคมีสิทธิในการได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริง และปราศจากพิษภัย รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้องและเพียงพอที่จะไม่หลงผิด ในการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยไม่เป็นธรรม อย. จึงขอให้ผู้บริโภครักษาสิทธิ์ของตนเองในข้อนี้ด้วย กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค เดือนกรกฎาคม ข่าวแจก 79 / ปีงบประมาณ 2550 ............................................... น้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม แปดเหลี่ยม สิบแปดมงกุฎ //visitdrsant.blogspot.com/2012/10/blog-post_29.html 29 ตุลาคม 2555
อาจารย์ครับเห็นบทความของสองนายแพทย์คือ นายแพทย์ .... กับ นายแพทย์ .... เขียนเรื่องประโยชน์ของการดื่มน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยม และเห็นมีการจำหน่ายน้ำประเภทนี้ผ่านเครื่องผลิตน้ำด้วย อยากทราบว่าประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆแล้วเป็นอย่างไรครับ (ผมอ่านในคลังบทความของคุณหมอทั้งหมดแล้วไม่พบครับ) ผมจะไม่เชื่อใครนอกจากความรู้ของอาจารย์ครับ ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้า และคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ
...........................
ตอบครับ
ขอบคุณมากครับที่อุตสาหะย้อนอ่านดูบทความเก่าจนหมดแล้วยืนยันว่าผมไม่เคยเขียนเรื่องนี้ ตัวผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าเขียนอะไรไว้บ้าง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าแล้ว
1.. เอาประเด็นโมเลกุลของน้ำก่อน คือโมเลกุลของน้ำมันก็คือโมเลกุลของน้ำ คือมีไฮโดรเจนสองอะตอม ออกซิเจนหนึ่งอะตอม บอกไม่ได้ว่าเป็นกี่เหลี่ยมกี่มุมนึกภาพคุณเอาดินเหนียวกลมๆสามก้อนมาแหมะติดกันมันจะมีได้กี่เหลี่ยมละครับ มันไม่เป็นเหลี่ยมไม่เป็นมุมมากกว่าแล้วก็ไม่มีลิงที่ไหนจะถ่ายรูปโมเลกุลของน้ำออกมาโชว์ชาวบ้านได้หรอกครับเพราะมันเป็นโครงสร้างที่เล็กจนไม่มีกล้องถ่ายรูปชนิดใดๆจะมองเห็นแม้กระทั่งกล้องจุลทรรศน์อีเล็กตรอน โครงสร้างโมเลกุลของน้ำมันเป็นเช่นนี้นะเธอและจะเป็นเช่นนี้เสมอ.. ไม่ว่าจะเป็นน้ำดีน้ำเน่าก็มีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกันหมดส่วนที่ทำให้ดีหรือเน่าคือสิ่งที่ปนเปื้อนเข้ามาในน้ำ
2.. รูปถ่ายน้ำหกเหลี่ยม หรือกี่เหลี่ยมก็ตาม ที่มีโชว์อยู่ตามหนังสือหรือตามเว็บนั้นมันเป็นรูปถ่ายของผลึกน้ำแข็งนะครับ หรือผลึกหิมะ ไม่ใช่โมเลกุลของน้ำ คำว่า "ผลึก" นี้มันอันโตบะเล่งเท่งมองเห็นด้วยตาเปล่าและเป็นคนละเรื่องกับโมเลกุล ต้องย้ำอีกทีไม่งั้นเดี๋ยวเด็กศิลป์ซึ่งอ่านบล็อกนี้อยู่จำนวนมากจะเข้าใจชีวิตผิดไปการก่อตัวของผลึกของน้ำแข็ง หรือของเกล็ดหิมะ ตามธรรมชาติมันก็อาจมีรูปร่างแตกต่างกันได้อยู่แล้ว เพราะมันมีกลไกการเกิดคล้ายๆกับการเกิดหยาดเม็ดฝนคือน้ำจะเกาะตัวอยู่รอบๆเม็ดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกยิ่งน้ำมีอะไรปนเปื้อนมาก เวลาตกผลึกก็ยิ่งได้ผลึกเป็นรูปพิศดารพันลึกได้มาก ในทางตรงกันข้าม ถ้าน้ำสะอาดบริสุทธิ์มากเวลาแข็งตัวจะก่อตัวเป็นผลึกยาก นอกจากนี้ความแตกต่างในรูปร่างของผลึกน้ำแข็งที่เกิดขึ้นมีผลศึกษาที่สรุปไว้เป็นอย่างดีแล้วว่ามันเป็นไปตามอิทธิพลจากอุณหภูมิและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆเช่นถ้าเราไปถ่ายรูปผลึกน้ำแข็งที่อุณหภูมิ -5 องศาก็จะได้รูปร่างอย่างหนึ่งไปถ่ายรูปผลึกที่อุณหภูมิ -20 องศาก็จะได้รูปร่างอีกแบบหนึ่ง การเปลี่ยนรูปทรงของผลึกน้ำแข็งไปตามอุณหภูมินี้เป็นสัจจธรรมในทางวิทยาศาสตร์ที่รู้กันทั่ว แต่ว่าไม่เกี่ยวอะไรกับโครงสร้างทางโมเลกุลของน้ำการบอกว่าน้ำมีโครงสร้างโมเลกุลต่างกันเมื่อตกผลึกแล้วจะให้ผลึกรูปร่างต่างกันนั้นเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์นักวิทยาศาสตร์ฟังแล้วหัวเราะก๊าก เพราะโครงสร้างโมเลกุลซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่สุดของน้ำนั้นมีอย่างเดียวไม่อาจเปลี่ยนแปลงเป็นโครงสร้างแบบอย่างอื่นได้
3.. เมื่อประมาณปี 1999 ซึ่งก็สิบกว่าปีมาแล้ว มีพ่อค้าและนักเขียนชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งเรียนจบการแพทย์ทางเลือกที่อินเดียชื่ออีโมโต้ (Dr. Masaru Emoto)เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Hidden Messages in Water ซึ่งก็สิบกว่าปีมาแล้ว มีเพื่อนคนหนึ่งส่งมาให้ผมอ่านแต่ผมอ่านได้สี่ห้าหน้าแล้วก็ทิ้งไปเพราะเป็นหนังสือที่ผมมองเห็นว่าไร้สาระ อีโมโต้ถ่ายรูปผลึกเกล็ดของหิมะและผลึกน้ำแข็งแบบต่างๆแล้วบอกว่าน้ำเนี่ยมันอ่านหนังสือออก รับความรู้สึกได้ ถ้าพูดดีๆกับน้ำ หรือเขียนคำดีๆแปะไว้ข้างแก้วน้ำ หรือสวดมนต์ให้น้ำฟัง น้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำชนิดดีมีพลัง เวลาน้ำนั้นกลายเป็นน้ำแข็งมันจะตกผลึกเป็นรูปสวยงามไม่ใช่ผลึกมั่วซั่วเละเทะแล้วถ้ากินน้ำดีๆมีพลังอย่างที่ว่านี้สุขภาพก็จะดี สาระหลักของหนังสือมีประมาณนี้ แต่ที่ผมโยนหนังสือทิ้งก่อนที่จะอ่านจบก็เพาะอีโมโต้พยายามปลอมความคิดของเขาให้เป็นวิทยาศาสตร์อย่างตอนหนึ่งของหนังสือเขาอธิบายการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างผลึกของน้ำด้วยกฎความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์ก (Heisenbergs Uncertainty Principle) แหม ท่านผู้อ่านครับ ผมเนี่ยตอนเรียนหนังสือสอบตกวิชาฟิสิกส์นะ(เพราะไปเอาการบ้านเพื่อนมาถ่ายเอกสารแล้วส่งให้ครู แบบว่าลอกการบ้านแบบไฮเทคประชดครู ฮิ ฮิ) แต่ว่าเมื่อได้มาอ่านวิธีประยุกต์ใช้หลักไฮเซนเบอร์กของอีโมโต้มาหลอกคนแล้วผมเกิดความรู้สึก งืด ว่าแหม พี่ยุ่นนี่แกคิดได้ไงเนี่ย
หมายเหตุ:สำหรับเด็กศิลป์ กฎความไม่แน่นอนของไฮเซนเบอร์กเป็นความพยายามอธิบายข้อจำกัดของคณิตศาสตร์เมื่อเอามาคำนวณพฤติกรรมของอนุภาค (เช่นอีเล็กตรอน) ว่าเราจะไม่สามารถคำนวณให้ได้ผลเที่ยงตรงทั้งสองพฤติกรรมในขณะเดียวกันได้เช่นสมมุติว่าเราทราบตำแหน่ง (position) ที่แน่นอนของอนุภาคเราก็ไม่มีทางทราบโมเมนตัม (มวลกับความเร็ว) ที่แน่นอนของมันในขณะนั้นได้ แต่ถ้าเราทราบว่าโมเมนตัมที่มันวิ่งอยู่ว่าเป็นเท่าไรเราก็ไม่อาจจะบอกตำแหน่งที่แท้จริงของมันได้ อย่างนี้เป็นต้นทั้งหมดนี้เป็นหลักพื้นฐานในวิชาควันตัมฟิสิกส์ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการตกผลึกของน้ำแข็งเลย..พระเจ้าค่ะ
4.. ถามว่าเคยมีงานวิจัยไหมว่าถ้าพูดดีๆกับน้ำแล้วเวลาน้ำนั้นกลายเป็นน้ำแข็งมันจะตกผลึกสวยๆให้ดู ตอบว่ามีครับมีตีพิมพ์ไว้สองรายการ ซึ่งเป็นงานวิจัยของอีโมโต้และคณะทั้งคู่ตีพิมพ์ไว้ในหนังสือวารสารการแพทย์ทางเลือกซึ่งวงการแพทย์แผนปัจจุบันไม่ค่อยมีใครอ่านกันแต่ผมอ่าน เพราะผมชอบอ่านอะไรบ้าๆบอๆแก้เซ็ง ผลวิจัยของอีโมโต้สรุปไปทางสนับสนุนความคิดของอีโมโต้คือสรุปว่าถ้าพูดดีๆกับน้ำ สวดมนต์ให้น้ำฟัง เวลาเอาน้ำนั้นไปทำให้แข็งหรือตกผลึกแล้วจะได้ผลึกที่สวยงามกว่าน้ำที่ไม่มีคนพูดอะไรให้ฟังแต่ว่าไม่มีใครที่ไหนอื่นมาทำวิจัยนี้ซ้ำเพื่อพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ผมเข้าใจว่าวงการวิทยาศาสตร์คงมองเห็นอีโมโต้ว่าเป็นอะไรที่ไร้สาระจนไม่ยอมเสียเวลายุ่งด้วยซึ่งผมก็เข้าใจ อย่างสมมุติว่าถ้ามีใครสักคนรายงานผลวิจัยของเขาในวารสาร อะรูมิไร้ (อะไรมิรู้) ว่าเขาสามารถสาปผู้ชายให้กลายเป็นผู้หญิงได้ ถามว่าผมอยากจะไปทำวิจัยนั้นซ้ำเพื่อพิสูจน์ไหม ผมก็คงไม่ทำครับ เพราะมันเป็นเรื่องไร้สาระที่นอกเส้นทางวิทยาศาสตร์ไปไกลมากเกินไป
5.. ถามว่าถ้าขยันดื่มน้ำมนต์หรือน้ำที่มีคนพูดดีๆด้วย ทำดีๆด้วย หรือเอาไปผ่านเครื่องทำน้ำมนต์อัตโนมัติ ผ่านหินวิเศษแช่เหรียญวิเศษ ให้กลายเป็นน้ำดีมีพลัง จะเรียกว่าเป็นน้ำหกเหลี่ยม น้ำแปดเหลี่ยมหรือน้ำสิบแปดมงกุฎก็ตาม แล้วสุขภาพจะดีขึ้นไหม แหะ..แหะ ตอบว่าวงการวิทยาศาสตร์ไม่มีข้อมูลเรื่องอย่างนี้หรอกครับ ผมว่าท่าทางคุณจะมาหาผิดที่ซะแล้วมั้งถ้าคุณจะหาผีนางนาค คุณก็ต้องไปศาลแม่นาคที่ซอยอ่อนนุช ถูกแมะ ไม่ใช่ไปเดินหาที่ห้างพารากอนมันคนละทิศคนละทางกัน แปลไทยเป็นไทยก็คือว่าไม่เคยมีใครทำวิจัยเรื่องผลขอ งน้ำมนต์หรือน้ำหกเหลี่ยมต่อสุขภาพไว้เลยครับ
6.. ถามว่าเป็นนายแพทย์แล้วจะชักจูงให้คนทำอะไรที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน หรือที่ไม่มีหลักฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์รองรับ ได้ไหมตอบว่า
..เมืองไทยนี้ แสนดีหนักหนา ใครใคร่ค้าช้าง ค้า ใครใคร่ค้าม้า ค้า อย่าเหยียบตาปลากันเข้าก็แล้วกัน..เป็นเรื่อง ผมจึงต้องลบชื่อคุณหมอในจม.ของคุณออกไงครับ..
7. พูดถึงอีตาอีโมโต้นี้นอกจากจะเขียนหนังสือแล้วแกยังขายของทางอินเตอร์เน็ทสาะพัดสาระเพ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับทฤษฏีน้ำดีน้ำเสียของแกทั้งสิ้น 8. ผมแถมให้อีกประเด็นหนึ่งเพราะเคยมีคนถามมานานแล้วแต่ผมไม่มีเวลาตอบ คือถามว่าจริงไหมที่ว่าน้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมนี้ดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของร่างกายได้ดีกว่าน้ำที่เราดื่มกินกันตามปกติหลายเท่า อันนี้ผมตอบได้ตามหลักฐานวิทยาศาสตร์ว่า "ไม่จริงครับ" เพราะโมเลกุลของน้ำหน้าตามันเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมนต์หรือน้ำธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เมื่อแข็งตัวแล้วจะให้ผลึกรูปกี่เหลี่ยมก็ตาม หรือให้ผลึกสวยไม่สวยก็ตาม คือโมเลกุลน้ำที่เหมือนกันหมดนี้มันก็ผ่านเยื่อบางที่บุหุ้มรอบเซลได้อิสระเสรี กลไกที่จะทำให้มันเข้าสู่เนื้อเยื่อได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับแรงสองแรงที่ช่วยกันอยู่ในที แรงแรก ก็คือแรงดูดจากความเข้มข้นของของเหลวในเซล (osmosis) คือน้ำมีธรรมชาติวิ่งจากของเหลวที่มีความเข้มข้นต่ำ (นอกเซล) ผ่านเยื่อบุไปหาของเหลวที่มีความเข้มข้นสูง (ในเซล) เช่นถ้าร่างกายขาดน้ำ เซลเหี่ยว ของเหลวในเซลมีความเข้มข้นมาก น้ำก็จะเข้าเซลได้เร็ว แรงที่สอง คือแรงดันจากปริมาตรของน้ำในหลอดเลือด (hydrostatic pressure) ซึ่งเปรียบเสมือนแรงดันน้ำประปาในท่อ ถ้าแรงดันดี น้ำก็ถูกอัดออกไปสู่เซลได้เร็ว ดังนั้นคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำ ปริมาตรน้ำที่ไหลเวียนในระบบเลือดมีน้อย แรงอัดน้ำออกไปสู่เซลก็มีน้อยตามไปด้วย เซลจึงมีโอกาสขาดน้ำมากกว่าคนที่ชอบดื่มน้ำ 9.. ไหนๆก็พูดถึงเรื่องน้ำแล้วสิ่งที่วงการแพทย์รู้แน่ชัดว่าแล้วมีประโยชน์จริงๆ มีสองประเด็น คือ
9.1 การลงทุนจัดหาน้ำสะอาดไว้ให้คนดื่มเป็นการลงทุนทางการแพทย์และสาธารณสุขที่คุ้มค่าที่สุด นี่ผมไม่ได้พูดเอง แต่องค์การอนามัยโลกสรุปไว้ ความรู้ที่ง่ายๆเสมือนหญ้าปากคอกข้อนี้อาจมีประโยชน์และช่วยให้ผู้บริหารท้องถิ่นจัดลำดับการใช้ทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น เพราะบางแห่งทำถนนซะกว้างใหญ่ แต่พอเปิดน้ำประปามีหญ้ากอน้อยๆวิ่งพรวดออกมาจากก๊อกเลยก็มี หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือแถวบ้านพักของผมที่เขาใหญ่ เทศบาลก่อสร้างอะไรต่อมิอะไรอลังการ์เยอะแยะ แต่ถ้าเปิดน้ำประปาดู บางวันบางเวลาน้ำก๊อกที่ไหลออกมาขอโทษ.. สียังกับฉี่ของคนเป็นกรวยไตอักเสบ คำว่าน้ำสะอาดนี้ผมหมายถึงน้ำที่ไม่มีเชื้อโรคไม่มีสารปนเปื้อนเช่นอึวัว ไม่มีของแถมไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ อย่างเช่นน้ำตาลในเครื่องดื่มต่างๆเนี่ยถือว่าเป็นตัวอย่างของๆแถมที่ทำให้น้ำดีๆกลายเป็นน้ำให้โทษไป
9.2 ร่างกายต้องการน้ำไปบำรุงรักษาการทำงานของทุกอวัยวะโดยเฉพาะไต ซึ่งจะเจ๊งก่อนเพื่อนถ้าร่างกายได้รับน้ำไม่พอ ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดให้มากเพียงพอคือวันละอย่างน้อยสองลิตร จึงเป็นสาระหลักที่ทุกคนควรทำ หากคิดจะทำนุบำรุงสุขภาพตัวเองด้วยน้ำ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
2. Radin, D., Lund,N., Emoto, M., Kizu, T. (2008). Effects of distant intention on water crystalformation: A triple-blind replication.Journal of Scientific Exploration 2008 : 22(4), 481-493.
แถม
อย.ยันไม่เคยอนุญาตนำเข้าเครื่องตรวจสุขภาพนักวิทย์ฯชี้ผลวิเคราะห์โรคกล่าวอ้างเกินจริง //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=30-10-2015&group=4&gblog=115 อย.ย้ำ ผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ เครื่องบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าสถิตย์ อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-09-2008&group=7&gblog=7 การรักษาด้วยคีเลชั่น....ดีจริงหรือมั่วนิ่ม ??? + แพทยสภาไม่รับรอง"คีเลชั่น" //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=17-02-2009&group=7&gblog=17 การหลอกขายของด้วยการลวง ตรวจเลือด live blood analysis ... รศ. ดร.เจษฎา ทนพ.ภาคภูมิ และ Drama-addict //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=25-09-2015&group=4&gblog=114 มหัศจรรย์!ล้างพิษมายาวิทยา-ไสยศาสตร์ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=27-08-2013&group=7&gblog=175 รวบรวมกระทู้เกี่ยวกับน้ำMRET ... ใครเชื่อ ผมไม่เชื่อ ???? //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=25-04-2009&group=7&gblog=25 หนังสือเคล็ด(ไม่)ลับ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย่างรู้เท่าทันโฆษณา ( หนังสือ pdfแจกฟรี) //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=10-08-2012&group=7&gblog=160 หนังสือทุกข์ล้นเหลือ เหยื่อโฆษณา ............ของดี ฟรีด้วย โหลดอ่านกันได้เลยครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=26-10-2012&group=7&gblog=163
Create Date : 25 เมษายน 2552 |
Last Update : 11 กันยายน 2560 17:06:12 น. |
|
14 comments
|
Counter : 19222 Pageviews. |
|
 |
|