Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน.. การใช้ Growth Factor .. มารักษารอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้จริง ...

ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันการใช้ Growth Factor มารักษารอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้จริง


รายละเอียด จากเวบสมาคมแพทย์ผิวหนัง

//www.dst.or.th/news_details.php?news_id=35&news_type=oth


//www.dst.or.th/news_details.php?news_id=36&news_type=oth


//www.dst.or.th/news_details.php?news_id=37&news_type=oth





สธ.สั่งระงับฉีด 'โกรท แฟคเตอร์'

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 25 มกราคม 2553
//www.thairath.co.th/content/edu/61038


สธ.สั่ง สถานเสริมความงามระงับฉีด "โกรท แฟคเตอร์" ให้รอผลวินิจฉัยแพทยสภา อ้างสรรพคุณเพื่อความอ่อนเยาว์ ระบุหากขัดมาตรฐานวิชาชีพมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ...

กรณีที่ขณะนี้สถาบันเสริมความงามนิยมใช้วิธี นำเลือดมาปั่นแล้วนำ "โกรท แฟคเตอร์" ที่อยู่ในเกร็ดเลือดมาฉีดบนใบหน้าเพื่อความอ่อนเยาว์นั้น


ความ คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งไปยังสถานบริการเสริมความงามที่มีการใช้วิธีดังกล่าวบริการ ลูกค้าแล้วว่าให้ระงับการบริการด้วยวิธีดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่าแพทยสภาจะมีวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมาว่าถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือ ไม่

ทั้งนี้ หากแพทยสภาวินิจฉัยออกมาว่าการใช้วิธีดังกล่าวมาเสริมความงามไม่ถูกต้องตาม มาตรฐานวิชาชีพ ผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะมีความผิดตามมาตราที่ 65 ของ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ




แพทย์ผิวหนังเตือน ฉีดโกรท แฟคเตอร์ ทำหน้าเด้งอ่อนวัย ระวัง-เสี่ยงติดเชื้อ

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 25 มกราคม 2553
//www.thairath.co.th/content/page1/60898

แพทย์ ผิว หนังเตือนคนอยาก หน้าสวยเด้ง ไร้รอยยับย่น จนแห่ใช้บริการปั่นเลือด ดึง "โกรท แฟคเตอร์" มาใช้ฉีดเข้าหน้า เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยบนผิวหนัง ยอมรับแม้เป็นวิธียอดฮิตใน ขณะนี้


แต่วงการแพทย์ผิวหนังยังไม่ยอมรับ เหตุไม่มีผลวิจัยชี้ชัดว่าเป็นวิธีการรักษาที่เป็นไปตามมาตรฐาน หนำซ้ำ ยังอาจเสี่ยงติดเชื้อระหว่างลงเข็ม เผยคลินิกเสริมสวยใช้ กลยุทธ์การตลาดโฆษณาแต่ด้านดี

ขณะเดียวกันแพทยสภา เตรียมขยับจัดการหมอที่รับทำ ร่อนหนังสือสอบถามราชวิทยาอายุรแพทย์ พร้อมนำเรื่องเข้าพิจารณาด้านจริยธรรม

ใน ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังติดกับค่านิยมต้องการมีใบหน้าขาว เนียน ไร้ริ้วรอยด่างดำหรือเหี่ยวย่น จนกลายเป็นการเปิดช่องให้มีการโหมโฆษณาผลิตภัณฑ์ ช่วยให้หน้าเด้ง ชะลอวัยกันอย่างครึกโครมในทุกสื่อ

ดังนั้นเมื่อวันที่ 24 ม.ค. พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตศิลป กรรมการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยได้ออกมาเตือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสความนิยมในการนำเลือดมาปั่นแล้วนำ "โกรท แฟคเตอร์" ที่อยู่ในเกร็ดเลือดมาฉีดบนใบหน้าเพื่อความอ่อนเยาว์ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยที่ดำเนินการ ทดสอบกับจำนวนคนที่มากพอจนเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของอาการติดเชื้อ ความสะอาดและความปลอดภัย

"ขณะนี้มีกระแสความนิยมในคลินิกเสริมความ งาม โดยการนำเลือดไปปั่นให้ได้โกรท แฟคเตอร์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เซลล์ทำงานเป็นปกติ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ใบหน้าดูดีขึ้น ลดรอยเหี่ยวย่น ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งทางการตลาดเท่านั้น

ส่วนข้อเสียคือ อาจจะไม่ไม่มีผลการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย นอกจากนี้ ยังเจ็บตัว เสียเวลาและเสียเงินด้วย ที่ผ่านมากลยุทธ์ทางการตลาดต้องการที่จะขายของ ก็บอกแต่กลุ่มตัวอย่างวิจัยที่ได้ผลหรือบอกส่วนดีที่ได้ผลในห้องทดลอง แต่ไม่ได้บอกถึงข้อเท็จจริงหรือแง่ลบว่าใช้ในมนุษย์จริงๆแล้วเป็นอย่างไร" พญ.พรทิพย์กล่าว

และว่า โดยปกติการทำให้ผิวขาวคือการลดปัจจัยที่ทำให้แสงกระทบกับผิวหน้า การใช้ครีมกันแดด รวมถึงการทำทรีตเมนต์ โดยให้เซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคลที่อยู่ชั้นนอกสุดลอกออก เพื่อให้เซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้านั้นดูกระจ่างใส

นอกจากนี้ ยังมีการใช้ยาโดยเน้นหยุดการสร้างเม็ดสีของผิว เช่น ยาไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง แต่สามารถนำไปใช้เพื่อการรักษาได้


ด้าน นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาได้ตรวจสอบการใช้เลือดมาปั่นแล้วนำโกรท แฟคเตอร์ที่อยู่ในเกร็ดเลือดมาฉีดบนใบหน้า ช่วยให้ผิวเต่งตึงแล้ว พบว่า วิธีการดังกล่าวยังไม่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ และถือว่าไม่ใช่วิธีการรักษาที่เป็นไปตามมาตรฐาน


อย่างไรก็ตาม ได้นำเรื่องดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการจริยธรรมว่ามีความเหมาะสมเป็นไปตามหลัก วิชาการหรือไม่ รวมทั้งแพทยสภาได้ทำหนังสือสอบถามไปยังราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า มีหลักฐานทางวิชาการอ้างอิงหรือไม่ หรือมีการวิจัยและตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับหรือไม่


ผู้ สื่อข่าว รายงานว่า จากการโทรศัพท์ไปสอบถาม สถานบริการความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีการโฆษณาว่าให้บริการลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยการใช้ "โกรท แฟคเตอร์" พบว่าการให้บริการโกรท แฟคเตอร์ 1 คอร์ส จำนวน 5 ครั้ง ราคา 24,000 บาท โดยอ้างว่าให้ดูผิวอ่อนเยาว์หน้าตึง สำหรับขั้นตอนเป็นการดูดเลือดจากแขน 10 ซีซี ผสมกับวิตามินซี จากนั้นฉีดกลับใบหน้า 22 จุด สามารถทำได้ทุกสาขา

ขณะ ที่การให้บริการโกรท แฟคเตอร์ ในสถานบริการเสริมความงามบางแห่ง ก็มีการโฆษณาว่าใช้สาร โกรท แฟคเตอร์ สกัด โดยเป็นสารสกัดที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา อ้างว่าได้รับการรับรองจาก อย. อัตราค่าบริการ 1 คอร์ส จำนวน 4 ครั้ง 16,700 บาท หรือครั้งละ 5,500 บาท สรรพคุณทำให้ผิวหนังอวบอิ่ม ช่วยฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ ทำให้ผิวเต่งตึงทันที อยู่ได้นานเป็นปี ตามด้วยระบุว่า ทั้งแพทย์และลูกค้าที่มาใช้บริการปลอดภัยดี


นอกจากนี้ ยังพบว่าในอินเตอร์เน็ตมีการลงโฆษณาขาย "โกรท แฟคเตอร์" กันอย่างแพร่หลาย สารพัดรูปแบบ สนนราคาตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตในหมู่ผู้เข้ามาใช้อินเตอร์เน็ตว่า โฆษณาบางชิ้นเป็นการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงหรือไม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยให้มีการอวดอ้างสรรพคุณเพื่อขายสินค้าได้ อย่างไร




อายุรแพทย์ไม่ชัวร์ “โกรท แฟกเตอร์” ช่วยหน้าเด้ง อ้างเทคนิคใหม่ไร้ข้อมูล

ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 26 มกราคม 2553
//www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000011072


อายุร แพทย์ไม่ชัวร์ “โกรท แฟกเตอร์” ช่วยหน้าเด้ง ลบรอยเหี่ยวย่น-ตีนกา อ้างเป็นเทคนิคใหม่ยังไร้ข้อมูล สคบ.วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ด้าน “กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” ระบุหากแพทยสภาชี้ผิดมาตรฐานวิชาชีพ เจอฟันแน่

ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี ประธาน คณะกรรมการวิชาการ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การฉีดโกรท แฟกเตอร์ เป็นเทคนิควิธีการใหม่ซึ่งยังไม่มีข้อมูลที่พอเพียงและชัดเจนว่า มีประสิทธิภาพในการช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ลบรอยตีนกา สามารถช่วยได้จริงหรือไม่ หรือผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร ถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ส่วนกรณีแพทยสภาทำหนังสือมาขอความเห็นด้านวิชาการนั้น ยังไม่ทราบว่าถามถึงประเด็นใดบ้างคงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง

“ผู้ที่จะเสริมความงามด้วยวิธีนี้คงต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ และต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเอง เพราะถึงแม้ว่าไม่มีอันตรายแต่ผลอาจไม่เป็นไปตามที่หวังไว้

ซึ่ง ก่อนที่จะไปทำนั้นต้องรู้ว่า เครื่องมืออุปกรณ์ได้มาตรฐานหรือไม่ แพทย์มีความสามารถหรือมีความเชี่ยวชาญหรือไม่ ด้านการให้บริการ การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน ไม่ใช่หลอกลวง ซึ่งในการตรวจสอบคงต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป ไม่สามารถสรุปในภาพรวมได้ ทั้งนี้ โกรท แฟกเตอร์ ถือเป็นความรู้ใหม่ คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพิจารณาพอสมควร” ศ.นพ.อมรกล่าว

นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า วิธีดังกล่าวไม่แตกต่างจากการทำศัลยกรรม ดังนั้น สถาบันเสริมความงามใดก็ตามหากใช้วิธีนี้ต้องขออนุญาตทาง สธ.ก่อน แต่กรณีนี้ยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องตามหลักวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งหากมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงก็ถือว่าผิด ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนไปหลงเชื่อ และหากใครที่หลงเชื่อไปแล้ว และเกิดผลข้างเคียงสามารถร้องมายัง สคบ.ได้ โดยจะดำเนินการเป็นตัวประสานงานกับ สธ.

ด้าน นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งไปยังสถานบริการเสริมความงามที่มีการใช้วิธีดังกล่าวบริการ ลูกค้าแล้วว่าให้ระงับการบริการด้วยวิธีดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่าแพทยสภาจะมีวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมาว่าถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือ ไม่

ทั้งนี้ หากแพทยสภาวินิจฉัยออกมาว่าการใช้วิธีดังกล่าวมาเสริมความงามไม่ถูกต้องตาม มาตรฐานวิชาชีพ ผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะมีความผิด ตามมาตราที่ 65 ของ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



ก็คิดตรึกตรอง แล้วตัดสินใจ กันเองนะครับ ... คิดอย่างไร เชื่ออย่างไร ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้วววววว

แจ้งไว้ก่อนเลยว่า ผมเป็นหมอกระดูกและข้อ ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ เดี๋ยวจะหาว่า ขัดผลประโยชน์



Create Date : 28 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 15:41:06 น. 1 comments
Counter : 3177 Pageviews.  

 
ที่นี่ฉีดกันเยอะเลยแต่เขาบอกว่าเป็นวิตตามินซีค่ะ


โดย: ooyporn วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:16:41:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]