กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่.. โดย...สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
โครงการ FACT SHEET แพทยสภา :: เรื่อง..กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่..b> โดย...สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
กลูต้าไทโอน (Glutathinone)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกายที่สามารถสร้างขึ้นเองจากอาหาร ประเภทโปรตีน ไข่และนม รวมถึงผลไม้ประเภท อะโวคาโด และจะถูกเก็บไว้ที่ตับที่ได้รับ สามารถพบได้ทุกเซลล์
เป็นสารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid หน้าที่หลักมีอยู่ 3 ประการ คือ
1. ต้านอนุมูลอิสระ Antioxidant :
กลูตาไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย Immune Enhancer :
ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA
3. การขจัดสารพิษ Detoxification :
กลูตาไทโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่างๆ ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกาย โดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย
นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ และยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ
ข้อบ่งใช้ในทางการแพทย์
สารนี้บางประเทศขึ้นทะเบียนเป็นยา และ บางประเทศใช้เป็นอาหารเสริม
แต่ในประเทศไทย สารนี้ยังไม่ผ่านการอนุมัติจาก องค์การอาหารและยา
มีรายงานการใช้สาร กลูต้าไทโอน ในหลายกรณี เช่น
โรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน โดยใช้ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ ใช้รักษาภาวะการเป็นพิษจากโลหะหนัก พิษจากยาพาราเซ็ทตามอล ทำลายพิษในตับ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในคนไข้ AIDS , มะเร็ง และใช้ต้านความชรา
แต่ข้อมูลที่ใช้รักษาฝ้า และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนมีแสงออร่า นั้นยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน
พบว่าเป็น ผลข้างเคียง จากการใช้สารนี้ที่ใช้รักษาโรคอื่นแล้วผิวขาวขึ้น จึงมีการนำมาใช้ทำให้ผิวขาวขึ้น
ปัญหาของกลูต้าไทโอน
1. ผลข้างเคียงที่น่ากลัว คือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ มีโอกาสที่จะแพ้ได้ ทั้งการแพ้สารกลูตาไทโอน เอง หรืออาจจะแพ้ สารฆ่าเชื้อ หรือ สารกันเสีย หรือ สารปนเปื้อน
ขณะนี้มีรายงานในต่างประเทศ ว่าผู้ที่ได้รับการฉีดกลูต้าไทโอนขนาดสูงที่ใช้กันอยู่มีอาการช็อค ความดันต่ำ หายใจไม่ออก และ เสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
2. สารกลูต้าไทโอน ที่ใช้อยู่ เป็นการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา สารนี้ที่ใช้ในการแพทย์ มีชื่อว่า Tationil ซึ่งผลิตโดยบริษัท Roach ประเทศอิตาลี
แต่ บริษัท Roach ประเทศไทย ได้ยืนยันมาว่าบริษัทไม่ได้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย
และยังพบว่ามียาปลอมมีที่ผลิตที่เวียดนาม และ จีน โดยที่พิมพ์ว่าผลิตในอิตาลี ทำให้เกิดผลข้างเคียงในการฉีดได้
3. การที่ฉีดมักจะให้วิตามินซีในขนาดสูงร่วมด้วย ซึ่งการฉีดวิตามินซี ในขนาดที่สูงและ เร็วเกินไปอาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลมได้
4. พบว่าการที่ได้รับสารกลูต้าไทโอน เป็นเวลานานๆจะทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลง ทำให้รับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต
ทางวารสารทางการแพทย์สหรัฐอเมริกาจัดว่าเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางตา
5. การใช้สารกลูต้าไทโอนในผู้ป่วยมะเร็ง ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาทางเคมีลดลง
5. การได้รับสารกลูต้าไทโอนปริมาณมาก มีผลต่อแร่ธาตุในขบวนการเมตาบอลิซึม และ ตัวมันเองสามารถกลายเป็นอนุมูลอิสระ มาทำร้ายร่างกายได้
6. ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเรื่อง "กลูต้าไธโอน" นั้น เท่าที่ทราบมีการขายเกลื่อนตามเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาท
และมีการแนะนำวิธีฉีดและอวดอ้างสรรพคุณจนทำให้คนที่อยากขาวเกิด ความสนใจ และซื้อหาไปทดลองทั้งฉีดกันเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ การติดเชื้อ และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย
ผู้บริโภค ไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาที่อ้างว่าสามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้นเพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ในที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร ผลิตภัณฑ์หรือยา อาจช่วยได้ชั่วคราวแต่เมื่อหมดฤทธิ์ร่างกายก็ผลิตเม็ดสีตามปกติ
ทั้งนี้การที่ประชาชนในแถบเอเชียมีผิวคล้ำ ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต จากแสงอาทิตย์ได้ ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาว จึงไม่ควรมีค่านิยมที่ผิดในการเปลี่ยนสีผิวให้ ผิดธรรมชาติ
ข้อมูลโดย :: สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
เผยแพร่โดย :: สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา
-----------------------------------------------------------------------------------------------
กรณีพบสถานพยาบาล หรือ คลินิกที่มีการใช้ กลูต้าไธโอน ถือเป็นการผิดกฎหมาย กรุณาแจ้งได้ที่
1.นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการ กองการประกอบโรคศิลป์ โทร .02 5918844 https://203.157.6.200/web/home/
2.ฝ่ายจริยธรรม แพทยสภา โทร. 02-590-1881,02-590-1888 กด 2 แฟกซ์ 02 5918614-5 email :tmc@tmc.or.th
3.นอ.(พ.)นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา email :ittaporn@gmail.com
เพื่อดำเนินการต่อไป ขอบคุณครับ...

ปล. เรื่องนี้ มีกระทู้เก่า ๆ พูดกันเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาถามเป็นระยะ ... เลยนำมาฝากอีกรอบ
อาหารเสริม ดีจริงหรือ ??? กินกูลต้าไธโอน ขาวจริงป่ะ ???
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=10-08-2008&group=7&gblog=4
บทความเรื่อง : สาร Glutathione สำหรับทำให้ผิวขาวที่กำลังเป็นที่นิยม
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=05-01-2009&group=7&gblog=9
บริษัท Roach ประเทศไทย เคยออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่ได้นำเข้ากลูต้าไธโอน ที่มีขายกันเกลื่อน อ้างว่าเป็นของบริษัท Roach ผิดกฎหมาย ทั้งนั้น ...
เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา .. ส่วนการตัดสินใจ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่าน เพราะ คนที่จะได้รับผลที่ตามมา ก็คือ ตัวท่านเอง ..
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2564 21:13:45 น. |
|
5 comments
|
Counter : 9739 Pageviews. |
|
 |
|
_/l\\_